ตอนที่ 1997 จีอู๋หมิงลงมือ
“ตัวอัปลักษณ์ เจ้าถูกล่าไล่บี้ตูดขนาดนั้น ยังมีหน้ามาหัวเราะอีกรึ?” ฮูหนิวกล่าวออกไปอย่างไม่อาย
ยี่หัวเราะ “ข้าสังหารมันไม่ได้ แต่มันก็ทําอะไรข้าไม่ได้เหมือนกัน”
หลิงฮันยิ้มและกล่าว “มาร่วมมือกันดีไหม?”
“แน่นอน!”
หลิงฮันคิดว่าคนที่หยิ่งทะนงอย่างยี่ จะไม่ยอมรับการร่วมมือสู้กับผู้อื่นเสียอีก ไม่คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะตอบรับคําเชิญง่ายขนาดนี้
เขาคํารามและพุ่งทะยานเข้าหาปลากะโหลกอย่างรวดเร็ว
“หนิวก็จะสู้ด้วย!” ฮูหนิวคํารามเสียงต่ำ และพุ่งทะยานร่างจู่โจมเช่นกัน
จักรพรรดินีเค้นเสียงเย็นชา แต่ก็โจมตีออกไปอย่างไม่แยแส
สําหรับทางด้านของธิโรว นางทําได้เพียงยืนอยู่รอบข้างเพื่อชมการต่อสู้
ตูม!
หลิงฮันที่กําลังพุ่งทะยาน ถูกปลากะโหลกสะบัดครีบหลังเข้าใส่ ทําให้ร่างถูกซัดลอยกระเด็นในทันที
เขาเข้าใจทันที ว่าทําไมยี่ถึงได้หลบหนีและถูกไล่ล่า ที่แท้พลังของปลากะโหลกตนนี้ก็น่าสะพรึงกลัวอย่างแท้จริง
เพียงแต่ว่าด้วยกายหยาบอันไร้เทียมทานของเขา คงมีแต่ตัวตนระดับตัดวิญญาณสวรรค์เท่านั้น ที่จะสร้างความเสียหายสาหัสให้แก่เขาได้ ในขณะที่ตัวตนระดับตัดวิญญาณปฐพี อาจจะทําได้แค่ทําให้โลหิตของเขาไหลออกมาได้เท่านั้น
หลิงฮันพลิกร่างทะยานกลับมา และหยิบยืมพลังจากหอคอยทมิฬ เขาเคลื่อนที่ด้วยอํานาจแห่งกฎเกณฑ์ห้วงมิติ และไปปรากฏตัวที่ด้านหน้าปลาโครงกระดูกในพริบตา พร้อมกับใช้ดาบอสูรนิรันดร์สะบั้นเข้าใส่
เขารับหน้าที่เป็นแนวหน้าในการรับการโจมตีของปลาโครงกระดูก ในขณะที่คนอื่นๆ ใช้จังหวะที่ปลาโครงกระดูกเปิดช่องว่างกระหน่ำโจมตี
หากพูดถึงในเรื่องของพลังต่อสู้ล่ะก็ ปลาโครงกระดูกตัวนี้สามารถบดขยี้คนอื่นๆ อีกสี่คนได้อย่างง่ายดาย แต่เนื่องจากมันถูกหลิงฮันรั้งเอาไว้ จักรพรรดินี ฮูหนิว และยี่จึงสามารถสําแดงพลังต่อสู้ออกมาได้เต็มที่
การกระหน่ำโจมตีของทั้งสามรุนแรงถึงขนาดปลาโครงกระดูกที่แข็งแกร่งไม่สามารถต้านทานไหว และร่างกายที่เป็นกระดูกของมันเริ่มแตกหัก
เพียงแต่สัญชาตญาณของปลาโครงกระดูกนั้นโหดเหี้ยมเป็นอย่างมาก มันไม่ยินยอมที่จะล่าถอย และยังคงเลือกโจมตีใส่หลิงฮันตรงหน้าแต่เพียงผู้เดียว
หากเปลี่ยนเป็นจอมยุทธระดับแบ่งแยกวิญญาณคนอื่น เป้าหมายแรกพวกเขาจะจัดการย่อมไม่ใช่หลิงฮัน แต่เป็นพวกจักรพรรดินีทั้งสามคน
ด้วยเหตุนี้ปลาโครงกระดูกจึงหนีไม่พ้นโชคชะตาแห่งความตาย และค่อยๆ ถูกพวกหลิงฮันกัดกร่อนชีวิต จนสิ้นชีพลงในที่สุด
“เห้อ สิ่งมีชีวิตใต้มหาสมุทรในระดับแบ่งแยกวิญญาณปฐพี ช่างสังหารได้ช่างเย็นจริงๆ!” หลิงฮันถอนหายใจ หากเขาสามารถใช้ความสามารถหยุดเวลาของหอคอยทมิฬได้ ตัวตนระดับตัดวิญญาณปฐพีย่อมถูกสังหารในไม่กี่อึดใจ
“ความสามารถในการป้องกันของเจ้า แข็งแกร่งอย่างแท้จริง” ยกระเดาะลิ้นกล่าว ในขณะที่ดวงตาทั้งสองข้างของเขาส่องประกายสีเงินทอง ราวกับจิตวิญญาณสู้รบของเขากําลังพุ่งทะยานไปถึงสวรรค์ “ข้าไม่คิดว่าการทําลายพลังป้องกันของเจ้าในตอนนี้จะเป็นไปได้”
หลิงฮันยิ้มเล็กน้อย อีกฝ่ายกล่าวไม่ผิด ในระดับโลกียนิพพานไม่มีใครที่สามารถเป็นภัยคุกคามต่อเขาได้
นอกเสียจากจี่อู๋หมิง
“โอ้ อยู่รวมกันครบเลยนะ” ทันใดนั้นเองเสียงอันก้องกังวานก็ดังขึ้น พร้อมกับร่างของบุรุษหล่อเหลาผู้หนึ่งได้ปรากฏขึ้น และเคลื่อนที่มายังพวกเขาด้วยรอยยิ้ม คนผู้นี้นอกจากจีอู๋หมิงแล้วจะเป็นใครไปได้?
คนผู้นี้ฆ่าไม่ตายจริงๆ เพียงแค่นึกถึงเขาก็โผล่หน้ามาในทันที
“ตัวอัปลักษณ์ เจ้าต้องการอะไร?” ฮูหนวขยับขึ้นหน้า ในระดับพลังเดียวกัน บุคคลผู้นี้เป็นเพียงคนเดียว ที่ทําให้ตกอยู่ในสถานการณ์ยากลําบากได้ เพราะงั้นนางจึงไม่สบอารมณ์ และอยากจะปะทะกับอีกฝ่าย
รอยยิ้มที่มุมปากของจีอู๋หมิงขยายกว้างขึ้น “เรื่องนั้นมันแน่นอนอยู่แล้ว ข้าต้องการกลืนกินชีวิตของพวกเจ้า เพื่อขัดเกลาให้ข้าก้าวไปยังจุดสูงสุดของศาสตร์วรยุทธให้ได้ เพียงแต่พวกเจ้าไม่จําเป็นต้องรู้สึกเศร้าเสียใจไป การเสียสละของพวกเจ้า จะกลายเป็นความดีความชอบต่อทั่วทั้งดินแดนแห่งเซียน และผู้คนในยุคสมัยหน้าจะจดจ้องชื่อของพวกเจ้าไปตลอดกาล
“ช่างเป็นตัวอัปลักษณ์ที่ไม่เจียมตัว!” จักรพรรดินีกล่าวอย่างเย็นชาและเกรี้ยวกราด
จีอู๋หมิงกวาดสายตามองและยิ้ม “ระดับพลังของพวกเจ้ายังอ่อนแอเกินกว่า จะเข้าใจทุกสิ่งที่ข้าทํา และข้าก็ไม่มีความคิดจะอธิบายให้พวกเจ้าฟังเช่นกันเอาเป็นว่า ความตายของพวกเจ้าจะไม่มีวันสูญเปล่า!”
“พรึบ” เขาลงมืออย่างไม่รีรอ โดยที่เป้าหมายแรงก็คือธิดาโร๋ว
ถึงแม้ในชีวิตก่อนเขาจะเคยเป็นราชานิรันดร์ระดับเก้าที่ทรงพลัง และในชีวิตนี้มีพลังต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่าชีวิตก่อน แต่เขาก็ไม่คิดจะประมาท
วิธีการจัดการกับศัตรูหมู่มาก คือต้องไล่บดขยี้ศัตรูจากคนที่อ่อนแอที่สุด
หลิงฮันรีบคว้าร่างของธิดาโร่วและนํานางเข้าไปในหอคอยทมิฬ
จี่อู๋หมิงไม่เหมือนกับปลาโครงกระดูกก่อนหน้านี้ ทั้งสติปัญญาและประสบการณ์ในการต่อสู้ของเขานั้น มีมากกว่าปลาโครงกระดูกไม่รู้กี่เท่า พวกเขาจึงต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก
“ฮ่าๆ!” จี่อู๋หมิงจ้องมองหลิงฮัน “ถ้างั้นก็เริ่มจากจัดการเจ้าก่อนเลยแล้วกัน! สมบัติในร่างของเจ้าต้องเป็นของข้า”
เขาง้างมือเป็นกรงเล็บ และกวัดแกว่งเข้าใส่ศีรษะของหลิงฮัน “ครืนน” อํานาจแห่งกฎเกณฑ์ทั้งเก้าสีพรั่งพรูออกมาจากมือของเขา
หลิงฮันสัมผมได้ถึงแรงกดดันอันหนักหน่วงทันที และกระดูกในร่างเกิดการสั่นสะท้าน ราวกับกําลังจะแตกหัก
ช่างเป็นคนที่น่ากลัวอะไรอย่างนี้
“ฮึ่ม!” หลิงฮันเค้นเสียง เขากวัดแกว่งดาบอสูรนิรันดร์ตอบโต้ด้วยทักษะเก้าดาบพินาศสวรรค์
“เป็นเรื่องน่าเศร้านัก ที่เก้าดาบพินาศสวรรค์ตกไปอยู่ในมือของเจ้า” จีอู๋หมิงยิ้มอย่างโหดเหี้ยม ร่างของเขาพลิกอย่างพริ้วไหว และเบียงทิศทางจากหลิงฮันไปโจมตีใส่จักรพรรดินี
“ตูม ตูม ตูม” กรงเล็บของเขารวบกลายเป็นกําปั้น และซัดหมัดเจ็ดครั้งติดต่อกันออกไป ทุกๆ หมัดที่ปลดปล่อยออกไป มีตราประทับแห่งเต๋าที่ทรงพลังปกคลุมอยู่ ซึ่งมันได้สร้างแรงกดดันให้แก่จักรพรรดิอย่างมหาศาล
จักรพรรดิพยายามต้านทานแรงกดดัน แต่อํานาจของตราประทับจากหมัดทั้งเจ็ดนั้นรุนแรงเกินไป จักรพรรดินี่รู้สึกราวกับกําลังถูกขุนเขาทั้งเจ็ดตกกระทบเข้าใส่ ทําให้นางไม่อาจขยับตัวได้
หลิงฮันตกตะลึง จี่อู๋หมิงแสร้งทําเป็นจะโจมตีเขา แต่แท้จริงแล้วเป้าหมายคือจักรพรรดินี
เขารีบผลักมือใส่ออกไปด้านหน้า “สับเปลี่ยน!”
“ตูม” จี่อู๋หมิงผลักฝ่ามือออกไป แต่ก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่า จู่ๆ ร่างของจักรพรรดินีก็กลายเป็นเลือนราง และปรากฏร่างของหลิงฮันขึ้นมาแทนที่
ฝ่ามือที่พรั่งพรูไปด้วยตราประทับที่ทรงพลัง ตกกระทบเข้าใส่หลิงฮันจนร่างลอยกระเด็น
การสับเปลี่ยนเมื่อครู่คือ อํานาจของหอคอยทมิฬ ที่สามารถทําให้หลิงฮันสับเปลี่ยนตําแหน่งกับคนที่สลักตราประทับห้วงมิติเอาไว้ได้ในระยะที่จํากัด
จักรพรรดินี ฮูหนิว และสตรีนกอมตะ หรือแม้กระทั่งธิดาโร๋วได้ถูกเขาสลักตราประทับห้วงมิติเอาไว้ ซึ่งมันทําให้เขาสามารถช่วยชีวิตจักรพรรดินีเอาไว้ได้
ไม่เช่นนั้นแล้วหากจักรพรรดินีถูกฝ่ามือเมื่อครู่โจมตีใส่ละก็ แม้นางจะสามารถแบ่งความเสียหายไปยังร่างแยกทั้งเก้าได้ นางก็คงสิ้นชีพอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง
จี่อู๋หมิงผู้นี้เป็นสัตว์ประหลาดอย่างแท้จริง!
Related