เงารัตติกาลใต้แสงจันทรา – ตอนที่ 90 ความรักลึกล้น ทะลุเลยขีดจำกัด

มู่อวิ๋นซีมองไปตามเวียง แล้วมองกลับตามสายตาที่โมโหของฉีอิน ก็เห็นนางจับมือที่ใหญ่ของเฟิ่งเชียนเย่มาวางไว้บนหน้าออกตัวเอง
นางอุทานออกมา ราวกับมือถูกรั่วร้อนจนต้องยกมือขึ้น เฟิ่งเชียนเย่เก็บมือ แก้มมู่อวิ๋นซีแดงก็ขึ้น หัวใจเต้นผิดจังหวะทันที
“เมื่อกี้ข้าตื่นเต้นเกินไปแล้ว”
นางอายจนหน้าแดงแล้วหันมองเฟิ่งเชียนเย่ นัยน์ตาที่ใสเปร่งประกายระยิบระยับ เห็นมุมปากเขาค่อยกว้างขึ้น ปรากฏรอยยิ้มบางๆ ใจที่หวั่นไหวค่อยสงบลง หันมองฉีอินที่ทำหน้าซับซ้อน แล้วยื่นอย่างนิ่งเฉย “เจ้ามาทำไม?แปลงดอกไม้มีเรื่องรึ?”
“ไม่มีเจ้าค่ะ “ฉีอินเงยหน้าลงเพื่อปิดบังความอิจฉาในดวงตา แล้วเงยหน้ามองมู่อวิ๋นซี “ข้ามาส่งเครื่องยาให้ท่านน้า บังเอิญท่านน้าไม่อยู่พอดี เลยคิดว่าไม่ได้เจอคุณหนูรองมาหลายวันแล้ว ก็เลยมาเยี่ยมท่านหน่อยเจ้าค่ะ”
ขณะพูด นางก็มองดูเฟิ่งเชียนเย่ที่อยู่ข้างมู่อวิ๋นซีอย่างตะกละตะกลาม
หลังจากความกลัวในคืนนั้น ความรักที่นางมีต่อเขาแทนที่จะลดน้อยลง แต่กลับเพิ่มขึ้นหลายเท่า
ทำให้รู้สึกกังวลและตื่นเต้นมาก
ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะอยากจะเจอเขา เรื่องส่งเครื่องยาเช่นนี้นางจะไปสนได้ไง?
เฟิ่งเชียนเย่ขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างไม่มีใครรู้ ดึงสายรัด นำเสื้อคลุมใหญ่สีดำถอดออกมา สวมใส่ให้มู่อวิ๋นซี “ค่ำแล้ว ลมใหญ่”
มู่อวิ๋นซียิ้มให้เขาอย่างซาบซึ้ง
ฉีอินเงยหน้าลง ดวงตาของเขาวาววับราวกับจะพ่นไฟได้ ลมหนาวพัดมา ทำให้เสื้อคลุมใหญ่ที่ลากอยู่บนพื้นตรงหน้า ส่งเสียงกระพือ กระพือ
“ฉีอิน”
“คุณหนูรองเจ้าคะ!”ฉีอินเงยหน้า มองดูเงาเฟิ่งเชียนเย่ที่จากไปไกล เก็บสายตาอย่างอาลัยอาวรณ์ “ท่านชายเย่ดีกับท่านจริงๆ เลยเจ้าค่ะ”
นางกัดริมฝีปากอย่างแน่น รวบรวมความกล้าทั้งหมดมองดูมู่อวิ๋นซี “เขาชอบท่านหรือเจ้าค่ะ?”
ชอบหรือ?มู่อวิ๋นซีแก้มแดงเล็กน้อย หันมองเงาที่จากไปของเขาอย่างไม่รู้ตัว
ฉีอินแอบหงุดหงิด และยิ่งกลัวที่จะได้ยินคำตอบของมู่อวิ๋นซี ยิ้มแห้งคำหนึ่ง “คุณหนูรองอย่างใส่ใจเลยเจ้าค่ะ ข้าวน้อยพูดเล่นเองค่ะ”
มู่อวิ๋นซีเก็บสายตาคืน นำความคิดวุ่นวายกดลง มองดูฉีอิน เอื้อมมือไปปจับมือน้อยๆ ของนาง เย็นจัง

นางขมวดคิ้วเล็กน้อย “เจ้ามีพี่ชายหนึ่งคนไม่ใช่รึ?เขาก็นะ อากาศหนาวเช่นนี้ ยอมให้เจ้ามาส่งเครื่องยาได้ไงเนี้ย?”
ฉีอินถอนหายใจเบาๆ “พี่ชายข้าน้อยหรือเจ้าค่ะ ไม่รู้หายไปไหนแล้ว ข้ายน้อยไม่ได้เจอเขามาครึ่งเดือนแล้วเจ้าค่ะ”
“จริงหรือ?หรือเป็นเพราะว่าตีกับคนอื่นเลยถูกจับเข้าคุก?ข้าได้ยินคุณหนูฮั่วพูดว่า ช่วงไม่กี่วันนี้คุกในจิงจ้าวอิ่นคนใกล้เต็มแล้ว เอาอย่างนี้ไม้……เดียวพรุ่งนี้ข้าฝากนางไปถามดู?”
“เป็นไปไม่ได้!” ฉีอินไม่เชื่อ “พี่ชายข้าน้อยไม่เคยตีกับผู้ใดเลยเจ้าค่ะ”
มู่อวิ๋นซีเบะปาก ทำหน้าไม่เชื่อ
“จริงเจ้าค่ะ” ฉีอินอธิบาย “พี่ชายข้าน้อยเป็นผู้คุ้มกันสินค้า ผู้คุ้มกันอย่างพวกเขา ไม่เคยสร้างปัญหา ต่อให้มีคนมาหาเรื่องพวกเขา เรื่องไรที่มันขจัดได้ ก็พยายามขจัดให้มันดีที่สุด”
มู่อวิ๋นซีพยักหน้า ปล่อยมือของฉีอินลง “เป็นข้าคิดมากไปแล้วเอง”
ถ้าฉีหู่ไม่เคยตีกับผู้อื่น แล้วจะเป็นเพราะเรื่องชกต่อยเข้าคุกได้ไง?ที่เขาได้เข้าคุก โอกาสที่เป็นได้มากที่สุด ต้องเป็นเพราะฮูหยินเล็กเติ้งว่างแผนไว้ก่อนหน้านี้แล้วแน่
แต่ว่าตอนนี้ ฉีหู่ไปหลบไว้ที่ไหนแล้ว?
แสงสว่างสุดท้ายของท้องฟ้าด้านทิศตะวันตกจางหายไป แสงก็ค่อยๆ จางลง และทั้งสองก็เงียบไปสักครู่
ฉีอินครุ่นคิดอย่างเงียบ มือขวาลูบที่แขนเสื้อซ้าย นิ้วมือขาวขึ้นหน่อยๆ ตรงนั้นมีแผนที่ของแปลงดอกไม้ที่ฮูหยินเล็กเติ้งต้องการ ทำเครื่องหมายไว้ทุกสถานที่อย่างละเอียด ทุ่งดอกไม้ทุกแปลง และดอกไม้ชนิดใดที่ปลูกในทุ่งดอกไม้ มีลักษณะเด่นของมันอย่างไร
นางลดมือลง หันมองมู่อวิ๋นซี “คุณหนูรอง!”
“อืม?”
นางรวบรวมความกล้าทั้งหมด เสียงที่ออกมารวดเร็วและวิตกกังวล “ข้าน้อยชอบท่านชายเย่ ชอบท่านมากๆ เลยเจ้าค่ะ คุณหนูมอบเขาให้ข้าน้อยได้หรือไม่เจ้าค่ะ?ท่านไปจากเขา ข้าน้อยจะไม่ให้ท่านทำสิ่งนี้โดยเปล่าประโยชน์ ข้าน้อยสามารถแลกเปลี่ยนกับท่านได้ ใช้ความลับหนึ่งอย่างแลกเปลี่ยนกับท่าน”
เสียงลมพัดผ่านไป มู่อวิ๋นซีดึงเสื้อคลุมใหญ่ที่อยู่บนตัวให้แน่น บนเสื้อคลุมใหญ่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของจันทน์ขาวลอยเข้าสู่จมูกของนาง ทำให้นางจิตใจสับสนวุ่นวาย
“นี่ก็คือเหตุผลที่แท้ของเจ้าที่มาดูข้าในวันนี้สิ?”
ฉีอินพยักหน้า “ขอคุณหนูรองให้ข้าสมหวังด้วยเจ้าค่ะ ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นท่านชายเย่ ข้าน้อยก็ชอบเขาแล้ว ตอนนั้นข้าน้อยก็ได้สาบานแล้วว่า ความลับของข้าน้อย……”

“คำพวกนี้” มู่อวิ๋นซีไม่อยากทนฟังที่นางพูดอีกต่อไป “เจ้าไม่ควรพูดกับข้า ควรพูดให้กับเขาสิ”
“ข้าน้อย……”
“ข้าช่วยเจ้าเรียกเขามา” มู่อวิ๋นซีหันหลัง เดินอย่างเร็ว หัวใจเกิดความสับสนวุ่นวาย
“ท่านชายเย่!”นางมองดูเฟิ่งเชียนเย่ที่เปิดประตูห้อง “ฉีอินมีเรื่องจะคุยกับท่าน”
นางไม่กล้ามองสีหน้าของเขาเป็นอย่างไร พูดเสร็จ หันหลังเตรียมจะจากไป ก็นึกออกว่าเสื้อคลุมใหญ่ที่นางสวมใส่อยู่เป็นของเขา แกะเชือกออก พันมันไปตามแขน ยัดใส่ในมือของเขา
ข้างหลัง นางได้ยินเสียงเท้าของเขาไกลจากไป ไปพบฉีอินแล้วสินะ?
เขาจะยอดรับคำสารภาพรักของนางไม้?
ความคิดนี้ออกมา นางก็รู้สึกหัวใจจี๊ดๆ เหมือนมีอะไรบางอย่างที่ขัดหายไป
กำลังสับสนอยู่ หัวไหล่ก็หนักขึ้น กลิ่นไม้จันทน์ขาวที่คุ้นเคยก็ได้เข้าไปในจมูกของนาง
มู่อวิ๋นซีหยุดเดินอย่างกะทันหัน หันมองเฟิ่งเชียนเย่ที่เอาเสื้อคลุมใหญ่คลุมให้นางใหม่ แล้วหันมองฉีอินที่อยู่ในลานที่เอามือหุบปากวิ้งหนี่ไป นัยน์ตาที่เยือกเย็นเปร่งประกายขึ้นทันที แล้วก็รู้สึกว่าการกระทำของตัวเองนั้นรีบร้อนเกินไป ก็รีบเงยหน้าลง ห้ามตัวเองไม่ให้ยิ้ม
“ทำไมพูดเสร็จเร็วจัง?”
“อืม”
“พูด……อะไรไปหรือ?”
“ไปให้พ้น!”

