เย่เลี่ยนพยักหน้าตอบคำถามหลิงม่อด้วยใบหน้ามึนๆ เธอย่นจมูกขึ้นลงเล็กน้อย และหลังจากที่ดวงตาส่องประกาย เธอก็ตวัดสายตามองไปยังทิศทางหนึ่ง
หลิงม่อหัวใจเต้นแรง เขารีบมองตามสายตาของเย่เลี่ยนไป แล้วก็ต้องอึ้งค้างไป
จุดที่เธอกำลังจ้องอยู่ คือหลังคาโรงงานที่ซอมบี้ตัวอ่อนตัวนั้นอยู่ไม่ใช่หรอ…
แต่เจ้านั่นเจ้าเล่ห์มาก นอกจากโผล่หัวออกมาให้เห็นเป็นบางครั้ง มันก็แทบไม่เผยตัวเข้ามาอยู่รัศมีกระสุนเลย ขนาดตัวของมันเล็กมาก พอมันหมอบต่ำร่างกายมันก็แทบจะแนบติดกับหลังคาไปเลย นอกจากว่าจะอยู่สูงกว่ามัน ไม่อย่างนั้นก็ไม่สามารถมองเห็นตัวมันได้เลย
และจากจุดที่พวกเขาอยู่ แทบมองไม่เห็นสถานการณ์ข้างบนหลังคาด้วยซ้ำ
ทำไมสวี่ซูหานถึงได้วิ่งไปที่นั่นแล้วล่ะ?
“ไปดูกันหน่อย” หลิงม่อตัดสินใจทันที เขาหันมาบอกเจสันว่า “คุณอดทนไว้ก่อนนะ”
“ได้…” เจสันเกาหัว แล้วรับคำอย่างสงสัย ทำไมถึงได้พูดอย่างนี้กับเขาแค่คนเดียวล่ะ? ถึงแม้ในด้านพลัง เขาจะสู้เด็กผู้หญิงสองคนที่กำลังหยุดยั้งระเบิดซอมบี้อยู่ข้างหน้านั้นได้ แต่เขามีปืนอยู่นะ…
เจสันลูบคลำปืนของตัวเอง พลางรู้สึกใจชื้นขึ้นมาก เขามองไปรอบกาย มีซอมบี้ตัวอ่อนอยู่ล้อมเข้ามาจากสองฝั่ง ส่วนอีกสองฝั่งที่เหลือก็มีแต่กำแพงเท่านั้น
“ยังอดทนต่อไปได้แน่ๆ…” ขณะที่ท่องบอกตัวเองอยู่ในใจ เจสันก็ลูบกระเป๋ากระสุนตัวเองไปด้วย ทว่าไม่นานเขาก็ก้มมองนาฬิกาข้อมือตัวเองด้วยสีหน้าตึงเครียด จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นร้อนรน…
หลังจากจัดการซอมบี้ตัวอ่อนที่ขวางทางไปได้หนึ่งตัว หลิงม่อกับเย่เลี่ยนก็มาถึงอีกด้านของโกดังหลังนั้น
“สูงมาก…”
หลิงม่อกำลังเงยหน้าและวัดความสูงด้วยสายตา จู่ๆ เท้าของเขาก็ลอยสูงจากพื้น แล้วเขาก็เห็นเย่เลี่ยนใช้มือโอบเขาจากด้านข้าง จากนั้นทั้งสองก็ไต่ขึ้นไปข้างบนอย่างรวดเร็ว ความแข็งแกร่งของซอมบี้เจ้าเมืองได้แสดงออกมาให้เห็นในเวลานี้เอง ในขณะที่เธออุ้มคน และยังสามารถใช้ได้แค่เท้าทั้งสองข้าง แต่กลับยังสามารถไต่ขึ้นไปบนกำแพงที่สูงชันขนาดนั้นได้…
“ซอมบี้กับมนุษย์แตกต่างกันมากจริงๆ เมื่อใดที่ผู้มีความสามารถพิเศษไม่สามารถใช้พลังพิเศษได้ก็จะกลายเป็นคนธรรมดาไปทันที แต่ซอมบี้กลับมีข้อจำกัดที่น้อยมาก…ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ร่างกายของเราจะกลายพันธุ์และพัฒนาถึงระดับนี้ซักที…”
ในขณะที่ทั้งสองใกล้จะขึ้นไปถึงหลังคา จู่ๆ เสียงกรีดร้องที่ต่างจากก่อนหน้านี้ก็ดังลงมาจากข้างบน เสียงนี้ราวกับเต็มไปด้วยความโมโห จนกรีดร้องเสียงหลงเล็กน้อย…
“มันถูกโจมตีแล้ว! เป็นฝีมือสวี่ซูหาน!” หลิงม่อร้อนรนขึ้นมาทันที จุดเด่นของสวี่ซูหานคือความเร็ว แต่ซอมบี้ตัวอ่อนพวกนั้นก็ไม่ได้ช้าเลย! และหากวัดกันเรื่องพละกำลังและความสามรถในการโจมตี สวี่ซูหานสู้พวกมันไม่ได้แน่…ที่สำคัญคือ เธอขี้กลัวขนาดนั้น จะสู้กับมันได้ยังไง!
