ฝั่งตะวันออกของภูเขาทางตอนเหนือถูกปกคลุมด้วยต้นสนที่มีหนามแหลม ทำให้คนทั่วไปไม่สามารถปีนขึ้นมาได้ กองทหารเทียนจิงจึงไม่จำเป็นต้องส่งใครมาคุ้มกันฝั่งนี้
“ฟู่…ฟู่…”
หลินมู่อวี่ใช้มือเรียกชั้นแสงจากปราณยุทธ์ออกมาขูดหนามจากต้นสนจนสิ้นทีละต้น ต้นสนที่ถูกเลาะหนามส่งกลิ่นหอมเตะจมูก เขาค่อยๆ ใช้กระบี่เหลียวหยวนเสียบไปตามหน้าผาแล้วปีนขึ้นไป
หลินมู่อวี่มองลงไปข้างล่าง ราวสองร้อยเมตรหลัวอวี่ หลงหยานและอีกสามคนกำลังปีนตามขึ้นมา คนที่ช้าที่สุดคือฟ่างซิน ด้วยฐานวรยุทธ์ที่ต่ำสุดเพียงปรมาจารย์ขอบเขตปฐพีขั้นสองระดับสี่สิบ ทว่ากลับได้รับภารกิจระดับเดียวกับทหารเหรียญทอง แม้จะสวมถุงมือเหล็กอยู่แต่หนามแหลมยังคงแทงทะลุจนเลือดไหลได้ ช่างเป็นภาพที่สยดสยองยิ่งนัก
รออยู่ครู่หนึ่ง เอ๋อเทียนเซี่ยก็กระโดดด้วยท่าทางเหมือนลิงขึ้นมาจนถึงยอดเขา จากนั้นห้านาที หลัวอวี่ หลงหยาน และฟ่างซินจึงตามมา ทั้งสี่ก้มมองลงไปยังป้อมปราการหินด้านล่าง พบทหารเทียนจิงกว่าห้าร้อยนายอารักขาอยู่
หลัวอวี่คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยขึ้น “หลินหยานและหลงหยาน ทั้งสองคนจงบุกทะลวงเข้าไปเรียกความสนใจ พวกข้าที่เหลือจะแอบเข้าไปเปิดประตูหิน”
หลินมู่อวี่พยักหน้า “รับทราบ!”
หลินมู่อวี่หยิบกระบี่และบุกทะลวงไปพร้อมกับหลงหยาน เขาแอบใช้ฝีเท้าดาวตกพุ่งเข้าไป หลงหยานที่ตามไม่ทันตะโกนเรียก “ท่านหลินหยาน ข้าตามไม่ทัน!”
แทนที่จะหยุด…หลินมู่อวี่กลับเร่งความเร็วและกระโดดขึ้นป้อมปราการหิน เขาตวัดดาบใส่ทหารรับจ้างร่างยักษ์รอบบริเวณ พวกทหารเทียนจิงส่งเสียงร้องอย่างน่าเวทนา การจู่โจมอันรวดเร็วดึงดูดความสนใจของทุกคนได้อย่างดี กระทั่งหนึ่งในผู้บัญชาการตะโกนขึ้น “มีคนลอบขึ้นเขา ฆ่าพวกมันให้หมด!”
ทหารรับจ้างกลุ่มใหญ่เข้าปะทะ หลินมู่อวี่นึกขำ ทหารกลุ่มนี้อ่อนแอเกินไป! เพียงพริบตา…มือซ้ายหลินมู่อวี่ก็ห่อหุ้มด้วยพลังดวงดาราพร้อมกับปราณยุทธ์สีเลือด เขาใช้มันบดขยี้ศัตรูเบื้องหน้าจนสิ้น!
“เปรี้ยง!”
หมัดซ้ายอันทรงพลังสร้างรอยแยกบนพื้น หนึ่งประทีปพิฆาตชีวันที่ถูกปล่อยด้วยพลังสูงสุดซัดเหล่าทหารรับจ้างจนปลิวว่อน ขณะเดียวกันหลัวอวี่และฟ่างซินก็ใช้โอกาสนี้พุ่งตรงเข้าเมืองไปทันที
“ไปเปิดประตู ข้าจะกันพวกมันไว้เอง” หลัวอวี่กระโจนไปยังประตู
ฟ่างซินหันหลังกลับ ใช้ดาบยาวฟาดฟันทหารรับจ้างห้าคนด้านหลังได้ ทว่าพวกที่เหลือยิงฝนธนูเข้ามาในทันที ฟ่างซินให้ดาบปัดป้องได้แต่ไม่ทั้งหมด ส่งผลให้ลูกธนูบางส่วนยิงโดนหน้าอก แขน และขาทั้งสองข้าง! ร่างกายเขาชุ่มไปด้วยเลือด!
ร่างของฟ่างซินยังไม่ทันได้ล้มลง ทหารรับจ้างก็กรูเข้ามาแทงหอกลงกลางลำตัว คมดาบรุมฟาดฟันร่างกายนายทหารเหรียญทองคนใหม่จนแหลกเป็นชิ้นแทบจำไม่ได้ เหลือเพียงเศษเนื้อและชุดเกราะเท่านั้น
หลินมู่อวี่ทนดูไม่ได้ ตวัดดาบด้วยปราณยุทธ์ผลักทหารรับจ้างออก เสียงธนูดังมาแต่ไกล พวกมันคิดจะใช้วิธีเดียวกับเมื่อครู่เป็นแน่! ทว่าเขาไม่ใช่ฟ่างซิน หลินมู่อวี่ตะโกนเรียกกำแพงน้ำเต้า กระดองเต่าทมิฬ และปราการเกล็ดมังกรออกมาป้องกันฝนธนู! เมื่อหลงหยานเห็นเข้าก็ตกตะลึง…เขาเป็นคนแรกที่เห็นหลินมู่อวี่ใช้วิญญาณยุทธ์น้ำเต้าในสำนักอัศวิน ยิ่งไปกว่านั้น…วิญญาณยุทธ์น้ำเต้าระดับสิบที่หลงหยานเคยเห็น มันไม่ได้แข็งแกร่งเช่นพลังของหลินมู่อวี่!
“ตู้ม!”
ประตูหินถูกทำลาย หลัวอวี่ทำสำเร็จ!
“ฆ่าพวกมันให้หมด!”
ด้านนอกป้อมปราการ ทหารสำนักอัศวินบุกเข้าโจมตีและสังหารทุกคนที่ขวางหน้า ดวงตาเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความกระหายเลือดจนมิอาจหยุดยั้งได้
เพียงพริบตาป้อมปราการหินก็เต็มไปด้วยศพนอนเกลื่อนกลาด เหล่าทหารรับจ้างเทียนจิงถูกกำจัดสิ้น กำแพงป้องกันเดียวที่มีพังทลายลง
“ทหารรับจ้างเทียนจิงถูกกำราบแล้ว!” ใบหน้าหลงหยานเต็มไปด้วยความตื่นเต้นขณะที่ในมือถือหัวของใครบางคนอยู่…เป็นหัวของผู้บัญชาการของกองทหารรับจ้างเทียนจิงที่หลงหยานหมายจะนำไปแลกรางวัลที่ศูนย์บัญชาการ!
หลินมู่อวี่ค่อยๆ กระโดดลงไปยังพื้นด้านล่าง มองกองเนื้อเบื้องหน้า “ท่านฟ่างซินตายแล้วขอรับ”
หลงหยานแสยะยิ้ม “ตายเสียก็ดีแล้ว จะได้ไม่ต้องคอยแบกรับความเจ็บปวดและอะไรอีกมากมายในโลกนี้”
หลินมู่อวี่มองหน้าหลงหยาน “เช่นนั้นเหตุใดท่านไม่ตายเสียเองเล่า?”
หลงหยานหัวเราะ “ข้ายังอยากมีชีวิต…อยากมีความสุขกับความงามของโลกนี้อยู่ ฮ่าๆๆ”
หลัวอวี่กล่าวอย่างจริงจัง “รวมทัพ! เราจะบุกโจมตีฐานหลักของทหารรับจ้างเทียนจิง หาจวนทองคำให้เจอแล้วแจ้งข้า!”
“ขอรับ!”
กลุ่มทหารเหรียญเงิน เหรียญสัมฤทธิ์ และทหารชำนาญการพากันจับอาวุธแล้วเคลื่อนทัพบุกภูเขา สายตาที่แสดงออกมามิใช่สายตาแห่งผู้ผดุงธรรมทว่าเป็นสายตาแห่งความดุร้าย!
หลินมู่อวี่ใช้ฝีเท้าดาวตกพุ่งไปหาหลัวอวี่ “จวนทองคำคือที่ใดกัน?”
หลัวอวี่ตอบ “ว่ากันว่าผู้นำของทหารรับจ้างเทียนจิงฉายา ‘ดาบคลั่ง’ เจียงเฟิงลี่อยู่บนภูเขาทางตอนเหนือนี้มาหลายปี บุกปล้นสะดมหมู่บ้านและเมืองต่างๆ โดยรอบแล้วนำสมบัติที่ได้กลับภูเขา ซึ่งสถานที่ที่ใช้เก็บของมีค่าไว้ก็คือจวนทองคำ ก่อนเราออกทำภารกิจท่านราชทูตใหญ่บอกให้นำของมีค่าในจวนกลับศูนย์บัญชาการด้วย
หลินมู่อวี่ยิ้ม “เราบุกโจมตีกองทหารเทียนจิงเพียงเพื่อทองเท่านั้นหรือ?”
หลัวอวี่ยิ้มตอบ “แล้วจะมีสิ่งใดอีกเล่า?”
ทันใดนั้นมีเสียงร้องดังมาจากด้านหน้า ทหารเทียนจิงราวสองร้อยคนพร้อมม้าศึกสวมเกราะเข้าจู่โจมพวกหลินมู่อวี่ แต่ละคนมีหอกหนาอยู่ในมือ จากพลังที่ปล่อยออกมาคาดว่าอยู่ระดับปรมาจารย์ขอบเขตมนุษย์
“เคร้ง…ฉัวะ!”
ทหารม้าเรียงแถวฝ่ากองทหารชำนาญการและทหารฝึกหัดเข้ามา มีทหารหลายนายที่ถูกแทงและโดนม้าเหยียบจนตาย
หลินมู่อวี่มองอย่างเฉยชา นี่ไม่ใช่การต่อสู้ที่ถูกต้องเขาจึงไม่อยากช่วย
ถึงกระนั้นหลงหยานและหลัวอวี่ต่างช่วยกันกำจัดศัตรูที่เข้ามา พลังยุทธ์ของทั้งคู่ระเบิดออกพร้อมเสียงคำรามลั่น กำราบทหารม้าด้านหน้าจนราบ กลุ่มทหารเหรียญเงินและเหรียญทองแดงบุกทะลวงโจมตี ใช้ทักษะดาบเข้าฟาดฟันกับกองทหารม้า กระทั่งสองร้อยคนถูกกำราบกลายเป็นศพ
กองทัพยังคงมุ่งหน้าต่อ มีค่ายทหารกับธงสลักตัวอักษรภาษาจีนคำว่า ‘เทียนจิง’ อยู่ด้านหน้า
ทหารรับจ้างเทียนจิงกว่าห้าร้อยนายถูกกำจัดสิ้นอย่างน่าเวทนา แล้วกองกำลังที่เหลือจะสู้กับสำนักอัศวินได้อย่างไร เมื่อพลธนูบนหอคอยถูกจัดการแล้ว ทัพทหารสำนักอัศวินก็บุกเข้าไปในค่ายทันที
หลัวอวี่ชักดาบแล้วพุ่งไปด้านหน้าก่อนจะตะโกนออกมา “พลธนูมากับข้า เราต้องตามหาเจียงเฟิงลี่ หากมันยังมีชีวิตอยู่ให้จัดการเสีย หรือหากตายแล้วก็ต้องหาศพให้เจอ!”
“จวนทองคำอยู่ทางเหนือ ตามข้ามา!”
หลงหยานหัวเราะอย่างบ้าคลั่งขณะบุกโจมตีพร้อมทหารเหรียญทองแดง
หลินมู่อวี่ที่อยู่ด้านหลังควบม้าเข้าไป มองดูการต่อสู้ด้วยสีหน้าวิตกกังวล
“แย่แล้ว! ท่านหลงหยานถูกฆ่า!” ไม่นานก็มีเสียงคนตะโกนลั่นด้วยความตื่นตระหนก หลงหยานถูกฆ่าเช่นนั้นหรือ?
หลินมู่อวี่รีบลงจากม้าก่อนจะชักกระบี่ออกและตะโกน “หลงหยานอยู่ไหน? พาข้าไป!”
หลัวอวี่พูดอย่างขมขื่น “ต้องเป็นเจียงเฟิงลี่แน่! มันอยู่ด้านในตำหนัก บัดซบ! เหตุใดข้าจึงคิดไม่ถึงว่ามันซ่อนอยู่ในจวน!”
ไม่นานพวกหลินมู่อวี่ก็มาถึงด้านหน้าจวนทองคำซึ่งไม่มีสิ่งใดนอกจากผนังถ้ำสีดำปูด้วยกระเบื้องสีขาว สมบัติคงซ่อนอยู่ในส่วนลึกของถ้ำเป็นแน่ แต่ตอนนี้เกิดการต่อสู้ชุลมุนระหว่างทหารสำนักอัศวินและใครบางคนที่โดนล้อมอยู่ ชายคนนั้นสวมเกราะดำและถือดาบคู่ร่ายรำไปมาเหมือนพายุ คมวายุอันพลิ้วไหวฟาดฟันเหล่าทหารสำนักอัศวินจนล้มตายในพริบตา
หลินมู่อวี่มองเห็นไกลๆ ศพหลงหยานที่หัวเกือบหลุดจากบ่านอนอยู่หน้าจวนทองคำ
หลินมู่อวี่มิได้รู้สึกโศกเศร้าอันใดจากการตายของเขา หลงหยานที่สู้เพื่อเงินและผู้หญิงนั้นสมควรตายแล้ว ถึงกระนั้นเขาก็เป็นถึงปรมาจารย์ขอบเขตปฐพีขั้นสองระดับสี่สิบห้าแต่กลับตายไวเช่นนี้ หมายความว่าเจียงเฟิงลี่ฝีมือไม่ธรรมดาทีเดียว
“เข้ามา! ข้าจะสังหารพวกเจ้าให้หมด!”
เจียงเฟิงลี่เพียงตวัดดาบ เหล่าทหารเหรียญสัมฤทธิ์ก็ถูกตัดหัวทันที ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความบ้าคลั่งหัวเราะออกมา “ไอ้พวกทหารน่ารังเกียจ เชิญดาหน้าเข้ามา ข้าจะได้ตัดหัวให้ขาดสิ้นแล้วตามล่าครอบครัวของเจ้า จับพวกผู้หญิงกับเด็กมาทำเมีย จนกว่าพวกมันจะร้องขอความตายจากข้า เข้ามา! มาลิ้มรสคมดาบของข้า!”
เจียงเฟิงลี่คลุ้มคลั่ง ร่างกายและดาบห่อหุ้มไปด้วยเลือดและปราณยุทธ์ที่เอ่อล้นออกมา
นี่เป็นความสามารถระดับปรมาจารย์สงครามขั้นหนึ่ง ทว่าน่าเสียดาย…ต่อให้เขาจะแข็งแกร่งเพียงใด เขาก็โจมตีได้อีกเพียงไม่กี่ครั้ง เนื่องจากปราณยุทธ์นั้นมีขีดจำกัด ยิ่งโจมตียิ่งผลาญพลัง เจียงเฟิงลี่ฆ่าไปแล้วห้าสิบห้าคน ส่งผลให้ใบหน้าเริ่มซีดเผือดและปราณยุทธ์อ่อนแอลงอย่างเห็นได้ชัด
หลัวอวี่ที่ไม่ได้ยึดติดกับระดับฐานวรยุทธ์เอ่ยขึ้น “ท่านหลินหยาน…หากท่านอยากได้ผลประโยชน์มากขึ้น นี่เป็นโอกาสดีทีเดียว”
หลินมู่อวี่ที่ปลอมตัวเข้ามา หากไม่แสดงความจงรักภักดี จีหยางจะเชื่อใจเขาได้อย่างไร?
เมื่อคิดได้ดังนั้น หลินมู่อวี่ปล่อยปราณยุทธ์ ก่อนจะขึ้นควบม้าและรวบรวมพลังคล้ายดวงดาวไว้ที่มือซ้าย
“นั่นคือสิ่งใดกัน?!”
เจียงเฟิงลี่หันมามองทางหลินมู่อวี่ หลินมู่อวี่ง้างหมัดพุ่งเข้ามา เนื่องจากไม่สามารถหลบหลีกได้ จึงต้องรีบยกดาบขึ้นมากัน
“เปรี้ยง!”
‘สามประทีปทรกรรมชีวี!’
ดาบแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ หมัดของหลินมู่อวี่พุ่งตรงเข้ากลางอกเจียงเฟิงลี่จนได้ยินเสียงกระดูกแตก และใช้มือข้างที่เหลือเรียกกระบี่เหลียวหยวนแล้วเสียบทะลุหัวใจเจียงเฟิงลี่ หลินมู่อวี่ไม่มีสิ่งใดจะมอบให้ชายผู้นี้เป็นที่ระลึกนอกเสียจากความตาย!