เมื่อได้ยินประโยคนี้อีกครั้ง อันหลินจะเป็นบ้าแล้วจริงๆ
วัฏจักรที่โหดร้ายแบบนี้มันเรื่องอะไรกันแน่!
“อ๊ากกกก!” อันหลินยกหมัดแล้วรัวออกไปข้างหลังด้วยความโมโห
“พี่อันหลินโปรดไว้ชีวิตข้าด้วย!”
เมื่อเห็นหมัดของอันหลินมาพร้อมกับพลังอันน่ากลัว ชายคนนั้นก็คุกเข่าลงไป
อันหลินได้ยินเสียงอันคุ้นเคย หมัดหยุดชะงัก ใบหน้าฉายความแปลกใจ “หลิวต้าเป่า เจ้านี่เอง!”
ผู้มาเยือนมีรูปร่างอวบอ้วน ใบหน้าไร้เดียงสา กำลังมองอันหลินด้วยสีหน้าตื่นเต้น
เขาคือหลิวต้าเป่าที่อันหลินรู้จักจากการทะเลาะวิวาทนั่นเอง
กลางอากาศ เซียนพสุธาเยว่อิ่งที่นั่งอยู่บนหนังสือเล่มใหญ่ มือเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว กำลังจดบันทึกสถิติลงในสมุดบันทึก
หลี่เจิ้งหยาง ค่าพลัง 120 ค่าความดี 40 ปล. แพ้อันหลิน
อันหลิน ค่าพลัง 100 ค่าความดี 28
ตอนที่เซียนพสุธาเยว่อิ่งใช้นิ้วมือบันทึกสถิติของอันหลิน มุมปากก็ยกขึ้น เผยรอยยิ้มจางๆ ออกมา
“หึ เจ้าหนูคนนี้ใจสู้อย่างน่าตกใจ ไม่คิดว่าจะตอบโต้ได้อย่างดุดัน”
เธอดันกรอบแว่นสีดำที่สวมเพื่อความงาม ขาเรียวยาวขยับเบาๆ ทำหน้าตาครุ่นคิด
“จำได้ว่าตอนเข้าเรียนเป็นกายแห่งมรรคขั้นศูนย์สินะ แต่ทว่า มองจากพลังที่ปล่อยออกมายามต่อสู้เมื่อครู่นี้ เป็นกายแห่งมรรคขั้นเจ็ดแล้ว ความเร็วในการเลื่อนขั้นที่น่ากลัวแบบนี้…โกงหรือไง”
ขณะนั้นเอง หลิวต้าเป่าก็โผล่มาข้างหลังของอันหลินกะทันหัน
มีนักเรียนอีกสิบกว่าคนก็ตามหลังหลิวต้าเป่ามาด้วยเช่นกัน
“ฮ่าๆ คนพวกนี้คงไม่ได้มาหาเรื่องอันหลินอีกหรอกนะ อันหลินเป็นที่รังเกียจหรือไง”
เมื่อเห็นฉากน่าสนุกนี้ เซียนพสุธาเยว่อิ่งก็ยิ้มกริ่ม สายตาจดจ้องไปที่อันหลินอีกครั้ง
อันหลินเห็นนักเรียนแปลกหน้าสิบกว่าคนข้างหลังหลิวต้าเป่า หนังตาก็กระตุกขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้
“เจ้ามาทำไม คงไม่ได้จะมาหาเรื่องข้าอีกหรอกนะ” อันหลินเอ่ยปากถาม
หลิวต้าเป่าโบกมือพัลวัน “ที่ไหนกัน พี่อันหลินมีพลังเย้ยปฐพี แม้ข้าจะอยากสู้ก็เอาชนะไม่ได้!”
เขาพูดความจริง ตอนที่เพิ่งมาถึง เขาก็เห็นอันหลินสำแดงเดช ล้มหลี่เจิ้งหยางในหมัดเดียว
การประลองวิชาเซียนที่เทคนิคสุดยอดแบบนั้น ทำให้เขาตะลึงพรึงเพริด ต่อให้เขาจะมั่นใจ ก็ไม่กล้าสู้กับอันหลินในตอนนี้แล้ว
“ไม่พบมานาน มองเจ้าแบบเดิมไม่ได้เสียแล้ว” หลิวต้าเป่าส่ายหน้าถอนหายใจ
จู่ๆ ความสามารถของอันหลินก็แข็งแกร่งขึ้นปานนี้ หลิวต้าเป่าทั้งตกใจและอิจฉา อยากจะสลับร่างกันให้รู้แล้วรู้รอด
อันหลินได้ยินหลิวต้าเป่าบอกว่าไม่ได้มาหาเรื่อง ในใจก็โล่งอกขึ้นมาบ้างเหมือนกัน
ขณะนั้นเอง ระบบก็ดังติ้ง มีแจ้งเตือนปรากฏขึ้นมา
‘ขอแสดงความยินดี ที่เอาชนะคู่ต่อสู้ที่มีกายแห่งมรรคขั้นแปดหรือขั้นแปดขึ้นไปได้ ตอนนี้บรรลุระดับกายแห่งมรรคขั้นแปดแล้ว!’
อันหลินสัมผัสได้ว่าพละกำลังพุ่งทะยาน กระดูกและกล้ามเนื้อทั้งตัว ก็เปลี่ยนเป็นแข็งแรงขึ้นมาอย่างสิ้นเชิง
การเปลี่ยนแปลงของพละกำลัง ทำให้เขาปลาบปลื้มใจ เกิดความคิดต่างๆ นานาขึ้นมาในใจ
ในข้อกำหนดของระบบ การซ้ำมีด[1]ก็ถือว่าเอาชนะศัตรูได้เช่นกัน มันเป็นข่าวดีสำหรับเขาจริงๆ
ต่อไป เขาจะซ้ำมีดต่อไป
ราชาซ้ำมีด เราได้เป็นแน่นอน!
อันหลินร้อนใจคิดอยากจะซ้ำมีด นั่นเป็นเพราะเงื่อนไขการเลื่อนขั้นในแถบ ‘ระดับพลังยุทธ์’ ของระบบ เปลี่ยนเป็นเงื่อนไขดังต่อไปนี้
กายแห่งมรรคขั้นเก้า บรรลุภารกิจ ‘เอาชนะคู่ต่อสู่ระดับกายแห่งมรรคขั้นเก้าหรือขั้นเก้าขึ้นไป 10 คน’
เอาชนะคู่ต่อสู้กายแห่งมรรคขั้นเก้าหรือมากกว่าขั้นเก้าสิบคนงั้นเหรอ หากเป็นอันหลินคนก่อน มันเป็นเรื่องที่ไม่กล้าแม้แต่จะคิด แต่ตอนนี้กลับมีความหวังแล้ว
หากสู้ไม่ได้ก็อย่าสู้ซึ่งหน้าสิ เขาแค่จัดการคนที่ HP[2] ใกล้หมดก็สิ้นเรื่อง!
ขณะที่อันหลินกำลังจินตนาการไปต่างๆ นานา หลิวต้าเป่าก็พูดขึ้นมาอีกครั้งว่า
“พี่อัน หลังเห็นเจ้าสำแดงเดช ตอนนี้ข้ามีเรื่องหนึ่งอยากขอร้องหน่อย”
“อืม ว่ามาเถอะ มีเรื่องอะไร”
อันหลินสงสัยนิดหน่อย ศึกแห่งอิสรภาพห้ามต่อสู้เป็นกลุ่ม ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ เขาจะช่วยอะไรได้
“เอ่อ ที่จริงเรื่องเป็นอย่างนี้” หลิวต้าเป่ากระแอมไอ พูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า “ข้าอยากให้พี่อันเอาชนะข้าหน่อย!”
อันหลิน “…”
สุดท้ายแล้ว ก็จะต่อสู้อยู่ดีสินะ
หลิวต้าเป่าทำท่าเหมือนยอมพลีชีพอย่างไม่เสียดายชีวิต พูดอย่างองอาจว่า “มนุษย์มีใครไม่ตายบ้าง ตายด้วยน้ำมือของสหาย นับเป็นเกียรติแก่ชีวิตนี้แล้ว!”
มุมปากของอันหลินกระตุก เขาเข้าใจความหมายของหลิวต้าเป่าแล้ว “เจ้าอยากยืมมือข้า แพ้รบให้ยันต์คุ้มกันทำงาน จะได้หนีออกไปจากที่บ้าๆ นี่สินะ ใช่ไหม”
“โธ่ สหาย บางเรื่องรู้แล้วพูดออกมาไม่ดี!” หลิวต้าเป่าทำหน้าขมขื่น “ระดับอย่างข้ามาในที่แบบนี้ เป็นได้แค่กระสอบทรายชัดๆ”
ขณะที่พูด หลิวต้าเป่ายังเหลียวมองนักเรียนสิบกว่าคนที่อยู่ข้างหลังแวบหนึ่ง จากนั้นพูดต่อว่า “ความสามารถอ่อนด้อยเกินไป ไม่มีทางกระตุ้นแสงทองคุ้มกันกายของยันต์ประเมินผลแพ้รบได้ แต่นักเรียนที่พลังยุทธ์แก่กล้าเกินไป พวกเขาลงมือโหดเหี้ยมเกินไป อาจจะให้พวกเราพิการได้ในกระบวนท่าเดียว ถึงตอนนั้นครึ่งเดือนก็ลงจากเตียงไม่ได้ กลุ้มใจนัก วันนี้ได้พบสหายอันหลิน นับว่าสวรรค์มีตาแล้ว ตอนนี้แค่อยากขอร้องให้เจ้าควบคุมกำลัง จัดการข้ากับสหายข้างหลังพวกนี้จนแสงทองคุ้มกันทำงาน!”
แววตาของหลิวต้าเป่าเป็นประกาย กุมมือของอันหลินให้ ใบหน้าเต็มไปด้วยความอ้อนวอน
อันหลินสูดหายใจเข้าลึก เขาไม่รู้จริงๆ เลยว่า ควรจะเผชิญหน้ากับคนกลุ่มนี้ด้วยสีหน้าแบบไหน
เรียงแถวเข้ามาให้ feed[3] ถึงที่ จะรับหรือไม่รับดีล่ะ…
ด้วยเหตุนี้เอง เซียนพสุธาเยว่อิ่งที่อยู่เหนือเขตแดนค่ายกล ก็ได้เห็นฉากที่น่าเหลือเชื่ออีกครั้ง
เห็นนักเรียนที่อยู่ข้างล่าง กำลังเรียงแถวประลองกับอันหลิน จากนั้นถูกอันหลินสังหารในเสี้ยววินาที…
“หลิวต้าเป่า ปีหนึ่งห้องหนึ่งร้อย สหายอันหลิน ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วย!”
หลิวต้าเป่าแผดเสียงแล้วพุ่งเข้าไป จากนั้นถูกอันหลินใช้พลังหนึ่งในสิบของหมัดสะเทือนขุนเขาซัดจนตัวปลิว
หลิวต้าเป่าถูกพลังมหาศาลโจมตี กระอักเลือดล้มกระแทกพื้น ความแตกต่างอย่างมากทางด้านพลังกระตุ้นยันต์ประเมินผลแพ้รบให้ทำงานในชั่วพริบตา
ท่ามกลางแสงทองที่ปกคลุม หลิวต้าเป่ามองอันหลินอย่างซาบซึ้ง แสดงสีหน้ามีความสุขออกมา…
“หลี่หยวนชิง ปีหนึ่ง ห้องหนึ่งร้อย สหายอันหลิน ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วย!”
จากนั้น หลี่หยวนชิงก็ถูกหมัดสะเทือนจนตัวลอย ท่ามกลางแสงสีทอง เขามองอันหลินด้วยใบหน้าเปี่ยมสุข…
“ซ่งจิงอู่ ปีหนึ่งห้องเก้าสิบเก้า สหายอันหลิน ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วย!”
…
เซียนพสุธาเยว่อิ่งกุมขมับ จ้องมองฉากที่เกิดขึ้นบนพื้นอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
นางลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็เพิ่มคะแนนค่าความดีให้อันหลินไม่หยุด
ทุกครั้งที่เอาชนะนักเรียนคนหนึ่ง ค่าความดีของอันหลินจะเพิ่มขึ้นห้าคะแนน ช่วยไม่ได้ พลังต่อสู้มีแค่ห้า[4]ก็เป็นทรัพยากรเช่นกันนี่นา
สุดท้าย ขณะที่อันหลินจัดการนักเรียนคนสุดท้าย สถิติของเขาก็เปลี่ยนเป็น ‘ค่าพลัง 100 ค่าความดี 108’
การประเมินลำดับเซียนรอบใหม่ จะอิงตามค่าเฉลี่ยของค่าพลังและค่าความดี จากนั้นจัดอันดับสูงต่ำ
ตอนนี้ค่าพลังของอันหลินไม่เพิ่ม แต่ค่าความดีกลับพุ่งทะยาน ต้องขอบคุณพวกหลิวต้าเป่าที่เรียงแถวมาให้สังหารถึงที่!
“นักเรียนอันหลินโชคดีไม่เบาเลยนะ แต่หากเขาเดินหน้าต่อไปล่ะก็…”
เซียนพสุธามองร่างที่เดินหน้าไม่หยุดของอันหลิน ใบหน้าเปี่ยมด้วยความคาดหวัง
หลังอันหลินจัดการนักเรียนสิบกว่าคนแล้ว พลังภายในร่างกายก็ถูกเผาผลาญไปไม่น้อยเลย
เขาตั้งใจว่าจะหาสถานที่พักผ่อนสักหน่อย รอให้ฟื้นฟูพละกำลังแล้วค่อยเคลื่อนไหวต่อ
เมื่อทอดมองออกไป เห็นข้างหน้ามีภูเขาลูกหนึ่ง ภูเขาถูกป่าเขียวชอุ่มปกคลุม
บริเวณที่มีพืชคลุมดินสีเขียวงอกเงย พบเจอได้น้อยในเขตรกร้างแห่งนี้ สิ่งที่ป่าพันยอดขาดมากที่สุดก็คืออาหารกับแหล่งน้ำ
หลังอันหลินเห็นภูเขาลูกนั้น ก็รู้แล้วว่าตัวเองที่มีพึ่งพิงทางอาหารกับแหล่งน้ำแล้ว
ด้วยเหตุนี้ เขาจึงเริ่มเดินไปทางภูเขาลูกนั้นด้วยความตื่นเต้น
……………………….
[1] ซ้ำมีด หมายถึง โจมตีครั้งสุดท้าย โดยอาศัยจังหวะที่คู่ต่อสู้ใกล้ตายแล้ว
[2] HP คือ Health point หมายถึงพลังงานของตัวละคร โดยเมื่อพลังชีวิตหมด ตัวละครนั้นจะตาย
[3] Feed ในความหมายของเกม หมายถึง การปล่อยให้ตัวเองโดนฝ่ายตรงข้ามสังหาร
[4] พลังต่อสู้มีแค่ห้า เป็นศัพท์แสลงในอินเตอร์เน็ต ใช้อุปมาถึง คนที่อ่อนแอมาก กากมาก
Related