“ไม่คิดเลยว่าเธอจะวิ่งมาลอบโจมตีหัวหน้าซอมบี้ แถมยังลงมืออย่างเงียบๆ ด้วย…”
พอเย่เลี่ยนดีดตัวขึ้นข้างบนอีกครั้ง ทั้งสองก็ทิ้งตัวลงบนหลังคาเบาๆ สิ่งที่ทำให้หลิงม่อเหนือความคาดหมายก็คือ บนหลังคาแห่งนี้มีท่อระบายอยู่มากมาย ซึ่งมันบดบังการมองเห็นส่วนใหญ่ไว้
“ไม่น่าล่ะถึงได้เลือกที่นี่ ยังไม่ทันโตก็มีสติปัญญาอย่างนี้แล้ว เป็นผลพลอยได้จากหัวโตๆ ของมันหรือเปล่านะ…”
หลิงม่อครุ่นคิด พลางวิ่งตามเย่เลี่ยนไปตรงกลาง
เขากวาดมองรอบๆ เป็นระยะๆ แต่เขากลับได้ยินแค่เสียงกรีดร้องและเสียงกระแทกกระทั้นที่ดังขึ้นเป็นช่วงๆ เสียงกรีดร้องนั้นรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ผลกระทบที่หลิงม่อได้รับก็ร้ายแรงขึ้นเช่นกัน
“กรี๊ดด!”
เสียงกรีดร้องดังมาจากข้างหน้าอีกครั้ง ทว่าครั้งนี้ไม่ใช่เสียงของซอมบี้ตัวอ่อน แต่เป็นเสียงของสวี่ซูหาน!
“แกอย่าเข้ามานะ! ฉัน…ฉันจะคลุ้มคลั่งจริงๆ ด้วย!”
เย่เลี่ยนกระโดดขึ้นไปยืนบนท่อระบายท่อหนึ่ง จากนั้นก็พุ่งตัวไปด้วยความเร็วหลังจากเลือกทิศได้
หลิงม่อเองก็ตะโกนขึ้น “สวี่ซูหาน! วิ่งมาทางนี้!”
ในตอนนั้นเองที่เขาเพิ่งจะสังเกตเห็นจุดที่เย่เลี่ยนกระโดดขึ้นไปยืนเมื่อกี้ บนท่อน้ำท่อนั้นเต็มไปด้วยสนิม แต่พอถูกเย่เลี่ยนเหยียบ สนิมบนนั้นกลับไม่หลุดลอกออกมาซักนิด เขาเองก็อยากพุ่งตัวไปข้างหน้าด้วยวิธีเดียวกับเธอ แต่กลับพบว่าตัวเองไม่สามารถยืนบนท่อลื่นๆ ได้อย่างมั่นคง จึงจำต้องล้มเลิกความตั้งใจ
“เกลียดนัก จำกัดพลังจิตของเราซะจนทำอะไรไม่ได้เลย!”
ผ่านไปไม่กี่วินาที หลิงม่อก็เหลือบเห็นเงาร่างสองเงาผ่านช่องแคบระหว่างท่อระบายเหล่านั้น
เย่เลี่ยนยืนขวางอยู่ข้างหน้าสวี่ซูหาน ส่วนสวี่ซูหานกำลังจ้องไปข้างหน้าด้วยความกลัว เสื้อผ้าของเธอถูกข่วนจนขาด เผยให้เห็นไหล่กลมมนที่ตอนนี้กำลังสั่นเทาอยู่
พอเห็นหลิงม่อ สวี่ซูหานที่สวมหน้ากากปิดบังใบหน้าไว้ก็หันมามองทันที พร้อมพูดด้วยริมฝีปากสั่นๆ ว่า “ฉันกะจะมาลอบโจมตีมัน…ถ้าฉันล้มมันได้ ไม่แน่ว่าตัวอื่นอาจจะล้มตามไปด้วย”
“ฟังแล้วเหมือนเธอเป็นคนกล้าหาญมากๆ…” หลิงม่อบอก
“หา? ฉะ…ฉันกลัวมันมาก…” สวี่ซูหานตอบอย่างตรงไปตรงมา
ทว่าเธอเลือกโอกาสได้ไม่เลวทีเดียว ในขณะที่ตอนแรกหลิงม่อคิดจะใช้วิธีที่ปลอดภัยกว่านี้…
ซอมบี้ตัวอ่อนตัวนั้นอยู่บนท่อระบายท่อหนึ่ง มันกำลังจ้องพวกเขาอย่างเย็นชา หรือพูดให้ถูกก็คือ มันกำลังจ้องหลิงม่อที่ปรากฏตัวเป็นคนสุดท้าย…
เมื่อมันแผดเสียงร้อง เสียงตะโกนด้วยความตกใจของเจสันก็ดังขึ้นมาจากข้างล่าง ดูเหมือนว่าซอมบี้ตัวอ่อนพวกนั้นกำลังโจมตีรุนแรงขึ้น…
“หึหึ…”
หัวหน้าซอมบี้ตัวอ่อนเผยสีหน้าได้ใจอีกครั้ง จู่ๆ มันก็หมุนคอดัง “กร๊อบแกร๊บ” และยืดคอยาวขึ้น หัวหน้าซอมบี้ตัวอ่อนพลันพุ่งตัวเข้ามา แล้วปากสีแดงดำก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าหลิงม่ออย่างรวดเร็ว
เสี้ยววินาทีที่ระยะห่างสั้นลงเรื่อยๆ ปากของหัวหน้าซอมบี้ตัวอ่อนก็ยิ่งอ้าออกกว้าง จนมุมปากแยกไปถึงกกหู เผยให้เห็นซี่ฟันแหลมคมที่อัดแน่นอยู่ในนั้น ขณะเดียวกันเสียงกรีดร้องที่แหลมกว่าเดิมก็ดังออกจากลำคอของมัน จนทำให้หลิงม่อรู้สึกหน้ามืดตาลายไปทันที
“เชี่ย มันยังมีท่าไม้ตายอยู่อีก!” ร่างกายของหลิงม่อสูญเสียการควบคุมไปชั่วขณะ แต่ความคิดของเขากลับยังคงชัดเจน ในสถานที่ที่สภาพแวดล้อมซับซ้อนอย่างนี้ เขาไม่ได้วู่วามยิงปืนออกไป และไม่ได้แผ่หนวดสัมผัสออกไปด้วย
เสี้ยววินาทีที่ทั้งสองสบตากัน ทันใดนั้นสายตาของหลิงม่อก็เปลี่ยนไป
“วี๊ดด!”
สายตาของหัวหน้าซอมบี้ตัวอ่อนพลันคลุ้มคลั่งยิ่งกว่าเดิม ขณะเดียวกันเสียงกรีดร้องก็สูงขึ้นมาก
ความปรารถนาในการสังหารของมัน ถูกปลดปล่อยออกมาแล้ว!
สวี่ซูหานร้อง “กรี๊ด” ทันที เธออยากจะเข้ามาดึงตัวหลิงม่อออกไป แต่ระยะห่างของเธอกลับไม่เอื้ออำนวย จึงทำได้เพียงตะโกนเสียงดังว่า “หลบเร็ว!”
ในตอนนั้นเอง เงาร่างเลือนรางหนึ่งกลับปรากฏตัวข้างกายหลิงม่อ ภายในพื้นที่แคบๆ ความเร็วของเย่เลี่ยนเพิ่มขึ้นจนถึงระดับที่น่ากลัวมาก ม่านตาของเธอหดเล็กลง แล้วเธอก็ยื่นมือเข้าไปในช่องว่างระหว่างหลิงม่อกับหัวหน้าซอมบี้ตัวอ่อน
ในวินาทีนั้น สวี่ซูหานแทบจะหยุดหายใจไปทันที
“โครม!”
ชั่วพริบตา เสียงกระแทกกันดังสนั่นหวั่นไหว แต่หลิงม่อกลับยังคงยืนอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน แต่หัวหน้าซอมบี้ตัวอ่อนที่พุ่งตัวเข้ามาด้วยความปรารถนาสังหารอย่างแรงกล้ากลับนอนล้มอยู่บนพื้น
ท่อระบายที่ถูกมันพุ่งชนบิดเบี้ยวจนไม่เหลือเค้าเดิม กระทั่งมีรอยร้าวปรากฏขึ้นจำนวนมาก ความสามารถในการตัดสินใจอย่างเยือกเย็น และพละกำลังอันมหาศาลนั้น ได้ทำให้สวี่ซูหานยืนอึ้งอยู่กับที่ไปแล้ว
ทว่าสิ่งที่ทำให้เธออึ้งมากที่สุด ก็คือความเชื่อใจระหว่างเย่เลี่ยนกับหลิงม่อ…เขาต้องทำอะไรซักอย่างกับหัวหน้าซอมบี้ตัวอ่อนนั่นแน่ๆ อีกฝ่ายถึงได้เปลี่ยนเป้าหมายไปที่เขาแทน และนั่นก็เป็นการเปิดโอกาสให้เย่เลี่ยนสังหารมัน
“ใช่แล้ว…ที่เขาเรียกว่าสร้างความแค้นสินะ…” สวี่ซูหานคิดอย่างอึ้งๆ
“ฟู่ว…โจมตีฉันอย่างไม่ลังเลเลยซักนิด แต่น่าเสียดายที่เข้าใจผิด คิดว่าฉันเป็นคนที่อ่อนแอที่สุด และไม่คิดว่าเย่เลี่ยนจะรู้ตัวทันที…” หลิงม่อพึมพำ
สวี่ซูหานได้สติ “นั่นไม่ใช่ความเข้าใจผิดไหม…มันเข้าใจถูกต้องที่สุดแล้วต่างหากล่ะ!”
หัวหน้าซอมบี้ตัวอ่อนไม่ได้สิ้นลมทันที มันนอนชักกระตุกอยู่บนพื้น ในขณะที่บนคอมีแผลปรากฏขึ้นสองรู ทำให้มันไม่สามารถส่งเสียงกรีดร้องได้อีก
ในขณะที่หลิงม่อนั่งยองๆ ลงไปตรวจสอบ ตรงลูกกระเดือกของมันกลับปูดโปนขึ้นมา
“เอ๋?” หลิงม่อตั้งท่าระวังตัวทันที
ท่ามกลางสายตาจดจ่อของเขา ผิวหนังของหัวหน้าซอมบี้ตัวอ่อนปูดขึ้นมาหนึ่งจุด และมันก็ค่อยเคลื่อนขึ้นมาตามลำคอของเจ้าตัวอ่อนตัวนี้ ไม่นาน มันก็เคลื่อนมาถึงรูแผลหนึ่งในสองรูนั้น ทันใดนั้น ท่ามกลางเสียงผิวหนังฉีกขาดที่ชวนขนลุก รูแผลนั้นกว้างขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นก็มีสิ่งหนึ่งมุดออกมาจากข้างในดัง “พรึ่บ”
เมื่อไม่มีเสียงกรีดน้องของหัวหน้าซอมบี้ พลังของหลิงม่อก็ฟื้นกลับมาไม่น้อย เจ้าสิ่งนั้นพุ่งเข้ามาหาหลิงม่อ แต่ถูกตาข่ายไร้รูปสกัดกั้นไว้ได้ก่อน
หลิงม่อจ้องมองมันอย่างสนอกสนใจ แล้วจู่ๆ เขาก็ตะโกนขึ้นมาว่า “นี่มัน…เจ้ามาสเตอร์บอล?!”
เจ้าสิ่งที่คล้ายแมงกะพรุนโผล่ขึ้นมาอีกตัวแล้ว!
—————————————————————————–