เกิดใหม่พร้อมกับระบบไร้พ่าย – ตอนที่ 151 – บอสกําลังใช้เบอร์เซิร์ก

เกิดใหม่พร้อมกับระบบไร้พ่าย Chapter 151 – บอสกําลังใช้เบอร์เซิร์ก

 

Chapter 151 – บอสกําลังใช้เบอร์เซิร์ก

 

อสูรลาวา สัตว์ปีศาจระดับ 6! (TL:ตอนก่อนแปลเป็นสัตว์ร้ายหินลาวา)

 

ลั่วเทียนเกือบที่จะตายเพื่อฆ่ามันและในระหว่างกลั่นกู้ เขาก็รู้สึกเจ็บเจียนตาย

 

มันโชคดีที่กลั่นมันได้สําเร็จ

 

ร่างกายของอสูรลาวานั้นเหมือนกับภูเขาขณะที่ยืนอยู่ในเมืองภูเขาซากศพ แขนทั้งคู่ของมันทํามาจากหินหนืดที่หยดลงสร้างความเสียหายรอบๆอย่างต่อเนื่อง ฉากนี้ราวกับฉากเดียวกับที่อุนตร้าแมนต่อสู้กับสัตว์ประหลาด

 

สัตว์ประหลาดตัวเล็กทุกตัวทําได้เพียงวิ่งหนีหางจุกตูด เนื่องจากมันไม่อาจสู้ได้

 

การปรากฏตัวของอสูรลาวาทําให้สัตว์ร้ายและสัตว์ปีศาจ นับร้อยต่างแผดเสียงดังจนไปถึงสวรรค์ มันคํารามเพื่อเพิ่มกําลังใจในการต่อสู้ที่เพิ่งจะเริ่ม

 

ทหารอมตะ 37,000 ตนจึงถูกขวางด้วยสัตว์ปีศาจนับร้อย

 

ฉากที่เห็นนี่ค่อนข้างน่าตกใจ!

 

ลั่วเทียนยืนนิ่งอยู่ที่นั้นโดยที่เขายังคงหลับตาและมือของเขาก็ยกขึ้นมากลางอากาศ ตอนนี้เขาดูเหมือนกับเป็นไดเร็กเตอร์ที่กํากับวงออเคลสตราที่กําลังดื่มต่ําและตื่นเต้นผ่านสีหน้า

 

ลั่วเทียนตื่นเต้น

 

แต่หยินซางโกรธ

 

หยินชางหลุบสายตาก่อนที่จะตะโกน “ฆ่ามันซะ!”

 

ทันใดนั้น

 

คนที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางทหารอมตะ สองผู้พิทักษ์ที่ยิ่งใหญ่ กุ่ยเจี้ยนและไต้เป่าก็ทะหลันตัวออกมา หนึ่งใช้ดาบ อีกหนึ่งใช้ง้าว การโจมตีของพวกเขาเกือบจะฟันออกมาพร้อมๆกัน

 

“ระวัง!”

 

“เด็กน้อย ดูเหมือนว่าทั้งสองนั้นไม่ธรรมดา!”

 

“ระวังตัว”

 

กุ่ยเจี้ยนและไต้เป่าเป็นทหารอมตะขอบเขตปราณวิญญาณ

 

ยิ่งกว่านั้น

 

แมลงในสองของพวกเขายังอยู่ในระดับ 4 ซึ่งถูกเรียกว่า แมลงนิรันดร์จากหยินซาง!

 

ตาของถังเจว์สั่นไหวขณะที่ปราณจักรพรรดิแผ่พุ่งออกมาจากร่างกายของเขา จากนั้นดาบของเขาก็ฟันสวนออกไป

 

ลั่วเทียนยกยิ้มที่มุมปาก่อนที่จะพูดว่า “พี่เก้า ปล่อยให้ข้าจัดการคนเหล่านี้!”

 

ทหารอมตะที่อยู่ในขอบเขตปราณวิญญาณ?

 

Expที่ได้รับมันต้องไม่น้อยเลยใช่ไหม? แม้ว่ามันจะได้น้อยมากๆ แต่มันก็ยังดี แม้ว่าจะเป็นฝูงแต่มันก็ยังเป็นเนื้อ!

 

แม้ว่ามันจะได้Expเล็กน้อย แต่ลั่วเทียนก็ไม่อาจปล่อยให้มันหนีไป เพื่อที่เขาจะอัพเลเวลได้เขาต้องสะสมExpอย่างช้าๆ ไม่ว่ามันจะมีเท่าไหร่ก็ตาม

 

“มอบชีวิตแกมาซะ!”

 

“ตายซะ!”

 

กุ่ยเจี้ยนและไต้เป่าต่างตะโกนออกมาในเวลาเดียวกัน

 

การโจมตีด้วยดาบของชุ่ยเจียงนั้นเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตายที่ดุร้ายจนมองเห็นมันด้วยตาเปล่า

 

ง้าวของไต้เป่าได้สร้างเงาลวงตาออกมานับไม่ถ้วนซึ่งดูเหมือนจริงอย่างมากและสกัดกั้นทางหนี้ของลัวเทียนทุกทิศทาง การเคลื่อนไหวของทั้งสองค่อนข้างสอดประสานกัน เพิ่มความจริงไปอีกที่ว่าทั้งสองอยู่ในขอบเขตปราณวิญญาณ ทําให้พวกเขาเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อพวกเขาเกื้อหนุนกัน

 

“ฮัมม!”

“ราชาทมิฬ ทหารอมตะทั้งสองนั้นไม่ธรรมดา”

 

“ข้าเชื่อว่าเด็นนั้นไม่อาจต่อต้านมันได้”

 

“ข้าไม่อาจต้านทานมันได้เลย ไม่มีทางที่ปราณวิญญาณขั้น 5 จะสามารถจัดการกับการโจมตีของทั้ง 2 ได้ มองไปที่หน้าอันกวนบาทาของเขา บิดาคนนี้รําคาญอย่างเต็มทน ไม่ว่าการตอบสนองของปราณวิญญาณขั้น 5 จะเร็วแค่ไหนมันก็ไม่อาจทําให้เขารับมือกับการจู่โจมฉับพลันนี้ได้”

 

จริง…

 

คนปกติที่อยู่ขอบเขตปราณวิญญาณขั้น 5 จะไม่อาจตอบสนองได้ในเวลาสั้นๆ

 

ไม่ต้องพูดถึง

 

กุ่ยเจี้ยนและไต้เป่าที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางยามอมตะขณะที่รอเวลาลอบโจมตี เมื่อพวกเขาโจมตีมันจะเป็นช่วงเวลาที่เขาใช้พลังออกมาจนถึงขีดสุดและจะสามารถสังหารเป้าหมายได้ทันที

 

และยังเป็นการร่วมกันลงมืออีก…

พลังที่อยู่เบื้องหลังไม่อาจดูถูกได้

 

แต่ลั่วเทียนเป็นเพียงคนที่อยู่ในขั้น 5 ขอบเขตปราณวิญญาณ?

 

ความเร็วในการตอบสนองมันเกี่ยงข้องกับพลังจิตวิญญาณของเขา จิตสํานึกของลั่วเทียนได้เพิ่มมากกว่าหมื่นเท่า ตั้งแต่ที่ทนความเจ็บปวดจากแมลงภู่เขียวศักดิสิทธิ์ สิ่งนี้ทําให้ลั่วเทียนมีการรับรู้ถึงตัวตนทั้งสองและการกระทําของพวกเขาก็อยู่ในกํามือของเขา

 

จะเห็นได้ว่ากุ่ยเจี้ยนและไต้เป่าจะเร็วกว่าที่คั่วเทียนจะได้ตอบสนอง

 

แต่ความเร็วของลั่วเทียนนั้นเร็วจนตาเปล่าก็มองไม่เห็น

 

เพราะความเร็วของเขาเร็วมากเกินไป

 

ก่อนที่ดาบและง้าวจะฟันเข้ามาถึง ลั่วเทียนแค่นเสียงออกมาทางสีหน้า รอยยิ้มที่ดูราวกับยมทูตที่มาพร้อมกับเสียงพูด “ด้วยความเร็วแค่นี้? น่าสงสารเสียจริง!”

 

เพียงเสียงจางหาย…

 

กลิ่นอายพลันระเบิดออกมาจากร่างกายของเขา

 

ลั่วเทียนดึงดาบดื่มโลหิตออกมาและกลิ่นอายของเขา ทําให้คนรู้สึกราวกับภูเขาไฟปะทุ นี่คือยมทูตที่เต็มไปด้วยจิตสังหารที่ผสานกันกับเจตจํานงแห่งการสังหารของโลกสังหารที่ได้ฟาดฟันออกมานับหมื่นนับพัน ลั่วเทียนขยับมือตะโกนว่า “สังหารภูตผี!*”(TL-อันก่อนฟาดฟันดุจภูตผี)

 

“รูปแบบที่สอง!”

 

“นรกไม่เคลื่อน!”

 

สังหารภูตผีกระบวนท่าที่สอง – นรกไม่เคลื่อน!

 

หลังจากเจ็ดวันของการฆ่าโดยไม่หยุดพัก สังหารภูตผีได้ถูกยกระดับขึ้น ทําให้ตอนนี้ตั๋วเทียนสามารถใช้นรกไม่เคลื่อนได้

ในช่วงเวลานี้

 

ภาพลวงตาของยมทูตปรากฏอยู่ด้านหลังของลัวเทียน

 

ภาพยมทูตนี้มาจากส่วนลึกของขุมนรก!

 

ยมทูตแห่งความตายที่ถือเคียวเล่มใหญ่เอาไว้ในมือ!

 

ไม่นานกุ่ยเจี้ยนและไต้เป่าทั้งคู่รู้สึกเหมือนหัวใจของพวกเขาถูกดึงออก มันคล้ายกับเป็นภาพตัวเองตายอยู่เบื้องหน้า ความรู้สึกนี้น่าประหลาดใจอย่างมาก เพราะว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่อย่างชัดเจน แต่พวกเขาก็ยังรู้สึกได้ถึงความตาย.

 

นี่เป็นความลึกลับของนรกไม่เคลื่อน

 

มันไม่เพียงแต่เป็นทักษะดาบที่ทรงพลังท่านั้น มันยังเป็นเหมือนกับบัตรเชิญลงสู่ขุมนรก!

 

“ตาย!”

 

พร้อมกับถือใบมีดด้วยสองมือ ลั่วเทียนฟันลงมาอย่างแรง

 

ความเร็วนั้น รวดเร็วอย่างมาก

 

การโจมตีของกุ่ยเจี้ยนและไต้เป่ายังมาไม่ถึงครึ่งทางและดื่มโลหิตที่มาจากนรกก็มาถึงเป้าหมายแล้ว

 

แนวโน้มนี้มันใหญ่เกินไปและไม่อาจป้องกันเอาไว้ได้!

 

กลิ่นความตายเกิดขึ้นจากส่วนลึกของนรกนั้นน่ากลัวอย่างแท้จริง ปราณดาบที่โหดร้ายอย่างถึงที่สุดได้พาดผ่านทุกสิ่งไปอย่างง่ายดาย หัวของกุ่ยเจี้ยนและไต้เป่าที่โดนเข้าไปจนระเบิดออกมา

 

“ตูม !”

 

เกิดแรงสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งภูเขาซากศพทมิฬ

 

ปราณดาบที่มีความยาวหลายสิบเมตรได้แยกผืนดินออกจากกัน ทุกที่ที่ปราณดาบนั้นพาดผ่านจะไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆเหลือทิ้งไว้อยู่ด้านหลัง

 

“ติ้ง!”

 

“ขอแสดงความยินด้วยกับผู้เล่น ลั่วเทียน จากการสังหาร กุ่ยเจี้ยน”

 

“ติ้ง!”

 

“ขอแสดงความยินด้วยกับผู้เล่น ลั่วเทียน จากการสังหาร ไต้เป่า ”

 

ทั้งสองตาย! ตกตายทันที!

 

คนที่เพิ่งออกความคิดเกี่ยวกับลัวเทียนไม่อาจตอบสนองอะไรได้ในเวลานั้น มีเพียงใบหน้าที่ดูเหย์เก ท่าทางของเขานั้นดูอุบาทราวกับพึ่งกินขี้มา

 

เมื่อได้เห็นรอยยิ้มที่มาดร้ายของลั่วเทียน ความกลัวก็เกิดขึ้นอย่างฉับพลันในหัวใจของพวกเขา ร่างกายของพวกเขาถอยหลังออกมาอย่างไม่รู้ตัว ความกลัวได้เกาะกุมอยู่ภายในพวกเขา

 

ลั่วเทียนยกดาบที่หนักกว่า1,800 จินขึ้นและชี้ไปที่หยินซาง ที่อยู่ในวังราชาทมิฬ จากนั้นเขาก็ตะโกนออกไปอย่างเย่อหยิ่ง “หยินซาง คนต่อไปเป็นเจ้า!”

 

ตื้นด้านมาก

 

ยโสอย่างไม่อาจเทียบได้

 

ด้วยการจ้องมองของลั่วเทียนได้แสดงออกให้เห็นว่าเขาไม่ได้ใส่ใจกับหยินซางผู้เชี่ยวชาญขั้น 9 ขอบเขตปราณวิญญาณอยู่ในสายตา

 

ใบหน้าของหยินซางเปลี่ยนไปอย่างมาก เปลวเพลิงแห่งความโกรธได้โหมกระหน่ํา แมลงภู่ที่หัวของเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป และร่างกายของเขาก็เปลี่ยนแปลง มันเริ่มให้เขาดูพองตัวและเปลี่ยนให้เขากลายเป็นสัตว์ประหลาดตัวใหญ่ เปลวเพลิงแห่งความตายสีดําที่อยู่รอบๆตัวของเขาเริ่มที่จะแผ่ความร้อนอย่างรุนแรง ทําให้ทุกคนจากนิกายชั่วร้ายที่อยู่รอบๆตัวของเขาเริ่มที่จะซีดเซียวและสั่นสะท้านก่อนที่จะอยู่บนพื้นโดยไม่มีสัญญาณแห่งชีวิตน่าหวาดหวั่น!

 

เพียงกลิ่นอายของเขาก็ทําให้ทุกคนและสัตว์ร้ายทุกตัวในเทือกเขาศพทมิฬสันด้วยความหวาดกลัว

 

ทันใดนั้น

 

หยินชางก็เงยหน้าขึ้นและเริ่มหัวเราะอย่างน่าก ลัว “ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ฮ่าฮ่าฮ่า…”

 

เสียงหัวเราะของเขาราวกับเสียงของปีศาจที่กําลังร่ําไห้และซึมลึกเข้าไปในจิตใจของผู้คน

 

“เจ้ามนุษย์ตัวจ้อยอย่างสําคัญตัวเองผิด เจ้าได้ทําให้ราชาองค์นี้โกรธแล้ว ข้าจะฉีกเจ้าเป็นชิ้นๆและเอามันไปเป็นอาหารของแมลงภู่ของข้า และจากนั้นข้าจะทําให้แน่ใจว่าเจ้าจะไม่มีวันได้ผุดได้เกิดอีก ฮ่าฮ่าฮ่า” หยิงซางเริ่มหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง

จิตใจของลั่วเทียนเปลี่ยนแปลงจนน่าหวาดหวั่น ขณะที่เขาร้องขึ้นมาในใจ “เชี่ยและ! หยินซางกําลังจะใช้เบอร์เซิร์ก!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset