ตอนที่ 712: การปฏิรูปครอบครัว (2)
หนึ่งในเซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 6 พูดกับอีกคน “ซิตู อสรพิษทองริ้วเงินนั้นมีความสามารถในการสู้มาก และพิษของมันก็เป็นที่เลื่องลือมากในทวีปเทียนหยวน ดังนั้นมันคงไม่ง่ายเท่าไรที่จะจัดการมัน ในความคิดของข้า เราควรร่วมมือกันและข้าจัดการกับเจ้างูนี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ เผื่อบางทีมันอาจจะคิดหนี”
ชายชราที่ถูกพูดถึงจ้องไปที่นูบิส เหมือนกับว่าเขาได้ค้นพบสมบัติที่ยิ่งใหญ่ มันมีความโลภเกิดขึ้นในแววตาของเขาก่อนเขาจะหัวเราะแปลก ๆ “ทุก ๆ ส่วนในร่างกายของสัตว์ในตำนานล้วนแล้วแต่คือสมบัติ เมื่อพวกเราทั้งห้าพบสมบัตินั้นแล้ว เราจะปล่อยมันไปไม่ได้ เจ้าปีศาจร้าย หม่าเทิง เรามาทำไปตามที่เจ้าแนะนำกัน มาสู้ด้วยกันและจัดการเจ้าอรพิษเงินริ้วทองในหนทางที่ง่ายและไวที่สุด แล้วก็เอาแกนอสูร พร้อมร่างกายของมันมา”
ชายชรา หม่าเทิง ถูมือของเขา พวกเขากำลังจะได้แกนอสูรขั้น 7 อีกอัน ดังนั้นเขาจึงรู้สึกตื่นเต้นอย่างปิดบังไม่ได้ พลังเซียนมารวมกันอยู่ในมือของเขาและกลายร่างเป็นเคียวยาว 2 เมตร เขาหันหลังและพูดกับ เซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 5 ทั้ง 3 คน “พวกมันคือพวกของเจี้ยนเฉิน และหนึ่งนั้นนั้นดูเหมือนจะเป็นญาติของมัน ดังนั้นพวกเจ้าจะปล่อยให้มันรอดไปไม่ได้ พวกเราจะให้พวกเจ้าจัดการพวกสองคนนั้น ถ้าเจ้าจับมันได้ พวกเราจะใช้มันเป็นตัวประกันในการขู่เจี้ยนเฉิน วิธีนี้จะทำให้เราสำเร็จภารกิจได้ง่ายกว่า”
“ไม่ต้องห่วง พี่รอง ปล่อย 2 คนนั้นให้เราจัดการเอง” หนึ่งในชายชราในกลุ่มเซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 5 ยิ้มอย่างเยือกเย็น
ไป๋ไฮและพวกทั้ง 2 ได้ยินทุกทุกคำที่พวกนั้นพูดกัน มันทำให้เขาเริ่มรู้สึกตึงเครียด ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเขา เขาไม่สามารถต่อต้านพวกนี้พร้อมกันทั้ง 5 คนได้
ท่าทีของนูบิสเริ่มเต็มไปด้วยความตึงเครียด แม้ว่าอรพิษทองริ้วเงินจะมีความสามารถสูงในการต่อสู้ แต่เขาก็สามารถรับมือได้แค่เซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 6 ได้เพียง 1 คนด้วยความแข็งแกร่งที่เขามีในตอนนี้ ถ้าเซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 6 สองคนโจมตีเขาพร้อมพร้อมกัน เขาคงยากที่จะต่อต้านและสู้กลับไปได้แน่นอน
“เจ้ากล้าที่จะเป็นศัตรูกับกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีงั้นหรือ? บางที่เจ้าอาจจะไม่รู้ว่าผู้อาวุโสสูงสุดของเมืองทหารรับจ้างได้หนุนหลังกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีของพวกเราอยู่ ? ” เจียเต๋อไท่ตะโกนออกไป เขาพยายามที่จะใช้ชื่อของผู้อาวุโสสูงสุดเพื่อที่จะขัดขวางคนทั้งห้านั้น
อย่างไรก็ตาม คนทั้งห้านั้นไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับสถานภาพของกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีเลยและก็ไม่เชื่อที่เจียเต๋อไท่พูดเลยแม้แต่น้อย ชายชราซิตูจ้องไปที่เจียเต๋อไท่ด้วยความขบขันและพูด “เจ้าคิดว่าผู้อาวุโสสูงสุดของเมืองทหารรับจ้างคือใคร ทำไมเขาถึงต้องมามีความสัมพันธ์กับกลุ่มทหารรับจ้างที่ไม่มีความสำคัญอะไรแบบนี้ ? เจ้าคิดว่าข้าจะถูกหลอกง่ายง่ายเหมือนเด็กยังงั้นหรือ ? ฮืม หม่าเทิง จัดการมันเลย เราจะเอาแกนอสูรมาจากเจ้าอสรพิษทองริ้วเงินนั้นก่อน” ทันทีที่เขาพูดจบ ชายชราซิตูก็เริ่มต้นด้วยการพุ่งไปที่นูบิสพร้อมกับอาวุธเซียนของเขา ในขณะที่หม่าเทิงที่ยู่ในชั้นสวรรค์ที่ 6 ก็ตามเขามาด้านหลัง พวกเขาจะร่วมมือกันสู้กับนูบิสไปพร้อม ๆ กัน
พวกเซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 5 อีก 3 คนก็ไม่รอช้า พวกเขาพุ่งไปที่เจียเต๋อไท่และไป๋ไฮพร้อม ๆ กัน สองคนในนั้นเผชิญหน้ากับไป๋ไฮ ผู้ที่อยู่ในชั้นสวรรค์ที่ 5 ในขณะที่อีกคนเผชิญหน้ากับเจียเต๋อไท่ที่เพิ่งอยู่ในชั้นสวรรค์ที่ 3
การต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ระหว่างเซียนผู้คุมกฎทั้ง 8 คนมีผลกระทบเหนือพระราชวัง เมื่อคน 2 คนปะทะกัน มันเหมือนกับว่ามีเสียงฟ้าร้องจากพลังงานที่กระเพื่อมขึ้น ส่งพลังแห่งการทำลายล้างไปทั่วทุกทิศทาง พระราชวังและเมืองข้างล่างทั้งหมดได้รับผลกระทบจากคลื่นพลังนี้ ทำให้สิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ นับไม่ถ้วนถล่มลงมาและถนนจำนวนมากก็เกิดรอยแยก พ่อค้าและทหารรับจ้างจำนวนมากในเมืองรู้สึกว่านี้เหมือนวันสิ้นโลก ทุกคนวิ่งหนีกันอย่างอลหม่านและพยายามยกมือป้องหัวไว้ในขณะที่หนี อย่างไรก็ตาม ในขณะที่หลาย ๆ คนกำลังหนี ก็มีบางคนที่ยังติดอยู่ในซากปรักหักพัง เมืองทั้งเมืองสันสนวุ่นวายขึ้นมาทันที
บนท้องฟ้า ความแตกต่างระหว่างความแข็งแกร่งของคู่ต่อสู้มันมีมากเกินไป คนที่อ่อนแอที่สุดซึ่งก็คือเจียเต๋อไท่ ได้รับบาดเจ็บจากคู่ต่อสู้ในการปะทะ 2-3 ครั้ง เขากระอักเลือดอยู่กลางอากาศ ไม่สามารถที่จะต่อสู้ได้อีก ไป๋ไฮถูกกดดันจากชายชราทั้ง 2 ที่อยู่ในระดับความสามารถเดียวกันกับเขาและกำลังเสียเปรียบ เขาได้แต่ป้องกันและไม่สามารถจู่โจมได้ นูบิสก็เช่นกัน เขากำลังถูกกดดันจากเซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 6 สองคนที่เป็นคู่ต่อสู้ของเขา
ฟ่อ ! ทันทีทันใดนั้น เสียงฟ่อที่เหมือนกับร่างวิญญาณได้ระเบิดออกมาจากปากของนูบิส นูบิสกลายร่างเป็นสัตว์อสูรในตำนาน งูสีทองตัวใหญ่ยาวหลายสิบเมตรอยู่ในอากาศและกำลังต่อสู้อย่างตึงมือกับเซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 6 ทั้งสองคน
การแปลงร่างเป็นสัตว์อสูรในตำนานนั้นทำให้ความสามารถในการต่อสู้ของนูบิสนั้นเพิ่มขึ้นอย่างมาก ร่างของเขาได้กลายเป็นสัตว์ในตำนานและมีพิษที่เลื่องชื่อ เขาสามารถที่จะต่อสู้กับเซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 6 ทั้งสองคนได้เพื่อเป็นการคุมเชิงชั่วคราว
อย่างไรก็ตาม เซียนผู้คุมกฎทั้งสองคนก็สู้อย่างไม่ถอย นูบิสจึงอยู่ในฝ่ายถูกกดดันอีกครั้ง และทำได้แค่ป้องกันตัวเท่านั้น
ในท้ายที่สุด ไป๋ไฮไม่สามารถต้านทานการโจมตีจากศัตรูที่ถาโถมเข้ามาได้ ไม่นานหลังจากนั้น เขาก็ได้รับบาดเจ็บและร่วงลงมาจากท้องฟ้าหลังจากที่กระอักเลือด เขาตกลงกระแทกพื้นอย่างแรง
นูบิสที่อยู่ในร่างของงูก็ถูกโจมตีจนเขากระอักเลือด และลอยกระเด็นไปไกล
ชายชราซิตูบินอยู่กลางอากาศและจ้องอย่างเยือกเย็นมายังคนทั้งสามที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส เขาพูดด้วยรอยยิ้มชั่ว “จับพวกมันไว้เป็นตัวประกัน ข้าไม่เชื่อว่าเจี้ยนเฉินจะไม่มา หม่าเทิงไปเอาแกนอสูรของอสรพิษทองริ้วเงินมา”
ทันใดนั้น เซียนผู้คุมกฎทั้งสองคนก็คนก็บินไปทางไป๋ไฮและเจียเต๋อไท่ ในขณะที่ซิตูและหม่าเทิงกำลังบินไปทางนูบิส
“หืม เจ้าหญิงเฒ่านี้ ทำไมเจ้าถึงหุนหันพันแล่นเช่นนี้?”
ในตอนนี้ เสียงชราดังกึกก้องขึ้นมาในบริเวณ หลังจากนั้นไม่นานการมีอยู่ที่เหนือกว่าคนทั้ง 5 คนก็ได้ปรากฏขึ้น ก่อนที่หญิงชรากับไม้เท้าหัวมังกรจะปรากฏขึ้นมาอย่างไร้สุ่มเสียงกลางอากาศ นางออกมาขวางทางเซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 6 ทั้งสองคนไว้
เมื่อได้รู้สึกถึงพลังที่รุนแรงที่มาจากหญิงชรานี้ ท่าทีของชายชราทั้งสองก็เปลี่ยนไปอย่างมาก หนึ่งในนั้นตะโกนออกมา “เจ้าเป็นใครกัน?”
หญิงชราจ้องไปที่ชายชราซิตูและหม่าเทิง อย่างมีพลังและมุมปากของนางก็ม้วนไปด้วยความเย้ยหยัน นางไม่ได้ตอบคำถาม แต่ยกไม้เท้าหัวมังกรขึ้นมาแทน นางแตะมันเบาเบาไปที่คนทั้ง 2 และพลังที่มองไม่เห็นก็ถูกยิงออกมา มุ่งไปที่คนทั้งสองคนนั้น
เซียนผู้คุมกฎทั้งสองรู้ว่าหญิงชรานี้ทรงพลังมากและไม่ได้ประมาทเลยแม้แต่น้อย พวกเขาใช้อาวุธเซียนเพื่อต้านพลังธรรมชาติที่มองไม่เห็นนั้น
พลังธรรมชาติแตกกลางอากาศ มันไม่ได้ทำให้เกิดเสียงหรือพลังงานใด ๆ ออกมา แค่มิติตรงนั้นเริ่มที่จะสั่นไหวและกระเทือนอย่างรุนแรงก่อนที่จะเกิดรอยแยกขึ้นทำให้เห็นหลุมดำขนาดเท่าหัว ในหลุมดำนั้นมีแสงดาวพร่างพราวระยิบระยับอยู่
หญิงชรายืนอยู่และไม่ได้ขยับไปไหน ในขณะที่ทีท่าของเซียนผู้คุมกฎทั้งสองคนที่เผชิญหน้ากับนางอยู่เปลี่ยนไปอย่างมาก พวกเขาเปล่งเสียงออกมาอย่างยากลำบากก่อนที่จะยอมจำนน
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่พวกเขาจะเข้าใจสถานการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของพวกเขา หญิงชราที่เคยอยู่ด้านหน้าเขาก็ย้ายไปปรากฏตัวด้านหลังพวกเขาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ไม้เท้าหัวมังกรของนางหลอมรวมกับอากาศและสะบัดไปอย่างอ่อนโยน มันกระแทกไปที่ด้านหลังของชายชราทั้งสองด้วยความเร็วแสง
พรวด ! ชายชราทั้งสองที่เป็นเซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 6 ก็รู้สึกอ่อนแอขณะที่กระอักเลือด ใบหน้าของพวกเขาซีดลงทันทีก่อนที่จะมองไปที่หญิงชราด้วยความตกใจ
“บ้าเอ้ย ยายแก่บ้านี้ต้องเป็นชั้นสวรรค์ที่ 8 เป็นอย่างน้อยแน่” ชายชราซิตูโพล่งออกมา
Related