เลือดสดๆ ก็ไหลออกมาทันที
มู่จื่อหลันผลักเจี่ยอี้ออกอย่างเอาเป็นเอาตาย และร้องโอดครวญว่า “จะฆ่าคนแล้ว! จะฆ่าคนแล้ว!” จากนั้นวิ่งกระเสือกกระสนไปที่ประตู
เจี่ยอี้กระโจนเข้าใส่มู่จื่อหลันล้มลงที่หน้าประตูห้อง ถ้วยชาที่แตกกระจายลอยออกมาจากใต้ตัวของนาง
ไม่รอให้นางกรีดร้อง เจี่ยอี้ก็เบือนหน้านางหันกลับมา แล้วตบหน้านางอย่างแรง “นังแพศยา! สำส่อน! กล้าดียังไงถึงได้นอกใจข้า”
เขามัดมือนางไว้อย่างคล่องแคล่ว แล้วแขวนไว้บนคาน จากนั้นก้มหยิบเก้าอี้ขึ้นมาแล้วทุบไปที่ขามู่จื่อหลัน พอทุบซ้ายเสร็จก็ทุบต่อไปที่ด้านขวา “ตีให้ขาเจ้าหัก ดูสิว่าเจ้ายังจะไปนอกใจได้เยี่ยงไร?”
มู่จื่อหลันร้องโอดครวญเสียงเพิ่งจะออกประตู ก็ถูกความเจ็บปวดจนทำให้เป็นลมไป จากนั้นก็ถูกไม้ปัดขนไก่ที่ฟาดใส่ร่างอย่างบ้าคลั่ง แล้วตื่นขึ้นมาและก็สลบไปอีกครั้ง
จนกระทั่งมือของเจี่ยอี้เหนื่อยไม่สามารถยกขึ้นได้อีกจึงได้หยุดมือลง มองดูเลือดสดๆ ที่ไหลออกมา จากนั้นถ่มน้ำลายใส่มู่จื่อหลันที่ไม่หลงเหลือความเป็นคนอยู่เลย แล้วได้หยิบพู่กันขึ้นมาจุ่มลงบนร่างของมู่จื่อหลัน แล้วเดินโซซัดโซเซไปที่โต๊ะยาว หยิบกระดาษออกมาหนึ่งแผ่น มือซ้ายจับไปข้อมือขวาแล้ววาดพู่กันลงไป
ตรงกลางจุ่มลงบนร่างของมู่จื่อหลันอีกสามครั้ง จากนั้นก็โยนหนังสือหย่าที่เขียนด้วยเลือดลงบนร่างของมู่จื่อหลันแล้วเดินจากไป
มู่อวิ๋นซีเหลือบตามองร่างของเจี่ยอี้ที่เดินห่างออกไป แล้วเหลือบมองไปกลางเรือนที่นอนระเกะระกะที่เมื่อครู่ต้องการจะบุกเข้ามาช่วยมู่จื่อหลัน จากนั้นได้ผลักประตูเข้าไป
กลิ่นคาวเลือดฉุนจมูก
นางหยิบกาน้ำชาที่หล่นอยู่บนพื้นขึ้นมา เขย่าไปมา แล้วเดินไปหามู่จื่อหลัน จากนั้นก็สาดน้ำครึ่งกาใส่หน้านาง
มู่จื่อหลันร้องคร่ำครวญพร้อมกับค่อยๆ ลืมเปลือกตาที่บวมเป่งขึ้น ดวงตาพลันแข็งค้าง “เป็นเจ้า อวิ๋น…… คุณหนูรอง ช่วยข้า ช่วยข้าด้วย”
“ช่วยเจ้า ก็ได้” มู่อวิ๋นซีก้าวเข้ามาใกล้นางหนึ่งก้าว “บอกข้ามา ว่าจะถอนพิษเหาดำได้เยี่ยงไร?”
มู่จื่อหลันตกตะลึง ผ่านไปนาน สายตาที่มองมู่อวิ๋นซีก็ปรากฏความดุร้ายขึ้นมา “เป็นเจ้าที่บอกเจี่ยอี้?”
มู่อวิ๋นซีมองนางเงียบๆ มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเย้ยหยัน “จะแก้พิษเหาดำได้เยี่ยงไร”
มู่จื่อหลันกะพริบตาปริบๆ ความดุร้ายในแววตาก็เปลี่ยนเป็นน่าสงสารอีกครั้ง นางคร่ำครวญออกมา “ช่วยข้า ขอเพียงเจ้าช่วยข้า ข้าก็จะบอกเจ้า”
“เจ้าคิดว่า ตอนนี้เจ้ามีคุณสมบัติพอที่จะเจรจาเงื่อนไขกับข้า?” มู่อวิ๋นซีก้าวถอยหลังหนึ่งก้าว สีหน้าเย็นชาราวกับน้ำแข็ง
“ได้ ข้าจะบอกเจ้า แต่เจ้าก็ต้องช่วยข้า” มู่จื่อหลันรู้กาลเทศะมาก “ในตำรายามีบันทึกไว้ว่า หากถูกเหาดำกัด ต้องการเพียงสายน้ำผึ้ง*……”(*คือพืชสายน้ำผึ้ง)
“เพี๊ยะ!”
มู่อวิ๋นซีตบหน้าขัดคำพูดของนาง “ตำรายาไม่เคยเอ่ยถึงเหาดำสามคำนี้”
จนถึงตอนนี้แล้ว ยังกล้าคิดที่จะโกหกนางอีก?
มู่จื่อหลันตะลึงงัน พลันนึกขึ้นได้ว่า หลังจากที่มู่อวิ๋นซีถูกส่งตัวไปที่บ้านนอก ก็ถูกคนพาไปยังหุบสิ้นทุกข์
นางจ้องมู่อวิ๋นซี คล้ายจะยิ้มแต่ไม่ยิ้ม “ในเมื่อเจ้าเองก็รู้วิชาแพทย์ เช่นนั้นก็ควรจะรู้ว่าพิษของเหาดำนั้นไม่มียาแก้ได้ ต่อให้เจ้าฆ่าข้าก็ไร้ประโยชน์ ถึงเยี่ยงไรองค์หญิงใหญ่ก็ต้องตาย! มู่อวิ๋นซี……”
สีหน้าของนางดุร้าย “ที่จริงแล้วผู้ที่ฆ่าองค์หญิงใหญ่ไม่ใช่เหาดำ เป็นเจ้า หากเจ้าอยู่ในหุบสิ้นทุกข์ ดีๆ องค์หญิงใหญ่ก็ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานเช่นนี้ มู่อวิ๋นซี เจ้าเป็นคนฆ่าท่านย่าของเจ้า เป็นเจ้าที่เป็นคนฆ่านาง!”
มู่จื่อหลันส่งเสียงดังกึกก้อง ราวกับกระบี่แหลมคมแทงเข้าที่หัวใจของมู่อวิ๋นซีอย่างโหดเหี้ยม
มู่อวิ๋นซีหน้าซีดเผือด ดูท่าทีเหม่อลอย “ไม่…”
“หากไม่มีนาง องค์หญิงใหญ่ก็ไม่ต้องตายอย่างนั้นหรือ? เกรงว่านางจะตายอย่างเงียบๆ และคงตายตาไม่หลับ!” เสียงที่เย็นชาและทุ้มต่ำดังขึ้น ราวกับสายลมที่มาพัดหมอกที่อยู่ตรงหน้ามู่อวิ๋นซีออกไป
ใช่ เมื่อชาติก่อนที่นางได้กลับมา ก็ถูกขังอยู่ในคุกใต้ดิน โดยที่ไม่ได้ทำอะไรเลย แต่พวกเขากลับฆ่าองค์หญิงใหญ่เช่นเดิม
มุมปากของนางโค้งเป็นรอยยิ้มบางๆ ขึ้น แล้วยื่นมือออกไปหาเฟิ่งเชียนเย่ เฟิ่งเชียนเย่ยื่นถุงหนังในมือให้นาง นางรับมาและดึงสายรัดที่อยู่บนถุงหนังออกมองมู่จื่อหลัน “รู้ว่าเจ้าชอบแมลง ข้าจึงตั้งใจเตรียมไว้ให้เจ้าบ้าง แต่เหาดำหายากจริงๆ แมงป่อง มดที่ดิ้นอยู่ในถุงหนัง…… มู่จื่อหลันเปลี่ยนสีหน้าทันที
“อวิ๋นซี ข้าผิดไปแล้ว เป็นความผิดของข้าเอง…”
มู่อวิ๋นซียกถุงหนังขึ้นสูง อยู่เหนือศีรษะของมู่จื่อหลัน
“ข้าไม่ควรฟังคำบ้าๆ ของหลิ่วเย่เอาเหาดำให้นาง ไม่ควรทำตามเจี่ยอี้ที่รังแกซิ่ว……”
ทันทีที่ข้อมือมู่อวิ๋นซีหมุน แมลงที่นับไม่ถ้วนร่วงหล่นจากถุงหนัง ตกลงบนเส้นผม ใบหน้า ไหล่ ของมู่จื่อหลัน และบาดแผลบนร่างกาย
“อ๊า!”
มู่จื่อหลันร้องโหยหวนดิ้นรนสุดชีวิต “มู่อวิ๋นซี นังสารเลว รีบปล่อยข้าเร็วเข้า ไม่อย่างนั้น……”
นางหุบปากทันที เพราะแมงมุมเดินตรงไปเกาะในปากที่เปิดกว้างของเธอ
“หากเจ้าเกลียดข้า เจ้าสามารถจัดการกับข้า และแก้แค้นที่ข้า เจ้าไม่ควรลงมือกับท่านย่าของข้า” องค์หญิงใหญ่เป็นคนแรกที่ทำให้นางรู้สึกถึงความรักที่ห่างหายจากกันไปนาน แต่กลับถูกนางทำร้ายจนกลายเป็นเช่นนี้
มู่อวิ๋นซีไม่มองมู่จื่อหลันที่กำลังขัดขืนอีก จากนั้นก็เดินออกจากห้องข้างๆ เรือนไปกับเฟิ่งเชียนเย่ แล้วปิดประตูลง
“ไม่ต้องห่วง!” เฟิ่งเชียนเย่มองไปที่นาง “หลังจากส่งเจ้ากลับไป ข้าจะไปถามนางอีกครั้ง”
มู่อวิ๋นซีมองเขาอย่างนิ่งๆ ความซาบซึ้งใจเป็นพันเป็นหมื่นมาถึงริมฝีปากแล้วกลายคำสองคำที่หนักอึ้ง “ขอบคุณนะเจ้าค่ะ””
ความมืดค่อยๆ สาดส่องผ่านหน้าต่าง หลังจากนั้นสีสันก็จางหายไป
เทียนยาวๆ ที่อยู่ภายใต้การจ้องมองของมู่อวิ๋นซี ค่อยๆ ละลายจนกระทั่งยาวประมาณหนึ่งนิ้ว เสียงของเฟิ่งเชียนเย่ได้ดังขึ้นในห้อง เป็นเสียงที่แหบแห้งและอ่อนเพลีย
“เจ้านั่งรออยู่นี่ทั้งคืนหรือ?”
มู่อวิ๋นซีหันกลับมามองเขา ในดวงตาเต็มไปด้วยความหวังและความกังวล ริมฝีปากสั่นเทา แต่ไม่กล้าถามออกไป
หากเพื่อนของเขาก็ไม่มีทาง องค์หญิงใหญ่เกรงว่าจะเหลือเวลาอีกแค่วันเดียว
“นางแก้พิษของเหาดำไม่ได้”
หัวใจมู่อวิ๋นซีหนักอึ้ง
“แต่ให้สิ่งนี้กับข้ามา” เฟิ่งเชียนเย่ยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้มู่อวิ๋นซี
“ยาพิษ?”
เฟิ่งเชียนเย่พยักหน้า “นางบอกว่าสามารถใช้ยาพิษแก้พิษ และทำให้องค์หญิงใหญ่อยู่ในการตายแบบปลอมๆ สถานการณ์เช่นนี้สามารถคงอยู่ได้อีกครึ่งเดือน”
“ข้าเตรียมสมุนไพรไว้เรียบร้อยแล้ว” เขายกมือขึ้น นิ้วเรียวยาวชี้ไปยังสมุนไพรสองตัวที่ปลายกระดาษ “เพียงแต่ว่าการใช้แสลงใจกับจุ้ยอูเฉ่านี้ ต้องดูจากสภาพร่างกายขององค์หญิงในตอนนี้ ดังนั้นจึงต้องถามหมอหญิงโจวสักหน่อย”
“ตกลง พวกเราไปลานหย่งเหอกันเลยตอนนี้”
เตาไฟสามเตาของห้องรมตงของลานหย่งเหอถูกถอดออกไปสองเตาแล้ว เหลือไว้เพียงเตาข้างหน้าหนึ่งเตา กำยานหอมที่จุดไว้ตลอดก่อนหน้านี้ก็ถูกหมอหญิงโจวห้ามเอาไว้อย่างเด็ดขาด
นางจ้องที่สูตรยาที่มู่อวิ๋นซีหยิบมาครุ่นคิดอยู่นาน “ตามหลักแล้ว สามารถเป็นไปได้ แต่…… ใบสั่งยานี้ข้าไม่ยินยอม”
“ในเมื่อได้เป็นไปได้ ทำไมไม่เห็นด้วยล่ะ?” มู่อวิ๋นซีไม่เข้าใจ
“ไม่จำเป็นต้องได้รับอนุญาตจากหมอหญิงโจว เจ้าเพียงแค่บอกพวกเราตามสภาพร่างกายขององค์หญิงในตอนนี้ และสุดท้ายน้ำหนักของตัวยาทั้งสองชนิดนี้” เมื่อเห็นหมอหญิงโจวพยักหน้า เฟิ่งเชียนเย่จึงหันไปอธิบายให้มู่อวิ๋นซีฟัง
“เช่นเดียวกับหมอหลวงจ้าว ใบสั่งยาทั้งหมดที่นางมีล้วนต้องเข้าบันทึกที่สำนักหมอหลวง หากคนแก่หัวโบราณพวกนั้นเห็นใบสั่งยานี้เข้า เกรงว่าจะต้องโทษนางถึงความผิดฐานทำร้ายองค์หญิงใหญ่”
มู่อวิ๋นซีเข้าใจทันที นางมองหมอหญิงโจวที่กำลังจะขอโทษ ไป่หลิงรีบเข้ามาจากนอกประตู “คุณหนู ฮูหยินเล็กเติ้งบอกว่ามีเรื่องร้อนใจที่ต้องการจะพบท่าน”