“หืม?” หยวนหยาเหว่ยรู้สึกสนใจขึ้นมา
“ตอนนี้เจียงชื่อเป็นผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ คุณแค่ต้องให้เขาไปซื้อสินค้าล็อตนี้บางส่วนไป ความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมดก็ต้องเป็นเขารับผิดชอบ แบบนี้ ผมก็สามารถแบ่งเบาแรงกดดันไปได้ ส่วนคุณก็หาข้ออ้างจัดการเจียงชื่อได้ พวกเราได้ในสิ่งที่ต้องการกันทั้งคู่ ทำไมจะไม่ทำล่ะ?”
พูดแบบนี้ หยวนหยาเหว่ยก็มีสติขึ้นมาทันที
จริงด้วย ให้เจียงชื่อดวงซวยไป ให้เขารับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น ฉวยโอกาสนี้กำจัดเขาไปซะ
ตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อก็จะว่างอีกครั้ง หยวนหยาเหว่ยสามารถควบตำแหน่งนี้ได้อย่างเหมาะสม เชื่อว่าฉีเจิ้นจะไม่หักหน้าเขาเป็นครั้งที่สองหรอก
“ความคิดนี้ดีนะ” หยวนหยาเหว่ยมองเหวยซือ “แต่ว่านายต้องบอกฉันก่อน ว่าพวกเราเสียหายไปประมาณเท่าไหร่?”
เหวยซือเอ่ยพูด “สินค้าล็อตนี้ผมจ่ายไปทั้งหมดสามร้อยล้าน พวกคุณรับไปเพียงหนึ่งส่วน ก็จะขาดทุนประมาณหนึ่งถึงสองร้อยล้าน”
หนึ่งถึงสองร้อยล้าน
มากไปหน่อย
แต่ว่าราคาที่ต้องจ่ายในครั้งนี้ เพื่อจัดการเจียงชื่อได้ ก็ถือว่าคุ้มค่ามาก
ยิ่งไปกว่านั้น เงินนี่เป็นเงินของบริษัทเครื่องประดับดาวฤกษ์ ไม่ใช่เงินของหยวนหยาเหว่ยเอง ลองดูสักครั้งก็ได้!
“ตกลง” หยวนหยาเหว่ยพูดด้วยความยินดีปรีดา
ทั้งสองคนยกแก้วชนกัน แล้วดื่มจนหมดแก้ว
แผนการชั่วร้ายที่จะกำจัดเจียงชื่อ ได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว
เจียงชื่อในตอนนี้ยังคงนอนหลับอยู่ที่บ้าน ไม่รับรู้ถึงอะไรทั้งสิ้น เมื่อคืนเรื่องต่างๆ ทำให้เขารู้สึกเหนื่อยล้า วันนี้จึงอดไม่ได้ที่จะนอนให้มากหน่อย
ขณะที่กำลังหลับอย่างเคลิบเคลิ้ม ก็รู้สึกว่าที่หน้ามีอะไรไหลอยู่
เมื่อลืมตาขึ้นมา ก็เห็นติงเมิ่งเหยนถือปากกาหมึกซึมสีดำด้ามหนึ่งนอนคว่ำอยู่ข้างเจียงชื่อ ไม่รู้ว่าวาดอะไรไปบนหน้าของเขาบ้าง
“เธอทำอะไรน่ะ?” เจียงชื่อตกใจมาก
“ไม่ได้ทำอะไรนี่นา ก็แค่วาดเต่าน้อยบนหน้าของนาย เต่านอนที่ชอบนอน อิอิอิ”
เจียงชื่อลุกพรวดขึ้นทันที แล้วรีบไปห้องน้ำเพื่อล้างรูปเต่าน้อยบนหน้าออก
“เธอเนี่ยนะ ยิ่งอยู่ยิ่งซุกซนจริงๆ เลย”
ติงเมิ่งเหยนยักไหล่ “ยังมาว่าฉันอีก นายดูสิ แสงอาทิตย์ส่องก้นแล้วนอนยังหลับอยู่ได้”
เจียงชื่อเดินออกมาจากห้องน้ำ “ก็เพราะเมื่อคืนช่วยเฟิงเฉิง พี่สองของเธอไงล่ะ ถึงได้นอนเอาดึกดื่น ง่วงชะมัดเลย”
“จริงสิ ยังไม่ได้ถามนายเลย เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นเหรอ?”
“จะว่าไปแล้วก็ค่อนข้างอันตรายจริงๆ พี่ใหญ่ของเธอลงมือโหดเหี้ยมจริงๆ เกือบกำจัดติงเฟิงเฉิงได้แล้ว”
เจียงชื่อเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟังอย่างละเอียดหนึ่งรอบ
ติงเมิ่งเหยนฟังจบก็ส่ายหน้า
“ติงหงเหย้าทำเกินไปแล้วมั้ง? เขาอยากกำจัดติงเฟิงเฉิงขนาดนี้เลยเหรอ?”
“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว ตอนนี้ติงเฟิงเฉิงเป็นหนามในใจเขา ถ้าไม่ถอนออก ก็คงกินไม่ได้นอนไม่หลับ”
“งั้นพี่สองของฉันก็ตกอยู่ในอันตรายแล้วสิ”
เจียงชื่อยักไหล่ “ถ้าไม่อันตรายจะทำธุรกิจใหญ่โตสำเร็จได้ยังไง? ถ้าหากอยู่ๆ มานั่งตำแหน่งเจ้าบ้านของตระกูล งั้นติงเฟิงเฉิงก็จะไม่มีความภาคภูมิใจในตัวเองเลย อันตรายยังไงก็ต้องมีอยู่แล้ว ตอนนี้พวกเราได้แต่เดินอย่างระมัดระวัง คอยป้องกันติงหงเหย้าในทุกๆ เรื่อง”
ขณะที่พูด โทรศัพท์มือถือของเจียงชื่อก็ดังขึ้น
“ฮัลโหล?”
“เจียงชื่อ ฉันเอง หยวนหยาเหว่ย”
“มีเรื่องอะไรครับ?”
“คืออย่างนี้ ตอนนี้บริษัทมีสินค้าล็อตหนึ่งที่ต้องจัดซื้อ คุณเพิ่งรับตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อไม่ใช่เหรอ? เรื่องนี้ก็ตกเป็นหน้าที่ของคุณแล้ว”
หยวนหยาเหว่ยเล่าสถานการณ์ให้ฟังอย่างละเอียดแล้ววางสายไป
เจียงชื่อมองโทรศัพท์ มองติงเมิ่งเหยน แล้วฝืนยิ้มพลางส่ายหน้า “คลื่นลูกเดิมยังไม่สงบ คลื่นลูกใหม่ก็มาอีกระลอก”