ตอนที่ 3111 ช่วยเหลือเจ้า?
สตีลซินรู้สึกเหมือนกับว่าเขาถูกมีดแทงเข้าที่หัวใจ ดวงตาของเขาเบิกกว้าง ขณะที่เขาจ้องไปที่หานเซิ่นและไอซ์สโนว์ก็อดเคสอย่างตกตะลึง
เทพสปิริตเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทุกคนในจักรวาลเคารพบูชา ถึงแม้ตระกูลสตีลจะทําพันธสัญญากับไอซ์สโนว์ก็อดเดส แต่พวกเขาก็ถือว่าเธอคือผู้พิทักษ์ของตระกูลสตีลและปฏิบัติกับเธอราวกับว่าเธอเป็นพระเจ้า
แต่ตอนนี้ไอซ์สโนว์ก็อดเดสที่เป็นผู้พิทักษ์ตระกูลสตีลกําลังก้มหัวให้กับหานเซิ่น ราวกับคนที่มีฐานะต่ำพบกับคนที่มีฐานะสูงกว่า นอกจากนั้นเธอยังเรียกเขาว่านายท่าน นี่ทําให้สตีลซีนแทบไม่อยากจะเชื่อ
“โอ้มายก็อด! นี่ข้าเข้าไปพัวพันกับสัตว์ประหลาดแบบไหนกันเนี่ย?”
จู่ๆสตีลซีนก็รู้สึกว่าท้องฟ้าหมุน เขาเริ่มจะเสียการทรงตัวและล้มลงไปกับพื้น
คนของตระกูลสตีลซีนมารวมกันที่หน้าวิหารไอซ์สโนว์ก็อดเดส แต่วิหารนั้นปกคลุมไปด้วยลมปราณน้ำแข็งและหิมะ พวกเขาไม่สามารถเข้าไปข้างในได้
ผู้ใช้ยื่นเรซระดับเทพเจ้าคนหนึ่งพยายามจะเข้าไปในวิหาร แต่หลังจากที่ยื่นมือไปสัมผัสกับลมปราณน้ำแข็งและหิมะ ร่างกายของเขาก็เกือบจะกลายเป็นก้อนน้ำแข็งและต้องรีบถอยออกมามือของเขานั้นไม่มีความรู้สึกอีกต่อไป
ทุกคนรู้สึกตกใจ และไม่มีใครกล้าแตะต้องลมปราณน้ำแข็งและหิมะอีก พวกเขาได้แต่รออยู่หน้าวิหาร
ภายในวิหารไอซ์สโนว์ก็อต ร่างกายของสตีลซีนกําลังสั่นรัว ดวงตาของเขาแดงก่ำขณะที่มองไปที่หานเซิ่นด้วยความตกใจอย่างที่สุด ความหวาดกลัวต่อความตายเข้าปกคลุมหัวใจของเขา
“เป็นไปไม่ได้! ท่านไอซ์สโนว์ก็อดเดสเป็นผู้พิทักษ์ของตระกูลสตีล ข้ามีโลหิตชีพจรเทพสปีริตของท่าน ท่านจะไม่ทอดทิ้งข้า มันเป็นไปไม่ได้”
หานเซิ่นไม่เสียเวลามองไปที่สตีลซีน เขาแค่มองไปที่ไอซ์สโนว์ก็อดเดสและถามขึ้นว่า “เขาเป็นคนของเจ้าใช่หรือไม่?”
ถึงไอซ์สโนว์ก็อดเดสจะไม่ได้เห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ต้น แต่เธอก็พอจะคาดเดาสิ่งที่กําลังเกิดขึ้นได้ เธอพูดตอบว่า
“ข้ามีพันธสัญญากับบรรพบุรุษของตระกูลสตีล ด้วยเหตุนั้นตระกูลสตีลจึงมีโลหิตชีพจรเทพสปริตของข้า”
หานเซิ่นมองไปที่ไอซ์สโนว์ก็อดเดสและพูด “คนๆนี้ต้องการจะฆ่าข้า ถ้าเขาเป็นคนของเจ้า เจ้าจะทํายังไงกับเขา?”
สตีลซีนตื่นตระหนก เขาร้องตะโกนขึ้นว่า “ท่านเป็นผู้พิทักษ์ของตระกูลสตีล ท่านต้องช่วยข้า
ในจักรวาลนี้ มนุษย์ส่วนใหญ่จะพึ่งพาพลังของเทพสปิริตและยืนเรซในการอยู่รอด พวกเขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับพลังของร่างกาย ถึงแม้สตีลซีนจะมีฐานะสูงส่งและมีชื่อเสียงโด่งดัง แต่เขาก็ยังคงหวาดกลัวความตาย เขาอยู่เหนือคนอื่นและมีภรรยามากมาย เขามีทรัพย์สินเป็นจํานวนมาก เขายังไม่พร้อมที่จะตาย
แต่ทว่าคําพูดของไอซ์สโนว์ก็อดเดสนั้นส่งสตีลชีนลงไปสู่นรกที่ไร้ที่สิ้นสุด
ไอซ์สโนว์ก็อดเดสมองไปที่สตีลซีน เธอถอนหายใจและพูด
“เจ้าไปล่วงเกินคนที่แม้แต่พระเจ้าก็ยังไม่กล้าจะล่วงเกิน ข้าจะไปช่วยเจ้าได้ยังไง?”
ทันใดนั้นสตีลซีนก็รู้สึกราวกับว่าเขาอยู่ภายในถ้ำน้ำแข็ง
แต่สตีลชีนเป็นคนที่อยู่ในตําแหน่งที่สูงส่งมาเป็นเวลานาน เขาเป็นผู้นํากองทหารองครักษ์ ดังนั้นในตอนที่เขาตกอยู่ในสภาวะสิ้นหวัง เขาจึงตัดสินใจจะใช้พลังทั้งหมดมี
แต่ทว่าทันใดนั้นสตีลซินสังเกตได้ว่าโลหิตชีพจรเทพสปิริตของเขาได้หายไปแล้ว เห็นได้ชัดว่าไอซ์สโนว์ก็อดเดสได้เอาโลหิตชีพจรเทพสปิริตกลับคืนไปอีกครั้ง
ถึงอย่างนั้นสตีลซีนก็ยังคงดูอาฆาต ถึงแม้เขาจะไม่มีโลหิตชีพจรเทพสปิริตของไอซ์สโนว์ก็อดเดสอีกแล้ว แต่เขายังมีโลหิตชีพจรของชื่อหมิงเดม่อนเรซที่เขาได้มาจากชีพจรพระเจ้า ถึงแม้มันจะไม่ใช่โลหิตชีพจรเทพสปิริตที่สมบูรณ์ แต่มันก็เหนือกว่าโลหิตชีพจรเทพสปิริตทั่วไป
ตอนนี้สตีลซีนเพียงแค่ต้องการมีชีวิตรอดต่อไป เขาใช้โลหิตชีพจรเทพสปิริตของชื่อหมิงเดม่อนเรซจนถึงขีดจํากัด ลมปราณสีดําเข้าปกคลุมร่างกายของเขา เขาดูเหมือนกับผีที่ชั่วร้าย ขณะที่พยายามจะหนีออกไปจากวิหารไอซ์สโนว์ก็อดเดส ถึงเขาจะเต็มไปด้วยความเกลียดชัง แต่เขาก็ไม่กล้าจะต่อสู้กับหานเซิ่น หานเช่นนั้นน่ากลัวเกินไป แม้แต่เทพสปิริตก็ยังหลีกเลี่ยงการยั่วโทสะของหานเซิ่น สตีลซีนจึงไม่กล้าจะต่อสู้กับหานเชื่นอีก
สตีลซีนแค่ต้องการจะหนีไปที่เมืองกําแพงหยก เพราะนั่นดูเหมือนจะเป็นหนทางเดียวที่จะรักษาชีวิตของเขาเอาไว้
ก่อนที่สตีลซีนจะหนีออกไปจากไอซ์สโนว์ก็อดเดส เขาก็ได้ยินไอซ์สโนว์ก็อดเดสพูดขึ้นว่า
“นายท่านได้โปรดเห็นแก่เทพสปิริตน้อยๆและเหลือร่างกายของเขาเอาไว้
เมื่อได้ยินเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น ทางทหารองครักษ์ก็ได้ส่งคนมาที่วิหารไอซ์สโนว์ก็อดเดส พวกเขาพบกับคนของตระกูลสตีลที่หน้าวิหาร เมื่อเห็นว่าวิหารไอซ์สโนว์ก็อดเดสปกคลุมไปด้วยลมปราณน้ำแข็งและหิมะ ผู้บัญชาการฟีนิกซ์ หลิวเซียงเซียงก็มองไปที่ลูกพี่ลูกน้องของสตีลซีน เถี่ยหยิงถังและถามขึ้นว่า
“คุณหยิงถัง เกิดอะไรขึ้นที่นี่?”
เถี่ยหยิงดังหวังให้สตีลซีนถูกฆ่าตายภายในวิหารไอซ์สโนว์ก็อดเดสเพื่อที่เขาจะได้ขึ้นเป็นผู้นําตระกูลสตีลคนใหม่ แต่เขาแสร้งทําเป็นโกรธและพูดขึ้นว่า
“มีนักฆ่าคนหนึ่งบุกมาที่คฤหาสน์เพื่อจะฆ่าผู้นําตระกูลของพวกเรา ตอนนี้พวกเขาอยู่ในวิหารไอซ์สโนว์ก็อดเดส ข้าไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นข้างในนั้น”
หลิวเซียงเซียงและคนอื่นๆดูแปลกใจ ในเวลากลางวันแสกๆ กลับมีคนพยายามที่จะลอบสังหารนายพลของอาณาจักรฉิน นั่นเป็นอะไรที่บ้าเกินไป
ตอนนี้วิหารถูกปกคลุมไปด้วยพลังของไอซ์สโนว์ก็อดเดส พวกเขาจึงเข้าไปข้างในไม่ได้ หลิวเซียงเซียงจึงได้แต่ถามรายละเอียดเพิ่มเติม
“ท่านสตีลซีนมีโลหิตชีพจรเทพสปิริตของไอซ์สโนว์ก็อดเดส ในตอนที่เข้าไปวิหาร เขาคงจะต้องรวมร่างกับไอซ์สโนว์ก็อดเดส มันไม่สําคัญว่านักฆ่าคนนั้นจะแข็งแกร่งสักแค่ไหน มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะทําร้ายท่านสตีลขึ้น ดังนั้นอย่าได้กังวลไป ตอนนี้พวกเราแค่ต้องรอจนกว่านักฆ่าคนนั้นจะหนีออกมา”
หลังจากนั้นหลิวเซียงเซียงก็ถามต่อว่า “พวกเจ้ารู้ไหมว่านักฆ่าคนนั้นเป็นใคร?”
หลิวเซียงเซียงไม่ได้คาดคิดว่าจะได้รับคําตอบ เพราะยังไงซะมันก็คงจะไม่มีนักฆ่าคนไหนเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง
“เขาคือหานเซิ่น” คนรับใช้แก่คนหนึ่งพูด
“เขาคือคนที่อาศัยอยู่กับเฟิงเฟยเฟย เขาได้ฆ่ากงซูจือ ซิตย่าและผู้บัญชาการ”
หลิวเซียงเซียงและคนอื่นๆแปลกใจ พวกเขาต่างก็มีสีหน้าแปลกๆ เมื่อได้ยินคําตอบ พวกเขาไม่ได้คาดคิดว่ามันจะมีคนที่กล้าบุกมาที่คฤหาสน์ของตระกูลสตีลอย่างไม่เกรงกลัวผู้ใด
พวกเขาเคยได้ยินชื่อของหานเซิ่น เขาเป็นต้นเหตุที่ทําให้ลู่ซานจีถูกตบหน้าโดยองค์รัชทายาทและกลายเป็นตัวตลกภายในเมืองกําแพงหยก แบบนั้นพวกเขาจะไม่รู้เกี่ยวกับหานเซิ่นได้ยังไง
แต่ถึงพวกเขาจะคิดเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมดนี้จนกระทั่งสมองของพวกเขาระเบิด พวกเขาก็ไม่เคยจินตนาการว่าหานเช่นจะกล้าบุกมาที่คฤหาสน์ของตระกูลสตีลและฆ่าลู่ซานจีกับกงซูจื่อ
หลิวเซียงเซียงกําลังจะถามเพิ่มอีก แต่ทันใดนั้นเขาก็เห็นว่าลมปราณน้ำแข็งและหิมะรอบๆของวิหารไอซ์สโนว์ก็อดเดสเริ่มจะหายไป
ทุกคนหันไปมองที่ไอซ์สโนว์ก็อดเดส และพวกเขาทั้งหมดก็ต้องตกใจเมื่อเห็นสตีลซีนกําลังคุกเข่าอยู่ตรงทางเข้าของวิหาร มีเลือดไหลออกมาทั่วร่างกายของเขา เขาไม่มีพลังชีวิตอีกต่อไปแล้ว
ใครบางคนตะโกนขึ้นว่า “ท่านสตีลซีน… ท่านสตีลซีนได้ตายไปแล้ว”
“หานเซิ่น หานเช่นอยู่ที่ไหน?” หลิวเซียงเซียงและคนอื่นทั้งตกใจและเกรี้ยวโกรธ พวกเขารีบพากันเข้าไปในวิหารไอซ์สโนว์ก็อดเดส แต่สิ่งที่ไม่น่าเชื่อที่สุดก็คือเมื่อพวกเขาเข้าไปข้างใน พวกเขาไม่พบใครอยู่ภายในนั้น นักฆ่าที่คนของตระกูลสตีลกล่าวอ้างว่าเป็นคนที่บุกมาที่คฤหาสน์นั้นได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
Related