บทที่ 6 สุดยอดฟังก์ชัน
“ไม่ยุติธรรมเลยที่เราต้องมารับกรรมจากสิ่งที่ไอ้หลินเป่ยเฉินคนก่อนทำเอาไว้ ทำไมถึงได้โชคร้ายขนาดนี้วะเนี่ย?”
ภายในเวลา 3 วันต่อจากนี้ การสอบกลางภาคของสถานศึกษากระบี่ที่ 3 ก็จะเริ่มต้นขึ้นแล้ว
หากเด็กหนุ่มล้มเหลวในการสอบครั้งนี้ เขาต้องถูกไล่ออกเป็นแน่
ถ้าไม่มีหอพักภายในสถานศึกษากระบี่คอยคุ้มหัว เกรงว่าเขาก็คงจะ…
แม่งเอ๊ย!
เพียงแค่คิดถึงชะตากรรมของตนเอง หลินเป่ยเฉินก็ถึงกับตัวสั่น
จนตอนนี้ เขายังไม่เจอวิธีการกลับไปยังโลกมนุษย์เลย
เขาจะมาตายในต่างโลกแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด
เมื่อหลินเป่ยเฉินคิดได้เช่นนั้น ก็พลันตั้งเป้าหมายใหม่ เพราะนี่เป็นเพียงหนทางเดียวเท่านั้น!
เขาจะต้องใช้เวลา 3 วันนี้ พยายามผ่านการสอบกลางภาคให้ได้ และถ้าได้อยู่ภายในสถานศึกษากระบี่แห่งนี้ต่อ ก็จะได้มีเวลาศึกษาเจ้าโทรศัพท์นั่นและหาทางกลับไปยังโลกมนุษย์อีกครั้ง
เมื่อพูดถึงโทรศัพท์เครื่องนั้น…
หลินเป่ยเฉินเอาโทรศัพท์มือถือออกมาอย่างไม่ทันรู้ตัว ทันใดนั้น สีหน้าเขาก็ซีดเผือดลงทันที
แบตเตอรี่โทรศัพท์เหลือเพียง 18% เท่านั้น
ไม่นะ! ไม่! ไม่!
หลินเป่ยเฉินแทบจะสติหลุด
เขาควรทำยังไงต่อไปดี
และด้วยความที่เจ้าเครื่องนี่มันไม่มีปุ่มเปิดปิด เขาก็เลยไม่สามารถกดปิดมันเพื่อประหยัดแบตเตอรี่ได้
“คงต้องหาทางกลับไปก่อนที่แบตเตอรี่จะหมดให้ได้สินะ ให้ตายสิ ในแอปสโตร์ก็ยังไม่มีอะไรอยู่ดีใช่ไหม…หือ? เดี๋ยวนะ”
ความปีติเอ่อล้นออกมาจนเห็นได้จากสีหน้าของเด็กหนุ่ม
เขากดเข้าไปยังแอปสโตร์ผ่านไอคอนบนหน้าจอ
มีบางอย่างเปลี่ยนไป
มีไอคอนบางอย่างขึ้นมาในหน้าของแอปสโตร์ที่ควรจะว่างเปล่า
อะไรกันน่ะ?
หลินเป่ยเฉินสุขใจจนแทบกลั้นอารมณ์ไม่อยู่
เขามองไปยังไอคอนนั้นอย่างเต็ม ๆ ตาอีกครั้ง
แต่แล้วความฉงนก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้า
แอปพลิเคชันนั่นมีชื่อว่า เอ่อ…กระบวนท่ากระบี่สามพิฆาตงั้นเหรอ?
มันใช่…อ่า…กระบวนท่าลับที่อาจารย์ติงเพิ่งสอนไปในคาบเรียนหรือเปล่านะ?
แต่…มันจะกลายมาเป็นแอปพลิเคชันในแอปสโตร์ได้ยังไง?
ในขณะนี้ หลินเป่ยเฉินทั้งดีใจและเริ่มรู้สึกกลัวไปในเวลาเดียวกัน
เขามีความสุขเพราะว่าหลังจากผ่านมาถึง 3 วัน ในที่สุด ก็มีความเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกิดขึ้นกับไอ้โทรศัพท์เวรนี่สักที
เอาล่ะ…ก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีละนะ
เพราะมันคงจะหมายถึงฟังก์ชันในโทรศัพท์ อาจมีบางอย่างเชื่อมโยงกับโลกแห่งนี้ก็เป็นได้
ในขณะเดียวกัน หลินเป่ยเฉินก็เริ่มหวั่นใจขึ้นมาว่า เขาอาจจะยังไม่ได้ศึกษาและเข้าใจฟังก์ชันต่าง ๆ ในโทรศัพท์เครื่องนี้ดีพอ และอาจไม่สามารถใช้งานมันอย่างเต็มประสิทธิภาพ
“บ้าเอ๊ย…ทำไมไอ้เครื่องบ้านี่มันไม่บอกวิธีใช้งานแบบหัวเหว่ยบ้างนะ นี่ฉันต้องดาวน์โหลดแอปกระบวนท่ากระบี่สามพิฆาตจริง ๆ เหรอ?”
หลินเป่ยเฉินสับสนเล็กน้อย
หลังจากคิดและตัดสินใจอย่างถี่ถ้วนดีแล้ว เขาก็ตัดสินใจที่จะดาวน์โหลดมันและดูว่ามันจะมีอะไรใหม่อีกไหม
เขากดเข้าไปในไอคอน
กล่องข้อความแจ้งเตือนเด้งขึ้นมาบนหน้าจอ “การดาวน์โหลดแอปพลิเคชันนี้ต้องการพื้นที่ 250 MB? คุณเหลือพื้นที่จัดเก็บ 254MB ต้องการดำเนินการต่อหรือไม่?”
โทรศัพท์เครื่องนี้มีพื้นที่จัดเก็บด้วยงั้นเหรอ?
หลินเป่ยเฉิน กดปุ่ม ‘ใช่’
หลังจากนั้น หลินเป่ยเฉินก็รู้สึกมึนหัวอย่างรุนแรง
เด็กหนุ่มพบว่าพลังงานบางอย่างที่หลับใหลอยู่ภายในตัวเขาได้ตื่นขึ้นและเริ่มที่จะซึมซาบเข้าสู่ส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
มันคือพลังลมปราณ
บรรดาผู้ฝึกยุทธ์ในโลกนี้ต่างก็แข็งแกร่งขึ้นจากพลังงานลมปราณที่ได้จากการฝึกฝน
หลินเป่ยเฉินคนก่อนหน้า เป็นเพียงผู้ฝึกยุทธ์ระดับ 1 เท่านั้น และมีพลังงานลมปราณนี้อยู่ในตัวมานานแล้ว
แต่หลังจากวิญญาณของหลินเป่ยเฉินจากโลกมนุษย์ ได้เข้ามาอาศัยอยู่ในร่างนี้ เขาก็ไม่มีอารมณ์ตื่นตัวกับการฝึกเลย ดังนั้น เด็กหนุ่มจึงไม่เคยรู้สึกถึงพลังงานนี้และปล่อยให้มันอยู่ในส่วนลึกของเขามาตลอด 3 วันที่ผ่านมา
แต่ในขณะนี้ หลินเป่ยเฉินรู้สึกได้ถึงปริมาณพลังลมปราณเท่าที่ผู้ฝึกยุทธ์ระดับ 1 พึงมี และตอนนี้มวลพลังเหล่านั้นได้ไหลว่ายเวียนอยู่ในเส้นเลือดของเขา ไหลเวียนไปทั่วร่างกายและหลั่งไหลเข้าสู่โทรศัพท์ในมือ
แถบสถานะการดาวน์โหลดปรากฏขึ้นบนหน้าจอ
“อย่างนี้นี่เอง ไอ้ที่เรียกว่าพื้นที่ความจำ สามารถเพิ่มเติมได้จากพลังลมปราณสินะ”
หลินเป่ยเฉินซวนเซจนเกือบคะมำ
โชคยังดีที่ต่อให้หลินเป่ยเฉินคนก่อน แม้เป็นเพียงผู้ฝึกยุทธ์ระดับ 1 แต่เขาก็เคยฝึกฝนมามากพอที่จะมีพลังงานลมปราณไว้สำหรับดาวน์โหลดแอปพลิเคชันนี้
เด็กหนุ่มเริ่มรู้สึกวิงเวียนมากขึ้น
ด้วยความที่พลังลมปราณถูกดึงออกจากร่างกายอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้เขาจึงรู้สึกราวกับคนเมาที่ดื่มสุรามากเกินไป จนอยากอาเจียนออกมาแล้ว
ไม่กี่อึดใจให้หลัง พลังลมปราณในร่างของหลินเป่ยเฉิน ก็ถูกรีดเค้นออกมาราวกับตัวเขานั้นเป็นมะนาวที่กำลังโดนคั้นน้ำ และในที่สุดเสียง ‘ติ๊ง’ ก็ดังขึ้น
บนหน้าจอโทรศัพท์ขึ้นข้อความว่า แอปพลิเคชัน ‘กระบวนท่ากระบี่สามพิฆาต’ ได้ถูกดาวน์โหลดเรียบร้อยแล้ว
การติดตั้งกำลังเริ่มขึ้น
หลินเป่ยเฉินหมดแรงไปทั้งร่าง ถ้าอยู่ในเกม ระดับพลังของเขาคงขึ้นขีดแดงไปแล้ว
การติดตั้งใช้เวลาเพียงครู่เดียวเท่านั้น
เด็กหนุ่มไม่ลังเลใจแม้แต่น้อยที่จะกดเข้าไปในแอปพลิเคชันปริศนา
มันเปิดมาด้วยแอนิเมชันภาพเขียนแบบจีน พร้อมด้วยตัวการ์ตูนแสดงท่าทางการรำกระบี่บนพื้นหลัง เมื่อแอปพลิเคชันเปิดขึ้น ตัวอวตารก็ได้ปรากฏขึ้นในรูปแบบแอนิเมชันเรียบ ๆ พร้อมกระบี่ในมือและกำลังร่ายรำด้วยท่าทางการต่อสู้
เด็กหนุ่มค่อนข้างประหลาดใจที่ตัวอวตารนั้นดูเหมือนเขาอย่างกับแกะ
รูปร่างแบบเดียวกัน รวมถึงลักษณะต่าง ๆ นั้นยังเหมือนหลินเป่ยเฉินทั้งหมด
ราวกับว่าตัวตนของเขานั้นถูกบันทึกไว้เป็นวิดีโอ
ทักษะที่ตัวอวตารนั้นมี ก็คือกระบวนท่ากระบี่สามพิฆาต
ตัวอวตารนั้นแจ้งเตือนถึงทักษะที่เขามีซ้ำแล้วซ้ำเล่า
หลินเป่ยเฉินจ้องมองเข้าไปในหน้าจอโทรศัพท์นานเกือบสองเค่อด้วยความพิศวง
นี่มันหมายความว่ายังไงกันนะ?
ไอ้เจ้าแอปนี่มันทำอะไรบนโลกนี้ได้บ้างเนี่ย
หลินเป่ยเฉินพยายามหาต่อไป แต่กลับไม่พบอะไรสักอย่าง เช่น การตั้งค่า การเข้าถึง หรือ คลังจัดเก็บ ตัวเลือกเหล่านั้นไม่มีในแอปนี้เลย และดูเหมือนว่าหน้าจอนั้นจะไม่สามารถหยุดได้ด้วย ไม่แม้แต่จะสามารถออกจากแอปนี้ได้เลยด้วยซ้ำ
นี่มันบ้าอะไรเนี่ย?
หลินเป่ยเฉินงงเป็นไก่ตาแตก จ้องมองหน้าจอโทรศัพท์ด้วยสายตาว่างเปล่า
“นายน้อย…นี่ท่านอาการกำเริบอีกแล้วหรือ ท่านเป็นอะไรหรือเปล่าขอรับ”
พ่อบ้านหวังเข้ามาถามไถ่ด้วยรอยยิ้มแหย ๆ ดูเหมือนชายชราจะใส่ใจในตัวหลินเป่ยเฉินอยู่ไม่ใช่น้อย
ในสายตาของพ่อบ้านหวังย่อมไม่สามารถมองเห็นโทรศัพท์มือถือได้ ฉะนั้นแล้ว ท่าทางการเคลื่อนไหวของหลินเป่ยเฉินจึงดูราวกับคนที่มีอาการทางสมองอย่างเห็นได้ชัด ดวงตาว่างเปล่า มืององุ้ม และพูดคุยกับอากาศธาตุราวคนสติฟั่นเฟือน อาการเหล่านี้เป็นอาการของคนที่มีปัญหาทางสมองอย่างปฏิเสธไม่ได้
“ไสหัวไปซะ”
หลินเป่ยเฉินกล่าว ก่อนจะยกมือขึ้นโบกศีรษะชายชรา
แต่พ่อบ้านหวังเอียงตัวหลบอย่างรู้ทัน
เปรี๊ยะ
ทันใดนั้น กิ่งไม้ขนาดราวข้อมือเด็กที่อยู่ด้านข้าง พลันหักลงราวถูกคมกระบี่ฟาดฟัน
หลินเป่ยเฉินชะงักกึก
พ่อบ้านหวังที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขาก็หยุดชะงักเช่นเดียวกัน
ชายชราดูเหมือนจะนึกบางอย่างออก และพูดขึ้นด้วยความดีใจว่า “นายน้อย…ท่านนี่ช่างปราดเปรื่องเสียจริง นี่แสดงว่าท่านกำลังฝึกวิชาลมปราณอยู่ใช่ไหมเล่า นั่นใช่วิชากระบี่หรือไม่ ท่านตัดต้นไม้ได้แม้ไม่มีอาวุธใด ๆ ท่านน่ะได้กลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับ 2 แล้ว ท่านสามารถทำลายกำแพงของตนเองได้แล้ว!”
หลินเป่ยเฉินมองไปที่มือของตัวเอง
และก็มองไปยังกิ่งไม้ที่หักลงไป
รอยตัดนั้นดูเนียนกริบ ราวกับถูกตัดโดยกระบี่ด้ามคม
เมื่อสักครู่นี้เขาแค่สะบัดมือเบา ๆ เท่านั้นเอง
แต่ทำไมกิ่งไม้ขนาดเท่าข้อมือเด็กถึงได้หักลงล่ะ
เขาไม่ได้แม้แต่ออกแรงด้วยซ้ำ
อย่างที่พ่อบ้านหวังกล่าว ผู้ฝึกยุทธ์ระดับ 2 ต้องสามารถตัดกิ่งไม้ต้นเล็ก ๆ ได้โดยไม่ใช้อาวุธ
แต่หลินเป่ยเฉินยังเป็นเพียงผู้ฝึกยุทธ์ระดับ 1 เท่านั้น อีกอย่างหนึ่ง พลังลมปราณของเขาเพิ่งถูกดูดเข้าไปในโทรศัพท์เมื่อครู่นี้เอง
“หรือจะเป็นเพราะว่า…”
ความคิดตลก ๆ ผุดขึ้นในหัวของหลินเป่ยเฉิน
เขาเก็บโทรศัพท์เข้าไปในร่างตัวเอง ของแบบนี้มันต้องพิสูจน์กันสักหน่อย เด็กหนุ่มจัดการหักกิ่งไม้ออกมากิ่งหนึ่งและกำมันไว้ด้วยท่าราวกับกำลังจับกระบี่ และฟาดฟันแหวกอากาศอย่างรวดเร็ว
ซู่ววววว!
เสียงบางอย่างดังขึ้นราวกับถูกตัดผ่านอากาศ
วิชาที่เด็กหนุ่มเพิ่งใช้ไปนั้น คือกระบวนท่ากระบี่สามพิฆาต
ทั้งสามกระบวนท่าอย่างครบถ้วน
มันเป็นสามท่าพื้นฐานเรียกว่าการ “ตวัด” ”ฟัน” และ ”แทง” ตามลำดับ
ในคาบเรียนวันนี้ หลินเป่ยเฉินไม่ได้แม้แต่จะแว่วฟังสิ่งที่อาจารย์ติงสอนผ่านเข้าหูเสียด้วยซ้ำ
แต่บัดนี้ หลินเป่ยเฉินกลับสามารถฝึกทั้งสามกระบวนท่าได้อย่างถูกต้อง เสมือนผู้ที่ผ่านการฝึกฝนแต่ละกระบวนท่ามาเป็นแรมเดือน สิ่งเหล่านี้ปรากฏออกมาด้วยเสียงที่ดังขึ้นแหวกสายลมและรัศมีคมกระบี่ที่ปรากฏขึ้นในอากาศ