สี่คนรวมทั้งหลิวเจี๋ยชะงักไป กลืนน้ำลายไม่พูดอะไรออกมาสักคำ ถ้าเป็นคนอื่น คำพูดนี้พวกเขาต้องดูแคลนแน่นอน แต่คำนี้พูดออกมาจากปากของเจิ้งชง นั่นก็ไม่เหมือนกันแล้ว
ห้าคนเริ่มวุ่นวายขึ้น เริ่มโทรศัพท์เรียกคนมาช่วย
จู่ๆหลิวเจี๋ยกลับเอ่ยปากว่า “คุณชายเจิ้ง จากที่ฉันเข้าใจฟางฟังนะ คุณทำให้เธอเสียหน้าอย่างครึกโครมอย่างนี้ จะเกิดรอยร้าวในความสัมพันธ์ระหว่างพวกคุณ คุณชายเจิ้ง คุณอย่าลืมนะ ฟางฟังเกลียดคนที่ใช้อำนาจรังแกคนที่สุด หาเรื่องจนปลีกตัวไม่ได้ สู้ทิ้งภาพพจน์ดีๆไว้ต่อหน้าเธอดีกว่านะ ฉันมีแผน พวกเขาไปซื้อชุดไม่ใช่เหรอ? งั้นก็ให้พวกเขาเข้าไป จากนั้น……”
เมื่อเจิ้งชงฟังแผนการของหลิวเจี๋ยจบ แววตาทั้งสองเป็นประกาย ดูเหมือนจะดีใจมาก หลังจากหัวเราะเสียงดังแล้วมองไปที่หลิวเจี๋ย “นางแบนราบ ไม่คิดว่ามึงจะคิดได้จริงๆ มึงโทรหาพ่อมึงตอนนี้ โครงการฉันจะอนุมัติ เดี๋ยวนี้บัดนี้เลย!”
หลิวเจี๋ยดีใจมากทันที เมื่อโครงการนั้นดำเนินการ ตระกูลหลิวของพวกเขาจะได้กำไรสามร้อยล้าน……
หลิวเจี๋ยมองเจิ้งชงด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม จู่ๆก็รู้สึกว่าคำพูดนั้นบนเว็บไซต์มันจริง!
คนที่มีเงินความสุขก็ง่ายดายและน่าเบื่อแบบนี้นี่เอง!
เมื่อนึกถึงเพราะเชาว์ของตัวเอง ทำให้ฟางฟังพ้นวิกฤต แล้วยังทำเพื่อตระกูลได้อีก แล้วจะไม่ทำได้อย่างไรกัน? เธอก็หยิบมือถือขึ้นมาโทรหาพ่อของตัวเองอย่างรอต่อไปไม่ไหวแล้ว……
“กูว่ามึงผู้ชายแมนๆสี่คนยังไม่เท่ายัยแบนราบเลยหวะ จะตีกันอย่างกับอะไรดีเพื่อ? พวกเราเป็นคนมีอารยธรรม แล้วยังเป็นคนชั้นสูง ทำอะไรต้องใช้เงินให้คนนับถือ เข้าใจมั้ย?”
ทั้งสี่มองหน้ากัน ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความขมขื่น: เหมือนว่าการโทรตามคนมาเขาเป็นคนสั่งการนะ?
แม้จะเต็มไปด้วยความสงสัย แต่ไม่มีใครกล้าเอ่ยปาก เดินมีความสุขขึ้นทันที
“ไป ให้เจ้านั่นได้เห็น อะไรคือคุณชาย!” ความโมโหของเจิ้งชงหายไป อารมณ์ดีมาก แม้แต่ก้าวย่างก็กระฉับกระเฉงขึ้นมาก แทบจะพุ่งไปที่ช็อปอมานี่ โชว์ออร่าของตัวเองจะแย่!
หลังจากที่หลิวเจี๋ยโทรศัพท์เสร็จ ก็ตามเข้าไปอย่างมีความสุข
ช็อปอมานี่สุภาพบุรุษ
“พี่เหยียน ฉันว่าเสื้อกันลมสีดำตัวนี้เหมาะสมกับพี่มากเลยนะ มีสไตล์มาก พี่รีบไปลองดูสิ?”
เปลี่ยนความต้องการของฟางฟังไม่ได้ ฟางเหยียนเพิ่งจะเอื้อมมือไปรับเสื้อกันลม สาวแนะนำที่อยู่ข้างๆแนะนำสิ่งนี้ขึ้นทันใด “คุณหนูฟางคะ คุณตาดีมากเลยค่ะ เสื้อกันลมตัวนี้เป็นของล้ำค่าของทางร้านของเราค่ะ ทั้งโลกมีแค่ตัวเดียว มันออกแบบโดยผู้มีฝีมือยอดเยี่ยมของปารีส เป็นชุดที่ทำจากหัตถกรรม พอดีกับร่างกายมนุษย์ เมื่อสวมใส่มัน จะรับรู้ได้ถึงความโดดเด่นไม่เหมือนใครค่ะ”
ดูเหมือนฟางฟังดีใจมาก เร่งให้ฟางเหยียนไปลองอย่างเร็ว และเธอก็เริ่มเลือกชุดอื่นต่อ เธอยิ้มตลอดการเลือก ดูเหมือนมีความสุขมาก ของล้ำค่าของทางร้านก็แค่กุขึ้นมาเท่านั้น ซื้อของต้องซื้อที่ตัวเองชอบ
เธอไม่แคร์เรื่องเงิน เรื่องเงินสำหรับเธอแล้วเป็นเพียงตัวเลขในบัตรธนาคารเท่านั้น
เธอเกลียดการฟุ่มเฟือยมาก ไม่ใช่ใช้จ่ายเกินตัว แต่ใช้จ่ายเพื่อฟางเหยียน ถึงแม้ซื้อทั้งช็อปอมานี่ เธอก็ไม่เจ็บปวด ยิ่งไปกว่านั้นฟางเหยียนก็ไม่ต้องการให้เธอซื้อทั้งช็อปอมานี่ เขาที่เป็นเทพแห่งสงคราม ทรัพย์สินส่วนตัวมากกว่าตระกูลฟาง ถึงขั้นไม่มีใครเทียบได้แล้ว
ตอนที่ฟางเหยียนเดินไปที่ห้องลองชุด เจิ้งชงมาอย่างนิ่งๆ ฉวยชุดกันลมในมือของฟางเหยียนไปทันที สีหน้าตื่นเต้นขึ้นมา แล้วตะโกนใส่พนักงานว่า “ผมเอาชุดนี้!”
ฟางเหยียนชะงัก?
ยังมีคนหาเรื่อง?
ลูกค้าในช็อปอมานี่จำนวนไม่น้อย แต่ชายคนนี้พุ่งมาที่เขาโดยตรง ดูเหมือนเป้าหมายชัดเจน ต้องเตรียมการมาแล้วเป็นแน่!
ที่เจียงตูแทบจะไม่มีคนที่กล้าหาเรื่องเขา สิ่งเดียวที่อธิบายได้คือ ผู้ชายคนนี้ทำเพื่อฟางฟัง โดยเฉพาะสายตาของผู้ชายคนนี้เดี๋ยวๆก็มองฟางฟัง ใบหน้าที่ยโสโอหังพร้อมด้วยความกลัว ราวกับกำลังกลัวอะไรอยู่
แว็บเดียวฟางเหยียนก็เข้าใจ ผู้ชายคนนี้น่าจะเป็นคนที่จีบฟางฟัง เห็นว่าฟางฟังเดินช็อปปิ้งกับชายอื่น ทนไม่ได้เป็นธรรมดา ดังนั้นจึงได้แย่งชุดไปแบบนี้ ในเมื่ออยากดูถูกเขาเพื่อดึงดูดความสนใจของฟางฟัง แล้วเขาจะยอมได้อย่างไรกัน? และสำหรับคุณชายที่ยโสโอหังจนเป็นนิจ เขาไม่ชินที่จะตามใจ!
ยิ่งไปกว่านั้น!
ถ้าเปิดเผยตัวตนของเขาให้โลกรู้ เพียงพอที่จะทำให้คนรวยจำนวนไม่น้อยไล่ตาม นับถือเป็นเทพเจ้า แต่ในเมื่อเป็นคนที่จีบฟางฟัง เขาในฐานะที่เป็นพี่ขาย ต้องกดศักดิ์ศรีที่โอหังของเขาสักหน่อย ฟางฟังจะได้ไม่ผิดซ้ำรอยฟางไห่อิง
มนุษย์ก็เป็นแบบนี้ คุณเคารพผู้อื่นเท่าไหร่ ผู้อื่นจะเคารพคุณมากกว่า
คนที่แม้แต่มารยาทเบื้องต้นยังไม่มี ไม่ควรค่าแก่การเคารพ!
“ขอโทษนะ ชุดนี้ผมได้มาก่อน ดังนั้น……” ฟางเหยียนยิ้มอ่อนๆ “ดังนั้น ผมไม่อยากให้ใคร ไม่ใช่แค่ไม่ให้นะ ผมยังต้องบอกคุณอีกว่า รีบไสหัวไปซะ!”
เมื่อเจิ้งชงฟังจบ ก็ชะงักไปโดยตรง
นึกไม่ถึงว่าเจ้านี่จะให้เขาไสหัวไป!
ถ้าเจ้านี่ไม่ปัญญาอ่อน ก็ไร้สมอง หรือไม่รู้ว่าเป็นการหาเรื่องเหรอ?
“คุณขายเจิ้งครับ มัน มันเหมือนจะให้คุณไสหัวไปนะครับ!” โจวซานพึมพำเบาๆ
เพี่ยะ!
เจิ้งชงตบเขาด้วยหลังมือ เดิมถูกคนขู่ก็โมโหมากอยู่แล้ว โจวซานยังจะจี้จุดอีก นี่มันราดน้ำมันบนกองไฟชัดๆ ไม่ดูสถานการณ์ สมควรที่โดนตบไป
“กูไม่ได้หูหนวกเว่ย!” เจิ้งชงตวาดออกมา!
“เด็กน้อย ฉันชอบชุดนี้ ถ้ารู้งานก็รีบเอามาซะ ไม่งั้นถ้ายั่วโมโหฉัน ถ้ากลัวเกิดความเสียใจภายหลัง จะเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นที่เจียงตูทุกวัน ตอนที่แกโชคร้าย ก็ไม่รู้นะ แกว่าถูกมั้ย?”
ถ้าไม่ใช่กลัวว่าจะเสียงดัง ทำให้ฟางฟังได้ยิน เจิ้งชงลงมือไปแล้ว
ข่มขู่เหรอ?
คนที่ทำอะไรไม่ได้มักจะชอบข่มขู่
คนที่มีฝีมือจริงๆ มักจะรู้ว่าต้องถ่อมตัว ไม่เป็นเป้าสายตาของใครจะได้ไม่ถูกเล่นงาน!
ดูท่าทางแล้ว ชายคนนี้นอกจากจะไม่มีมารยาท สมองยังไม่ปกติอีก เตือนแกดีๆ แกไม่สนใจ ยังจะตำหนิคนอื่นลับหลังอีก พูดว่าอะไรเข้าไปวุ่นวายเรื่องของคนอื่นที่ไม่เกี่ยวกับตัวเอง ต้องรอให้หลังจากเกิดเรื่องแล้ว จึงจะนึกถึงคำๆนั้น : ไม่ฟังผู้อาวุโส มีแต่จะเสียเปรียบ
สำหรับเจิ้งชงลูกคนรวยแบบนี้ ฟางเหยียนเกลียดเข้ากระดูกดำ จากที่เขาเข้าใจฟางฟัง ไม่มีทางสนใจลูกคนรวยที่มีเงินนิดหน่อยก็หลงตัวเองแบบนี้โดยปริยาย ในเมื่อเป็นแบบนี้ เขาก็ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาตรงนี้แล้ว
“ถ้าฉันไม่ให้ แกคิดจะลงไม่ลงมือใช่มั้ย?” ฟางเหยียนหัวเราะเย็นชา ใบหน้าแสดงความยิ่งใหญ่ออกมา ทำให้เจิ้งชงตกใจจนชะงักไป
แพ้แล้ว!
ตั้งแต่เริ่มแย่งชุดกันลม เจิ้งชงก็รู้สึกถูกฟางเหยียนกดไว้อย่างแน่นิ่ง ดูเหมือนมีแดจาวูที่ดูถูกคนอย่างหนึ่ง นี่ดูเหมือนทำให้เจิ้งชงเกรี้ยวกราดมาก ยังไงเขาก็เป็นคุณชายของตระกูลเจิ้ง จะถูกขาทานบีบแน่นิ่งได้อย่างไรกัน?
“ดีมาก แกเป็นคนแรกที่พูดกับฉันแบบนี้ จำได้ว่าคนที่พูดแบบนี้ก่อนหน้านี้ ตายไปนานแล้วล่ะ!”
“น่าเบื่อ!” สำหรับคนที่ไร้สาระแบบนี้ ฟางเหยียนไม่ใส่ใจจริงๆ การทำลายเกียรติยศที่เขาเองคิดว่าดีมากนั้น เป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก
ฟางเหยียนหันหลังเดินเข้าไปในห้องลอง กระทำอย่างรวดเร็ว ไม่รีรอ ดูเหมือนไม่ให้ความสำคัญกับคำพูดของเขา เจิ้งชงโมโหจนหน้าเขียว ดูแย่กว่ากินอุจจาระสิบจินร้อยเท่า
กำลังจะเข้าไปสั่งสอนฟางเหยียนที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงอย่างหนักหน่วง เสียงของฟางฟังดังขึ้นจากทางด้านหลังของเขา
“เจิ้งชง คุณ พวกคุณทำไมอยู่ที่นี่ได้?”