มู่อวิ๋นซีเงยหน้าขึ้นมองเฟิ่งเชียนเย่ เขาพยักหน้าให้นาง ให้นางเชื่อว่านางไม่ได้ฟังผิด เขาบอกว่าให้ฉีอินไปให้พ้น
รอยยิ้ม บ้าคลั่งดั่งต้นเถา พุ่งขึ้นมาจากใจมู่อวิ๋นซีถึงนัยน์ตาอย่างทันที นางก็รีบหลบสายตาออก “ทำเช่นนี้ไม่ค่อยดีหรอกมั่ง?”
“เสแสร้ง!”
มู่อวิ๋นซีหัวเราะเบาๆ
ผ่านไปนาน นางหันมองเขา ถอนหายใจเบาๆ “เสียดายฉีอินก็ไม่เจอฉีหู่มาครึ่งเดือนแล้ว ท่านว่าเขาถูกฮูหยินเล็กเติ้งฆ่าปิดปากไปจริงๆ แล้วหรือ?”
“ครึ่งเดือน?”นัยน์ตาเฟิ่งเชียนเย่ขยับเล็กน้อย
มู่อวิ๋นซีพยักหน้า
“ข้าอาจจะ รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน แต่ไม่ว่าเป็นตายร้ายดียังไง”
“อยู่ไหนรึ?”มู่อวิ๋นซีแปลกใจ
“ข้าจากไปประเดี๋ยวก็กลับ”
“เดี๋ยวก่อน” มู่อวิ๋นซีดึงแขนเสื้อของเฟิ่งเชียนเย่ไว้ นำเสื้อคลุมใหญ่บนตัวนางคืนให้เขาอีก “หนาว”
มองดูเขาจากไปดังนกใหญ่ที่ค่อยๆ หายไปในที่มืด มู่อวิ๋นซีค่อยหันหลังเดินกลับห้องตัวเอง เดินไปอย่างเร็ว คิ้วและมุมตาเป็นความสุขที่ไม่อาจปกปิดได้
มองดูแสงเทียนเหม่อลอยไปสักพัก กระดาษแผ่นหนึ่งก็ยื่นมาตรงหน้าของนาง
“อะไรนะ?”นางมองดูเฟิ่งเชียนเย่ที่โพล่อย่างประหลาดใจ
“คำสารภาพของฉีหู่”
“เจ้าหาเขาเจอจริงแล้วรึ?”มู่อวิ๋นซีทำหน้าตกใจ หยิบกระดาษมาแล้วมองดูอย่างเร็วมาก
เฟิ่งเชียนเย่อธิบายเบาๆ “ครึ่งเดือนก่อนตอนไปแปลงดอกไม้ เจอกับหัวขโมยกี่คนที่ขวางทางอยู่ไม่ใช่หรือ?ถ้าคนพวกนั้นเป็นฮูหยินเล็กเติ้งเรียกมา แล้วมีใครที่เชื่อใจได้กว่าหลานแท้ๆ ของนางละ?ข้าพึ่งไปสำนักอินทรีย์มาเมื่อกี้ ฉีหู่โชคดี ยังคงมีลมหายใจอยู่”
มู่อวิ๋นซีพยักหน้า นำกระดาษที่อยู่ในมือพับเสร็จ “เขาเข้าคุกเป็นฮูหยินเล็กเติ้งวางแผนไว้จริงๆ ด้วย จุดประสงค์ของนางคือใช้โอกาสนี้กำจัดหลิ่วเย่ทิ้ง เพราะฉะนั้น……”
นางหันมองเฟิ่งเชียนเย่ “ข้าอยากไปพบมู่จื่อโหรว นางต้องรู้อะไรบางอย่างแน่นอน แต่ว่าจวนเจ้าพระยาหย่งชาง……”
คงจะไม่ช่วยรายงานให้นางหรอก?

เงารัตติกาลใต้แสงจันทรา

เงารัตติกาลใต้แสงจันทรา

Comment

Options

not work with dark mode
Reset