องค์กรนินจา
ที่นี่คือห้องโถงของอาคารโบราณ มันดูคลาสสิกและสง่างาม ตกแต่งสไตล์จีนโบราณ มันเรียบง่ายและดูดี และมีกลิ่นอายของความเป็นโบราณ เมื่อคนเดินเข้าไป ทำให้รู้สึกสบายใจและอิ่มเอมใจ
ตอนนี้ในห้องโถงเต็มไปด้วยบรรยากาศที่อึดอัดและประหม่า
ในห้องโถงมีชายชราหนวดขาวสิบกว่าคนนั่งอยู่ ท่านปรมาจารย์คือชายชราที่นั่งอยู่ตรงกลาง เขามีสีหน้าปกติ ทำให้ดูไม่ออกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ เมื่อเห็นว่าท่านปรมาจารย์ไม่พูดอะไร ทำให้ชายชราคนอื่นๆเริ่มเถียงกันขึ้นมาเพราะรู้สึกไม่เป็นธรรม
“ยังมีคนกล้ามาลองดีกับองค์กรนินจาของพวกเรา คนๆนั้นช่างกล้ามากๆ”
“นี่ไม่ใช่แค่ฆ่าล้างสาขาหนึ่งขององค์กรนินจาเท่านั้น แต่มันคือการตบหน้าพวกเรา และมันเป็นการกระทำที่ตบหน้าองค์กรนินจาของพวกเราด้วย”
“ท่านปรมาจารย์ คุณสั่งการลงมาเลย เรื่องนี้พวกเรายอมไม่ได้ ไม่ว่ามันจะเป็นใคร พวกเราองค์กรนินจาไม่มีทางปล่อยมันไว้อย่างแน่นอน”
“ท่านปรมาจารย์ เรื่องนี้ให้ฉันจัดการไหม ตั้งแต่ก่อตั้งองค์กรนินจามา นี่เป็นครั้งแรกที่โดนคนอื่นรังแก ทนไม่ไหว ฉันทนไม่ไหวจริงๆ”
“……”
ท่านปรมาจารย์ยังคงปิดตาอยู่ และไม่พูดอะไร แต่ชายชราชุดขาวที่อยู่ข้างๆเอ่ยปากพูด:”ทุกท่าน ที่นี่ไม่ใช่ตลาดสด ในขณะที่องค์กรนินจาเกิดเรื่องใหญ่แบบนี้ขึ้น? แต่พวกคุณยังมานั่งเถียงกันอยู่ตรงนี้ มันไม่มีความจำเป็นเลย? ครั้งที่แล้วนักเต๋าอีเหมยโดนฆ่า พวกคุณก็เถียงกันอย่างนี้ และตอนนี้สาขาหนึ่งของเราก็โดนฆ่าล้าง แต่หลังจากตรวจสอบกลับไม่พบข้อมูลอะไรเลย พวกคุณจัดการเรื่องนี้ได้ยังไง!”
ในห้องโถงเงียบสงัดทันที เพราะพวกเขาละอายใจมากกว่า เถียงกันเพราะความไม่เป็นธรรมนั้นไม่ผิด แต่ตอนนี้มันไม่เหมาะ
เงียบสงัด!
ทุกคนที่อยู่ในห้องโถงต่างเงียบและไม่พูดอะไรทันที ทุกคนอดไม่ได้ที่จะมองไปที่ปรมาจารย์ การมองครั้งนี้กินเวลาไปสามนาที
เห็นได้ชัดว่า ปรมาจารย์ไม่ได้ต้องการจะเอ่ยปากพูด
แต่ชายชราชุดขาวที่อยู่ข้างๆก็พูดอีกครั้ง:”สำหรับเรื่องนี้ วิธีที่ดีที่สุด คือข้อมูลที่พวกคุณตรวจสอบมาได้ และไม่ใช่การมาเถียงกันแบบนี้ และนี่ก็คือความต้องการของท่านปรมาจารย์”
ห้องโถงที่เงียบสงัดค่อยๆมีเสียงดังขึ้น มีเสียงซุบซิบปรึกษากัน ทุกคนรีบลุกขึ้นมา และเดินออกจากห้องโถง ในห้องโถงก็เหลือแค่ท่านปรมาจารย์และชายชราชุดขาว
“ท่านปรมาจารย์ เรื่องต่างๆเริ่มวุ่นวายมากขึ้นแล้ว ก่อนหน้านี้สำนักไร้หน้าโดนฆ่าล้างสำนัก จากนั้นก็สำนักเทียนซือโดนฆ่าล้างสำนัก ห้าสำนักลับโดนฆ่าล้างสำนักไปแล้วสองแห่ง และตอนนี้องค์กรนินจาของเราก็โดนดึงเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ความต้องการของเพลิงเสวนไม่น้อยเลยจริงๆ”
ท่านปรมาจารย์ลืมตาอย่างช้าๆ ดวงตาทั้งคู่ของเขาดำสนิท ไม่มีตาขาว มองดูแล้วน่ากลัวมากๆ
เขามองชายชราที่กำลังพูด จากนั้นชายชราก็พูดว่า:”ท่านปรมาจารย์ พวกเราคงโดนดึงเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างแน่นอน? และตอนนี้สาขาขององค์กรนินจาก็โดนโจมตี บางทีพวกขาต้องการเตือนพวกเรา ถ้าร่วมมือกับพวกเขา พวกเราก็จะรุ่งโรจน์ แต่ถ้าต่อต้านพวกเขา พวกเราก็จะโดนกำจัด”
ท่านปรมาจารย์เงยหน้ามองห้องโถง สุดท้ายเขาก็มองไปที่ตัวหนังสือที่อยู่ด้านบนห้องโถง และพูดพึมพำ:”จันทร์สว่างลมพัดทั่ว”
“จันทร์สว่างลมพัดทั่ว?”ชายชราไม่เข้าใจ:”ท่านปรมาจาย์ช่วยอธิบายหน่อยได้ไหม”
“ลมพัดเก้าหมื่นลี้ แต่พระจันทร์ยังอยู่บนฟ้า ดูเหมือนไร้ขอบเขต แต่ไม่สามารถหลบออกจากแสงของดวงจันทร์ได้เลย”
ชายชราเหมือนจะเข้าใจแต่ก็ไม่เข้าใจและพูดว่า:”ความหมายของท่านปรมาจารย์ เพลิงเสวนก็คือลมใช่ไหม และพระจันทร์คือคนที่ควบคุมเพลิงเสวนใช่ไหม?”
“ไปหาข้อมูลเรื่องที่เกิดขึ้นกับสาขาองค์กรนินจาก่อน ว่าแต่จอมพลโผ้จวินของเราตอนนี้อยู่ที่ไหน?”
ชายชราชุดขาวพูด:”ตั้งแต่รีสอร์ทหยูฉวนจัดการสำนักเทียนซือแล้ว จอมพลโผ้จวินของพวกเราจงใจปกปิดร่องรอยของตัวเอง และเขายังให้ลูกน้องของตัวเองตรวจสอบตระกูลและสำนักลับที่โดนเพลิงเสวนปลุกระดมให้เข้าร่วมกับพวกเขา ตอนนี้ดูเหมือนว่า จอมพลโผ้จวินเริ่มลงมือเอาคืนแล้ว”
“ดีมากๆ ผู้ชายคนนี้มีความกล้าและความคิด ดีจริงๆ”
ชายชราชุดขาวอึ้งไปชั่วครู่ เพราะท่านปรมาจารย์ไม่เคยชมใครแบบนี้มาก่อน
“ท่านปรมาจารย์โปรดชี้แนะด้วย”
ดวงตาสีดำสนิทของท่านปรมาจารย์ขยับเล็กน้อย พูดประโยคหนึ่งออกมาและไม่พูดอะไรอีก
“รออย่างเงียบๆ!”
——
ผ่านไปสองวันอย่างรวดเร็ว ในวันนี้ เชิงเขาของสำนักไร้หน้ามีชายชราคนหนึ่งปรากฏตัว ชายชราดูอ่อนแอมากๆ แต่เขาเดินเร็วมากๆ และเดินอย่างมั่นคง และชายชราก็ไม่ได้ลังเลเลย เดินเข้าไปในสำนักไร้หน้าอย่างรวดเร็ว จุดประสงค์ของเขานั้นชัดเจน เขามาเพื่อตามหาอู๋จี๋
แต่เขายังไม่ทันเข้าไปในสำนักไร้หน้า ก็มีกระแสลมพุ่งออกมา และชายชรายกมือขึ้นมาและสะบัด กระแสลมนั้นก็สลายไป
“ตาแก่ คุณยังชอบลอบโจมตีเหมือนเดิมเลยนะ? เมื่อร้อยปีก่อนคุณสู้ฉันไม่ได้ คุณคิดว่าตอนนี้คุณสู้ฉันได้เหรอ? ฉันลืมบอกคุณ ตอนนี้ฉันอยู่ระดับต้าชี่ชั้นยอด และคุณ ฮ่าๆๆๆ……ถ้าคุณแน่จริงก็อย่าหลบซ่อนอีกเลย ออกมาสู้กับฉันสักตั้ง และให้ฉันฆ่าคนทรยศอย่างคุณ!”
ชายชราตั้งใจพูดจายั่วยุ เหมือนกับความโกรธแค้นที่อยู่ในจิตใจ ตอนนี้มันได้ระเบิดออกมาทีเดียว
“อู๋จี๋ หนึ่งร้อยปีก่อนเพื่อได้น้ำไร้หน้ามาครอบครอง คุณฆ่าพ่อของฉัน และตอนนี้ ฉันจะควักหัวใจของคุณออกมา เอาไปเซ่นไหว้วิญญาณของพ่อฉัน”
ใช่จริงๆ!
ผู้ชายที่ปรากฏตัวคือลูกชายของเจ้าสำนักในสมัยเดียวกับอู๋จี๋ เขาชื่ออู่เหิง!
ตั้งแต่อู๋จี๋ใช้แผนชั่วและฆ่าพ่อของตัวเองจนตาย ตอนนั้นพ่อของตัวเองแอบส่งเขาออกไปลับๆ และบอกให้เขาห้ามกลับมาสำนักอีก เพราะในตอนนั้น อู๋จี๋ใช้วิธีการที่โหดเหี้ยม เพื่อปราบปรามคนส่วนมากที่ไม่เชื่อฟังเขา และรวมถึงแม่และพี่น้องของเขาด้วย เพื่อตัดรากถอนโคน อู๋จี๋ไม่ลังเลที่จะฆ่าล้างทุกคนในตระกูลของอู่เหิง
มีเพียงตัวเองคนเดียว กลั่นกลืนความแค้นและซ่อนตัว ค่อยย้ำเตือนตัวเองตลอดเวลา หาทุกวิถีทางเพื่อล้างแค้น การรอครั้งนี้ใช้เวลาถึงร้อยปี สิ่งที่ทำให้อู่เหิงอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ได้ ก็คือล้างแค้นอู๋จี๋ที่ฆ่าล้างตระกูลของเขา เพราะเขาทำเพื่อผลประโยชน์ตัวเองเพียงคนเดียว เขาไม่ลังเลที่จะหักหลังสำนัก และทำเรื่องที่โหดร้ายมากๆ
อู่เหิงใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อสองคำนี้ นั่นก็คือล้างแค้น!
สำนักไร้หน้าโดนฆ่าล้างสำนัก เขาไม่ปรากฏตัวเพราะเหตุผลข้อเดียว นั่นก็คืออู๋จี๋ไม่ยอมปรากฏตัว ตั้งแต่อู๋จี๋เข้าควบคุมสำนักไร้หน้าแล้ว เขาก็รู้ทันที สำนักไร้หน้าในตอนนี้ไม่ใช่สำนักไร้หน้าในอดีตแล้ว ดังนั้นเขาก็เลยปล่อยให้สำนักไร้หน้าโดนฆ่าล้างสำนัก เพราะต้องการให้อู๋จี๋ปรากฏตัว แต่สิ่งที่เขาคาดคิดไม่ถึงก็คือ ตอนนั้นอู๋จี๋หลบซ่อนตัวอยู่และไม่ยอมออกมา
หลายวันก่อน จู่ๆเขาก็รู้สึกว่าหลังเขามีบางอย่างปรากฏ เขาก็เลยรีบมาทันที เขาพบว่าในถ้ำมีหัวใจอันหนึ่งที่เหี่ยวแห้งแต่มันไม่ได้เน่า เมื่อมองเห็นสิ่งนี้ อู่เหิงก็นึกอะไรบางอย่างออก เขาก็รีบมาที่นี่ทันที
คิดไม่ถึงจริงๆ เขารอจนได้เจออู๋จี๋!
อู๋จี๋ปรากฏตัวแล้ว และวันนี้เขามาเพื่อล้างแค้น ใช้ศีรษะของอู๋จี๋ ไปเซ็นไหว้ญาติพี่น้องของเขาที่โดนสังหาร!
“คุณยังไม่ตายอีกเหรอ?”น้ำเสียงของอู๋จี๋ค่อยๆดังขึ้น เขาเดินหลายก้าวก็มาถึงด้านหน้าของอู่เหิง
อู่เหิงอึ้งไปชั่วครู่ ทำไมหน้าตาของอู๋จี๋ไม่เปลี่ยนไปเลย ถ้าไม่ใช่เพราะหนวดและเส้นผมสีขาว เขาต้องสงสัยว่าคนๆนี้ใช่อู๋จี๋หรือเปล่า ส่วนตัวเองมีสีหน้าที่เหี่ยวย่น เมื่อเทียบกับเขาช่างแตกต่างกันมากๆ
“คุณคืออู๋จี๋? คุณฝึกวิชาจากน้ำไร้หน้าสำเร็จแล้วเหรอ!”
อู๋จี๋หัวเราะ:”อู่เหิง ฉันอยากรู้จริงๆ ตอนนั้นคุณหนีจากการตามฆ่าของฉันได้ยังไง? แต่มันไม่สำคัญอีกแล้ว เพราะวันนี้จะเป็นวันตายของคุณ”
“ตายเหรอ? น่าตลกสิ้นดี มันช่างเป็นเรื่องตลกสิ้นดี!”อู่เหิงพูดอย่างเย็นชา:”บางทีคุณอาจจะยังไม่รู้ว่าร้อยปีมานี้ฉันอยู่มาได้ยังไง! ร้อยปีก่อนคุณสู้เฒ่าประหลาดของตระกูลโจวแห่งดินแดนตะวันตกไม่ได้ แต่ฉันต่อสู้กับเขาได้อย่างสูสี แม้แต่ต้าเซียนหงจิ่วก็มีฝีมือพอๆกับฉัน และยังมีสัตว์ในตำนานที่พิทักษ์ตระกูลฟาง สัตว์ในตำนานที่คุณสู้ไม่ไหวจนต้องหลบหัวซุกหัวซุน ฉันก็สู้กับมันมาแล้ว และมันก็มีฝีมือพอๆกับฉัน ส่วนฉันในตอนนี้อยู่ระดับต้าชี่ชั้นสุดยอด และกำลังจะก้าวเข้าสู่ขั้นปรมาจารย์ คุณคิดว่าฉันสามารถฆ่าคุณได้ไหม?”
ใบหน้าของอู๋จี๋ยังคงมีแต่รอยยิ้ม เขายกมือขึ้นอย่างช้าๆ ก็มีกระแสลมที่มองไม่เห็นอย่างชัดเจนพุ่งเข้าหาอู่เหิงทันที
อันตราย!
อันตรายมากๆ!
อู่เหิงตกใจจนหน้าซีด เขาเป็นยอดฝีมือที่อยู่ในระดับต้าชี่ชั้นสุดยอด ทำไมเขาถึงรู้สึกว่ามันอันตราย? แต่อู๋จี๋ก็อยู่แค่ระดับต้าชี่ชั้นปลายเท่านั้น พวกเขาห่างกันตั้งหนึ่งชั้น ดูเหมือนว่าห่างกันแค่ชั้นเดียว ชั้นสูงกว่าสามารถกดขี่ชั้นล่างกว่า มันเหมือนกับพลังหนึ่งขั้นที่สามารถกดขี่ทหารนับพันนับร้อย
แปลกมากๆ มันแปลกมากๆ