เปลวไฟในม่านหมอก – ตอนที่ 5 อมนกกระจอกเทศ

“ นี่เป็นคลิปของนายอัคคีกล่าวเปิดงานการขยายสาขาหนึ่งของบริษัทในประเทศเวียดนามเมื่อเดือนที่ผ่านมา เห็นไหมว่าเขาพูดภาษาอะไร ” อวัศยานิ่งฟังอยู่ครู่ก่อนตอบเพื่อน

“ ก็ภาษาอังกฤษไง ”

“ นั่นแหละ แกเคยบอกฉันว่านายไฟของแกถึงแม้จะหน้าฝรั่งแต่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย ภาษาถนัดก็อีสานกับไทยเท่านั้น ” อวัศยาพยักหน้าเนือย ๆ

“ ใช่ นายไฟมีแม่เป็นสาวบาร์ที่ไปทำงานที่ภูเก็ต ความสวยของเธอทำให้ถูกตาต้องใจเศรษฐีคนหนึ่งที่มาเที่ยวเขาเลยเอาไปชุบเลี้ยง แต่แม่ของไฟไม่รักดีเอง แอบไปมีคนอื่นขณะที่เขาไม่อยู่ เขาจับได้ก็เลยทิ้ง แม่ของไฟก็กลับไปเป็นสาวบาร์อีก ส่วนไฟ ยายใบก็เป็นคนเลี้ยงมาตลอด แม่ของไฟไม่เคยกลับมาหาอีกเลยหลังจากที่เอาไฟมาทิ้งไว้ ”

“ ถ้าอย่างนั้นก็อิมพอสสิเบิ้ลว่าไฟกับอัคคีจะคือคนคนเดียวกัน ”

“ แต่ฉันก็ยังข้องใจนะเปรียว มีเหตุผลอะไรที่นายอัคคีคนนี้จะมาสนอกสนใจในบ้านของฉันที่ถูกธนาคารยึดจะขายทอดตลาด ทั้งที่เขาสามารถซื้อเพ้นส์เฮ้าส์ คอนโด บ้านเดี่ยว มือหนึ่งด้วยเศษเงินของเขา มีเหตุผลอะไรที่จะต้องมาจำเพาะเจาะจงว่าเป็นบ้านของฉันวะ ”

“ เขาก็อาจจะเห็นแล้วนึกชอบก็ได้มั้ง พวกเศรษฐีก็งี้แหละ เงินทองล้นมือ อยากได้อะไรบางทีก็ไม่มีเหตุผล แกก็เคยเป็นลูกเศรษฐีมาก่อนน่าจะเข้าใจ ” ปรียาพูดด้วยความเป็นคนปากไว ทว่าเมื่ออีกฝ่ายเงียบจึงรีบเงยหน้ามาขอโทษ

“ หมอก ฉันขอโทษนะ ฉันก็ปากหมาแบบนี้ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะไปจี้แผลของแกเลย นี่แน่ะนังเปรียว นังปากหมา ” เธอว่าพลางตบปากตัวเอง อวัศยารีบโบกไม้โบกมือ

“ ฉันไม่เป็นไร ไม่ถือหรอก แกก็รู้เปรียว ฉันมันลูกคุณแม่ แม่ที่เป็นสาวลูกแม่ค้าขายขนมหวาน แม่ที่สอนให้ฉันไม่หลงระเริงไปกับเงินทองและของฟุ่มเฟือย ไม่เหมือนคุณพ่อ ที่พอจับพลัดจับผลูร่ำรวยขึ้นมาแล้วลืมตัวตน เพลิดเพลินไปกับเงินทอง ผู้หญิง และของนอกกายจนสุดท้ายก็สูญสิ้นทุกอย่าง แม้กระทั่งผู้หญิงที่ว่ารักพ่อนักหนา พอหมดเงินก็หนีหายกันไปหมด แกรู้ไหมเปรียว ยัยวีด้าคนโปรดของพ่อกลายเป็นหนึ่งในผู้หญิงของอีตาอัคคีอะไรนั่นด้วย ”

“ ว้าย จริงเหรอหมอก แกรู้ได้ไง ”

“ จะไม่รู้ได้ยังไง ก็เมื่อวานนางอยู่ที่บ้านของฉันกับนายอัคคีนั่น กับผู้หญิงนมโตอีกสองคน ละยัยวีด้านี่เล่นอมกันกลางสระต่อหน้าต่อตาทุกคน รวมทั้งฉันด้วย ” ปรียาเบิกตากว้าง

“ อม อมอะไรยะ แกอย่าบอกนะว่า อมนกกระจอกเทศ ” คำพูดของเพื่อนรักทำให้อวัศยาต้องหัวเราะพรืดออกมาด้วยความขำ

“ นกกระจอกเทศอะไรของแก ฉันเคยได้ยินแต่คนอื่นพูดแทนไอ้นั่นว่านกเขา ”

“ ตัวใหญ่เท่าภูเขาเลากา แถมเป็นลูกครึ่งฝรั่งด้วย ฉันมั่นใจว่าขนาดของอีตาอัคคีอะไรนี่ไม่มีทางเล็กเท่านกเขาแน่นอน ”

“ นังเภสัชกรผู้ลามกจกเปรตที่สุดในโลก ”

“ อย่าเรียกว่าลามก ให้เรียกว่าผู้โชกโชนและเชี่ยวชาญในด้านเพศ ” เธอเอ่ยติดตลก ก่อนที่สองสาวจะหัวเราะร่วนด้วยกัน

“ เออแล้วแกจะเอายังไงเรื่องงาน ” ปรียาเอ่ยถามอย่างเป็นห่วงอีกครั้ง

“ ฉันลองดูหมดแล้ว ยื่นใบสมัครไปทางเว็บไซต์ ไม่มีที่ไหนตอบกลับมาสักแห่ง ฉันก็พอเข้าใจนะเปรียว นามสกุลออกจะโชว์หรายามมีชื่อเสีย พอพ่อโดนคดีฟอกเงิน แถมมีข่าวว่าทุจริตหักหลังกับพวกหุ้นส่วน กิจการก็ล้มละลาย นี่ถ้าไม่เส้นเลือดในสมองแตกก็คงต้องไปอยู่ในคุก ใครเห็นนามสกุลฉันก็คงไม่อยากจะรับ ต่อให้โปรไฟล์ดีแค่ไหนก็ตาม ” ปรียาเอื้อมมือไปกุมมือเพื่อนไว้ด้วยความสงสาร

“ มันจะต้องผ่านไปได้นะ ฉันจะคอยเป็นกำลังใจให้ แกเดือดร้อนเรื่องเงินหรืออะไรแกบอกฉันตรง ๆ ได้เลยนะหมอก ฉันขอโทษที่ต้องพูดแบบนี้ ไม่ได้ตั้งใจดูถูก แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ฉันแค่คิดว่า แกจะต้องลำบาก และให้รู้ไว้ว่าไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ ฉันจะยังเป็นเพื่อนแก อยู่เคียงข้างแกเสมอ ฉันอาจจะไม่ได้ร่ำรวยนัก แต่ฉันยินดีจะช่วยแกในทุกอย่างที่สามารถช่วยได้ ”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset