ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1730 แนะนำตัวเอง

ฉินสือโอวไปรับสแตนลีย์ที่หน้าประตูฟาร์มปลามาข้างในด้วยความสงสัยเต็มหัว
การเจอกันครั้งนี้ไม่เหมือนกับครั้งที่แล้ว เชฟใหญ่คนนี้ได้เปลี่ยนการแต่งกายใหม่ เสื้อเชฟสีขาวได้เปลี่ยนไปเป็นชุดสูทสีเงิน ดูมีชีวิตชีวามาก ดูไม่เหมือนเชฟแต่เหมือนมือดีในโลกธุรกิจมากกว่า
สแตนลีย์เดินไปพลางชื่นชมทิวทัศน์ของฟาร์มปลาไปพลาง พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ผมเคยติดตามทวิตเตอร์ของคุณกับของเมืองนี้มาก่อน มีคนมากมายที่บอกว่าทิวทัศน์ในฟาร์มปลาของคุณสวยงามดั่งรูปวาด ตอนนี้พอได้มาเห็นเองกับตาแล้ว สมคำร่ำลือจริงๆ ครับ”
ฉินสือโอวพูดอย่างถ่อมตนว่า “นั่นน่ะเพราะทุกคนกรุณากับผมเท่านั้นครับ ความจริงแล้วของที่ดีกว่าฟาร์มปลาเป็นอาหารทะเลนะครับ มื้อกลางวันนี้คุณอยากทานอะไรครับ? ผมไปจับมาให้คุณ พวกเราทำการเตรียมวัตถุดิบไว้ก่อน พอถึงตาคุณแสดงฝีมือจะได้สะดวกครับ”
สแตนลีย์จ้องตาโตไปที่เขา เห็นทีเขาคงจะไม่เคยเจอคนที่ซื่อสัตย์และตรงไปตรงมาแบบนี้มาก่อนแน่เลย
ฉินสือโอวหัวเราะเหอๆ ออกมา รีบเปลี่ยนเรื่องคุยทันที “โอเค ดูเหมือนว่ามุกของผมจะไม่สนุกแล้ว งั้นไม่ทราบว่าคุณมาหาผมนี่มีเรื่องอะไรครับ?”
เขาเชิญให้สแตนลีย์นั่งลงบนเก้าอี้เอนใต้ร่มไม้ จากนั้นก็กลับไปเตรียมไอซ์ไวน์ ไอซ์ไวน์ที่คุณลุงฮิคสันหมักในครั้งนี้มีล็อตหนึ่งที่ปริมาณแอลกอฮอล์ต่ำสามารถนำมาเป็นเครื่องดื่มได้ กลิ่นหอมอบอวน อร่อยกว่าน้ำผลไม้มาก
สแตนลีย์ดื่มไปคำหนึ่งแล้วก็ยกคิ้วขึ้นมา ชูนิ้วโป้งบอกว่า “ไวน์นี่รสชาติดีมากเลยครับ นึกไม่ถึงว่าคุณฉินยังเป็นนักหมักไวน์ฝีมือดีด้วยนะครับ ถ้ามีโอกาสผมคงต้องมาขอคำแนะนำหน่อยแล้ว ความจริงแล้วผมก็ชอบเหล้าหมักมากนะครับ เหล้าที่ร้านอาหารของผมใช้เกือบจะทั้งหมดเป็นเหล้าที่ผมหมักเองทั้งนั้นเลย”
ฉินสือโอวคิดในใจว่าเขาหมักเป็นแค่เบียร์เท่านั้นแหละ ไวน์และไอซ์ไวน์ไม่ได้เรื่องเลย เรื่องนี้อย่างไรก็ต้องพึ่งคุณลุงฮิคสัน
พูดคุยเรื่อยเปื่อยกันไปสักพัก ในที่สุดแสตนลีย์ก็พูดถึงเหตุผลที่เขามาว่า “คุณฉิน ผมได้ยินมาว่าคุณกับตระกูลฮิลตันได้เป็นพันธมิตรทางธุรกิจกัน และคุณกำลังจะเปิดแบรนด์ร้านอาหารหนึ่งในตระกูลฮิลตันด้วยใช่ไหมครับ?”
พอดีกับที่ฮิลตันคนน้องวิ่งผ่านมาพอดี ช่วงนี้เธอชื่นชอบในความฉลาดของหู่จือและเป้าจือ จึงวิ่งมาเรียกหู่จือกับเป้าจือให้ไปจับปูกับเธอแถวริมทะเลโดยเฉพาะ เจ้าแลบราดอร์ไม่อยากเล่นกับผู้หญิงคนนี้ พวกเขาสะบัดหางให้กับคุณพ่อฉิน เสียดายคุณพ่อฉินไม่ได้ปกป้องพวกเขา แต่กลับปล่อยให้ฮิลตันคนน้องลากพวกเขาไปต่อหน้าต่อตา
จะไม่รักคุณพ่อเท่าเดิมอีกแล้ว พวกแลบราดอร์คิดอย่างไม่พอใจ
เมื่อเห็นฮิลตันคนน้อง สแตนลีย์แปลกใจมาก พูดว่า “ตระกูลฮิลตันเสียแม้กระทั่งลูกสาวให้กับคุณเลยเหรอครับ?”
“หมายความว่าอย่างไรครับ?” ฉินสือโอวถามด้วยความสงสัย
“ก็คือ คุณหนูเล็กของตระกูลฮิลตันหลงใหลในตัวคุณแล้วใช่ไหมครับ?” สแตนลีย์พูดด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความอิจฉา
ฉินสือโอวปัดมืออย่างทำอะไรไม่ได้แล้วพูดว่า “คุณคิดผิดแล้วครับ เป็นเพื่อนของผมคนหนึ่ง ชายชาตรีคนหนึ่งครับ ยัยคนนี้รู้สึกดีกับเขา จึงตามมาอยู่ที่ฟาร์มปลาของผม เธอกับผมไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันเลยครับ”
สแตนลีย์โล่งอกพูดว่า “ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง เมื่อกี้ผมตกใจแย่เลย”
ฉินสือโอวจ้องมองเขาด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตร พูดว่า “เมื่อกี้คือคุณสงสัยในเสน่ห์ของผมเหรอครับ?”
สแตนลีย์รีบส่ายหัว แล้วพูดด้วยน้ำเสียงโอเวอร์ว่า “ไม่ใช่ ไม่ใช่แน่นอนครับ ผมจะไปสงสัยในเสน่ห์ของคุณได้อย่างไรครับ? ความจริงสิ่งที่ผมชื่นชมที่สุดก็คือความมั่นคงในรักของคุณนะครับ หากว่าสิ่งที่ผมเดาไว้เป็นความจริง ก็แสดงว่าคุณไม่ได้มั่นคงขนาดนั้น ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงคงน่าเศร้าน่าดู”
ฉินสือโอวรู้สึกว่าเจ้าหมอนี่พูดเป็น ไม่ยอมรับไม่ได้ คำพูดของเขาทำให้ท่านชายฉินรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก
ในเมื่อพูดถึงเรื่องการร่วมมือกันของเขากับตระกูลฮิลตัน งั้นฉินสือโอวก็พอรู้ว่าเขาจะมาทำไมแล้วล่ะ แต่ว่าเขาแปลกใจนิดหน่อย สแตนลีย์มีร้านอาหารมิชลินระดับสามดาวอยู่ร้านหนึ่งแท้ๆ เขาจะสนใจในร้านอาหารแฟรนไชส์แบบนี้เหรอ?
เชฟหลักของร้านอาหารมิชลินระดับสามดาว ซึ่งก็คือราชาแห่งโลกอาหารและเครื่องดื่ม พวกเขาไม่ชายตามองร้านอาหารแฟรนไชส์ที่เน้นกระจายการขายแบบนี้หรอก แม้ว่าโรงแรมฮิลตันจะค่อนข้างมีระดับ แต่พวกเขาก็น่าจะไม่สนใจถึงจะถูก
คำพูดของสแตนลีย์หลังจากนั้นได้ปัดความคิดของเขาตกไป เขากระแอมทีหนึ่ง พูดว่า “คุณฉิน ผมอยากจะแนะนำตัวเองก่อน ผม สแตนลีย์ คาร์ลเบิร์ต มาจากตระกูลอาหารคาร์ลเบิร์ตในอิตาลี เคยเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยไลเดินประเทศเนเธอร์แลนด์สาขาการจัดการโรงแรมจากนั้นก็ได้เข้าเรียนปริญญาโทสาขาที่เกี่ยวข้องในมหาวิทยาลัยลอนดอนในอังกฤษด้วย…”
ฉินสือโอวตั้งใจฟังการแนะนำของสแตนลีย์ เขาทำการแนะนำประวัติการศึกษาและประสบการณ์การทำงานของเขาจำนวนหนึ่ง อย่างเช่นหลังจากเรียนจบแล้วเคยเป็นเทรนเนอร์ระดับอาวุโสในโรงแรมฮิลตันและเคยเป็นผู้อำนวยการให้กับโรงแรมนานาชาติแมริออทสาขาซาอุดีอาระเบียในตะวันออกกลางอีกด้วยเป็นต้น
เขาฟังแล้วก็รู้สึกว่าแปลกๆ สแตนลีย์ประสบการณ์ของเจ้าหมอนี่ทั้งมากมายและตื่นตาตื่นใจ เขาเคยเป็นผู้บริหารระดับสูงของโรงแรมระดับสูงหลายที่ อย่างบริษัทแมริออทอินเตอร์เนชันแนลที่เขาเคยทำงานก็เป็นหนึ่งในบริษัทด้านอุตสาหกรรมโรงแรมอันดับหนึ่งของโลก ในประเทศอเมริกาและประเทศอื่นๆ อีก 69 ประเทศบริษัทนี้มีตำแหน่งการจ้างงานกว่า 2800 ตำแหน่งและจ้างพนักงานกว่า 128,000 คน ผลประกอบการต่อปีคือสี่หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
แต่ว่า เขาน่าจะเป็นเชฟที่ฝีมือดีสิ ไม่อย่างนั้นจะมาเปิดร้านอาหารมิชลินระดับสามดาวได้อย่างไร?
