บทที่ 71 ไปกินข้าวบ้านสาว และมีสาวมาหาถึงห้อง(เรียน)
เทียนทงนั้นรู้สึกกลัวอย่างจับใจ
เพราะยังไงซะ เมื่อครู่นี้ สิ่งที่เจียงฮ่าวต้องเผชิญก็คือสัตว์ร้ายอย่างจระเข้
แต่เจียงฮ่าวนั้นในตอนนี้กลับรู้สึกอึดอัดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
แถมไม่ใช่เพราะต้องเจอกับจระเข้ แต่เป็นเพราะถูกสาวสวยคนหนึ่งห่วงใยเขานั่นเอง และฉากนี้จึงไม่แปลกที่จะทำให้เขาทำตัวไม่ค่อยจะถูก เพราะเทียนทงเองก็เป็นสาวน้อยที่สวยมากๆคนหนึ่ง
การที่อยู่ๆโดนสาวสวยมาเกาะแขนอย่างแนบชิดขนาดนี้มีหรือที่คนแบบเขาจะตอบสนองได้ทัน
เมื่อเทียนทงรู้ตัวก็รีบเปลี่ยนท่าทีในทันที
เธอรีบปล่อยมือจากแขนของเจียงฮ่าวด้วยใบหน้าที่แดงฉาน
และเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เธอต้องเขินอายไปกว่านี้ เจียงฮ่าวจึงเลือกที่จะทำเป็นไม่ได้สังเกตเกี่ยวกับเรื่องนี้
“ตอนนี้เรารีบออกไปจากที่นี่กันดีกว่า ตอนนี้ฉันเปียกไปทั่วทั้งตัวแล้ว แย่จริงๆแหะ”
เจียงฮ่าวพูดขณะมองไปบนตัวเองไปมา
เทียนทงเองก็ได้มองไปยังร่างกายของเจียงฮ่าวและได้พูดออกมา
“จะ จริงด้วย รีบกลับบ้านเปลี่ยนเสื้อผ้ากันดีกว่าเนาะ ก่อนที่จะวุ่นวายไปมากกว่านี้”
ทั้งสองรีบฝ่าฝูงชนตรงกลับบ้านไปในทันที
แต่กลับคนที่ถูกเจียงฮ่าวได้ช่วยไว้ และคนที่อยู่ในเหตุการณ์นี้ ล้วนแล้วแต่ประทับใจในตัวเจียงฮ่าวจนอยากจะส่งต่อเรื่องราวนี้ให้ทุกคนได้รับรู้จึงไม่ลืมที่จะถ่ายรูปเจียงฮ่าวเอาไว้ในทันทีที่เห็นเจียงฮ่าวกำลังจากไป
เพื่อให้ผู้คนได้จดจำเจียงฮ่าวเอาไว้ในฐานะฮีโร่ตัวน้อยที่ช่วยเหลือผู้คน
และที่เจียงฮ่าวไม่รู้ก็คือ ในหมู่ฝูงชนที่ดูอยู่นั้น มีนักข่าวอยู่ด้วย และคนๆนั้นได้ใช้กล้องระดับ 4K ถ่ายทึกช่วงขณะที่เจียงฮ่าวได้ช่วยเหลือสองแม่ลูกนี้เอาไว้
“…”
เจียงฮ่าวได้กลับไปที่บ้านของตนอย่างไร้ร่องรอยด้วยความช่วยเหลือของเทียนทง
เมื่อเจียงฮ่าวกลับไปถึงบ้าน แม้จะทำอย่างไร้ร่องรอย แต่เมื่อพ่อแม่ของเขาได้เห็นฉากนี้ก็อดที่จะตกใจไม่ได้เหมือนกัน
และเพื่อไม่ให้พ่อแม่ของเขากังวลอะไรมาก เขาจึงพูดเพียงเฉพาะเรื่องที่ว่ามีเด็กตกน้ำเลยลงไปช่วยเท่านั้น
แต่นี่กลับทำให้เขานั้นต้องเผชิญหน้ากับปัญหามากขึ้น
นั่นก็เพราะทั้งพ่อและแม่ของเขาไม่รู้ว่าเขานั้นว่ายน้ำได้ และเมื่อว่ายน้ำไม่ได้จะไปช่วยใครได้กัน
อย่างไรก็ตาม เจียงไซหยวนกลับเป็นคนเดียวที่เชื่อคำพูดของเธอ นี่ทำให้พ่อกับแม่ของเขาเปลี่ยนเป็นสนใจเรื่องเหลือเชื่อนี้มากกว่าเขาที่สภาพเปียกปอน
เย็นวันนั้น เทียนทงได้มาชวนเจียงฮ่าวไปกินข้าวที่บ้านในฐานะแขก
เจียงฮ่าวกลัวว่าพ่อแม่จะรู้เรื่องไปมากกว่านี้เลยบอกพ่อแม่ไปว่าเทียนทงเป็นเพื่อร่วมชั้น
และด้วยเหตุนี้ทำให้เจียงฮ่าวต้องไปบ้านของเทียนทงเป็นการแลกเปลี่ยน
เมื่อเจียงฮ่าวได้เห็นผู้อาวุโสตระกูลเทียนอีกครั้ง นี่ทำให้เขาประหลาดใจอย่างมาก
“ห้ะ แก่นแห่งชีวิตทำได้ขนาดนี้เลยเหรอ”
นั่นก็เพราะ ผู้อาวุโสตระกูลเทียนที่อยู่ในชุดจีนนิยมนั้น จากเดิมที่เขาเคยเห็นนั้น ผู้อาวุโสคนนี้มีผลเพียงสีเทาและขาวเท่านั้น แต่ในตอนนี้ทั่วทั้งหัวนั้นกลับดำสนิท แถมยังดีกระชับกระเชงไม่สมกับอายุอีกด้วย
“คุณปู่…ดูสิคะว่าหนูพาใครมา”
เทียนทงนั้นยังไม่ได้บอกปู่ของเธอว่าเธอพบตัวเจียงฮ่าวแล้วเพราะอยากทำให้ปู่ของเธอประหลาดใจ
เทียนเทิงที่หันมาดูก็อดที่จะแสดงความฉงนสนเท่ห์ไม่ได้เมื่อเห็นเจียงฮ่าว
แต่ในทันทีที่เขาตั้งสติได้ เขารีบแสดงความประหลาดใจด้วยความรู้สึกยินดีอย่างเต็มเปี่ยม
“อ้า……………….”
“ผู้มีพระคุณตัวน้อยของฉัน ในที่สุดชายแก่คนนี้ก็ได้พบเธอในที่สุด”
เทียนเทิงรู้สึกดีใจอย่างที่สุดก่อนที่จะตรงเข้ามาโอบไหล่เจียงฮ่าวอย่างสนิทสนมราวกับรู้จักกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน
อย่างไรก็ตาม เจียงฮ่าวก็ไม่สามารถปฏิเสธได้แต่อย่างใด เพราะว่าเขานั้น ยังไงก็เป็นนักเรียนคนหนึ่ง การเคารพการกระทำของผู้อาวุโสนั้นเป็นสิ่งจำเป็น
เมื่อกินข้าวจนเสร็จสิ้นแล้ว เทียนเทิงได้มอบนามบัตรธุรกิจของตนให้เจียงฮ่าวและกล่าวออกมาว่าหากมีปัญหาก็สามารถไปหาหรือติดต่อเขาได้ทุกเมื่อ
เจียงฮ่าวเองก็ได้รับมาเป็นพิธีโดยไม่ได้ใส่ใจอะไรเป็นพิเศษ
หลังจากคุยกันต่ออีกเล็กน้อย เจียงฮ่าวก็ได้ขอตัวกลับบ้านไป
วันถัดมา อย่างเช่นที่เคยเป็น เจียงฮ่าวได้ไปโรงเรียนตามปกติ
ในขณะที่เจียงฮ่าวกำลังนั่งที่นั่งของตนอยู่ในห้อง ซ่งหว่านเอ๋อได้เข้ามาหาเจียงฮ่าวดีท่าทีร้อนลน
เจียงฮ่าวที่เห็นว่าซ่งหว่านเอ๋อมาหานั้นแม้จะไม่รุ้ว่ามีเรื่องอะไร แต่ก็ยังตามเธอออกไปโดยไม่ถามอะไรสักคำ
เขาตามเธอมาถึงสนามกีฬา ซ่งหว่านเอ๋อในตอนนี้ได้แสดงท่าทีกังวลออกมาอย่างเห็นได้ชัดยิ่งกว่าเดิมจนทำให้เจียงฮ่าวรู้สึกสับสนขึ้นมาจริงๆ
“เจียงฮ่าว เกิดอะไรขึ้น ทำไมฉินโชวถึงขาหักได้กัน ใครเป็นคนทำหมอนั่นกันแน่”
“หลังจากได้ยินคำถามของซ่งหว่านเอ๋อทำให้เขาเข้าใจเรื่องราวได้ในทันที”
“อ้อ ฉินโชวนี่เอง”
เจียงฮ่าวได้พูดออกมาอย่างไม่ร้อนลน
คำพูดนี้ทำให้ซ่งหว่านเอ๋ออดรนทนไม่ไหวอีกต่อไป
“บอกมาเดี๋ยวนี้นะว่านายหักขาเขารึเปล่า”