เช้าวันถัดมา
หยวนหยาเหว่ยดื่มเหล้าย้อมใจอยู่ในผับคนเดียว รู้สึกอัดอั้นตันใจเป็นอย่างมาก ยังรู้สึกกลัดกลุ้มใจกับเรื่องเมื่อวานอยู่
ตั้งแต่ฉีเจิ้นมาที่นี่ จากที่เขาเป็นใหญ่ที่สุดก็กลายเป็นมีอำนาจรองลงมา
นี่ยังไม่เท่าไหร่
แต่ที่ทำให้เขาโมโหที่สุดก็คือเจียงชื่อปีนขึ้นมาบนหัวของเขา!
นี่มันอะไรกัน?
เขาหยวนหยาเหว่ยทำงานด้วยความลำบากอยู่ที่บริษัทเครื่องประดับดาวฤกษ์มาสิบกว่าปี แต่กลับสู้คนนอกคนหนึ่งไม่ได้ด้วยซ้ำ?
ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ ค่าตอบแทนมากมายเท่าไหร่กัน อยู่ๆ นึกจะยกให้เจียงชื่อก็ให้เจียงชื่อเลยงั้นเหรอ ไม่เคารพความคิดเห็นของหยวนหยาเหว่ยเลยแม้แต่น้อย
การกระทำทุกอย่างของฉีเจิ้น ทำร้ายจิตใจของหยวนหยาเหว่ย
แก้วแล้วแก้วเล่า
อึดอัดใจโว้ย
ทันใดนั้น ผู้ชายรูปร่างผอมบางคนหนึ่งได้มานั่งข้างๆ เขา แล้วสั่งเหล้ามาหนึ่งแก้ว ดื่มเป็นเพื่อนหยวนหยาเหว่ย
ผู้ชายคนนั้นจิบหนึ่งอึก แล้วยิ้มพลางเอ่ยพูด “ผู้จัดการหยวน คนที่มีตำแหน่งอย่างคุณ ทำไมมาดื่มเหล้าย้อมใจอยู่ที่นี่คนเดียวล่ะ?”
หยวนหยาเหว่ยมองอีกฝ่าย เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน แต่กลับไม่คุ้นเคย
“คุณเป็นใคร?”
“ผมชื่อเหวยซือ เป็นผู้จัดการสาขาของบริษัทเครื่องประดับเส้ายิน”
หยวนหยาเหว่ยขมวดคิ้วขึ้นมา
เครื่องประดับเส้ายิน?
เขารู้ดี ว่านั่นเป็นบริษัทเครื่องประดับบริษัทใหญ่แห่งหนึ่งที่เป็นศัตรูกับบริษัทเครื่องประดับดาวฤกษ์ แต่เครื่องประดับเส้ายินส่วนมากเป็นตลาดระดับล่าง ต่างจากเครื่องประดับดาวฤกษ์
“คนของเส้ายิน มานั่งข้างผมทำไม?”
เหวยซือยิ้ม “ผู้จัดการหยวน ผมก็เหมือนคุณ ทำงานแทนเจ้านาย ดังนั้นจึงเข้าใจความรู้สึกของคุณเป็นอย่างดี ทำงานอย่างยากลำบากอยู่ที่เขตเจียงหนาน แต่พอเจ้านายมา ผลประโยชน์ทุกอย่างกลับถูกเขากลืนไปหมด นี่ยังไม่เท่าไหร่ แต่ที่น่าโมโหไปกว่านั้น คือให้คนอื่นได้ผลประโยชน์ที่ตัวเองเป็นคนสร้างมันขึ้นมา น่าโมโหจริงๆ!”
หยวนหยาเหว่ยตบโต๊ะอย่างแรง
“นั่นสิ”
“ฉีเจิ้นเป็นประธาน ฉันยอมรับ”
“แต่ไอ้เจียงชื่อนั่นมันอะไร? มีสิทธิ์อะไรมาแย่งของจากปากฉันไป?”
“ไม่ได้ช่วยออกแรงเลยสักนิด ยังมาเอาผลประโยชน์ไปฟรีๆ”
“พ่อมึงเอ้ย!”
ยิ่งพูดก็ยิ่งหยาบคาย หยวนหยาเหว่ยแทบจะอยากหยิบเอาโทรโข่งตะโกนไปให้ทั่ว
เหวยซือพยักหน้า พูดอย่างเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง “ความรู้สึกของคุณผมเข้าใจดี ดังนั้นผู้จัดการหยวน พวกเรามาร่วมมือกันหน่อยเป็นไง?”
หยวนหยาเหว่ยกังวลใจขึ้นมาทันที
เขามองเหวยซืออย่างไม่เป็นมิตร “ไอ้หนุ่ม อย่าคิดว่าฉันอารมณ์ไม่ดีอีกทั้งยังดื่มไปเยอะ แล้วจะมาหลอกฉันเล่นนะ กูอยู่ในวงการนี้มาสิบกว่าปีแล้ว มีเรื่องอะไรที่ยังไม่เคยเจอบ้าง?”
“ถ้าหากแกต้องมายุแยงตะแคงรั่ว เพื่อให้เครื่องประดับเส้ายินข่มเครื่องประดับดาวฤกษ์ได้ บอกแกไว้เลยว่านะเก็บแรงไว้ดีกว่า ฉันหยวนหยาเหว่ยไม่ได้หลอกง่ายขนาดนั้น”
เหวยซือรีบโบกปัดมือ “นี่ ผู้จัดการหยวนคุณเข้าใจผิดแล้ว ที่จริงผมมีเรื่องอยากให้คุณช่วย ถ้าทำเรื่องนี้สำเร็จก็เป็นผลดีต่อตัวคุณเองด้วย วินวินกันทั้งสองฝ่าย”
หยวนหยาเหว่ยดื่มเหล้าหนึ่งอึก “พูดมา”
หยวนหยาเหว่ยมองไปรอบๆ แล้วเข้าไปกระซิบข้างหูของเขา “ช่วงนี้ผมซื้อสินค้าใหม่มาได้จำนวนหนึ่ง แต่ดูพลาดไป สินค้าทั้งหมดล้วนเป็นสินค้าไม่มีคุณภาพ ขาดทุนไปก้อนโต”
“ดังนั้น ผมอยากให้คุณช่วยแบ่งสินค้าล็อตนี้ไปส่วนหนึ่ง ช่วยผมแบ่งเบาภาระ ไม่อย่างนั้น ผมต้องถูกเจ้านายด่าตายแน่เลย”
นี่มันเรื่องอะไรกัน?
หยวนหยาเหว่ยแสยะยิ้มแล้วเอ่ย “แกเห็นฉันเป็นคนโง่เหรอ? แกสายตาไม่ดีเอง ซื้อของไม่ได้เรื่องมา แล้วจะให้ฉันช่วยแกรับผิดชอบเนี่ยนะ?”
เหวยซือพูดต่อไปว่า “ไม่ใช่ให้คุณช่วยรับผิดชอบ แต่ให้เจียงชื่อมารับผิดชอบแทน”