แอ๊ด
ประตูเหล็กถูกผลักออกเล็กน้อย จากนั้นเงาร่างเล็กๆ เงาหนึ่งก็แทรกตัวเข้ามาจากด้านนอก
หากวัดกันเรื่องความสามารถในการอำพรางกาย หุ่นซอมบี้ตัวนี้สู้ซอมบี้ระดับสูงไม่ได้เลย แต่ก็เพราะว่ามันเป็นซอมบี้ระดับล่าง ดังนั้นขอเพียงมันไม่เป็นฝ่ายเผยตัว มันก็จะไม่เป็นที่สะดุดตาของพวกเดียวกันที่อยู่ไกลๆ เหล่านั้น
หลิงม่อก้มมองมู่เฉินที่นอนสลบอยู่บนพื้น หลังจากแผ่หนวดสัมผัสออกมาเพื่อสร้างตายข่ายป้องกันคลุมไว้บนศีรษะเสร็จ สายตาของเขาก็แน่วแน่ขึ้นมาทันที
เขาต้องตามหาสัตว์ประหลาดตัวนั้นให้เจอภายในเวลาที่สั้นที่สุด…
เมื่อก่อนการใช้พลังจิตสำรวจเพื่อตรวจจับคลื่นดวงจิตที่อยู่รอบๆ ผ่านหุ่นซอมบี้เป็นเรื่องยากมากสำหรับหลิงม่อ แต่ตอนนี้เมื่อพลังจิตแกร่งขึ้น พอได้ลองใช้วิธีนี้อีกครั้ง กลับกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นมาทันที
ทว่าองศาและขอบเขตในการสำรวจจำกัดกว่าการสำรวจด้วยตัวเองอย่างเห็นได้ชัด แต่โชคดีที่ในห้างฯ แห่งนี้เป็นสภาพแวดล้อมแบบปิด และจุดที่เขาต้องการสำรวจก็มีแค่เพดานเท่านั้น
หุ่นซอมบี้เดินเลียบไปตามแนวผนังช้าๆ ขณะเดียวกัน หนวดสัมผัสทางจิตเส้นที่หลิงม่อใช้เชื่อมสายสัมพันธ์กับมันได้แตกแขนงออกไปหนึ่งเส้น แล้วยื่นขึ้นไปบนเพดาน
ในเวลาอย่างนี้เขาไม่จำเป็นต้องใช้หนวดสัมผัสจำนวนมาก เพราะด้วยความเร็วในการเคลื่อนไหวของหุ่นซอมบี้ ใช้แค่เส้นเดียวก็เพียงพอแล้ว
หุ่นซอมบี้ตัวเล็กค่อยๆ เข้าใกล้โซนที่มีซอมบี้รวมตัวกันอยู่ มันชะลอฝีเท้าลงเพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกต
ถึงแม้หลิงม่อจะร้อนใจ แต่นั่นไม่เป็นปัญหาต่อการเพ่งสมาธิของเขา เพราะหนวดสัมผัสทางจิตยังคงตรวจค้นทั่วทุกระเบียดนิ้วไม่มีพลาด
ดวงแสงแห่งจิตที่อยู่รอบๆ มีมากเกินไป และทุกดวงก็มีคลื่นที่รุนแรง บวกกับหุ่นซอมบี้ตัวเล็กที่เริ่มได้รับผลกระทบมากขึ้นเรื่อยๆ การตรวจค้นของหลิงม่อจึงเริ่มเป็นเรื่องยากขึ้น
“ฉันไม่เชื่อว่าฉันจะหาแกไม่เจอ…”
หลิงม่อขมวดคิ้ว พลันเร่งการถ่ายเทพลังงานทางจิตให้เร็วขึ้น
ทันใดนั้น คลื่นดวงจิตที่รุนแรงมากกลุ่มหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในขอบเขตการตรวจจับด้วยพลังจิตของหลิงม่อ!
หุ่นซอมบี้หยุดเดินทันที
เนื่องจากอีกฝ่ายมีพลังสูง แม้จะเป็นแค่พลังจิตสำรวจ ก็อาจเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่นได้
หลังจับคลื่นดวงจิตกลุ่มนี้ได้ หลิงม่อไม่ได้เร่งรีบค้นหาตำแหน่งของดวงแสงแห่งจิตทันที แต่เขารออยู่ 2 วินาที แล้วจึงค่อยควบคุมหนวดสัมผัสให้เคลื่อนไหวไปตามแนวเพดานช้าๆ
หนวดสัมผัสเคลื่อนไหวไปอย่างเชื่องช้า ขัดแย้งกับจิตใจของหลิงม่อที่กำลังร้อนรนอย่างเห็นได้ชัด
แต่ยิ่งในเวลาอย่างนี้ ยิ่งไม่ควรรีบร้อน…
“ฮู่ว…”
หลิงม่อสูดหายใจเบาๆ เพื่อสงบความรู้สึกกังวลในใจ
สำหรับผู้มีความสามารถพิเศษสายพลังจิต ความแกร่งของพลังจิตและท่าทีในขณะต่อสู้นั้นสำคัญพอๆ กัน หากไม่รอบคอบ ไม่มีสมาธิ ก็ไม่อาจแสดงฝีมือที่แท้จริงออกมาได้
จุดนี้ความจริงผู้มีความสามารถพิเศษด้านศักยภาพร่างกายก็เป็นเหมือนกัน หากไม่มีความมุ่งมั่นในการต่อสู้อย่างแรงกล้า พวกเขาก็ไม่อาจแสดงพลังออกมาได้เช่นกัน
เมื่อหลิงม่อปรับจังหวะลมหายใจให้กลับมาเป็นปกติ ใน “สายตา” ของเขาก็หลงมีเพียงดวงแสงแห่งจิตที่มากมายจนนับไม่ถ้วน
และคลื่นดวงจิตอันรุนแรงที่เขาจับได้เมื่อกี้ ก็มาจากดวงแสงแห่งจิตที่อยู่บนเพดานนั่น…
เจอแล้ว!
ในจุดที่อยู่ห่างจากหัวของหุ่นซอมบี้ไม่ถึง 20 เมตร ดวงแสงแห่งจิตดวงหนึ่งกำลัง “ล่องลอย” อยู่ตรงนั้น…
“สิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งกว่าซอมบี้นก…เป็นซอมบี้ หรือสัตว์กลายกันพันธุ์กัน?
ดวงแสงแห่งจิตสีแดงเลือด เป็นของสิ่งมีชีวิตที่กลายพันธุ์แล้วอย่างไม่ต้องสงสัย แต่เห็นเพียงเท่านี้ หลิงม่อยังไม่สามารถคาดเดาได้ว่าตัวจริงของมันรูปร่างเป็นอย่างไร และไม่อาจแยกแยะได้ว่ามันเป็นสิ่งมีชีวิตเผ่าพันธุ์ใด
“ลองทดสอบดูหน่อยดีไหม?”
หลิงม่อคิดในใจ ขณะเดียวกันเขาได้ควบคุมหุนซอมบี้ตัวเล็กให้หันไปมองทางที่พวกเย่เลี่ยนอยู่
เมื่อมองผ่านชั้นวางของที่เรียงรายกันอยู่ เขามองเห็นแค่เหล่าซอมบี้จำนวนมากที่กำลังเข่นฆ่ากันเอง
ในตอนนั้นเอง หุ่นซอมบี้เห็น ณ มุมหนึ่งของห้างฯ มีแสงสะท้อนวาบวับของอาวุธมีคมประกายขึ้น ตามมาด้วยเลือดที่พุ่งกระฉูดกลางอากาศ
“ซย่าน่า…”
คมมีดโค้งงอรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวที่เห็น คือเคียวดาบในมือของซย่าน่านั่นเอง
หลิงม่อไม่ได้สับเปลี่ยนมุมมองสายตา เพราะตอนนี้เขาจำเป็นต้องเพ่งสมาธิขั้นสูง
“มีซอมบี้รวมตัวกันอยู่ในนี้อย่างน้อย 200 – 300 ตัว แล้วยังมีซอมบี้กำลังเบียดเสียดกันเข้ามาเพิ่ม…แต่ว่า พวกมันกลับไม่เข้ามาใกล้ตรงนี้เลย…”
หลิงม่อครุ่นคิดอย่างละเอียด สุดท้ายก็หันหน้ามองเข้าไปในทางเดิน
“เอาอย่างนี้แหละ…”
หลังตัดสินใจได้ เขาก็ดึงมู่เฉินขึ้นมา แล้วประคองเขาเดินไปทางประตูเหล็กซึ่งอยู่อีกด้านหนึ่ง
ด้านนอกประตูเหล็ก มีเฮยซือยืนรออยู่ก่อนแล้ว
แต่ดูเหมือนว่ามันคงจะอดทนจนถึงขีดจำกัดแล้ว ดังนั้นหลังจากที่ร่างกายกระตุกสั่นอยู่ชั่วขณะแล้วลืมตาขึ้น สีหน้าก็กลับมาบูดบึ้งเป็นอวี๋ซือหรานเหมือนเดิม
“เจ้าเฮยซือ…” ดวงหน้าเล็กคล้ายตุ๊กตานั่น ไม่ว่าจะกัดฟันกรอดๆ อย่างไรก็ดูไม่น่ากลัวซักนิด
หลิงม่อโยนมู่เฉินออกไป แล้วพูดตัดบทเธอว่า “เธอกับเสี่ยวป๋ายเฝ้าข้างนอกไว้ให้ดี หากมีสิ่งมีชีวิตเข้าใกล้ ก็อย่ารีบลงมือจัดการ เน้นซ่อนตัวไว้ก่อน ดูมู่เฉินไว้ด้วย ถ้าฟื้นก็ตีให้สลบ”
ด้านหนึ่ง พวกเธอสามารถเตือนภัยเขาได้ ในอีกด้าน ก็เพื่อที่พวกเธอจะช่วยเหลือเขาได้ตลอดเวลา…
“นายก็ปลุกให้เขาตื่นแล้วพาไปด้วยก็ได้นี่?” อวี๋ซือหรานกลับโฉบหลบออกไปด้านข้าง ทำให้มู่เฉินล้มพับลงไปนอนกับพื้นดัง “พลั่ก” แต่เขาก็ยังไม่ตื่นอยู่ดี…
“เฮ้ย…” หลิงม่อหน้าบึ้ง
โชคดีที่เขาเป็นผู้มีความสามารถพิเศษด้านศักยภาพร่างกาย ล้มแค่นี้คงไม่เป็นไร แถมยังไม่ฟื้นด้วย…
แต่เขากำลังรีบนะ!
อวี๋ซือหรานเองก็เม้มปากทำหน้าบึ้ง แค่ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงสัตว์กลายพันธุ์ยังไม่พอ ตอนนี้แม้แต่มนุษย์เขาก็ยังกล้าโยนมาให้เธอรับผิดชอบอีก…
“เขาไม่ใช่ผู้มีพลังจิตนะ อีกเดี๋ยวถ้าเกิดเขาลอบแทงฉันจากข้างหลังอีกจะทำยังไง? ตอนนี้เขากลายเป็นคนหักหลังพวกเดียวกันเหมือนเธอไปแล้ว” ไม่รอให้อวี๋ซือหรานโต้เถียง หลิงม่อปิดประตูดัง “ปัง” ทันที
หลังปิดประตู เขาเดินเข้าไปในทางเดิน แล้วเหลือบมองไปทางห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกล
“เลี้ยงเหยื่องั้นหรอ…”
หลิงม่อเพ่งสมาธิ ขณะเดียวกันหุ่นซอมบี้ก็โน้มตัวอยู่ด้านล่างตำแหน่งของดวงแสงแห่งจิตดวงนั้น
มาถึงขั้นนี้ ไม่ว่าจะเป็นซอมบี้หรือสัตว์กลายพันธุ์ต่างก็มีสติปัญญาที่ค่อนข้างสูงแล้ว พวกมันจะไม่เผยพลังของตัวเองให้เห็นในทันที
หลังคำนวณองศาเสร็จ หุ่นซอมบี้ตัวเล็กก็กระโดดขึ้นเงียบๆ และใช้นิ้วมือเจาะเข้าไปในเพดานบนศีรษะทันที
เนื่องจากหลิงม่อได้คำนวณระดับความแรงไว้ด้วย ดังนั้นถึงแม้นิ้วมือจะแทงเข้าไปในผิวเหล็กของเพดาน แต่กลับไม่ส่งเสียงดังมากนัก
ซอมบี้ที่อยู่ไกลออกไปทางนั้น ไม่มีตัวไหนหันมาสนใจเลย
“ชิบหาย เล็งไม่โดน!”
หลิงม่อคำนวณระยะห่างจริงผิด ก็ช่วยไม่ได้ ใครจะไปรู้ล่ะว่าเจ้าสิ่งนั้นจะอยู่ข้างในเพดาน…
ทว่าการเคลื่อนไหวนี้เหมือนจะทำให้มันรู้ตัวแล้ว คลื่นจากดวงแสงแห่งจิตดวงนั้นไหวกระเพื่อมชั่วขณะ
“วิ่ง!”
พอเห็นมันขยับเขยื้อน หลิงม่อรีบควบคุมหุ่นซอมบี้ให้หมุนตัวออกวิ่งไปทางห้องบันได้ด้วยความเร็วสูงทันที
ขณะเดียวกัน มือข้างหนึ่งของหุ่นซอมบี้แบออก เผยให้เห็นก้อนเหนียวหนืดก้อนหนึ่ง
ก้อนเหนียวหนืดนี้ไม่น่าสนใจมากพอสำหรับซอมบี้ที่คลุ้มคลั่งไปแล้วเหล่านั้น แต่หลิงม่อเดาว่ามันน่าจะทำให้หุ่นซอมบี้มีความสำคัญมากขึ้นในสายตาเจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้…
ถ้าหากการโจมตีเมื่อกี้เข้าเป้า เขาคงไม่ต้องใช้ลูกไม้สำรองนี้
ตามคาด เจ้าซอมบี้ระดับต่ำที่น่าประหลาดตัวนี้ได้ดึงดูดความสนใจจากเจ้าสัตว์ประหลาดสำเร็จ ดวงแสงแห่งจิตของมันเคลื่อนเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว
ตอนนี้หลิงม่อไม่มีเวลาหันไปสำรวจมันอีกแล้ว เขาเพ่งสมาธิทั้งหมดไปกับการควบคุมให้หุ่นซอมบี้วิ่ง
หุ่นซอมบี้เร่งความเร็วจนถึงขีดสุด กล้ามเนื้อของมันเริ่มมีแนวโน้มว่าจะฉีกขาด แต่ถึงอย่างนั้นสายลมแรงสายหนึ่งก็ยังพุ่งเฉียดหัวของมันไป!
หลิงม่อควบคุมหุ่นซอมบี้ให้ก้มหัวโดยอัตโนมัติ ในใจพลางนึกหวาดเสียว!
โชคดีที่หุ่นซอมบี้ตัวเตี้ย…
ที่นี่มีแสงสว่างไม่มาก และหลิงม่อก็ไม่กล้าหันหลังกลับไปมอง จึงไม่รู้ว่ารูปร่างของสัตว์ประหลาดที่กำลังไล่ตามเขาอยู่บนเพดานเป็นอย่างไรกันแน่
แต่แค่ได้ยินเสียง “ขึกๆ” ที่ไล่ตามมาอย่างไม่ยอมลดละ ก็ทำให้หนังศีรษะตึงชาแล้ว!
แต่โชคดีที่ซอมบี้พวกนั้นไม่ได้ตามมาด้วย
“นึกไว้ไม่มีผิด ในฐานะผู้เลี้ยงเหยื่อ การที่มันปล่อยกลิ่นเชื้อไวรัสคลุ้มคลั่งออกมาไม่ได้ทำให้มันถูกเปิดเผยตัวตน กลับเป็นการป้องกันตัวเอง แล้วรอเก็บเกี่ยวผลผลิตอย่างปลอดภัย…เจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้มีสมองจริงๆ…”
สวบ!
กระแสลมแรงพุ่งเข้ามาอีกครั้ง ครั้งนี้ถึงแม้หลิงม่อจะก้มหัวได้ทันเวลา แต่ก็ยังรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างบนหัวที่หายไป
เขายกมือขึ้นลูบดู แล้วก็ต้องตกตะลึง
ผมหายไปหนึ่งกระจุก…
เส้นยาแดงผ่าแปดจริงๆ!
วินาทีนี้ หุ่นซอมบี้ระเบิดความสามารถทั้งหมดออกมา ประตูเหล็กอยู่อีกไม่ไกลแล้ว อีก 10 มตรเท่านั้น!
ทว่าตอนนี้ประตูเหล็กกำลังเปิดแง้มไว้ ถึงแม้หุ่นซอมบี้จะวิ่งแทรกตัวออกไป แต่สัตว์ประหลาดที่ไล่ตามหลังมาจะต้องพุ่งชนเต็มๆ แน่นอน เสียงดังขนาดนั้น ซอมบี้พวกนั้นต้องได้ยินแน่ๆ…
5 เมตร!
1 เมตร!
ในเสี้ยววินาทีหุ่นซอมบี้อยู่ห่างจากบานประตูเหล็กเพียง 1 เมตรนั้นเอง ทันใดนั้นบานประตูก็ถูกดึงเปิดออกอย่างน่าประหลาด!
หนวดสัมผัสที่แตกแขนงออกมาเส้นนั้น ถูกนำมาใช้ประโยชน์ในเวลานี้ได้พอดี
ฉึก!
เสี้ยววินาทีที่หุ่นซอมบี้พุ่งตัวผ่านประตู ความรู้สึกเหมือนเนื้อฉีกพลันแผ่มาจากแผ่นหลังของมัน
บาดเจ็บแล้ว!
และสิ่งที่ทำให้หลิงม่อตะลึงคือ ทั้งที่เป็นบาดแผลที่ไม่ได้อันตรายถึงตาย แต่สัญชาตญาณต่อต้านของหุ่นซอมบี้กลับรุนแรงขึ้น จนเกือบจะหลุดจากการควบคุมของหลิงม่อ
“เชื้อไวรัสคลุ้มคลั่ง…” หลิงม่อใจกระตุกวาบ ที่แท้เจ้าสิ่งนี้ก็ไม่ได้แพร่กระจายได้แค่ในอากาศอย่างเดียว!
“ก็นึกว่าเป็นแค่เครื่องผลิต…”
หลิงม่ออดทนต่ออาการมึนหัวเบาๆ แล้วควบคุมหุ่นซอมบี้ให้วิ่งพุ่งมายังตำแหน่งที่ตัวเองอยู่
—————————————————————————–