บทที่ 11 หากเลือกที่จะแก้แค้นก็จะไม่ใช่พระผู้ช่วย
ในตอนนี้ ด้วยการที่เจียงฮ่าวกลัวว่าพ่อของตนจะติดร่างแหและคิดไปไกล้ เขาจึงได้รีบตอบคนไข้ทั้งสองไปในทันที
“ก็แค่ซุปไก่ธรรมดาเองครับ มันไม่ได้มีโสมพันปีจริงๆนะ”
“พ่อ รอก่อนนะเดี๋ยวผมจะตามหมอมาดูอาการก่อน”
เมื่อพูดจบ เจียงฮ่าวได้รีบออกไปบอกหมอที่ประจำอยู่หน้าห้องพักในทันที
เมื่อได้ยินดังนั้น หมอรีบเข้ามาตรวจสอบ หลังจากตรวจซ้ำอยู่หลายรอบจนแน่ใจแล้ว สีหน้าของหมอแสดงออกมาซึ่งความตกใจและงุนงงพลางใช้ความคิดหาคำตอบในทันที
พ่อของเจียงฮ่าวที่ได้ยินถึงกับชูมือขึ้นไปมาพร้อมกับกระโดดโลดเต้นดีใจที่จะได้ออกจากโรงพยาบาลสักที
ในที่สุด เพื่อให้แน่ใจว่าเขาไม่ได้วินิจฉัยโรคผิด หมอได้ขอให้พ่อของเจียงฮ่าวอยู่อีกหนึ่งวันเพื่อเอ็กซเลย์และติดตามดูอาการ หากว่าหายจริงๆล่ะก็ทางโรงพยาบาลจะได้ทำแผนพักฟื้นให้เขาและจะให้เขากลับบ้านในเย็นวันพรุ่งนี้
เจียงฮ่าวที่ได้ยินรีบตอบตกลงแทนพ่อของตนในทันที
ถึงแม้ว่าเจียงฮ่าวจะเชื่อมั่นในระบบของตนสักขนาดไหนก็ตาม แต่ป้องกันไว้ย่อมดีกว่าแก้
และเพื่อให้พ่อของเจียงฮ่าวอยู่ที่โรงพยาบาลต่ออีกหนึ่งคืน พ่อของเขาจึงขอให้เขาพาน้องของเขากลับบ้านไปทบทวนตำรา เหลือเพียงแม่ของเขาไว้คอยดูแลก็พอ
แน่นอนว่าเจียงฮ่าวต้องรับคำ และก่อนกลับ เขาก็ไม่ลืมที่จะนำกล่องข้าวที่ยังซุปเหลืออยู่กลับไปด้วย
เขานั้นไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าถึงการคงอยู่ของเศษเสี้ยวแก่งแห่งชีวิต
เมื่อกลับไปถึงบ้าน เจียงไซหยวนได้กลับเข้าห้องเพื่อทำการบ้านโดยไม่พูดอะไรกับเจียงฮ่าวเลยสักคำ เจียงฮ่าวเองก็ได้ใช้ความคิดเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นภายในวันนี้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องที่เขาได้กลายเป็นฮีโร่ช่วยสาวสวยพร้อมกับการได้ทักษะสำคัญอย่างการสัมผัสภยันตรายที่ได้มาจากแมงมุมตัวน้อย
“หงเหลียง แก…รอก่อนเถอะ”
เมื่อคิดได้ดังนั้น เจียงฮ่าวได้แอบมองน้องสาวตัวเอง ในตอนนี้เธอนั้นทำการบ้านด้วยสีหน้าเคร่งเครียดทำให้เขานั้นไม่ยากจะกวนเธอและได้แอบออกจากบ้านไปอย่างเงียบๆ
เจียงฮ่าวได้ตรงไปยังที่ทำงานของพ่อของตน เขามองไปรอบๆก็ได้เห็นร่องรอยของการต่อสู้
เจียงฮ่าวได้ถามคนในร้านเกี่ยวกับหงเหลียง
ด้วยการที่หงเหลียงนั้นได้ตั้งตัวคุมพื้นที่เขตนี้มาตั้งนานแล้ว นี่ทำให้ไม่มีใครอยากจะหาเรื่องใส่ตนเอง เจียงฮ่าวจึงไม่ได้ข้อมูลอะไรมากนัก
แถมยังมีบางคนรู้จักเจียงฮ่าวและรู้อีกว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้นกับพ่อของเขา ทำให้พวกเขานั้นเดาได้ว่าเจียงฮ่าวนั้นต้องการจะทำอะไร
แน่นอนว่าย่อมไม่มีใครคิดว่าคนอย่างเจียงฮ่าวแถมยังตัวคนเดียวจะไปทำอะไรกลุ่มของหงเหลียงได้ นี่ยิ่งทำให้พวกเขานั้นไม่ยอมบอกอะไรเจียงฮ่าวเลยแม้แต่น้อย แถมยังกล่าวสำทับออกมาว่าให้เขานั้นลามือซะ
แต่ในที่สุดแล้ว เจียงฮ่าวก็ได้รู้ที่อยู่ของหงเหลียง
เจียงฮ่าวเมื่อรู้ที่อยู่ก็ได้มุ่งตรงไปที่นั่นในทันที จนในที่สุดเขาก็ได้พบเจอในสิ่งที่ต้องการ
“หงเหลียง… เจอตัวแกแล้ว”
เจียงฮ่าวในตอนนี้แสดงสีหน้าออกมาด้วยความเครียดแค้นและเกลียดชัง แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขานั้นทำอะไรผลีผลามแต่อย่างใด
พื้นที่แห่งนี้มีผู้คนมากมายไม่ดีต่อการก่อเรื่อง
ยิ่งไปกว่านั้นคือรอบข้างหงเหลียงนั้น มีลูกน้องอยู่รายรอบกว่าหนึ่งโหล ต่อให้ตัวเขานั้นจะมีทักษะสัมผัสภยันตรายแต่ยังไงก็ตัวคนเดียว ไม่มีทางเลยที่เขานั้นจะสู้กับคนหมู่มากโดยไม่เป็นอะไร
เจียงฮ่าวในตอนนี้ได้เผลอระบายความอัดอั้นโดยการไปต่อยต้นไม้ข้างทางอีกครั้ง พร้อมทั้งนึกหาวิธีการจัดการเหลียงฮ่าว
“ติ้ง พบมดตัวหนึ่ง ท่านต้องการย่อยสลายหรือไม่”
เสียงๆหนึ่งได้ดังขึ้นมาในหัวก่อกวนการใช้ความคิดของเขาในทันที
เจียงฮ่าวได้ตอบยืนยันออกไปก่อนที่จะจ้องมองไปยังมือของตน เขาพบมดฝูงหนึ่งที่ไต่อยู่บนต้นไม้ และจากการที่เขาไปต่อยต้นไม้เมื่อครู่ทำให้มดตัวหนึ่งตกตายไปด้วยน้ำมือของเขา
ทันใดนั้นเอง เขาก็ได้นึกถึงเหตุการณ์ตอนที่เขาย่อยสลายแมงมุมเมื่อตอนกลางวันทำให้เขานั้นรู้สึกมีความสุขจนออกนอกหน้าขึ้นมาในทันที
“ในเมื่อย่อยแมงมุมไปตอนนั้นยังได้ทักษะสัมผัสภยันตรายมา….ไม่รู้เหมือนกันแหะว่าเจ้ามดนี่จะให้อะไรฉันมา”
เจียงฮ่าวได้ตอบตกลงไปด้วยความหวังนิดหน่อย
“ย่อยสลาย”
“ติ้ง ย่อยสลายมดเสร็จสมบูรณ์ ได้รับทักษะของมด:พลังมหาศาล ค่าทักษะ 0.9 หน่วย ค่าประสบการณ์ 0.9 หน่วย”
“การย่อยสลายเสร็จสมบูรณ์ ท่านต้องการสังเคราะห์หรือไม่” “…..” “ทานต้องการหลอมรวมหรือไม่”
พลังมหาศาล ระดับ 1 (0/10) ความแข็งแกร่งอันล้นพ้นเหนือกฎเกฎฑ์ใดๆทั้งปวง
“ถ้าจำไม่ผิด ดูเหมือนนักวิทยาศาสตร์บางคนจะเคยพูดเอาไว้ว่ามดนั้นสามารถยกสิ่งของที่หนักกว่าตัวเองได้สี่ร้อยเท่าและลากสิ่งของที่หนักกว่าตัวเองได้กว่าพันเจ็ดร้อยเท่า…..”
“ฉันล่ะอยากรู้จริงๆว่าถ้าหลอมรวมไปแล้วฉันจะแข็งแกร่งขึ้นขนาดไหนกันนะ”
ดังที่เขาคาดไว้ เจียงฮ่าวได้รับทักษะเสริมความแข็งแกร่งมาจริงๆ
“หลอมรวม”