บริษัทไททันแห่งสุดท้ายถูกก่อตั้งขึ้นในซานดิเอโก ซึ่งเป็นบริษัทที่ใหญ่มาก พวกเขาเป็นซัพพลายเออร์หลักสำหรับผลิตภัณฑ์ความมั่นคงแห่งชาติและความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสองประเทศใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกาเหนือนั่นคือแคนาดาและสหรัฐอเมริกา ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นหน่วยบังคับบัญชาอื่นๆ ของรัฐบาลเช่น หน่วยสืบราชการลับ และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอื่นๆ ของรัฐบาล
เบลคแนะนำว่า การประมูลในครั้งนี้เขาจะใช้บริษัทนี้ พวกเขามีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดหาระบบ C4ISR ซึ่งเป็นระบบสำหรับการฝึกการควบคุม การสื่อสาร คอมพิวเตอร์ การสืบสวน การตรวจสอบ และระบบการฝึกการรุกและป้องกันที่ทันสมัยซึ่งรวมการลาดตระเวน
“การจ้างบริษัทรักษาความปลอดภัยทั้งสี่แห่ง มันเป็นราคาเพียงเล็กน้อยใช่ไหม?” ฉินสือโอวถาม
เบลคตอบออกมาอย่างสบายๆ ว่า “เมื่อเทียบกับกำไรของเราแล้ว ไม่ได้ถือว่าเรื่องใหญ่อะไร รวมแล้วประมาณแปดล้านดอลลาร์เท่านั้น แต่ว่าเรื่องที่ยากคือการจะทำให้บริษัทป้องกันทั้งสี่ร่วมมือกัน บริษัทพวกนี้มีความเชื่อมั่นใจตัวเองสูงมาก พวกเขาต่างคิดว่าตัวเองนั้นดีที่สุด และมักจะดูถูกบริษัทอื่นๆ”
แม้ว่าเขาจะไม่ได้อธิบายอะไร แต่ฉินสือโอวก็เข้าใจ ของพวกนี้จำเป็นที่จะต้องใช้ทรัพยากรเครือข่าย ซึ่งตระกูลเบลคไม่ได้ขาดแคลนทรัพยากรในเรื่องนี้ ในงานประมูลของพวกเขาในครั้งนี้ ผู้ที่ให้ความร่วมมือมากที่สุดคือบริษัทรักษาความปลอดภัย
เมื่อได้เห็นสมาชิกคนสำคัญของตระกูลเบลคแล้ว ฉินสือโอวก็เข้าไปยังโถงนิทรรศการพร้อมกับเบลค การจัดแสดงงานในครั้งนี้ใช้พื้นที่ทั้งหมดสี่ชั้น ทุกชั้นมีบอร์ดี้การ์คอยดูแลความปลอดภัยอยู่ชั้นล่ะไม่ต่ำกว่ายี่สิบนาย เหล่าบอดี้การ์ดสวมแว่นกันแดดและใส่หูฟัง พวกเขากวาดสายตามองดูเหล่าผู้เข้าร่วมงานด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ ราวกับว่าพวกเขาเป็นเหมือนหุ่นยนต์
เมื่อเข้ามาในห้องโถง ฉินสือโอวก็เห็นโครงกระดูกเป็นอย่างแรก โครงกระดูกพวกนี้มีสีที่ซีดเซียว บนกระดูกพวกนั้นมีร่องรอยของสัตว์ทะเลเล็กๆ ติดอยู่ โครงกระดูกโครงนี้กำลังสวมใส่ชุดเกราะลามินาร์อยู่ หัวสวมหมวกเหล็กและสวมใส่หน้ากากผีอันน่ากลัว ในมือของมันถือคันธนูและลูกธนูที่มีขนาดยาวเกือบเท่ากับมันไว้อยู่
หนึ่งในนั้น กระดูกแขนที่ถือธนูอยู่และคันสรอยู่นั้นแข็งแรงเป็นพิเศษ ทำให้กระดูกด้านหลังอีกด้านหนึ่งนั้นบิดเบี้ยว ที่กระเดือยของกระดูกนั้นมีความหนาเป็นพิเศษ ทำให้รู้สึกถึงความบ้าคลั่งและน่ากลัว ดูน่าสนใจเป็นอย่างมาก
ฉินสือโอวจำมันได้ในทันที ชุดเกราะและธนูยาวอังกฤษ พวกมันเป็นอาวุธทางวัฒนธรรมที่พวกเขากู้มาได้จากซากเรืออับปาง สายเอ็นของธนูนั้นขาดไปแล้ว เขาได้เปลี่ยนเส้นใหม่แล้ว แต่ว่าพอมาเห็นแบบนี้แล้ว น่าจะต้องเปลี่ยนอีกรอบ สายธนูนั้นยังคงต้องเป็นสายธนูแบบเก่า แต่ว่ามันถูกแค่ถูกนำมาขึงและเชื่อมใหม่เท่านั้น
“อาวุธและเกราะพวกนี้ ล้วนได้มาจากเรือที่อับปางงั้นเหรอคะ?” วินนี่ถามขึ้นมาด้วยความสงสัย มีนักข่าวเข้ามาพร้อมกับกล้องถ่ายรูป เธอจึงยืนอยู่ข้างโครงกระดูกและถ่ายรูปหมู่พร้อมรอยยิ้ม
เบลคแนะนำว่า “ไม่ได้มีเพียงแค่อาวุธและชุดเกราะเท่านั้น แม้แต่โครงกระดูกนี้ ก็เป็นสิ่งที่นำขึ้นมาจากเรืออับปาง” เขาพูดพลางมองไปยังฉินสือโอว “เพื่อน นายยังจำได้ไหม ที่มีกล่องกล่องหนึ่งที่ข้างในเต็มไปด้วยโครงกระดูกน่ะ? ใช่แล้ว โครงกระดูกนี้ได้มาจากพวกมันนั่นแหละ”
แน่นอนว่าฉินสือโอวจำกล่องนั้นได้ ตอนที่บิลลี่กอบกู้มันมา กระดูกที่อยู่ในกล่องนั้นเป็นกระดูกของเหล่าโจรสลัดกลุ่มสลัดกลุ่มสุดท้ายบนเรือที่ตายเพราะไม่มีอะไรกิน กระดูกของคนที่พวกเขากินไปแล้วก็ยังอยู่ที่นั่น พอคิดดูแล้วดูโหดร้ายเป็นอย่างมาก
วินนี่พูดขึ้นมาด้วยความตกใจว่า “ชายคนนี้มีรูปร่างพิการมากเลยนะ ดูที่สะบักของเขาสิ…”
เบลคพยักหน้าพลางพูดว่า “ใช่แล้ว รูปร่างของเขาพิการ แต่ว่านี่สามารถอธิบายได้ว่าทำไมบางคนถึงได้ใช้ธนูยาวอังกฤษได้อย่างสวยงาม ไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้พวกนายเข้าใจเรื่องนี้หรือไม่ ผู้เชี่ยวชาญหลายคนตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับพลังของธนูยาวอังกฤษ พวกเขาคิดว่าหากไม่มีการช่วยเหลือจากกลไกบางอย่าง มนุษย์อย่างเราไม่สามารถดึงคันธนูยาวนี้ได้เต็มที่แน่นอน”
“พอดูที่โครงกระดูกนี้แล้ว มันคือคำตอบของคำถามนั้น ในสถานการณ์ปกติ การที่ดึงคันธนูยาวให้ได้จนสุดนั้นสำหรับมนุษย์เป็นเรื่องที่ยากมาก แต่ว่าในสมัยนั้น เหล่าผู้ชายเติบโตขึ้นมาเพื่อเป็นนักธนู พวกเขาใช้กำลังแขนและไหล่เพียงข้างเดียวเท่านั้น หลังจากที่ใช้งานมาอย่างหนัก ร่างกายของพวกเขาก็พิการ แต่พวกเขายังคงสามารถใช้พลังของธนูยาวนี้ได้อย่างเต็มที่”
เมื่อได้ยินคำอธิบายของเขา ฉินสือโอวก็ถามออกมาด้วยความประหลาดใจว่า “ไม่น่าใช่นะ ถ้าจากที่นายพูด คนที่จะใช้ธนูนี้ได้ก็มีจำนวนน้อยใช่ไหม? นั่นหมายความว่า การใช้ธนูยาวเป็นพรสวรรค์ของพวกเขาในยุคสมัยนั้น การที่คนมีพรสวรรค์แบบนี้ ทำไมยังถูกคนอื่นกินเข้าไปอีกล่ะ?”
เบลคชูนิ้วโป้งให้พลางพูดกลั้วหัวเราะว่า “ฉิน สุดยอด นายนี่เป็นยอดฝีมือจริงๆ แป๊บเดียวก็สามารถถามได้ตรงประเด็นเลย!”
เขามองไปยังโครงกระดูกที่ทั้งตัวถูกหุ้มด้วยเกราะเหล็ก รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้า “ในสมบัติที่พวกเรากอบกู้ขึ้นมา มีเหรียญเงินและทองมากมาย นอกจากนี้ยังมีเครื่องทองเครื่องเงินและเครื่องเคลือบด้วย หนึ่งในนั้นคือเหรียญทองที่ระลึกของฟิลิปป์ที่ห้าที่มีค่ารองลงมาที่อยู่ในมือนายนั่นแหละ ส่วนอันที่มีค่าที่สุดก็คือเกราะที่หุ้มโครงกระดูกนั้นยังไงล่ะ!”
ฉินสือโอวร้องออกมาด้วยความตกใจว่า “เกราะเหล็กพวกนี้มีค่าขนาดนั้นเลยเหรอ?”
เบลคส่ายหน้า แล้วชี้ไปยังโครงกระดูก “อันที่แล้ว คือมันต่างหากล่ะ! ตามการวิจัยของพวกเรา การจะหาเจ้าของกระดูกนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย นายถามไม่ใช่เหรอว่าคนที่สามารถใช้ธนูยาวอังกฤษได้ทำไมถึงได้โดนเโจรสลัดกินเป็นคนแรก? เหตุผลนั้นง่ายมาก เขาเป็นเชลย เขาเป็นศัตรูของโจรสลัด!”
“ตัวตนที่แท้จริงของเขาก็คือ ชาวอังกฤษพเนจรบารอนชัคลีย์แมน แชมเบอร์เลน!”
ปฏิกิริยาของฉินสือโอวที่มีต่อชื่อที่เบลคพูดออกมานั้น เขารู้สึกไม่คุ้นหูเลยแม้แต่น้อย เขาไม่เคยได้ยินชื่อและเรื่องของคนคนนี้เลย
เบลคพูดแนะนำออกมาว่า ชายคนนี้ไม่ได้มีชื่อจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ แต่ว่าเขามีชื่อเสียงในด้านประวัติศาสตร์ทางอาวุธโบราณและวัตถุโบราณเป็นอย่างมาก เขาเป็นบารอนที่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งจากการสะสมประสบการณ์ทางทหารในฐานะพลเรือนคนหนึ่ง เขาเป็นนักแม่นปืน ด้วยธนูยาวคันนี้ทำให้เขาชนะในการต่อสู้ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่หลังจากที่ได้รับตำแหน่ง เขาก็ไม่อยากที่จะถูกขังอยู่ในค่ายทหารอังกฤษอีกต่อไป เขาหยิบธนูยาวที่ทำให้เขามีชื่อเสียงพกไปด้วยและออกจากอังกฤษไปเพื่อไปเป็นทหารรับจ้างทั่วทุกหนแห่ง
หลังจากนั้นมา ตามประวัติศาสตร์ของวงศ์ตระกูล บรรพบุรุษนักแม่นธนูของพวกเขาได้พากลุ่มทหารรับจ้างกลุ่มเล็กๆ ของเขาเดินทางไปถึงสเปนและหายตัวไป หลังจากทำการตรวจสอบหลายครั้ง บรรพบุรุษของเขาไม่ได้หายตัวไป แต่เขาเสียชีวิตในการต่อสู้ระหว่างกลุ่มโจรสลัดบาซาโรมิอุที่บุกเข้ามายังเซนต์คาทาลีนา ในหมู่พวกเขา มีคำกล่าวอีกคำหนึ่งว่านักแม่นธนูคนนี้ไม่ได้ตายนสนามรบ แต่เขาเข้าร่วมกลุ่มโจรสลัดและหนีไปกับพวกเขา
โดยธรรมชาติแล้วการกล่าวแบบนี้เป็นการดูถูกตระกูลแชมเบอร์เลนเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังเป็นการดูถูกกลุ่มผู้ดีอังกฤษอีกด้วย ดังนั้นจึงไม่มีการพิสูจน์ในเรื่องนี้ แต่สิ่งที่ทำให้ตระกูลแชมเบอร์เลนรู้สึกผิดก็คือ พวกเขาไม่มีหลักฐานอะไรมาหักล้างข้อกล่าวหานี้
ตอนนี้หลักฐานออกมาชัดเจนแล้วว่า นักแม่นธนูคนนี้ถูกจับเป็นเชลยในสงคราม เบลคบอกว่า เป็นที่ว่ากันว่าเป็นการตั้งใจของพวกโจรสลัดที่คิดจะจับเขาเรียกค่าไถ่ในช่วงศตวรรษที่สิบหกสิบเจ็ด ในยุโรปเมื่อเหล่าอัศวินและขุนนางถูกจับในสงครามพวกเขาจะไม่โดนทรมาน เพราะคนเหล่านี้สามารถเรียกค่าไถ่ได้ ดังนั้นการจับตัวอัศวินและขุนนางในสงครามในสมัยนั้นจึงเป็นที่นิยมมาก
แต่ว่าน่าเสียดาย ที่โจรสลัดกลุ่มนี้ไม่สามารถเรียกค่าไถ่ได้เลยสักวัน พวกเขาถูกขังอยู่ในทะเลอาร์กติกอันหนาวเหน็บ และนักแม่นธนูคนนี้ก็ไม่ได้ถูกเรียกค่าไถ่ ดังนั้นเขาจึงกลายเป็นอาหารของพวกโจรสลัด….
………………………….
Related
ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1765 คนชนชั้นสูงผู้ร่ำรวย
Posted by ? Views, Released on January 28, 2022
, ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา
ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท
หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง
แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้
นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา
แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี
นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก
จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน
กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี
ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป
ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’
ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา
จากนั้นมา…
จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้
และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!