เซวข่ายตกตะลึง กล่าวยิ้มๆ “ผมพูดผิดไป ผมจะดื่มสามแก้วเป็นการลงโทษตัวเอง!”
ว่าแล้วเซวข่ายก็รินเหล้าเต็มแก้วตัวเอง แล้วดื่มรวดเดียวจนหมด ต่อเนื่องกันสามแก้ว
หานเซี่ยวเทียนและคนอื่นๆ ก็ตกใจเช่นกัน เดิมทียังคิดว่ามันเป็นงานเลี้ยงที่มีจุดประสงค์แอบแฝงอยู่ที่จัดขึ้นเพื่อพวกเขาโดยเฉพาะ แต่คิดไม่ถึงว่าเซวข่ายจะลงโทษตัวเอง
ในเวลานี้ ซูเฉิงอู่มีเพียงความรู้สึกสำนึกผิดอยู่ในใจอย่างมากมาย ถ้ารู้อย่างนี้เขาจะคอยติดตามหยางเฉินตลอดเวลา คงจะไม่มีสภาพตกอับอย่างในตอนนี้
ทั้งไม่สามารถทำให้หยางเฉินมองเห็นค่า แม้แต่โอกาสที่จะติดตามตระกูลซูก็ยังไม่ให้ตระกูลเซว
แต่บนโลกนี้ไม่มียาสำนึกผิด มาเสียใจตอนนี้มันก็สายเกินไปแล้ว
“คุณหยาง ผมอยากจะขอเชิญคุณมาที่ตระกูลเซว ขอเพียงคุณยอมมา จากนี้ไปกิจการในมือคุณทั้งหมดจะได้รับการประชาสัมพันธ์ในนามของตระกูลเซว และตระกูลเซวจะไม่คิดเงินแม้แต่บาทเดียว”
ทันใดนั้นเซวหยวนป้าก็ยิ้มหวานพลางกล่าวว่า “ไม่ทราบว่าคุณหยางจะสนใจหรือไม่?”
พอพูดออกไปเช่นนี้ ทุกคนในที่นี้ก็ตกตะลึง!
ตระกูลเซวเป็นหนึ่งในตระกูลเดอะคิง การที่สามารถเข้าร่วมตระกูลเดอะคิงได้ นับเป็นเรื่องที่สร้างเกียรติยศให้แก่วงศ์ตระกูลอย่างมากแล้ว
ตอนนี้ตระกูลเซวกล้าเชิญหยางเฉิน แถมยังยินดีที่จะให้หยางเฉินใช้ชื่อเสียงของตระกูลเซว เพื่อประชาสัมพันธ์กิจการของตัวเอง
ในจิ่วโจว แค่การที่กิจการสามารถมีส่วนเกี่ยวข้องกับราชวงศ์หรือตระกูลเดอะคิง ก็ได้เข้าสู่ห้าร้อยอันดับแรกของโลกแล้ว
ในขณะที่ทุกคนคิดว่าหยางเฉินจะตอบตกลง เขากลับส่ายหน้าและกล่าวว่า “ไม่สนใจ!”
ไม่สนใจ?
เขาปฏิเสธอย่างคาดไม่ถึง!
แม้แต่เซวหยวนป้าเองก็ถึงกับอึ้งไป ด้วยสถานะของเขานั้นมีโอกาสมากที่จะขึ้นเป็นเจ้าตระกูลเซวในอนาคต เขาตั้งใจมาเชิญหยางเฉินเข้าร่วมตระกูลเซว แต่กลับถูกปฏิเสธ?
“คุณหยาง คุณไม่ลองพิจารณาดูหน่อยเหรอ?”
เซวข่ายก็เอ่ยปากถามขึ้นเช่นกัน
ชายหนุ่มคนหนึ่งที่อาจมีกำลังต่อสู้ทัดเทียมยอดฝีมือระดับสุดยอดของตระกูลเซว ต้องมีพื้นที่มากมายให้พัฒนาและคุ้มค่าแก่การฝึกอบรม
เซวหยวนป้าไม่ยอมจำนน ยังคงพูดต่อไป “ขอเพียงคุณหยางยินดีเข้าร่วมตระกูลเซว ผมจะขอให้ยอดฝีมืออันดับหนึ่งของตระกูลเซวรับคุณหยางเป็นศิษย์ ผมสามารถรับประกันได้ว่าภายในสิบปี จะฝึกฝนคุณหยางให้เป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของตระกูลเซว”
“ถ้าคุณหยางไม่รังเกียจ ผมยินดีจะรับคุณเป็นลูกบุญธรรม ได้รับสิทธิและผลประโยชน์ของตระกูลเซวประหนึ่งลูกหลานราชา”
แม้หยางเฉินเองก็คิดไม่ถึงว่า เซวหยวนป้าจะเสนอผลประโยชน์มากมายเพื่อดึงดูดเขา
ไม่ว่าจะเป็นสถานะยอดฝีมืออันดับหนึ่งของตระกูลเซว หรือลูกบุญธรรมของเซวหยวนป้า เมื่ออยู่ในตระกูลเซวก็สามารถทำอะไรได้ตามใจแล้ว
ในบรรดาผู้นำที่นั่งอยู่หลายคน นอกจากหานเซี่ยวเทียนที่รู้จักตัวตนของหยางเฉิน คนอื่นๆ ล้วนมีสีหน้าประหลาดใจและอิจฉา
เพียงแต่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือ เหตุใดต้องใช้เวลาถึงสิบปีด้วย? แม้ตอนนี้ยอดฝีมืออันดับหนึ่งของตระกูลเซว ก็ไม่คู่ควรเป็นคู่ต่อสู้ของหยางเฉินด้วยซ้ำ
ไม่เช่นนั้น การรักษาดินแดนเหนือจะไม่ตกมาถึงมือหยางเฉินด้วยซ้ำ
ส่วนฐานะลูกบุญธรรมของเซวหยวนป้า สำหรับหยางเฉินแล้ว ยิ่งไม่มีแรงดึงดูดใดๆ
เขาออกมาจากชายแดนเหนือแล้ว แต่ทักษะติดตัวก็ยังเป็นของเขาเช่นเดิม
ในโลกใบนี้ ก็ยังนับถือผู้มีวรยุทธเป็นใหญ่ ด้วยความแข็งแกร่งของหยางเฉิน อยากได้สิ่งใดแล้วไม่ได้บ้าง?
เซวหยวนป้ามีสีหน้าภาคภูมิใจ เขาคิดว่าเมื่อเสนอผลประโยชน์จำนวนมากเช่นนี้แล้ว หยางเฉินต้องตอบตกลงแน่นอน
แต่เขาต้องผิดหวังแล้ว ท่ามกลางการจับจ้องของทุกคน หยางเฉินส่ายหน้าและกล่าวว่า “ไม่สนใจ!”
ก็ยังเป็นคำตอบสามคำนี้เช่นเดิม
การปฏิเสธของหยางเฉินในครั้งนี้ ทำให้ทุกคนตัวแข็งเป็นก้อนหินอีกครั้ง
“ทำไมล่ะ?”
เซวหยวนป้าถามขึ้น
“คำตอบของผมยังไม่ชัดเจนเพียงพออีกหรือ?” หยางเฉินกลับงุนงงมากเสียเอง
คราวนี้ ในที่สุดเซวหยวนป้าก็เข้าใจว่า หยางเฉินไม่ได้มีความคิดที่จะเกี่ยวข้องกับตระกูลเซวเลย
รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาหายไปอย่างสิ้นเชิง
ทั่วทั้งห้องส่วนตัวต่างสะกดอารมณ์ ผู้นำเหล่านั้นยิ่งอกสั่นขวัญหาย ราวกับว่าหายใจยังได้ไม่ทั่วท้องเลย
ความหวาดกลัวเวียนวนรอบหัวใจของทุกคน
มีเพียงหยางเฉินเท่านั้น ที่ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หยิบตะเกียบขึ้นมาและเริ่มกินอาหารอีกครั้ง
“หยางเฉิน คุณรู้ไหมว่า ไม่เคยมีใครกล้าปฏิเสธผมมาก่อน!”
ในที่สุดเซวหยวนป้าก็เอ่ยขึ้น ด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาขึ้นมาก
“เพราะไม่มีใครเคยปฏิเสธคุณมาก่อน ดังนั้นหากคุณต้องการให้ผมเข้าร่วมตระกูลเซว ผมก็จำเป็นต้องเข้าร่วมงั้นเหรอ?”
หยางเฉินถามอย่างไม่แยแส
“ถ้าผมบอกว่า คุณจำเป็นต้องเข้าร่วมตระกูลเซวล่ะ?” เซวหยวนป้าหรี่ตาพูด
ทันใดนั้นหยางเฉินก็ยิ้มออกมา “สมกับที่เป็นคนของตระกูลเดอะคิง ยังคงเผด็จการอยู่เสมอมา!”
พูดจบเขาก็ลุกขึ้นยืน กวาดสายตามองไปที่ผู้นำตระกูลมหาเศรษฐีที่เหลืออีกห้าคนและถามว่า “ผมจะไปแล้ว พวกคุณล่ะ?”
“ผมจะไปกับคุณ!”
หานเซี่ยวเทียนลุกขึ้นยืนทันที
ขณะที่หยางเฉินกำลังจะไป ยังถามพวกเขาว่าใครจะไปกับเขาบ้าง เห็นได้ชัดว่าเขาให้โอกาสผู้นำตระกูลเหล่านี้อีกครั้ง
ถ้าครั้งนี้ยังพลาดอีก เกรงว่าชาตินี้จะไม่มีหวังได้เกี่ยวดองกับหยางเฉินแล้ว
จากนั้นกวนเจิ้งซานก็ลุกขึ้นยืน “ผมก็จะไปกับคุณด้วย!”
แม้ว่ากวนเจิ้งซานจะหวาดกลัว แต่รู้จักหยางเฉินมานานจนป่านนี้ ยังไม่เคยเห็นหยางเฉินพ่ายแพ้มาก่อน
ในเมื่อเขาถามว่าใครต้องการจะไปด้วย ก็ต้องมีความมั่นใจว่าจะพาคนที่ยินดีไปกับเขาออกไปด้วยกันได้
ผู้นำตระกูลที่เหลืออีกสามคนคือ ซูเฉิงอู่ ยังมีผู้นำตระกูลข่งและตระกูลเติ้งด้วย
ผู้นำตระกูลข่งกับตระกูลเติ้งน่ะช่างเถอะ พวกเขาไม่เคยติดต่อกับหยางเฉิน แค่เคยเห็นกำลังต่อสู้ที่น่ากลัวของหยางเฉินด้วยตาตัวเอง
แต่ลำพังกำลังของหยางเฉินที่แสดงออกมา ในสายตาของพวกเขา การเป็นปฏิปักษ์กับตระกูลเซว มีแต่จะเป็นการรนหาที่ตายเท่านั้นเอง
ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีความคิดที่จะออกไปกับหยางเฉิน
มีเพียงซูเฉิงอู่เท่านั้น ที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความลังเล
เขาเคยพลาดโอกาสที่จะคบค้าสมาคมกับหยางเฉินมาก่อน หากครั้งนี้ยังพลาดอีกครั้ง ก็อย่าคิดจะได้เข้าใกล้หยางเฉินอีกเลย
“ผมจะไปกับคุณด้วย!”
หลังจากลังเลอยู่ไม่กี่วินาที ในที่สุดซูเฉิงอู่ก็ตัดสินใจลุกขึ้นยืนต่อหน้าทุกคน
ทั้งหานเซี่ยวเทียนและกวนเจิ้งซานรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย หยางเฉินชำเลืองมองเขาแล้วถอนสายตากลับ
สีหน้าของเซวหยวนป้ามืดมนจนถึงขีดสุด ความโกรธทำให้เขาอยากจะฉีกหยางเฉินให้เป็นชิ้นๆ ในตอนนี้
“พ่อหนุ่ม ผมจะมอบโอกาสสุดท้ายให้คุณ คุณ…”
เซวหยวนป้ายังต้องการให้หยางเฉินเข้าร่วมตระกูลเซว แต่ก่อนที่เขาจะพูดจบก็ถูกหยางเฉินตัดบท “ผมต่างหากที่จะให้โอกาสคุณติดตามผมได้ ขอเพียงคุณยินยอม คุณก็จะได้เป็นราชาตระกูลเซวในอนาคต”
ตระกูลเซวเป็นตระกูลเดอะคิง แต่หยางเฉินกลับใช้คำว่าราชาตระกูลเซว ความหมายนั้นชัดเจนว่าเขาสามารถช่วยให้ตระกูลเซวกลับเข้าสู่ราชวงศ์ได้
เซวหยวนป้าย่อมเข้าใจอยู่แล้ว แต่เขาจะเชื่อคำพูดของชายหนุ่มอายุเพียงยี่สิบเจ็ดปีได้อย่างไร?
“นี่คุณกำลังรนหาที่ตาย!”
เซวหยวนป้าคิดว่าหยางเฉินกำลังดูถูกตัวเอง เขาโกรธทันที
หยางเฉินมองเซวหยวนป้าด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ ก่อนจะหันหลังกลับและกำลังจะออกไป
หานเซี่ยวเทียนและกวนเจิ้งซานรวมถึงซูเฉิงอู่ก็รีบลุกขึ้นตามไป
“ใครจะออกไปได้โดยที่ไม่ได้รับอนุญาตจากผม?”
เซวหยวนป้าตะโกนด้วยความโกรธ ยอดฝีมือของตระกูลเซวที่อยู่ด้านหลัง เข้ามาขวางอยู่ตรงหน้าหยางเฉินในเกือบจะทันที เฉกเช่นภูตภูเขาแปลงกาย
“จะไสหัวออกไปหรือยอมตาย!”
หยางเฉินมองไปที่ยอดฝีมือของตระกูลเซว แล้วพูดอย่างเย็นชา
“พูดจาห้าวหาญยิ่งนัก! สิ่งใดที่เซวหยวนป้าไม่ได้มา ก็ต้องทำลายเท่านั้น!”
เซวหยวนป้าหัวเราะเยาะ แล้วสั่งการว่า “เหมิงตัน ทำลายวรยุทธเจ้าหมอนี่ซะ!”