เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส – ตอนที่ 71: ต้องการพาเธอกลับเหรอ ไม่มีทาง

 
ขณะที่เจี่ยนหยุ่นเฉิงกำลังตะลึงงัน เจี่ยนอีหลิงก็วางเค้กไว้บนมุมโต๊ะข้างๆเจี่ยนหยุ่นเฉิง จากนั้นก็หันไปทำงานของตนเองต่อ
เจี่ยนหยุ่นเฉิงถูกเธอทอดทิ้งไว้ด้านข้าง
เจี่ยนหยุ่นเฉิงอยู่ที่ห้องทำงานของเจี่ยนอีหลิงอีกชั่วขณะ ทานเค้กชิ้นเล็กที่เจี่ยนอีหลิงมอบให้กับเขาและก็ยังช่วยแก้ปัญหาเรขาคณิตให้กับเจี่ยนอีหลิงด้วย
เจี่ยนหยุ่นเฉิงก็พบเห็นเสื้อกันหนาวไหมพรมที่เจี่ยนอีหลิงวางไว้ข้างโต๊ะด้วยเหมือนกัน มันเป็นรูปแบบเดียวกับตัวที่เธอมอบให้กับเขา แต่ว่าสีของด้ายไหมพรมนั้นเป็นสีเทาและมีขนาดของตัวเสื้อเล็กกว่าตัวที่มอบให้กับเขาเล็กน้อย
ดังนั้นเจี่ยนหยุ่นเฉิงจึงมั่นใจว่าเสื้อกันหนาวไหมพรมที่เขาได้รับนั้นถักขึ้นมาจากเจี่ยนอีหลิง
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ มุมปากของเจี่ยนหยุ่นเฉิงก็ยกขึ้นโดยไม่รู้ตัว
แต่ไม่ว่าอย่างไร เจี่ยนหยุ่นเฉิงก็ไม่ได้รอให้เจี่ยนอีหลิงเรียก “พี่ชายใหญ่”
เขาไม่รู้ว่าอีกนานเท่าไหร่ที่จะได้ยินคำว่า “พี่ชายใหญ่” ด้วยเสียงหวานน่ารักอีกครั้ง
###
เจี่ยนหยุ่นเฉิงลงมาจากชั้นบน และเมื่อเขาเห็นปู่ย่าอีกครั้ง เขาก็บอกกับปู่ย่าเจี่ยนว่าเขาจะพาเจี่ยนอีหลิงกลับบ้านในอีกไม่กี่วันนี้
ย่าเจี่ยนโต้กลับเขาไปตรงๆว่า “เธอต้องการอะไร คิดส่งตัวมาก็ส่งมา คิดจะพากลับก็พากลับงั้นเหรอ ไปเลยไป จะไปไหนก็ไป หลานสาวของฉันจะต้องอยู่ที่นี่ พวกเราสองเฒ่าอาจจะทำอย่างอื่นไม่ได้ แต่ดูแลเด็กหญิงตัวเล็กคนหนึ่งยังเกินพอ”
เจี่ยนหยุ่นเฉิงได้แต่หันหน้าไปหาปู่
“ไม่ต้องมองมาที่ฉัน” คราวนี้ชายชรายืนอยู่ข้างเดียวกับย่าเจี่ยน “บ้านเก่าของฉันนั้นเงียบเหงาอ้างว้าง ยากที่หลานสาวจะมาหาฉัน ฉันไม่เต็มใจที่จะส่งเธอกลับไป”
แม้ว่าปู่เจี่ยนจะไม่ได้พูดอย่างตรงไปตรงมาเหมือนกับย่าเจี่ยน แต่ความรักที่เขามีต่อหลานสาวนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องสงสัย
ย่าเจี่ยนกล่าวต่อว่า “ฉันได้ปรึกษากับปู่ของเธอแล้ว อสังหาริมทรัพย์ในชื่อของเรา 80% จะเก็บไว้ให้หลานสาวของฉัน รวมถึงคฤหาสน์เก่าหลังนี้ด้วย ที่เหลืออีก 20% ก็ให้พวกเธอแปดคนแบ่งกันไป อย่าหาว่าพวกเรา ใครให้พวกเธอเป็นเด็กชายตัวเหม็น”
ปู่เจี่ยนกับย่าเจี่ยนนั้นได้วางมือแล้ว บริษัทได้ส่งต่อให้กับลูกๆไปจนหมด และหลังจากนั้นหุ้นของบริษัทก็จะถูกมอบให้กับลูกชายทั้งสามคน
แต่หุ้นกองทุนและอสังหาริมทรัพย์ภายใต้ชื่อของสองผู้เฒ่ายังคงเป็นเงินจำนวนมากโข ความร่ำรวยนี้เพียงพอที่จะให้เจี่ยนอีหลิงไม่ต้องกังวลในเรื่องอาหารและเสื้อผ้าไปตลอดชีวิต
นี่เป็นสิ่งที่เหอเยี่ยนได้คิดถึงอยู่ เพราะว่าทรัพย์สินก้อนนี้มีขนาดใหญ่มาก
“ย่า ผมไม่ขัดข้องกับการที่ย่าจะให้ทรัพย์สินทั้งหมดกับเซี่ยวหลิง ผมเพียงแค่พูดถึงเรื่องที่จะพาเซี่ยวหลิงกลับบ้าน”
เจี่ยนหยุ่นเฉิงไม่มีความสนใจในสมบัติของผู้เฒ่าทั้งสอง และก็ไม่มีปัญหากับการตัดสินใจของผู้เฒ่าทั้งสองในการที่จะยกทรัพย์สินให้กับเจี่ยนอีหลิง
“ไม่ให้ไป ฉันบอกเธอแล้วไง เธอส่งหลานฉันมาได้ แต่ต้องการพาหลานฉันกลับเหรอ ไม่มีทาง ถ้าเธอกล้ามาเอาตัวหลานสาวฉัน ฉันจะไล่กลับไปให้หมด จะไม่เปิดประตูให้ด้วย”
ย่าเจี่ยนเริ่มไม่สนใจเหตุผล
ไม่ต้องกล่าวว่าเจี่ยนหยุ่นเฉิงมา ต่อให้เป็นเจี่ยนชูฉิงกับเวินน่วนมาด้วยกัน เธอก็จะตอบแบบเดียวกันเช่นเดียวกัน
ปู่เจี่ยนกล่าวตามความเป็นจริงอยู่บ้างว่า “หยุ่นเฉิง เธอก็รู้เช่นกันว่ายังมีความขัดแย้งระหว่างเซี่ยวหลิงกับหยุ่นน่าว เรื่องนี้ไม่จบไปง่ายๆ อย่างน้อยเธอต้องรอให้มือของหยุ่นน่าวดีขึ้นกว่านี้ ดังนั้นเธอควรให้เซี่ยวหลิงอยู่กับพวกเราปู่ย่าอย่างสบายใจ”
และเมื่อตอนที่มือของเจี่ยนหยุ่นน่าวดีขึ้นแล้ว ปู่เจี่ยนก็จะหาข้ออ้างอื่นมาปฏิเสธอีก
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับปู่เจี่ยนกับย่าเจี่ยนซึ่งยืนยันหนักแน่น เจี่ยนหยุ่นเฉิงก็ได้แต่ยอมแพ้
อย่างน้อยก็เป็นไปไม่ได้ในตอนนี้ที่จะพูดถึงเรื่องนี้กับปู่เจี่ยน

เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

อ่านนิยาย 大妇 เธอเปลี่ยนปเป็นบอส เรียกว่าใกล้ถึงจุดไคล์แมกซ์แล้วนะครับ ผมละอยากจะ เรียกมันว่าจบภาค 1 เสียด้วยซ้ำไป เสียดายที่ทางต้นฉบับไม่มีภาคหนึ่ง ภาคสอง ขอสปอยล์นิดๆนะว่า พอผ่านช่วงนี้ไป จากอายุ 14 ย่าง 15 นางเอกของเราก็จะกระโดดไป เริ่มกันที่อายุ 18 เลยนะครับ และตอนนั้น ความหวานแหววคู่พระคู่นางก็จะเริ่มมาให้เห็นมากขึ้น เรื่อยๆ อาาาา อดใจติดตามกันต่อไปนะครับ แล้วก็ระวังรักษาตัวเองให้พ้นจากภัยโควิดทุกๆคนนะ ครับ ผมจะแปลงานออกมาเรื่อยๆเป็นเพื่อนแก้เหงายามไม่มีอะไรทำนะครับ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset