บทที่ 40 ฉูหยวน
ผู้แปล loop
ในเช้าวันรุ่งขึ้น.
หอผู้ป่วยใน แผนกศัลยกรรมกระดูกและข้อ
ท้องฟ้ายามเช้าได้สว่างขึ้น มันเป็นการเริ่มต้นของฤดูใบไม้ร่วงและอากาศตอนเช้าก็สดชื่นมากในวันนี้ พยาบาลทำการเดินตรวจรอบเช้าซึ่งทำให้ดงซูบินตื่นขึ้นมา เขาหาวและหันกับไปทักทายชายชราขาหักที่อยู่ในห้องพักฝื้นเดียวกัน ดงซูบินค่อยๆลงจาเตียงอย่างช้าๆและเทน้ำอุ่นให้ตัวเองดื่ม เขาสวมรองเท้าแตะของเขาและกำลังจะถามพยาบาลที่เดินตรวจห้องอยู่เกี่ยวกับการตรวจร่างกายอื่นๆที่เขามีในวันนี้ แต่เมื่อไอโฟนสี่ของเขาดังขึ้นมา และปรากฏเบอร์ของฉูหยวนขึ้น
ดงซูบินพยายามล้างคอของเขาและปัดหน้าจอเพื่อตอบ:“ สวัสดี?”
“ ซูบิน! นายอยู่ที่ไหน? เมื่อคืนทำไมนายไม่กลับมาที่ห้อง”
ดงซูบินกลัวว่าฉูหยวนนั้นจะเป็นห่วงและไม่ต้องการให้เธอเห็นเขานอนอยู่บนเตียงฝู้ป่วยในสภาพแย่ๆเช่นนี้ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจไม่ได้บอกเธอในเรื่องที่เขาถูกส่งตัวมาโรงพยาบาล ดังนั้นเขาจึงโทรหาเธอเมื่อวานนี้และบอกกับเธอว่าเขาจะไปทานอาหารเย็นกับเพื่อนร่วมงาน “ อ่า……เมื่อวานนี้เราไปทานอาหารเย็นกันจนดึกและฉันก็พักที่บ้านเพื่อนร่วมงานของฉันเลย ฉันเพิ่งตื่นและพร้อมที่จะไปทำงานต่อแล้วตอนนี้” เมื่อเขาพูดจบประโยค มีพยาบาลคนหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมกับแก้วพลาสติกเล็ก ๆ และตะโกน “ ยาอยู่ตรงนี้นะคะ ให้รับประทานมันหลังจากทานอาหารไปแล้วครึ่งชั่วโมงนะคะ”
“ ยาอะไรกัน” ฉูหยวนถามด้วยความสังสัย “ ซูบิน! นายอยู่ที่ไหนกันแน่”
ดงซูบิบเริ่มพูดติดอ่างขึ้นมา:“ ไม่มีอะไร……ไม่มีอะไร……มันเป็นรายการทีวีนะ”
“ นายคิดว่าฉันโง่หรือไงกัน? เร็วเข้า! บอกความจริงกับฉันมา!”
สิ่งที่ดงซูบินพยายามโกหกได้ถูกเปิดเผยออกมา ซึ่งเขาไม่ทางเลือกนอกจากบอกความจริงกับเธอเท่านั้น “ เอ่อ……ฉันอยู่ที่โรงพยาบาลเจียงกงนะ จริงแล้วเรื่องมันเป็นแบบนี้……. เมื่อวานนี้มีไฟไหม้ที่ทำงานของฉันและมีเอกสารสำคัญบางอย่างอยู่ในสำนักงาน ฉันเลยวิ่งเข้าไปหาเอกสารและถูกไฟเผามีแผลเล็กน้อย มันไม่ได้ร้ายแรงมาก อีกวันสองวันฉันก็จะออกจากโรงพยาบาลแล้ว เธอไม่จำเป็นต้องหาฉันก็ได้นะ ฉันสบายดี.”
“……”
“ ฉูหยวน? เกิดอะไรขึ้น ทำไมเธอถึงเงียบไปล่ะ?”
“……”
“ ขอโทษจริงๆ……ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโกหกเธอเลยนะ”
“ ตูด…… ตู๊ด …… ตูด ……” สายถูกตัด
ตอนนี้ร่างกายของดงซูบินชุ่มไปด้วยเหงื่อ เพราะเขาไม่รู้ว่าตอนนี้ฉูหยวนจะโกรธเขาอยู่รึเปล่า
ดงซูบินพยายามโทรหาฉูหยวนอีกครั้ง แต่เธอก็ไม่ได้รับสายแล้ง
อาหารเช้าพร้อมแล้วดังนั้นดงซูบินจึงได้เก็บโทรศัพท์ของเขาไว้ และเขาหยิบตั๋วอาหาร 10 หยวนที่ซื้อมาโดยจ้วงจื่อเมื่อวานนี้และจ่ายเงินให้หญิงสาวที่กำลังผลักรถเข็นอาหาร หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จ เขาก็แกะเปลือกไข่ด้วยมือเดียว ซึ่งเขาใช้เวลานานในการแกะมัน เมื่อสังเกตดูดีๆจะพบว่าพยาบาลในโรงพยาบาลจะไม่ดูแลผู้ป่วยที่นอกเหนือจากหน้าที่ของพวกเธอ ที่มีแค่การเปลี่ยนน้ำเกลือ เปลี่ยนถังออกซิเจน ฯลฯ โดยที่พวกเขาจะไม่ทำอะไรที่พิเศษให้กับผู้ป่วยอย่างแน่นอน มันทำให้เมื่อคุณต้องการใครสักคนที่จะดูแลคุณ คุณจะต้องจ้างคนดูแลและเสียเงินสิบหยวนต่อวัน แต่ดงซูบินไม่อยากเสียเงินจำนวนนั้นไปเขาจึงพยายามทำมันด้วยตัวเองทั้งหมด
ครึ่งชั่วโมงหลังอาหารเช้า ดงซูบินกินยาและเขาก็ได้ยินเสียงของรองเท้าส้นสูงกระทบกับพื้น
‘คลิก คลิก คลิก คลิก’ เสียงเท้ายิ่งดังขึ้นและเร็วขึ้น
มีคนนั้นหนึ่งวิ่งผ่านประตูห้องพักฟื้นและเสียงของรองเท้าส้นสูงก็หยุดลง คนๆนั้นหันหลังกลับมาอย่างรวดเร็วและผลักเปิดประตูห้องของดงซูบิน เธอคนนั้นคือฉูหยวน
ดงซูบินที่กำลังนอนพิงหลังอยู่บนเตียงรู้สึกประหม่าทันที่เห็นเธอ “ฉูหยวน! ฉันบอกเธอแล้วไงว่าฉันไม่ได้เป็นอะไรมาก”
ดวงตาของฉูหยวนเปลี่ยนเป็นสีแดงเมื่อเธอเห็นร่างกายของดงซูบินเต็มไปด้วยผ้าพันแผลและแผลไฟไหม้ เธอกัดริมฝีปากล่างของเธอและไม่พูดอะไรออกมา
“เอ่ออ …… ฉูหยวนเธอนั่งลงก่อนก็ได้” ดงซูบินผลักเก้าอี้ข้างเตียงของเขาให้กับเธอ
ฉูหยวนก็ยังไม่พูดอะไรและยังมองดูบาดแผลของเขาอยู่
ร่างกายของดงซูบินนั้นได้รับบาดเจ็บ แต่มันมีความรุนแรงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ตอนนี้เขาดูเหมือนผู้ชายที่ฉูหยวนไม่ชอบ ดงซูบินพยายามปกปิดบาดแผลส่วนใหญ่ด้วยผ้าห่มของเขา ทำให้เห็นบาดแผลเพียงเล็กน้อยที่โผล่ออกมา “ มันไม่ร้ายแรงอย่างที่เธอคิด ฉันยังสบายดี. ฉันก็แค่บาดเจ็บนิดหน่อยเท่านั้น ซึ่งฉันก็จะหายกลับมาเป็นปกติในอีกไม่กี่วันข้างหน้า”
ฉูหยวนตอนนี้ดูเหมือนเธอจะโกรธและเธอก็ตะโกนไปที่ดงซูบิน:“ มันเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงไม่ใช่หรือยังไงในการเข้าไปดับไฟ เหตุใดคนอื่นๆในที่ทำงานของนายถึงไม่ช่วยกันดับไฟยกเว้นแต่นาย นายเป็นคนเดียวที่เหลืออยู่จุดนั้นหรอไง?” ฉูหยวน ยกมือขึ้นและตบไปที่แขนที่ยื่นออกมาของดงซูบิน “ พยายามจะเป็นฮีโร่หรอ? ฮะ? ใครขอให้นายเป็นฮีโร่กัน?” เธอตบแขนของเขามากกว่า 10 ครั้ง
ดงซูบินเองก็ไม่เคยเห็นฉูหยวนโกรธมากขนาดนี้มาก่อน เขาไม่ต้องการให้เสียงดังไปกว่านี้
“ ฉันเป็นห่วงอาการป่วยของนายมาก นายรู้รึเปล่า!!” ฉูหยวนตะคอกใส่ดงซูบินอีกครั้งก่อนจะเช็ดน้ำตาเธอด้วยหลังมือ
ดงซูบินรู้สึกตื่นตระหนก “ ฉูหยวน! ฉันขอโทษ หยุดร้องไห้ได้แล้ว. ฉันจะไม่พยายามเป็นฮีโร่เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก” ดงซูบินเองกับรู้สึกดีโดนด่าจากฉูหยวน เขารู้สึกว่าเธอเป็นห่วงเขาจริงๆ “ ครั้งต่อไปที่ฉันเห็นไฟ ฉันจะวิ่งหนีคนแรกเลย จริงๆ! ฉันสัญญา.”
ฉูหยวนมองไปที่ดงซูบินอีกครั้งแล้วสัมผัสแผลที่แขนของเขาเบา ๆ “ มันเจ็บหรือเปล่า?”
ดงซูบิน หัวเราะ “ไม่”
“ นายเจ็บที่ไหนอีกไหม? ให้ฉันดูหน่อย.”
“ สำหรับตอนนี้หรอ? ก็มีอาการข้อเท้าแพลงแค่นั้น ไม่มีกระดูกหักใดๆ ฉันสบายดี.”
ฉูหนวนยกผ้าห่มขึ้นและเห็นบาดแผลทั้งหมดบนร่างกายของเขา เธอกำลังจะเริ่มร้องไห้อีกครั้งก่อนที่จะจ้องมองไปที่ดงซูบิน ด้วยความโกรธ:“ ซูบิน! นายต้องห้ามมีความลับกับฉันในอนาคต หากนายกล้าที่จะโกหกฉันอีกครั้ง ฉันจะตีก้นนายคอยดู!”
ชายชราและลูกชายของเขาที่เตียงนอนอยู่ติดกันหัวเราะไปที่ดงซูบิน
มันทำให้ดงซูบินเขินขึ้นมา:“ ฉันจะไม่โกหกเธออีกแล้ว”
ฉูหยวนยังคงจู้จี้เรื่องของเขามากขึ้น
ดงซูบินยอมเธอหมดทุกอย่างที่เธอต้องการ
ชายชราขาหักมองเห็นท่าทางของฉูหยวนและดงซูบินทำให้เขาหัวเราะและขัดจังหวะ:“ สาวน้อย! หยุดด่าเขาเถอะ ชายหนุ่มคนนี้เป็นคนสำคัญมาก หัวหน้าและเพื่อนร่วมงานของเขามาเยี่ยมเขาเมื่อวานนี้และฉันได้ยินมาว่าเขาจะได้รับการอนุมัติเป็นพิเศษสำหรับการเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิกส์แล้ว”
ดงซูบินตอบอย่างเริงร่าว่า:“ ถูกต้องแล้ว ฉันได้เป็นสมาชิกพรรคแล้วในตอนเมื่อ”
ฉูหยวนจึงใช้มือสัมผัสใบหน้าของดงซูบินเบา ๆ “ ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าชีวิตของนายหรอก หากมีอะไรเกิดขึ้นกับนายแล้วฉันจะเผชิญหน้ากับคุณป้าลวนอย่างไรกัน”
“ฮะ? ได้โปรดอย่าบอกแม่ของฉันนะเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น!”
“ตกลง.”
ในตอนนี้ฉูหยวนอยู่ในห้องพักฟื้นกับดงซูบินและดูแลเขาก่อนที่เธอต้องการที่จะไปพบแพทย์ของดงซูบิน เธอต้องการถามเกี่ยวกับสภาพของดงซูบิน
หลังจากที่เธอกลับมา ดงซูบินก็พูดออกมาว่า “นี้ก็สายมากแล้ว. รีบไปทำงานได้แล้ว”
ฉูหยวนส่ายหน้าของเธอและใช้ผ้าเช็ดตัวเปียกๆ เช็ดใบหน้าของดงซูบิน “ เดียววันนี้ฉันจะลางาน เพราะฉันยังเหลืออีกวันลาพักร้อนอีกตั้ง 5 วันต่อปี ฉันจะอยู่กับนายในช่วงสองวันนี้”
“ไม่จำเป็นหรอก. ฉันสบายดี.”
“ ยังจะกล้าพูดออกมาว่าสบายดี ตอนนี้นายเดินด้วยตัวเองยังไม่ได้เลย? หมอบอกกับฉันว่า “ต้องการใครซักคนที่จะต้องเข้าไปดูแลนาย”
“ ฉันสบายดีจริงๆ”
“ ถ้านายพูดอีกหนึ่งคำ ฉันจะฉีกปากของนายออกมาส่ะ!”
เมื่อเห็นว่าฉูหยวนเองก็ยืนยันที่จะปฏิเสธคำขอนั้น มันทำให้ดงซูบินไม่มีทางเลือกและต้องให้ฉูหยวนคอยดูแลเขา