พอเห็นสายตาที่สงสัยของเขาแล้ว สแตนลีย์ก็ชะงักไป แล้วพูดว่า “ผมเข้าใจคุณครับ คุณฉิน คุณคงสงสัยอย่างมาก ในเมื่อตำแหน่งของผมล้วนเป็นระดับผู้บริหาร แล้วทำไมถึงมาเป็นเถ้าแก่และเชฟของร้านอาหารมิชลินสามดาวได้ใช่ไหมครับ?”
ฉินสือโอวพยักหน้าพูดว่า “ใช่ครับ พูดตามตรงผมแปลกใจมากครับ คุณเป็นอัจฉริยะเหรอครับ?”
สแตนลีย์หัวเราะแห้งๆ พูดว่า “ไม่ใช่แบบนั้นหรอกครับ ความจริงร้านอาหารระดับสามดาว เป็นมรดกที่พ่อของผมทิ้งไว้ให้ครับ ก่อนหน้านี้พ่อผมเป็นคนบริหารมาโดยตลอด หลังจากท่านเสียชีวิตแล้วก็ส่งต่อมาให้ผม”
ฉินสือโอวพูดว่า “แต่นี่ก็ไม่สมเหตุสมผลอยู่ดีนะครับ แม้ว่ามิชลินจะทำการประเมินร้านอาหารกันทุกปี แต่หากว่าเกิดกรณีพิเศษอย่างเช่นเปลี่ยนเจ้าของ พวกเขาก็จะทำการประเมินใหม่นี่ครับ อีกอย่างผมเคยชิมฝีมือการทำอาหารของคุณมาแล้ว พิเศษมากจริงๆ นะครับ”
สแตนลีย์ถอนหายใจแล้วพูดว่า “เรื่องนี้ผมต้องอธิบายนิดหน่อยครับ การประเมินของมิชลินไม่ได้ประเมินแค่ฝีมือการทำอาหารของเชฟเท่านั้น ยังมีวิสัยทัศน์ในการบริหารร้านอาหารและการสรรค์สร้างวัฒนธรรมอาหารจำพวกนี้ด้วยครับ ในด้านเหล่านี้ผมถึงเกณฑ์ทั้งหมดเลย ฝีมือของผมก็ถือว่าไม่เลว ผู้ชายทุกคนในตระกูลคาร์ลเบิร์ตล้วนเป็นนักทำอาหารกันทั้งนั้น แต่ว่า ผมไม่อยากเป็นเชฟ!”
คำพูดสุดท้ายเขาแทบจะพูดออกมาพร้อมกับกัดฟันเลย “ผมไม่อยากใส่เสื้อที่เต็มไปด้วยน้ำมันอยู่ในครัว สูดกลิ่นน้ำมันแล้วก็ต่อสู้ให้กับกิเลสการกินของคนอื่น! ผมเกลียดงานแบบนี้ หากไม่ใช่เพราะพ่อที่เสียไปแล้วของผม ผมไม่มีทางกลับมาสืบทอดร้านอาหารของเขาแน่ครับ!”
ฟังถึงตรงนี้ ฉินสือโอวเข้าใจความหมายของเขาคร่าวๆ แล้ว ถามว่า “งั้นที่คุณมาที่นี่ ก็เพื่อมาแนะนำตัวเอง อยากจะมาร่วมบริหารร้านอาหารต้าฉินกับผมใช่ไหมครับ?”
สแตนลีย์พยักหน้า แล้วทำการขอโทษก่อนว่า “ต้องขอโทษจริงๆ นะครับคุณฉิน เมื่อกี้ผมเผลอตัวไปหน่อย หวังว่าคุณจะสามารถเข้าใจถึงความมุ่งมั่นในหน้าที่การงานของผู้ชายคนหนึ่งนะครับ”
จากนั้นเขาก็จิบไอซ์ไวน์อีกคำแล้วพูดต่อว่า “ใช่ครับ ผมอยากจะมาสมัครตำแหน่งผู้บริหารของร้านอาหารของคุณ ผมรอโอกาสนี้มาสองปีแล้ว ในที่สุดวันที่ผมรอก็มาถึงแล้ว!”
………………………
Related

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset