บทที่ 294
องค์หญิงของข้า
“เจ้า…” ไอ้พวกคนล้าหลัง!
พอมาได้ครึ่งทางในที่สุดรถม้าก็หยุดลง มู่หรงแทบรอไม่ไหวที่จะได้ลงจากรถ เธอไม่รู้ว่าหวังฉิงจับตาดูเธออยู่หรือเขามั่นใจเกินไป เขาไม่กลัวว่าเธอจะหนีเลยไม่ได้มัดเธอไว้
ไอ้คนทุเรศ!
“มู่เทียน!”
“จือหลิง เจ้าเป็นอะไรหรือเปล่า?” ทันทีที่มู่หรงเสวี่ยลงมาจากรถ เธอก็เห็นเฟิงจือหลิงที่มือทั้งสองข้างถูกมัดไว้
“ไม่เป็นไร! เจ้าล่ะ?” เฟิงจือหลิงมองตรวจมู่เทียนตั้งแต่หัวจรดเท้า และก็โล่งใจเมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรผิดปกติ
มู่หรงรีบแก้มัดให้เฟิงจือหลิงทันที “ข้าเองก็ไม่เป็นไรเหมือนกัน!”
พวกเธอทั้งคู่ต่างก็ลังเลว่าจะเข้าไปในมิติลับดีหรือเปล่า ถ้าพวกเธอไม่เข้าไปก็จะต้องถูกพาไปที่ดินแดนแห่งไฟ
ทันทีที่เห็นสีหน้าของหวังฉิงก็เย็นชาขึ้นมาทันที เขารีบตรงเข้ามาดึงมู่เทียนเข้าสู่อ้อมแขนของตัวเอง
“อย่าแสดงท่าทางแบบนี้กับคนอื่นต่อหน้าข้า!”
“เจ้าจะทำอะไร? ปล่อยเขานะ!” เฟิงจือหลิงรีบพุ่งเข้ามา
ก่อนที่เขาจะทันได้ทำอะไร เขาก็ถูกองครักษ์ชุดดำหยุดไว้ก่อนและรีบมัดขาและแขนของเฟิงจือหลิงไว้ทันที
มู่หรงสีหน้าเย็นชา “เจ้าบอกว่าจะไม่บังคับข้าไม่ใช่หรือไง?”
“ข้าไม่ได้เรียกมันว่าการบังคับ ข้าก็แค่สั่งสอนเจ้าว่าอย่าเข้าใกล้ผู้ชายคนอื่นตามอำเภอใจ ข้าไม่ชอบ และถ้าข้าไม่พอใจ ข้าก็รับปากไม่ได้ว่าตัวเองจะทำอะไรลงไปบ้าง!”
“เจ้าบ้าไปแล้วหรือไง? ข้าเป็นผู้ชายนะ!” มู่หรงเสวี่ยตะโกน
“ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นผู้ชายและข้าก็แค่ชอบผู้ชาย เจ้าไม่รู้หรือไง?!”
“ปล่อยเขานะ!” เฟิงจือหลิงรู้สึกไม่พอใจกับความสามารถของตัวเองในตอนนี้เลย
สีหน้าของหวังฉิงเครียดขึ้นพร้อมทั้งโบกมือ “เอาตัวเขาไป!”
มู่หรงผลักเขาออกไปและวิ่งไปหาเฟิงจือหลิง แต่ก่อนที่มือเธอจะจับเขาได้ เธอก็ถูกหวังฉิงดึงกลับมาก่อน
“เจ้าจะพาเขาไปที่ไหนและจะทำอะไรกับเขา?” มู่หรงเสวี่ยมองอย่างเกลียดชังไปที่หวังฉิง!
“ตราบใดที่เจ้ายังทำตัวดี เขาก็จะไม่เป็นไร” หวังฉิงพูด
“เจ้าชอบผู้ชายงั้นเหรอ? แล้วถ้าข้าเป็นผู้หญิงล่ะ?” มู่หรงเสวี่ยถาม
หวังฉิงหัวเราะ “นี่ยังจะพูดว่าตัวเองเป็นผู้หญิงอยู่อีกงั้นเหรอ? หน้าอกเจ้าแบนเป็นกระดานแบบนี้เนี่ยนะ?”
“เจ้าไม่เชื่อหรือไง?! ยังไงซะถ้าข้าเป็นผู้หญิง เจ้าก็คงจะไม่ชอบข้าใช่ไหม?” มู่หรงพูด
“เจ้าเป็นผู้หญิงไม่ได้หรอก ยอมแพ้ซะเถอะ การโกหกแบบนั้นไม่ช่วยให้เจ้ารอดจากข้าไปได้หรอกนะ ถ้าเจ้าพยายามทำใจให้รักข้าได้เร็วแค่ไหน เจ้าก็จะยิ่งมีความสุขมากขึ้นเท่านั้น” หวังฉิงแตะไปที่ใบหน้าของเธอและพูดออกมา
ในโลกนี้ไม่มีใครเชื่อเรื่องจริงเลย!
“ถ้าข้าเป็นผู้หญิง เจ้าจะปล่อยข้าไปหรือเปล่า?” มู่หรงถาม
หวังฉิงหยุดรอยยิ้ม เป็นผู้หญิงจริงๆงั้นเหรอ? เขาจ้องไปที่หน้าอกของมู่เทียนและรู้อยากที่จะเปิดดูเพื่อพิสูจน์
แสงเปล่งประกายไปทั่วสายตาของมู่หรง พร้อมมือที่บังอยู่ที่หน้าอก “เจ้า…กำลังมองอะไรมิทราบ?” ดวงตาร้อนผ่าว
“ข้าไม่เห็นอะไรเลย ถ้าเจ้าเป็นผู้หญิง ก็เป็นเรื่องที่น่าขำที่สุดในโลกเลยล่ะ” หน้าอกที่แบนราบนี่ไม่น่าเชื่อเท่าไรเลยจริงๆ ถึงแม้จะเป็นผู้หญิงที่แกล้งปลอมเป็นผู้ชาย แต่ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะปกปิดร่างกาย ไม่มีร่องรอยของผ้ารัดหน้าอกเลย อีกอย่างเขาก็มีลูกกระเดือกด้วยซึ่งมันเป็นของจริง หลังจากที่เธอเมา เขาเองก็ตรวจชีพจรของเธอด้วยซึ่งยืนยันแล้วว่ามันเป็นชีพจรของผู้ชาย ซึ่งทำให้เขาเชื่ออย่างสุดใจ
ถึงแม้เธออยากที่จะเปลี่ยนกลับไปเป็นร่างของผู้หญิงเพื่อทำให้เขากลัวแต่ใครจะรู้ว่าเขาจะเป็นโรคจิตทั้งผู้หญิงและชายหรือเปล่า งั้นเป็นผู้ชายไว้น่าจะปลอดภัยกว่า
“มาเถอะ กินอะไรหน่อย เจ้าคงจะหิวแล้ว” เขาดึง มู่หรงเสวี่ยมานั่งอยู่ข้างๆกองไฟ
มู่หรงสะบัดมือเขาออก “ข้ามีคนรักแล้ว การที่เจ้าทำแบบนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับการกำลังฆ่าข้าหรอก!”
“คนรักงั้นเหรอ? ใครคือคนรักของเจ้า? ผู้ชายงั้นเหรอ?”
“ไม่ใช่อยู่แล้ว!”
“งั้นข้าก็อยากที่จะถามหน่อย ทำไมเจ้าถึงไม่อยู่กับคนรักแต่มาอยู่กับผู้ชายอื่น?” หวังฉิงปล่อยมู่เทียนแล้วแต่เขาก็กำลังหาข้ออ้างอยู่
“ก็เพราะเราไม่ได้อยู่โลกเดียวกันไงล่ะ!” มู่หรงเผยร่องรอยแห่งความคิดถึงออกมา
“ตายแล้วงั้นเหรอ?”
“เจ้าสิตาย อย่ามาแช่งเขานะ! ข้ารักเขา นอกจากเขาแล้วข้าก็ไม่มีวันรักใครได้อีกแล้ว!” มู่หรงพูดออกมาอย่างจริงจัง
“อืม! ข้าไม่ต้องการความรักของเจ้าหรอก เจ้าก็แค่ต้องได้รับความรักจากข้า”
บ้าเอ๊ย นี่มันไม่มีประโยชน์เลยจริงๆ สายตาของ มู่หรงเปลี่ยนไป “ข้าพูดจริงๆนะ ข้าเป็นผู้หญิงจริงๆ ถ้าเจ้าชอบผู้ชาย งั้นเจ้าก็ควรที่จะไปหาคนอื่นเถอะ” เธอพูดอีกครั้ง
“ตรงไหนของเจ้างั้นเหรอที่บอกว่าเจ้าเป็นผู้หญิง?” หวังฉิงถาม
“ข้า ข้าเป็นผู้หญิงทั่วทั้งตัวแหละ! เจ้าไม่เชื่องั้นเหรอ?! ข้าจะพิสูจน์ให้เจ้าเห็นเอง…”
หวังฉิงมองมาที่เธอด้วยสายตาดูถูก ในหัวใจเขาไม่เชื่อคำพูดของเธอเลยสักคำ ถ้าเธอเป็นผู้หญิง งั้นหมูก็คงจะปีนต้นไม้ได้แล้วแหละ! เขายังเชื่อในเทคนิคการจับชีพจรของตัวเองอยู่
“เจ้าไม่เชื่อข้าเลยใช่ไหม? งั้นข้าจะพิสูจน์ให้เจ้าเห็น! ถ้าข้าพิสูจน์ได้ เจ้าจะต้องปล่อยข้าไป!” มู่หรงพูด
หวังฉิงพยักหน้า “ได้!” เขาก็อยากจะเห็นว่าเธอทำอะไรได้บ้าง
“ข้าจะอยู่ในรถม้า เจ้าห้ามเข้ามา รวมทั้งเจ้าด้วย! สัญญาได้ไหม? ข้าจะเปลี่ยนเสื้อผ้า…” มู่หรงเสวี่ยพูด
“ไปเถอะ ไม่ต้องห่วง ไม่มีใครที่จะกล้าเข้าไปแน่!”
ประมาณ 10 นาทีต่อมา ม่านของรถม้าก็ถูกยกเปิดขึ้น
หวังฉิงเห็นดอกกุหลาบสีม่วงเบ่งบานขึ้นทันที หัวใจของเขาเริ่มเต้นรัว หลังจากนั้นใบหน้าที่บอบบางก็แยกออกจากใบหน้าที่แข็งแกร่งของผู้ชาย สวยเหลือเกิน ชุดสีม่วงที่เธอสวมยิ่งขับให้รูปร่างของเธอยิ่งดูน่าทึ่งมากขึ้นไปอีก
ทีละก้าวๆ ราวกับร่องรอยอยู่บนกลีบดอกไม้บานทำให้ผู้คนสายตาพร่ามัวได้เลย
“ทีนี้ เจ้าเชื่อข้าหรือยังล่ะ!” มู่หรงเสวี่ยถาม
หวังฉิงสติร่องรอยไปชั่วขณะ เขาไม่เข้าใจเรื่องที่เธอกำลังพูดเลยสักนิด จังหวะการเต้นของหัวใจเขาเสียการควบคุม เขาไม่เคยรู้เลยว่าจะมีใครที่สวยได้ขนาดนี้
มู่หรงโบกมือเบื้องหน้าสายตาเขา “กลับมาโลกได้แล้ว!” ตอนนี้เธอไม่อยากให้เขามองเอเลย
“นี่เจ้าเป็น…ผู้หญิงจริงๆงั้นเหรอ?” หวังฉิงยังไม่อยากจะเชื่อ
ชายชุดดำรอบๆต่างก็ต้องขยี้ตาตัวเองด้วยเหมือนกัน เมื่อกี้ก็เห็นกันอยู่ชัดๆว่าเขาเป็นผู้ชายอยู่เลย แล้วหลังจากนั้นไม่นานทำไมเขาถึงกลายเป็นผู้หญิงได้ล่ะ
มู่หรงพยักหน้า “ข้าเป็นผู้หญิง โอเคไหม ช่วยปล่อยตัวเพื่อนข้าด้วย!”
หวังฉิงจ้องไปที่หน้าอกที่เต็มอิ่มของเธอ มันต้องเห็นแน่นอนอยู่แล้ว เมื่อกี้ยังแบนอยู่เลย ทำไมอยู่ดีๆถึงพองขึ้นมาได้ล่ะ เอาอะไรยัดไว้หรือเปล่า?!
มู่หรงทำปากจุจุ มือบังที่หน้าอกเพื่อกันสายตาของเขาไว้ “เจ้าจะทำอะไร?”
หวังฉิงดึงสายตากลับมา “ในเมื่อเจ้าเป็นผู้หญิง งั้นเจ้าก็ควรที่จะเป็นองค์หญิงของข้า! นี่เป็นการเลื่อนตำแหน่งให้เจ้าและเจ้าก็ควรที่จะขอบคุณข้า” สีหน้าของมู่หรงเสวี่ยเปลี่ยนเป็นซีดเผือด “เจ้าชอบผู้ชายไม่ใช่เหรอ? ข้าเป็นผู้หญิงและเจ้าไม่ชอบไม่ใช่เหรอ?” ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าตัวเองกำลังถูกหลอก
“ข้าไม่เคยบอกว่าข้าชอบแต่ผู้ชาย ข้าชอบความอ่อนนุ่มของผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย” ความอิ่มเอมในหัวใจพองโตขึ้นเรื่อยๆ ถึงแม้จังหวะของหัวใจจะค่อยๆสงบลง แต่เรื่องความรักมันเป็นเรื่องเหลวไหล
สายตาของมู่หรงเสวี่ยเย็นชาขึ้นและใบหน้าก็เชิดสูงขึ้น “งั้นก็ฆ่าข้าซะ”
“ฮ่าฮ่า! ข้าจะยอมฆ่าผู้หญิงที่แสนสวยขนาดนี้ได้ยังไงล่ะ? ไม่ต้องห่วงหรอกนะ ข้าไม่บังคับเจ้าหรอก สักวันเจ้าจะต้องยินดีที่จะเป็นแน่ๆ!”
“ข้าอยากที่จะเจอเฟิงจือหลิง!” มู่หรงพูด
“เจ้าจะได้เจอเขาแต่ไม่ใช่ตอนนี้ มากินข้าวกับข้าก่อน” หวังฉิงไม่ได้ยื่นมือออกมาดึงมู่หรงเสวี่ย สุภาพบุรุษไม่กระชากสุภาพสตรีหรอก แน่นอนว่าเขาไม่ทำแน่
มู่หรงเสวี่ยยืนอยู่แบบนั้น ในใจมีความคิดมากมายนับไม่ถ้วน ไตร่ตรองถึงวิธีมากมายแต่ไม่ว่าจะวิธีไหนเธอก็ต้องได้ตัวเฟิงจือหลิงก่อน เธอจะทิ้งเฟิงจือหลิงและเข้าไปในมิติลับคนเดียวไม่ได้
“มานี่ ไม่งั้นอย่าหาว่าข้ารุนแรงนะ!” หวังฉิงพูด
ในฐานะหวังฉิงเจ้าแห่งดินแดนไฟ มีผู้หญิงตั้งมากมายที่ต่อแถวรอเพื่อที่จะมาเป็นนางสนมของเขาและเมื่อพวกเธออยากได้คำพูดแสนหวาน พวกเธอกลับได้สีหน้าที่รังเกียจและดูถูก
มู่หรงเดินเข้าไปแต่นั่งห่างจากหวังฉิง ครั้งนี้หวังฉิงไม่ได้บอกให้เธอนั่งอีกครั้ง ผู้หญิงแตกต่างจากผู้ชาย ธรรมชาติแล้วพวกเธอก็ไม่ต่างกันมากนักหรอก
เขาหันเนื้อในมือเป็นชิ้นเล็กๆและยื่นให้มู่เทียน
มู่หรงแปลกใจที่เห็นเขาแล้วก็รับมา กินเข้าไปคำเล็ก “เฟิงจือหลิง เจ้าจะปล่อยให้เขาหิวงั้นเหรอ?” หลังจากที่กินไปสองคำ มุ่หรงเสวี่ยก็ถามออกมา
สีหน้าของหวังฉิงเครียดขึ้น ไม่มีใครมีความสุขหรอกที่ผู้หญิงที่ตัวเองชอบเอาแต่ถามถึงผู้ชายคนอื่น
“เจ้ากับเขามีความสัมพันธ์อะไรกัน?!” คนรักงั้นเหรอ
“ครอบครัว! เขาเป็นเหมือนพี่ชายของข้าแต่เรื่องที่ข้าพูดก่อนหน้านี้เป็นเรื่องจริง ข้ามีคนที่รักแล้วและในชีวิตนี้ข้าก็จะไม่เปลี่ยนใจด้วย!” มู่หรงพูด
หัวใจของหวังฉิงเรียบเฉย ไม่สนใจคำพูดของมู่เทียน เขาหันไปหาองครักษ์ “เจ้าเอาอาหารไปส่งให้เฟิงจือหลิงด้วย!”
“ขอรับนายท่าน!” หนึ่งในองครักษ์คีบเนื้อขึ้นมาจากเตาและเดินไปอีกฝั่ง
“ใครคือคนรักของเจ้า? จิ่วหยวน องค์ชายสามของเมืองหิมะ” หวังฉิงมองไปที่มู่เทียนอย่างละเอียด เท่าที่เขารู้ จิ่วหยวนมีพระมเหสีและนางสนมแล้ว งั้นก็พูดได้ว่าสาวน้อยกำลังต่อแถวเพื่อที่จะสู้กับทุกคนที่อิจฉา
“ไม่ใช่จิ่วหยวน ข้าพูดไปเจ้าก็ไม่รู้จักหรอก” มู่หรงพูด
“เจ้าจะรู้ได้ยังไงว่าข้าไม่รู้จัก? ไม่มีคนไหนที่ข้าไม่รู้จักหรอก!” ปากของหวังฉิงเผยรอยยิ้ม ไม่เชื่อในคำพูดของเธอเลยสักนิด
“เขาชื่อฮวงฟูอี้!” มู่หรงพูด
รอยยิ้มที่มุมปากของหวังฉิงจู่ๆก็หุบลง สายตาเย็นชาของเขามองมาที่มู่หรงเสวี่ย เมื่อเขาเห็นสายตาที่รักใคร่และมีความสุขของเธอ เขาก็รู้สึกเจ็บปวดและบีบหัวใจขึ้นมาทันที เขาอยากที่จะรู้ว่าผู้ชายแบบไหนที่เธอต้องการ
เขาเหล่ไปมองหนึ่งในองครักษ์ที่อยู่ด้านข้างแล้วองครักษ์ชุดดำก็รีบเดินออกไปทันที ข้อตกลงระหว่างนายท่านกับข้ารับใช้ได้เกิดขึ้นแล้ว แค่มองครั้งเดียวก็เพียงพอที่จะเข้าใจได้แล้ว
ต่อมาหวังฉิงก็ไม่ได้ถามคำถามอะไรมู่เทียนอีก
มู่หรงเสวี่ยเองก็พอใจอย่างมาก เธอเดินเข้าไปที่รถม้าทันทีเพื่อที่จะพักแต่เธอก็ไม่กล้าที่จะผ่อนคลาย โชคดีที่หวังฉิงเป็นสุภาพบุรุษและไม่ได้ทำอะไรมากกับเธอ เขาสุภาพกับเธอมากกว่าตอนที่เป็นผู้ชายมาก
Related