หวังหมิงเยว่นำสินค้าของนางออกมาวางขาย
หลายวันที่ผ่านมามีเพียงฟางหยวนที่ขายวิญญาณปี ตอนนี้เมื่อมีคู่แข่งรายใหญ่เข้ามา มันจึงทำให้เกิดความปั่นป่วนขึ้นทันที
“ผู้หญิงก็คือผู้หญิง ไร้ความอดทน” หรงซินแห่งภาคกลางเย้ยหยันเมื่อได้รับข่าวนี้
“ด้วยวิธีนี้ มันจะเกิดการเปรียบเทียบ” เขาเต็มไปด้วยประสบการณ์และสามารถคาดเดาการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น
ความเร่าร้อนของการซื้อวิญญาณปีในสวรรค์สีเหลืองลดลงอย่างกะทันหัน
หวังหมิงเยว่เข้าสู่ตลาดทำให้อุปทานมีมากกว่าอุปสงค์ ผู้อมตะคนอื่นๆกำลังรอดูการแสดงที่ดี
พายุกำลังก่อตัวขึ้นในสวรรค์สีเหลือง
ในปีก่อนๆธุรกิจวิญญาณปีร้อนแรงมาตลอด แต่ปีนี้สินค้ามาก่อนฤดูกาล สถานการณ์จึงกลายเป็นเงียบเหงา
หวังหมิงเยว่รู้สึกมึนงงเล็กน้อย
แต่นางไม่มีทางเลือก นางมีวิญญาณปีในการครอบครองเป็นจำนวนมาก หากนางไม่เริ่มตอนนี้และรอให้ผู้ขายอีกสองคนออกมา สินค้าของนางอาจขายได้ช้ากว่าเดิม
“หวังหมิงเยว่จะขายก่อนเวลาจริงๆงั้นหรือ?” หรงซินและเซี่ยเปาซูยังลังเล
เซี่ยเปาซูเข้าใจหวังหมิงเยว่
“ข้ามีวิญญาณปีจำนวนมากอยู่ในคลังสินค้าเช่นกัน” เซี่ยเปาซูลอบกังวลอยู่ภายใน
วันต่อมาเขาก็ตัดสินใจนำวิญญาณปีออกมาวางขายในสวรรค์สีเหลืองเช่นกัน
“เซี่ยเปาซูเคลื่อนไหวแล้ว”
“สองในสามผู้ขายรายใหญ่วางขายสินค้าล่วงหน้าแล้ว”
“แน่นอน ปีนี้ต่างจากปีก่อน ตอนนี้มีผู้ขายรายที่สี่เพิ่มเข้ามา”
ในสวรรค์สีเหลือง กลุ่มผู้อมตะพูดคุยกัน
“บัดซบ!” หรงซินกัดฟันแน่นเมื่อได้ยินข่าวนี้
สถานการณ์แตกต่างไปจากเดิม
ก่อนหน้านี้ฟางหยวนขายเพียงผู้เดียว หรงซินสามารถอดทนต่อเรื่องนี้ แต่เมื่อหวังหมิงเยว่เข้าร่วม มันทำให้หรงซินรู้สึกตึงเครียดเล็กน้อย อย่างไรก็ตามหลังจากเซี่ยเปาซูเข้าร่วม แรงกดดันต่อหรงซินจึงเพิ่มสูงขึ้น
หากเขาไม่ดำเนินการบางอย่าง เขาจะเป็นคนที่ได้รับความเดือดร้อนมากที่สุด
แต่เขามีปัญหาของตนเอง
วิญญาณปีของเขามาจากการหลอมรวมวิญญาณ
เนื่องจากปีนี้ยังไม่ถึงฤดูกาลของมัน วิญญาณปีในคลังสินค้าของเขามีไม่เพียงพอ กล่าวได้ว่าเขามีสินค้าน้อยที่สุดท่ามกลางผู้ขายทั้งสี่ราย
แต่ด้วยสถานการณ์ที่บีบบังคับ หรงซินจึงทำได้เพียงกัดฟันและนำวิญญาณปีของตนเข้าสู่สวรรค์สีเหลืองเท่านั้น
“ข้ามีสินค้าน้อยที่สุด ข้าไม่สามารถแข่งขัน” หรงซินรู้สึกสังหรณ์ร้าย สิ่งที่เขาต้องการในตอนนี้คือเวลาในการหลอมรวมวิญญาณ
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขาจึงเริ่มติดต่อเซี่ยเปาซูและหวังหมิงเยว่
ทั้งสามรู้จักกันมาหลายปี เป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขาจะมีช่องทางสำหรับการติดต่อ
“แม้จะมีผู้ขายรายใหม่แต่ข้าคิดว่าเราสามคนควรปฏิบัติตามข้อตกลงเดิมถูกต้องหรือไม่?” หรงซินเตือนอีกสองคน
เซี่ยเปาซูและหวังหมิงเยว่เห็นด้วย
แม้พวกเขาจะทำผิดเงื่อนไขเกี่ยวกับช่วงเวลาการวางขาย แต่เนื่องจากนี่เป็นสถานการณ์พิเศษ มันจึงสามารถเข้าใจได้
แต่เรื่องราคาเป็นสิ่งสำคัญที่พวกเขาไม่ควรฝ่าฝืน
เมื่อจำนวนผู้ขายเพิ่มขึ้น สงครามราคาจะเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ
แต่หากมันรุนแรงเกินไป มันจะกลายเป็นการทำร้ายตัวเอง
เซี่ยเปาซู หวังหมิงเยว่ และหรงซินแข่งขันกันมานับครั้งไม่ถ้วน แต่พวกเขาไม่เคยเปลี่ยนราคาที่ตกลงกันไว้เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของพวกเขาเอง
แต่สิ่งนี้เป็นปัญหา
หากฟางหยวนลดราคาลงอย่างกะทันหัน แล้วพวกเขาจะทำอย่างไร?
ฟางหยวนเป็นผู้ขายรายใหม่ แม้หรงซินจะเกลี้ยกล่อมเขา เขาก็อาจไม่สนใจ
แต่หรงซิน เซี่ยเปาซู และหวังหมิงเยว่ดูเหมือนจะไม่กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้
เมื่อมีผู้ขายรายสี่ปรากฏขึ้น ยอดขายของฟางหยวนก็หยุดนิ่งทันที
‘ข้าเป็นผู้ขายรายใหม่ แม้สินค้าของข้าจะมีคุณภาพสูง แต่สถานะของข้าในหัวใจของผู้ซื้อยังไม่สามารถเปรียบเทียบกับสามผู้ขายรามเดิม’
หวังหมิงเยว่ เซี่ยเปาซู และหรงซินอยู่ในธุรกิจนี้มาหลายปีแล้ว พวกเขามีชื่อเสียงที่ดี แน่นอนว่าฟางหยวนยังไม่สามารถเปรียบเทียบกับพวกเขาในแง่นี้
นี่คือจุดอ่อนของฟางหยวน
แต่ฟางหยวนมีวิธีแก้ปัญหา
ในไม่ช้าหรงซิน เซี่ยเปาซู และหวังหมิงเยว่ก็ได้รับข่าวสำคัญ
ผู้ขายรายใหม่เริ่มลดราคาวิญญาณปี!
“เขาทำสิ่งนี้จริงๆ”
“หือ ข้ายังคิดว่าเขาจะใช้วิธีอื่น!”
อย่าางไรก็ตามพวกเขาไม่วิตกและกระทั้งเย้ยหยัน พวกเขาเข้าใจเป็นอย่างดีว่าการลดราคาเช่นนี้จะทำให้ผู้ขายพบกับความทุกข์ทรมาน
ในสงครามราคา การลดราคาเป็นดาบสองคม มันจะทำร้ายทั้งผู้อื่นและตัวเอง
แต่สำหรับผู้ซื้อ การลดราคาของฟางหยวนถือเป็นข่าวดี
พวกเขากำลังรอคอยเวลานี้อยู่
วิญญาณปีของฟางหยวนถูกขายออกไปเป็นจำนวนมาก มันแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับสถานการณ์ของเซี่ยเปาซู หวังหมิงเยว่ และหรงซิน
“ดูเหมือนเขาจะเป็นทหารผ่านศึกที่มีประสบการณ์ การลดราคาครั้งนี้เป็นไปตามมาตรฐาน มันส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของผู้คน” หวังหมิงเยว่เฝ้ามองสถานการณ์
“แต่แล้วอย่างไร?”
“สวรรค์สีเหลืองเป็นตลาดขนาดใหญ่ เจ้าจะสามารถจัดหาสินค้าให้กับผู้ซื้อทั้งห้าภูมิภาคได้ด้วยตนเองงั้นหรือ? สุดท้ายคนที่ต้องทุกข์ทรมานก็คือตัวเจ้าเอง เราสามารถขายได้ในราคาที่สูงกว่า”
สามผู้ขายรามเดิมยังรักษาราคาของพวกเขาเอาไว้
อย่างไรก็ตามหลายวันต่อมาพวกเขาก็ไม่สามารถนิ่งเฉยได้อีก
“เกิดสิ่งใดขึ้น? คนผู้นี้มีวิญญาณปีเท่าใด? มันราวกับไม่มีที่สิ้นสุด!”
“เขารวบรวมวิญญาณปีมากมายมาได้อย่างไร? มีบางสิ่งผิดปกติ!”
สามผู้ขายรายเดิมรู้สึกเคร่งเครียดขึ้นเล็กน้อย
พวกเขาควรปฏิบัติตามข้อตกลงเรื่องราคาอยู่หรือไม่?
สุดท้ายพวกเขาก็มีความคิดที่แตกต่างกัน
ฟางหยวนเป็นผู้ขายรายใหม่ แม้เขาจะมีสินค้าอยู่มากเพียงใด เขาก็ยังเป็นคนหน้าใหม่ ขณะที่สามผู้ขายรายเดิมเต็มไปด้วยประสบการณ์
แต่หากพวกเขาลดราคา กำไรของพวกเขาจะลดลง
เรื่องนี้ทำให้พวกเขาลังเลอย่างไม่ต้องสงสัย
หลายวันต่อมา ธุรกิจของฟางหยวนยังดำเนินไปอย่างดุเดือด สามผู้ขายรายเดิมเห็นสถานการณ์กำลังดำเนินไปในทิศทางที่ไม่น่าพอใจ ดังนั้นหวังหมิงเยว่จึงเป็นคนแรกที่เริ่มพูดคุยเรื่องการลดราคากับอีกสองคน
เซี่ยเปาซูมีท่าทีเย็นชา “ดูเหมือนคนผู้นี้จะมีสินค้ามากพอ หากเราไม่ลดราคา เราจะไม่สามารถขายสินค้า”
“ถูกต้อง” หวังหมิงเยว่กล่าวเสริม “คนผู้นี้ไม่ง่าย เขาลดราคามากพอที่จะกำหราบพวกเรา”
หรงซินหัวเราะเย้ยหยัน “เราจะได้กำไรหรือขาดทุน เราจะได้เห็นกันหลังจากขายวิญญาณปีออกไปทั้งหมด หากเราลดราคามากเกินไป แม้พวกเราจะขายได้มาก แต่พวกเราก็จะสูญเสียมากขึ้น แล้วเราจะทำเช่นนั้นไปเพื่อสิ่งใด?”
เขาไม่เห็นด้วยกับวิธีนี้และยังต้องการรอดูต่อไปอีกระยะหนึ่ง
หลังจากทั้งหมดเขาไม่มีทางเลือก เขามีสินค้าอยู่อย่างจำกัด หากเขาลดราคา สินค้าของเขาจะหมดลงอย่างรวดเร็วขณะที่เขาจะได้รับกำไรลดลงอย่างมาก หากทุกคนรู้ว่าเขามีสินค้าไม่มาก ภาพลักษณ์และชื่อเสียงของเขาจะเสียหาย
แต่เขาไม่สามารถทำสิ่งใดเนื่องจากอีกสองคนต้องการลดราคา ดังนั้นหรงซินจึงต้องทำตามพวกเขาเท่านั้น