เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1657 เบาะแสวิญญาณความเสียใจ
ภายในบ้านหลังเล็กเกิดความปั่นปวนขึ้น
แสงสีแดงเข้มราวกับคลื่นน้ําที่ซัดสาดไปทั่ว
ฟางหยวนกําลังหลอมรวมวิญญาณอยู่ที่นี่
มือทั้งสองข้างของเขาคว้าจับก้อนน้ํามันสีดําที่มีขนาดเท่าอ่างล้างหน้า นี่คือแก่นแท้น้ํามันดับที่ฟางหยวนสกัดออกมา
การหลอมรวมวิญญาณมาถึงขั้นตอนสุดท้าย มันเป็นช่วงเวลาที่สําคัญที่สุด
ฟางหยวนน้ําเกล็ดสีทองออกมาจากมิติช่องว่างของเขา
เกล็ดสีทองพุ่งเข้าไปในก้อนน้ํามันสีดํา แสงสีทองส่องประกายออกมาก่อนจะควบแน่ นเป็นจุดเล็กๆ
ก้อนน้ํามันเริ่มหมุนวนรอบตัวเอง กลิ่นเหม็นกระจายออกไป นี่คือสิ่งสกปรกที่ฟาง หยวนขับออกมา
ค่ายกลวิญญาณส่องประกายขึ้นและเก็บกลิ่นเหม็นเอาไว้ภายใน
กลิ่นเหม็นชนิดนี้เป็นทรัพยากรอมตะบนเส้นทางอาหาร มันน่ากลัวกว่าน้ํามันดิบ หากมนุษย์สัมผัสมัน พวกเขาจะตายทันที
การหลอมรวมวิญญาณของฟางหยวนอยู่ในระดับอมตะเพราะมันเกี่ยวข้องกับทรัพยากรอมตะสองชิ้น หนึ่งคือน้ํามันดิบ อีกหนึ่งคือเกล็ดสีทองที่ถูกนํามาจากปลามังกรทองบรรพกาล
หลังจากอนุมาน ฟางหยวนพบว่าปลามังกรทองและน้ํามันดิบมีความเข้ากันได้ในระดับสูง
เกล็ดของปลามังกรทองชิ้นเดียวยังไม่เพียงพอ ฟางหยวนยังโยนเกล็ดสีทองเข้าไปมากขึ้น
ก้อนน้ํามันค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีทองดํา เงาร่างของวิญญาณจํานวนมากปรากฏขึ้นภายใน
ฟางหยวนกําลังหลอมรวมวิญญาณรวบรวมน้ํามัน
สิ่งนี้ถูกจัดทําขึ้นเป็นพิเศษสําหรับผู้ใช้วิญาณของหมู่บ้านแห่งนี้ มันเป็นเคล็ดลับ การหลอมรวมที่ฟางหยวนคิดค้นขึ้นด้วยตนเองโดยอ้างอิงจากมรดกที่แท้จริงของนิกายเงา และมรดกที่แท้จริงของนิกายหลางหยา
ฟางหยวนพยายามช่วยผู้ใช้วิญญาณของหมู่บ้านแห่งนี้เก็บรวบรวมน้ํามันดิบ
เหตุผล?
เพราะมันคือภารกิจของหอคอยเกียรติยศ
ฟางหยวนคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ยิ่งเขาคิดมากเท่าใด เขาก็ยิ่งตระหนักถึงเป้าหมายที่แท้จริงของเทพอมตะสวรรค์พิภพมากเท่านั้น
ด้วยเหตุนี้เขาจึงพยายามช่วยเหลือผู้ใช้วิญญาณของหมู่บ้านแห่งนี้อย่างเต็มที่เพื่อยืนยันการคาดเดาของเขา
ฟางหยวนทําสิ่งชั่วร้ายโดยไม่รู้สึกผิด ในทํานองเดียวกันเขาสามารถทําสิ่งที่ดีโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์
หลังจากทั้งหมดเขากลายเป็นคนไม่แยแสต่อความดีหรือความชั่ว โลกนี้มีเพียงสองสิ่งคือสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อเขาและสิ่งที่ทําร้ายเขา
เพื่อมรดกที่แท้จริงของเทพอมตะสวรรค์พิภพ ฟางหยวนเต็มใจทําความดีเพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะได้รับประโยชน์สูงสุด
เงือกสาวค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น
“ข้า…ยังไม่ตาย…” หลังจากมึนงงอยู่ชั่วครู่ นางก็สามารถตอบสนอง
“เจ้าเป็นนางเงือกที่โชคดีมาก หากเราพบเจ้าช้ากว่านี้ เจ้าอาจตายจริงๆ เจ้าติดอยู่ในน้ํามันดิบ” ผู้ใช้วิญญาณวัยกลางคนกล่าวขณะเดินเข้ามาในห้อง
“ข้าชื่อเซี่ยหลิน ท่านช่วยข้าไว้งั้นหรือ?” เงือกสาวพยายามลุกขึ้น
“ไม่ใช่ข้าแต่เป็นท่านชู เจ้าควรขอบคุณเขา เขาเป็นคนที่รักษาอาการบาดเจ็บของเจ้า” ผู้ใช้วิญญาณวัยกลางคนกล่าวด้วยรอยยิ้ม
เงือกสาวตรวจสอบร่างกายของตนและรู้สึกมีความสุขมาก
“เหลือเชื่อ!”
“ข้าติดอยู่ในน้ํามันดิบและได้รับบาดเจ็บสาหัส กระทั่งผู้ใช้วิญญาณสายรักษาที่เก่งที่สุดในเผ่าของข้าก็ไม่สามารถช่วยชีวิตข้า แต่ตอนนี้ข้าหายดีแล้ว!”
ผู้ใช้วิญญาณวัยกลางคนเผยรอยยิ้มเย่อหยิ่ง “แน่นอน เพราะท่านชู เจ้าถึงรอดชีวิต!”
ผู้ใช้วิญญาณวัยกลางคนนึกถึงฉากที่ฟางหยวนช่วยชีวิตนาง เขาทําให้ผู้ใช้วิญญาณทั้งหมดรู้สึกตื่นตาตื่นใจมาก
“ท่านชูช่วยชีวิตข้าและรักษาอาการบาดเจ็บของข้า ข้าจะตอบแทนความเมตตานี้ได้อย่างไร?” เงือกสาวเม้มปาก “โปรดพาข้าไปพบท่านชูด้วย ไม่ว่าต้องจ่ายด้วยราคาใด ข้าก็จะชดใช้ให้เขา”
“เช่นนั้นก็ตามข้ามา” ผู้ใช้วิญญาณวัยกลางคนคิดก่อนจะเดินออกจากห้อง
เงือกสาวใช้วิญญาณสร้างคลื่นน้ําพานางเคลื่อนที่ตามไปด้านหลังผู้ใช้วิญญาณวัยกลางคน
ทั้งสองเดินผ่านสวนและมาถึงหน้าบ้านของฟางหยวน
ทันใดนั้นเสาแสงสีดําก็พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าจากบ้านหลังเล็ก
“นี่คือ?”
“เกิดสิ่งใดขึ้น?”
ปรากฏการณ์นี้ดึงดูดความสนใจของผู้ใช้วิญญาณทั้งหมด
“หลังอาหารเย็น ท่านชูเริ่มหลอมรวมวิญญาณ เขาขังตัวเองไว้ในห้องและไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้าไปรบกวน” หัวหน้าหมู่บ้านชรากล่าว “นี่หมายความว่าการหลอมรวมวิญญาณของท่านชูมีความก้าวหน้า”
“การหลอมรวมวิญญาณของท่านชูไม่ธรรมดาจริงๆ”
“ท่านชูเป็นคนพิเศษ แต่เขาทําได้อย่างไร?”
เซี่ยหลินฟังบทสนทนาอย่างระมัดระวัง
บทสนทนาของกลุ่มผู้ใช้วิญญาณทําให้นางนึกถึงผู้ใช้วิญญาณระดับสูงที่มีเส้นผมสี ขาว อารมณ์ดี ใจเย็น สงบนิ่ง และมีเมตตา
เมื่อเสาแสงจางหายไป กลิ่นหอมก็กระจายออกมารอบๆ
หลังจากชั่วครู่ฟางหยวนก็ผลักเปิดประตูและเดินออกมา
กลุ่มผู้ใช้วิญญาณเร่งทําความเคารพ “ท่านชู”
เซี่ยหลินมองฟางหยวนด้วยความสงสัย ปรากฏว่าท่านชูยังเด็กมาก นางไม่ได้คาดหวังสิ่งนี้
นางคุกเข่าลง “ท่านชู ท่านชีวิตข้า ข้ายินดีตอบแทนความเมตตาของท่านด้วยทุกสิ่ง”
“ไม่จําเป็น มันเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย” ฟางหยวนชําเลืองมองเซี่ยหลิน ตอนนี้เขารู้สึกว่านางไม่เหมือนเซี่ยฮันโม่แม้แต่น้อย
เมื่อภารกิจเสร็จสิ้น ฟางหยวนถูกส่งกลับไปยังหอคอยเกียรติยศ
“โอ้ มีภารกิจใหม่ปรากฏขึ้น!” ฟางหยวนมองไปยังเสาสีทอง
เดิมที่มันมีสิบภารกิจ ตอนนี้มันก็ยังมีสิบภารกิจ แต่เนื้อหาของภารกิจส่วนใหญ่เปลี่ยนไป
อีกด้านหนึ่งของหอคอยเกียรติยศ มีการจัดลําดับผู้ทําภารกิจตามแต้มบุญที่ได้รับ
“ข้าอยู่อันดับสาม…” ฟางหยวนต้นพบอันดับของเขาอย่างรวดเร็ว
เขามีความสุขเล็กน้อย การคาดเดาของเขาได้รับการยืนยันแล้ว
เมื่อพิจารณาถึงบุคลิกของเทพอมตะสวรรค์พิภพ การทําความดีมากขึ้นจะทําให้ฟางหยวนได้รับแต้มบุญมากขึ้น หากเขารวบรวมน้ํามันดิบด้วยตนเอง เขาจะไม่ได้รับอันดับสามแต้มบุญที่เขาจะได้รับจะน้อยกว่านี้
การช่วยเหลือผู้ใช้วิญญาณของหมู่บ้านเพื่อให้พวกเขาสามารถรวบรวมน้ํามันดิบได้ด้วยตนเอง ทําให้ฟางหยวนได้รับแต้มบุญมากขึ้น
ฟางหยวนพบวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลระดับมนุษย์วางอยู่ที่พื้น
เขาหยิบมันขึ้นมาและตรวจสอบ
ดังคาด มันเป็นข้อความที่เสี่ยวหมิงเฉินและคนอื่นๆทิ้งไว้ พวกเขาบันทึกสิ่งที่แต่ละคนค้นพบ
บางคนพบว่ามนุษย์และมนุษย์เงือกอยู่ร่วมกันอย่างสันติด้วยสถานะที่เท่าเทียม
บางคนเลือกภารกิจยาก แม้พวกเขาจะสามารถสังหารสัตว์อสูร แต่มนุษย์จํานวนมากที่มีส่วนเกี่ยวข้องเสียชีวิต เมื่อพวกเขากลับมา อันดับของพวกเขากลับอยู่ท้ายสุด พวกเขาได้รับแต้มบุญน้อยมาก
บางคนคิดว่าเป้าหมายของหอคอยเกียรติยศคือการทําความดีและช่วยเหลือผู้คน แต่พวกเขาทําได้เพียงคาดเดาเท่านั้น การคาดเดาของพวกเขายังไม่ได้รับการยืนยัน
ผู้อมตะเหล่านี้ได้รับการคัดเลือกมาโดยเตี๋ยวหมิงเฉิน ทุกคนไม่ใช่คนโง่
การค้นพบของเสี่ยวหมิงเฉินทําให้สายตาของฟางหยวนเปลี่ยนไป เขาพบว่าพวกเขาไม่ใช่กลุ่มแรกที่มาที่นี่แต่มีผู้อมตะบางคนเคยมาที่นี่ก่อนหน้าพวกเขา
ข้อมูลที่มีค่าที่สุดมาจากเฟิงเจียง
เขาพบว่ามีพื้นที่ต้องห้ามอยู่ในถ้ําสวรรค์แห่งนี้ มันเป็นทะเลที่ผู้คนเรียกว่าทะเลปีศาจร่ําไห้
ตามตํานาน หลังจากเทพอมตะสวรรค์พิภพสร้างถ้ําสวรรค์แห่งนี้ขึ้นมา เขาจับปีศาจอมตะที่แข็งแกร่งเอาไว้ในทะเลแห่งนี้และจัดตั้งค่ายกลวิญญาณอมตะเอาไว้เพื่อทําให้ปีศาจตนนั้นสํานึกเสียใจกับความผิดบาปของตน
ดังนั้นทะเลแห่งนี้จึงมีเสียงคร่ําครวญของปีศาจดังออกมาตลอดเวลา
ข้อมูลนี้ทําให้ฟางหยวนนึกถึงวิญญาณบางด้วยทันที
วิญญาณความเสียใจ!