สามีเถื่อน ซีรีส์ชุด ชุด The Billionaire demon’s virgin mistress Erotica Vol.2 – ตอนที่ 16

วรันธาราแทบจะกระโจนฝ่าประตูกระจกเข้ามาในสำนักพิมพ์ซันไทมส์เสียให้รู้แล้วรู้รอด แต่ในความเป็นจริงแล้วหล่อนทำแบบนั้นไม่ได้ จึงจำต้องเดินแกมวิ่งเข้าไปแทน

“วิลเลี่ยม หัวหน้าอยู่ในห้องใช่ไหมคะ”

เพื่อนร่วมงานวัยเดียวกันถูกตั้งคำถามทันที

“อยู่ครับ เห็นคุยโทรศัพท์อยู่ในห้องทำงานนั่นแหละ ว่าแต่คุณเถอะได้ข่าวว่าลาพักร้อนไม่ใช่เหรอ”

“ฉันมีธุระน่ะ”

วรันธาราเดินจากโต๊ะของวิลเลี่ยมมุ่งหน้าตรงไปยังห้องทำงานส่วนตัวของแอนโทนี่ แต่ระหว่างก็ถูกเพื่อนร่วมงานสาวจอมอิจฉาเรียกเอาไว้เสียก่อน

“สวัสดีจ้ะแม่นักข่าวใหญ่”

วรันธาราพยายามจะไม่ใส่ใจกับคำกระแหนะกระแหนของวาเนสซ่าแต่ก็ทนไม่ได้นานเมื่อเจ้าหล่อนพูดขึ้นมาอีก

“ไหนเคยประกาศว่าจะไม่ทำข่าวซุบซิบนินทายังไงล่ะจ๊ะ”

“หุบปากไปเลยนะเนส ฉันไม่มีอารมณ์มีมาทะเลาะกับเธอตอนนี้หรอก”

“แหม พอพูดแทงโดนใจดำเข้าหน่อยทำเป็นทนฟังไม่ได้เชียวนะ”

วาเนสซ่าลุกขึ้นจากเก้าอี้ พร้อมกับก้าวเท้าเข้าไปยืนเผชิญหน้ากับวรันธาราด้วยท่าทางหาเรื่องสุดฤทธิ์

“เธอมันก็แค่คนที่ชอบกลืนน้ำลายตัวเอง พวกปากว่าตาขยิบ”

“เนส!”

“ฉันพูดผิดตรงไหนกันล่ะ”

วรันธารานับหนึ่งถึงสิบในใจอยู่สามรอบ ก่อนจะกัดฟันโต้ตอบออกมา

“คนที่ใช้??ไต่เต้าไต่อย่างเธอไม่มีทางเข้าใจความเป็นฉันได้หรอก หลีกทางไปซะ”

วรันธาราผลักวาเนสซ่าจนพ้นทาง ก่อนจะเดินไปกระชากประตูห้องทำงานของแอนโทนี่ออกและก้าวเข้าไปข้างใน

“ร่วงเมื่อไหร่ ฉันเหยียบเธอซ้ำแน่”

วาเนสซ่ามองอย่างเจ็บใจ ก่อนจะเดินกลับไปนั่งบนโต๊ะทำงานของตัวเอง

แอนโทนี่กำลังคุยอยู่กับสปอนเซอร์รายใหญ่รีบทำตาดุใส่วรันธาราที่พรวดพราดเข้ามาอย่างไม่พอใจมาก

“ได้ครับ ซันไทมส์ของเรายินดีมากครับ เดี๋ยวผมให้เลขาโทรกลับไปแจ้งรายละเอียดอีกรอบนะครับคะ ขอบคุณครับ สวัสดีครับ”

และเมื่อลูกค้าวางสายไปแล้วเขาก็สาดอารมณ์ใส่หญิงสาวทันที

“คุณพรวดพราดเข้ามาทำไม ผมยังไม่ได้อนุญาตเลย อ้อ แล้วนี่ผมพึ่งให้คุณลาพักผ่อนไม่ใช่เหรอ มาทำไม ผมถามว่ามาทำไม”

วรันธาราเดินไปหยุดที่โต๊ะทำงานของแอนโทนี่ สองแขนเท้ากับโต๊ะกระจกตัวใหญ่เอาไว้

“ธารต้องการให้หัวหน้าลบรูปทั้งหมดของเควิน คาสโตรเซ่นทิ้งค่ะ”

แววตาของวรันธารามุ่งมั่นและจริงจังจนแอนโทนี่รู้สึกขยาด แต่เพราะผลประโยชน์ที่จะได้รับจากสปอนเซอร์ทำให้เขาเลือกที่จะมองข้ามมันไป

“ผมไม่ลบ และพรุ่งนี้ผมจะเอารูปของเควิน คาสโตรเซ่นที่เหลือขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ซันไทมส์อีกรอบด้วย”

“แต่ธารขอร้องนะคะหัวหน้า อย่าทำแบบนั้นเลย…”

“ผลประโยชน์สำหรับผมมันยิ่งใหญ่มาก”

แอนโทนี่ระบายยิ้มละโมบก่อนจะหรี่ตาแคบจ้องมองวรันธาราที่กำลังไม่สบายใจอยู่ด้วยความเบื่อหน่ายรำคาญ

“คุณควรกลับไปสงบสติอารมณ์ได้แล้ว คุณวรันธารา ก่อนที่ผมจะหมดความอดทนกับคุณ”

“ต่อให้หัวหน้าจะไล่ธารออก แต่ธารก็ต้องทำให้หัวหน้าลบรูปพวกนั้นทิ้งให้ได้”

“คุณไม่มีสิทธิ์ กลับไปได้แล้ว กลับไปสิ!”

“ธารไม่กลับค่ะ ถ้าหัวหน้าไม่ยอมลบ ธารจะแฉทุกเรื่องกับนักข่าวสำนักพิมพ์อื่น”

แอนโทนี่หน้าแดงก่ำด้วยโทสะ เขาลุกขึ้นยืนและเดินอ้อมโต๊ะทำงานกระจกออกมาเผชิญหน้ากับวรันธาราในระยะกระชั้นชิด

“คุณกล้าทำลายหม้อข้าวของตัวเองหรือ วรันธารา”

วรันธาราขยับเท้าถอยหลังหนีออกมาสองก้าวเพื่อรักษาระยะห่าง ขณะจ้องประสานสายตากับคู่สนทนาจอมละโมบอย่างไม่เกรงกลัว

“ถ้ามันคือทางเลือกสุดท้าย ธารก็จะทำค่ะ”

“วรันธารา!”

แอนโทนี่ที่ในหัวมีแต่เงินตรายกมือขึ้นจะฟาดลงบนหน้าของลูกน้องสาว แต่ประตูห้องทำงานถูกกระแทกจากด้านนอกให้เปิดเข้ามาเสียก่อน พร้อมๆ กับมือใหญ่ทรงพลังของใครบางคนยกขึ้นขวางเอาไว้

“อย่าแตะต้องผู้หญิงคนผม!”

“เควิน คาสโตรเซ่น…” แอนโทนี่ครางในลำคออย่างเหลือเชื่อกับภาพที่เห็น แต่ไม่ว่าจะกะพริบตาสักกี่ครั้ง ผู้ชายที่ยืนทำหน้าถมึงทึงอยู่เบื้องหน้าก็คือ เควิน คาสโตรเซ่นจริงๆ

และไม่ใช่แค่แอนโทนี่หรอกที่ตกใจ เพราะวรันธาราเองก็ตกใจแทบสิ้นสติเหมือนกัน

“คุณ… เควิน…”

เขาไม่แม้แต่จะปรายตามองหล่อน แม้มือใหญ่ของเขาจะกลับดันให้หล่อนไปซ่อนตัวอยู่ที่ด้านหลัง ในขณะที่ตัวเองยืนประจันหน้ากับแอนโทนี่จอมละโมบแทน

“คุณเควินตัวจริงเสียงจริงใช่ไหมครับ”

“ผมเควิน คาสโตรเซ่นตัวจริง”

แอนโทนี่ยิ้มกว้างด้วยความดีใจ “ไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าซันไทมส์ของผมจะได้รับเกียรติจากมหาเศรษฐีลึกลับอย่างคุณเควินแบบนี้ ผมดีใจที่สุดเลยครับ”

“แต่ผมไม่ดีใจ”

เควินเค้นเสียงกระด้าง นัยน์ตาดุดันเอาเรื่อง

“หยุดนำภาพของผมลงข่าวซะ ถ้าไม่อยากถูกเผาทั้งสำนักพิมพ์”

แอนโทนี่ตกใจหน้าซีด แต่ก็ยังพยายามรักษาภาพพจน์

“แหม คุณเควินนี่อารมณ์ขันจริงๆ เลยนะครับ”

“ผมไม่ใช่คนตลก ไม่ได้มีอารมณ์ขัน และตอนนี้ก็กำลังอยากจะฆ่าคนด้วย”

แอนโทนี่ได้ยินก็รีบถอยหลังกรูดไปซ่อนอยู่หลังโต๊ะทำงานของตัวเอง แต่กระนั้นก็ยังไม่วายพูดออกมาท

“ฆ่าคนมันผิดกฎหมายนะครับ”

“ผมทำได้ทุกอย่างที่คุณคาดไม่ถึงคุณแอนโทนี่ ชวาฟกี้”

แอนโทนี่ไม่กล้าสบตาของเควินเพราะมันน่ากลัวเหลือเกิน

“ผมจะแจ้งตำรวจ และคุณก็จะเป็นข่าวใหญ่โต ถ้าคุณคิดจะมาทำลายซันไทมส์”

“ถ้าผมกลัวก็คงไม่มา เอาเป็นว่าถ้าพรุ่งนี้ยังมีรูปผมบนลงบนหนังสือพิมพ์ซันไทมส์อีกล่ะก็ ผมจะเผาที่นี่ซะ”

เควินพูดจบก็เตรียมตัวจะเดินออกไป แต่ก็ต้องชะงักกับถ้อยคำของแอนโทนี่

“คุณจะมาโทษผมได้ยังไงกัน ในเมื่อคุณไม่ระวังตัวเอง ภาพพวกนี้ถึงได้หลุดออกมาได้ยังไงล่ะครับ”

เควินแค่นยิ้ม ขยับเข้าไปยืนชิดกับขอบโต๊ะทำงาน และโน้มตัวเข้าไปหาคนที่อยู่อีกฟาก

“ถ้าคุณไม่ใช่วิธีสกปรกส่งคนเข้าไปในบ้านของผม ภาพพวกนี้ก็คงไม่หลุดออกมา”

“มันไม่ใช่ความคิดของผมสักหน่อย ผมซื้อภาพนี้มาจากวรันธาราต่างหาก จริงไหมคุณวรันธารา”

คนที่ยืนตัวแข็งเป็นหินอยู่นานสะท้านไปทั้งตัว เมื่อสายตาคมกริบสีน้ำเงินอมดำตวัดมองมา หล่อนตัวสั่น ปากสั่นเทา แม้จะพยายามพูดแต่สิ่งที่ผ่านลำคอออกไปมีเพียงแค่ความว่างเปล่าเท่านั้น

“ตอบคุณเควินไปสิคุณวรันธารา ว่าผมไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ คุณเป็นคนคิดและคนทำคนเดียว”

แอนโทนี่ทำหน้าตาดุดันใส่วรันธารา แต่หญิงสาวก็ยังคงยืนนิ่ง หน้าตาซีดเซียว

“ผมจะไม่พูดถึงเรื่องที่ผ่านมา แต่พรุ่งนี้ถ้ามีภาพของผมบนหนังสือพิมพ์ของคุณอีกล่ะก็ เกิดเรื่องใหญ่แน่”

แล้วเควินก็หมุนตัวเดินตรงไปยังประตูห้อง แต่ไม่ช้าก็หยุด และเดินกลับมาใหม่ แอนโทนี่เห็นก็ตกใจ

“คุณจะเอาอะไรจากผมอีก คุณเควิน”

เควินไม่ตอบ แต่สายตาของเขาจับจ้องไปที่หญิงสาวที่ยืนตัวสั่นเทาอยู่แทน

“มากับผม”

ข้อมือเล็กถูกคว้าเอาไว้ พร้อมกับการกระชากลากถูให้กึ่งเดินกึ่งวิ่งตามออกไป ท่ามกลางสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยของทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์

“เฮ้ย… มีใครถ่ายภาพเอาไว้ได้ไหม มีหรือเปล่า”

แอนโทนี่รีบตะโกนถามลูกน้องของตัวเอง แต่ทุกคนส่ายหน้า

“พวกเราไม่กล้าหรอกครับหัวหน้า คุณเควินดุจะตายไป”

วิลเลี่ยมรีบตอบก่อนจะเดินกลับไปที่โต๊ะทำงานของตัวเอง

“โธ่เว๊ย ทำไมพวกเอ็งถึงโง่ขนาดนี้วะ”

แอนโทนี่บ่นอุบอย่างหัวเสีย จนวาเนสซ่าที่ยังไม่ได้ออกไปนอกห้องต้องเดินเข้ามาหยุดข้างตัว และปลอบใจเสียงหวาน

“อย่าไปสนใจนักข่าวกระจอกพวกนั้นเลยค่ะหัวหน้า”

วาเนสซ่าเริ่มลูบไล้มือไปตามต้นแขน และบ่าของแอนโทนี่

“ผมไม่มีอารมณ์ตอนนี้ ออกไปก่อน”

วาเนสซ่าชักสีหน้า ก่อนจะรีบปั้นยิ้ม

“แล้วถ้าเนสบอกว่า… เนสถ่ายรูปของเควิน คาสโตรเซ่นเอาไว้ได้ล่ะคะ หัวหน้าจะยังไล่เนสอีกหรือเปล่า”

“คุณพูดจริงเหรอเนส… นี่คุณไม่ได้หลอกผมใช่ไหม”

ท่าทางของ แอนโทนี่เปลี่ยนไปเป็นคนละคนทันที

“จริงสิคะ ตอนที่เควินมา เนสไปเข้าห้องน้ำพอดี เลยไม่ถูกหมอนั่นบังคับให้เก็บโทรศัพท์มือถือเอาไว้ใต้โต๊ะค่ะ เนสก็เลย… แอบถ่ายรูปมาได้หลายรูปเลยค่ะ”

“ไหนเอามาให้ผมดูสิ”

แอนโทนี่คว้าโทรศัพท์มือถือของวาเนสซ่าไปเลื่อนดูรูป ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างพึงพอใจ

“มีรูปตอนที่เควินลากวรันธาราออกไปด้วย รับรองพรุ่งนี้สปอนเซอร์วิ่งเข้าชนเราเละแน่ๆ”

“แล้วแบบแนบนี้จะให้รางวัลอะไรเนสล่ะคะ” วาเนสซ่ายิ้มยั่วยวน แอนโทนี่จึงรีบดึงเข้ามาจูบปาก

“เอาไว้ลุ้นคืนนี้สิครับ”

“ไม่เอาหรอกค่ะแค่เซ็กซ์น่ะ เนสอยากได้อย่างอื่นด้วย”

“แล้วคุณอยากได้อะไรล่ะ แค่บอกมาผมจะมอบให้คุณทุกอย่างเลย แค่คุณบอกมาเท่านั้น เนสคนสวย”

วาเนสซ่ายิ้มปลื้มพึงพอใจ

“เนสอยากได้สร้อยเพชรสักชุด แล้วก็… ตำแหน่งผู้ช่วยของคุณยังไงล่ะคะ”

แอนโทนี่ชะงักไปเล็กน้อย แต่พอนึกได้ถึงความเจริญรุ่งเรืองของซันไทมส์ที่จะตามมาทำให้เขารีบตอบรับ

“ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ ผมจะทำหนังสือแต่งตั้งคุณอาทิตย์หน้า”

“ขอบคุณค่ะหัวหน้า”

วาเนสซ่าจูบแก้มของแอนโทนี่เบาๆ และจะเลื่อนไปที่ปาก แต่แอนโทนี่ปรามเสียก่อน

“ผมต้องโทรหาสปอนเซอร์ เอาไว้คืนนี้เจอกันนะ”

“ก็ได้ค่ะ”

แม้จะรู้สึกขัดใจแต่วาเนสซ่าก็ทำตามแต่โดยดี

“เนส…”

คนที่กำลังจะก้าวเท้าออกไปนอกห้องชะงักและหมุนตัวกลับมามอง

“เปลี่ยนใจอยากให้เนสจูบแล้วใช่ไหมคะ”

แอนโทนี่ระบายยิ้ม

“ส่งรูปทั้งหมดที่คุณมีมาให้ผมทางไลน์ด้วย เดี๋ยวนี้เลยนะ”

วาเนสซ่าหน้าหงิกแต่ก็รับปาก

“ค่ะ หัวหน้า”

“ขอบใจมาก วาเนสซ่าคนสวย”

ประตูห้องทำงานปิดสนิทลงแล้ว แอนโทนี่จึงรีบต่อสายหาสปอนเซอร์รายใหญ่เพื่อบอกเล่าถึงหมัดเด็ดที่ตัวเองมีอยู่ในมือทันที ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีสปอนเซอร์รายไหนกล้าปฏิเสธที่จะไม่ลงโฆษณากับซันไทมส์เลยแม้แต่เพียงที่เดียว

Comment

Options

not work with dark mode
Reset