บทที่ 125 ไอ้ตัวจ้อยที่เอาคืนไม่ได้
ร่างของเจียงฮ่าวในตอนนี้ได้ปลดปล่อยคลื่อนพลังบางอย่างที่มองไม่เห็นและตรวจพบไม่ได้ออกมา
เพรียงช่วยพริบตาเดียว บนกระดาษของเจียงฮ่าวนั้นก็ได้มียุงสิบตัวมาลงเกาะอยู่
เจียงฮ่าวได้จ้องมองยุงทั้งสิบด้วยความประหลาดใจ เขารู้สึกคุ้นเคยกับยุงพวกนี้ได้อย่างน่าประหลาด
เป็นตอนนี้ที่ความรู้สึกหนึ่งก็ได้บังเกิดขึ้นมาในจิตใจ
“เหมือนฉันจะคุมยุงสิบตัวนี้ได้สินะ”
ในขณะที่เขากําลังประหลาดใจอยู่นั้น เขาก็รู้สึกได้ว่าไอ้ตัวโง่งมที่อยู่ข้างหลังเขาได้เริ่มเตะเก้าอี้ของเขาอีกครั้ง
เมื่อคิดได้ดังนั้น เขาจึงได้มอบคําสั่งให้กับยุงทั้งสิบในทันที
ในตอนนี้ ยุงทั้งสิบราวกับพยักหน้าให้เขา พวกมันได้บินออกไปและมุ่งตรงไปยังแถวหลัง
ที่ด้านหลังเจียงฮ่าว ซิ่วเทียนหลงยังคงกระหน่ำเตะมาที่เก้าอี้ของเจียงฮ่าว
เจียงฮ่าวยังคงไม่ขยับตัว เขานั้นคิดว่าเจียงฮ่าวกลัวเขาและนี่เองทําให้เขานั้นได้เตะไปยังเจียงฮ่าวด้วยความรู้สึกภูมิอกภูมิใจ
ในตอนนี้เอง เขาก็รู้สึกได้ว่าราวกับมีเข็มเล่มหนึ่งทุ่มแทงมาที่แก้ม
ตามมาด้วยมือ แขน ขา และตรงนั้น เขารู้สึกได้ว่าทั่วทั้งร่างกําลังถูกทิ่มแทงด้วยเข็ม
เมื่อเขาได้มองไปยังพื้นที่ที่เจ็บปวดที่หลังมือดีๆ เขาก็รู้ได้ในทันที่ว่ามียุงตัวหนึ่งพยายามทุ่มแทงที่หลังมือเขารัวๆ
“ป้าบ”
โดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย หลังจากตบยุงที่อยู่ตรงมือได้ เขาก็ได้พูดออกมาด้วยเสียงอันดัง
“ไอ้เวรนี่ ให้พ่อคนนี้เห็นร่างแกบี้แบนหน่อยเถอะ”
ซิ่วเทียนหลงพูดออกมาพร้อมความรู้สึกมั่นใจที่ปรากฏขึ้นบนใบหน้า
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเอามือออก กลับไม่พบแม้เพียงชิ้นส่วนของยุงเลยสักนิด
ในตอนนี้เอง ซิ่วเทียนหลงไม่ได้สนใจที่จะทําข้อสอบอีก เขาตั้งใจที่จะตบยุงอย่างมุ่งมั่น
เป็นตอนนี้ที่เหล่านักเรียนผู้เข้าสอบคนอื่นผู้ซึ่งกําลังตั้งใจทําข้อสอบอย่างแข็งขัน ก็ได้หันไปมองซิ่วเทียนหลงอย่างโกรธแค้นกันทั่วทุกตัวคน
นี่คือการสอบเข้ามหาวิทยาลัย หนึ่งในส่วนสําคัญที่จะเป็นตัวกําหนดอนาคตของพวกเขา
แต่นักเรียนคนนี้ ไม่เพียงจะรบกวนพวกเขา หมอนี่ยังเห็นว่าสิ่งเล็กๆอย่างการตบยุงน่าสนใจกว่าการทําข้อสอบ
ที่แถวหน้า เจียงฮ่าวที่ได้ยินก็อดที่จะหัวเราะเยาะอยู่ในใจไม่ได้
“ไอ้เวร ฉันยังไม่ได้เอาคืนแกเลยนะโว้ย”
ผู้คุมสอบขมวดคิ้วขึ้นในทันทีและเดินตรงมาหาด้วยหน้าตาบึ้งตึง
“เป็นอะไรของเธอ”
เมื่อซิ่วเทียนหลงได้ยินดังนั้น เขาตกใจและรีบหันไปหาก็เป็นเป็นผู้คุมสอบ นี่ทําให้เขาพึ่งนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
“ขอโทษครับอาจารย์
“พอดีว่ามียุงตัวหนึ่งกล้ามากวนผม ผมเลยตบมันให้ตายเท่านั้น”
เขาเลียนแบบน้ำเสียงของเจียงฮ่าวและพูดออกมา
เมื่อผู้คุมสอบได้ยินดังนั้น ถึงแม้เขาจะขมวดคิ้วแน่น ถึงแม้ว่าเขาจะรู้สึกตงิดๆอยู่บ้าง แต่นี่ก็คือสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เขาจึงไม่ได้ว่าอะไร
“ถ้าอย่างนั้นก็ระวังหน่อยแล้วกัน อย่าได้ไปกวนการทําข้อสอบของคนอื่น”
ผู้คุมสอบได้กล่าวตักเตือนซิ่วเทียนหลังก่อนที่จะหันหลังและเดินกลับไป
“ขอให้ทุกคนรีบทําข้อสอบ เหลือเวลาอีกเพียงสามสิบนาทีเท่านั้น”
เมื่อนักเรียนผู้เข้าสอบทุกคนได้ยินว่าเหลือเวลาอีกสามสิบนาทีก็ได้ละความสนใจที่มีต่อซิ่วเทียนหลงและลงมือทําข้อสอบต่ออย่างขะมักขะเม้น
เป็นตอนนี้ที่มียุงตัวหนึ่งได้บินผ่านดวงตาเขาไป
นี่ทําให้ซิ่วเทียนหลงโกรธถึงขีดสุด
ในที่สุดเขาก็พบตัวต้นเหตุจนได้
โดยไม่มีความลังเล เขาได้ใช้มือทั้งสองข้างตบเข้าหากันในทันที
อย่างไรก็ตาม ซิ่วเทียนหลงที่คิดว่าคงจะได้ยุงมาไว้สักตัวสองตัวในมือ กับต้องรู้สึกผิดหวัง เพราะเขานั้นยังคงกระหน่ำแทงอยู่อย่างนั้นและไม่มียุงสักตัวในมือของเขาเลยสักตัว
ซิ่วเทียนหลงในตอนนี้ได้คลุ้มคลั่งออกมาอย่างเห็นได้ชัดและกระหน่ำตบลงไปบนใบหน้า
ใบหน้าของเขาในตอนนี้มีรอยเกาปรากฏขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด จนเรียกได้ว่าเกือบจะอาบเลือดเลยก็ว่าได้
เป็นตอนนี้ที่มียุงตัวหนึ่งได้บินผ่านดวงตาเขาไป
นี่ทําให้จิ๋วเทียนหลงโกรธถึงขีดสุด
ในที่สุดเขาก็พบตัวต้นเหตุจนได้
โดยไม่มีความลังเล เขาได้ใช้มือทั้งสองข้างตบเข้าหากันในทันที
“ปัง”
เสียงอัดกระแทกดังลั่นขึ้นมาในห้องที่เงียบงัน
นี่ทําให้นักเรียนผู้เข้าสอบทุกคนจ้องมองไปยังซิ่วเทียนหลงอย่างโกรธแค้น
ใบหน้าของผู้คุมสอบเองก็แสดงออกมาอย่างโกรธเกรี้ยวยิ่งกว่าใคร