บทที่ 82 แสดงออกมาแล้วอำนาจของเกาแพนเหว่ย!
ผู้แปล loop
ณ ทางเดินชั้นสี่
ฉูหยวนกำลังโต้เถียงกับเสี่ยวตงอยู่ตรงหน้าห้อง 402
“ เสี่ยวตง! นายเป็นคนที่ขว้างขยะลงมาใช่ไหม?”
“ฉันเอง. แล้วจะทำไม ถุงขยะไม่ได้หล่นไปโดนเธอสักหน่อย!”
“ นี้นายยังไม่สำนึกผิดอีกหรอไง? นายคิดว่าสิ่งที่นายทำถูกต้องแล้วหรอ?”
“ สิ่งที่ฉันทำมันก็ไม่ใช่ธุระของเธอสักหน่อย มันเกี่ยวกับดงซูบินตั้งหาก หากหมอนั้นต้องการมีปัญหาก็เรียกหมอนั้นมาเจอกับฉันตัวๆจะดีกว่า! หรือว่ามันกลัวฉัน ฮึ่ม! ถ้าหมอนั้นไม่มาหาฉัน ฉันก็จะไปหาหมอนั้นเอง! ตอนที่พ่อของฉันได้ยินสิ่งที่หมอนั้นตะโกนด่าขึ้นมาในตอนนั้น เขาแทบจะทนไม่ไหว พี่สาวฉู! เธอช่วยกลับไปแล้วบอกให้หมอนั้นรอ เพราะหมอนั้นกล้าที่จะด่าครอบครัวของฉัน รู้ไว้เลยนะว่าเราจะได้เห็นดีกัน! ฉันจะทำให้แน่ใจว่าหมอนั้นจะต้องเสียใจที่ตะโกนด่าพวกเรา!” หลังจากเสี่ยวตงล้มเหลวในการสอบเข้าข้าราชการและล้มเหลวในการจีบฉูหยวน เขาตัดสินใจเลิกชอบเธอ ตอนที่ฉูหยวนพูดปกป้องดงซูบินมันทำให้เสี่ยวตงอิจฉา! น้ำเสียงของเขาที่มีต่อฉูหยวนในตอนนี้นั้นหยาบคายถึงที่สุด!
ฉูหยวนไม่ได้คาดหวังว่าจะเห็นธาตุแท้ของเสี่ยวดงเช่นนี้ เพราะสมัยก่อนเขาสุภาพต่อเธอมาก แต่ตอนนี้เขากลับเปลี่ยนไปเป็นคนล่ะคน ตอนนี้เธอโกรธมาก “ ซูบินอาจผิดที่ตะโกนด่าครอบครัวของนาย แต่นั่นเป็นเพราะนายโยนถุงขยะออกไปนอกหน้าต่าง อีกทั้งนายยังทำให้รองเท้าของเขาสกปรก แม้แต่คนที่ไม่คิดอะไรมากก็คงจะต้องโกรธเช่นกัน……”
“แล้วเธอคือใคร? เธอมีสิทธิ์อะไรมากพูดเรื่องนี้?” หัวหน้าส่วนซูยืนอยู่ตรงกลางของห้องนั่งเล่นและจ้องมาที่ฉูหยวน “ ฉันขี้เกียจเถียงสิ่งเหล่านี้แล้ว เธอกลับไปแล้วบอกไอ้เด็กเหลือขอนั้นไหวด้วยนะ หมอนั้นจะต้องชดใช้สำหรับสิ่งที่เขาพูด เขากล้าที่จะด่าลูกชายของฉันและฉัน หมอนั้นคิดว่ากำลังด่าใครอยู่รู้ตัวไหม? หมอนั้นทำงานกับสำนักความมั่นคงสาธารณะใช่ไหม สาขาเขตตะวันตก ฉันรู้จักหัวหน้าบางคนที่นั่น บอกไอ้เด็กเหลือขอให้เตรียมทำงานหนักๆไว้เลย เดียวฉันจะสั่งสอนหมอนั้นเอง!”
“ คุณ!” ฉูหยวนกัดฟันของเธอ “ พวกคุณทุกคนไม่มีเหตุผลเลย!”
ผู้คนที่อยู่อาศัยในห้องอื่นๆในชั้นสี่มองออกมาจากตาแมวของพวกเขา ทุกคนสนใจที่จะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นข้างนอกนั้น
ฝั่งของเสี่ยวตงก็มองฉูหยวนด้วยแววตาอาฆาตแค้น “ พี่สาวฉู! คุณกลับไปเถอะ นี่ไม่ใช่ธุระของพี่อย่ามายุ่งเรื่องนี้เลย!”
มันยิ่งทำให้ฉูหยวนรู้สึกโกรธมากขึ้นไปอีก เธอพูดตอบโต้กลับไปว่า “ ถ้าเรื่องนี้เป็นธุระของฉัน ฉันจะไม่ไปไหนทั้งสิ้น! เสี่ยวตง! หัวหน้าส่วนซู! คุณทุกคนไม่ควรทำแบบนี้! พวกคุณทุกคนทิ้งขยะของคุณออกไปนอกหน้าต่างแล้วตั้งใจทิ้งให้หล่นโดนซูบิน! คุณทุกคนไม่แม้แต่จะขอโทษและตอนนี้คุณยังต้องการใช้เส้นสายของคุณกลั่นแกล้งซูบินอีกอย่างงั้นหรอ? อย่างงั้นก็ให้ทุกคนในอาคารนี้เป็นคนตัดสินเถอะกับพฤติกรรมแย่ๆเหล่านี้ของพวกคุณทั้งหมด!”
เสี่ยวตงโต้กลับไปว่า “ ถ้าครอบครัวของฉันจะทำแล้วมีปัญหาอะไรไหมล่ะ!”
ฉูหยวนชี้นิ้วไปที่เสี่ยวตงด้วยใบหน้าที่โกรธจัด “ เสี่ยวตง! นาย……”
ในตอนนี้ดงซูบินได้ยินการทะเลาะและรีบขึ้นไปชั้นบน เขาเห็นฉูหยวนตัวสั่นด้วยความโกรธ มันทำให้เขาโกรธมาก เลือดของเขากำลังเดือดผล่าน “ ฉูหยวน! ตอนนี้ใครกำลังด่าเธออยู่?!”
หัวหน้าส่วนซูเยาะเย้ย “ ฉันเอง!”
ฉูหยวนหันหลังกลับมาและดึงดงซูบินกลับมาทันที “ ซูบิน! นายกลับไปก่อน ให้ฉันจัดการเรื่องนี้เอง!”
“ อะไรนะ! ให้ฉันกลับไปก่อนอย่างงั้นหรอ?!” ดงซูบินกล่าว “เฮ้! คุณทุกคนไม่มียางอายบางหรือยังไง? ฉันหมดความอดทนแล้ว! วันนี้ฉันจะจัดการปัญหาทั้งหมดกับคุณเอง!”
เสี่ยวตงหัวเราะเหยียดหยาม
หัวหน้าส่วนซูเองก็หัวเราะออกมาเช่นกัน “ อะไรนะ! ไอ้เด็กเหลือขออย่างแกจะมาจัดการกับฉัน? แกคิดว่าแกเป็นใครกัน?”
“ หัวหน้าซูบิน!” เกาแพนเหว่ยที่วิ่งตามดงซูบินมาติดๆก็รู้สึกประหลาดใจกับสิ่งที่เขาเห็น เขารีบวิ่งไปข้างหน้าทันทีและยืนอยู่ตรงหน้า “ หัวหน้าซูบิน! พี่สาว! ถอยไปอยู่ข้างหลังผมเถอะ! เรื่องนี้ผมจัดการเอง!”
เกาแพนเหว่ยเองก็รู้สึกไม่สบายใจช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้ เขาเคยใช้ดงซูบินให้ทำอะไรหลายๆอย่างตอนที่ดงซูบินเพิ่งเข้ามาในสำนักงานใหม่ อีกทั้งเขายังหยาบคายกับดงซูบินหลายต่อหลายครั้ง แต่ตอนนี้ดงซูบินกับกลายเป็นรองหัวหน้าและได้รับการสนับสนุนจากหัวหน้าสำนักเสี่ยว หัวหน้าสำนักหยาง และเลขาธิการซองโฉจือ ณ เวลานี้ ดงซูบินไม่ใช่คนที่เกาแพนเหว่ยสามารถทำให้ขุ่นเคืองได้อีกต่อไป นี่คือเหตุผลว่าทำไมเขาถึงวางตัวต้อยต่ำและพยายามที่จะประจบดงซูบิน เพราะเขาหวังที่จะให้ดงซูบินอภัยให้เขากับความผิดที่เขาเคยก่อไว้ เขาไม่ต้องการที่จะมีชีวิตการทำงานจบลงอย่างฉางจี้
ตอนนี้หัวหน้าซูบินได้โต้เถียงกับใครบางคนและเกาแพนเหว่ยรู้สึกว่านี่เป็นโอกาสที่จะสร้างความประทับใจให้เขา ไม่ว่าเขาจะทำดีสักกี่ครั้ง มันก็น่าจะไม่น่าประทับใจเท่ากับการช่วยเหลือดงซูบินในครั้งนี้เป็นอันขาด! นี่เป็นเพียงการทะเลาะกัน แม้ว่าเขาจะแพ้ในครั้ง แต่หัวหน้าก็ยังคงต้องรู้สึกถึงความจริงใจของเขาอย่างแน่นอน!
“ หัวหน้าซูบิน?” เสี่ยวตงและหัวหน้าส่วนซูหัวเราะ “ หัวหน้าอะไร แกแต่งตั้งตัวเองเป็นหัวหน้าอย่างงั้นหรอ?”
เกาแพนเหว่ยไอออกมาอย่างสุขุม “ นายว่าใครแต่งตั้งตัวเองกัน? นายกำลังพูดอะไรอยู่?!”
เสี่ยวตงจ้องไปที่เกาแพนเหว่ยอย่างเย็นชา “หมอนี้เป็นใครกัน!?”
ดงซูบินซึ่งยืนอยู่ข้างๆจู่ ๆ ก็นึกถึงบางสิ่งบางอย่างออก เขามองไปที่เกาแพนเหว่ย:“ ลุงของนายมาจากด่านศุลกากรไม่ใช่หรือยังไง?”
“ ใช่แล้วครับ” เกาแพนเหว่ยพยักหน้า “ฮะ? ครอบครัวนี้มาจากศุลกากรหรอศุลกากรปักกิ่งหรอ?”
เกาแพนเหว่ยมองหน้าหัวหน้าส่วนซู เขามองไปและคุ้นๆหัวหน้าส่วนซูก็มองมาที่เกาแพนเหว่ยเขาจำได้ว่าเคยเห็นเกาแพนเหว่ย มาก่อน
เสี่ยวตงหัวเราะ “ โอ้! เป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ ลุงของนายชื่ออะไรกัน? คงไม่ใช้คนใหญ่คนโตอะไรสินะ! งั้นนายเองก็กลับไปถามว่าเขารู้จักพ่อของฉันไหม?!”
‘อา?’ เกาแพนเหว่ยดูตกใจมาก จากวิธีที่คนๆนี้พูด คนวัยกลางคนคนนี้ดูเหมือนจะมีตำแหน่งสูงอยู่ เขาน่าจะเป็นผู้อำนวยการสำนักหรือรองผู้อำนวยการสำนักแน่ๆ
ดงซูบินเห็นเกาแพนเหว่ยเงียบและรู้สึกโมโหขึ้นมา เพราะเขาไม่รู้ว่าเกาแพนเหว่ยจะทำสิ่งใดต่อไป
“ฮะ? ทำไมนายถึงเงียบไปล่ะ” เสี่ยวตงตะโกนอย่างเย่อหยิ่ง “ฉันกำลังถามนาย! ลุงของนายชื่ออะไร! ฉันจะขอให้พ่อของฉันดูแลเป็นพิเศษเลย!”
หัวหน้าส่วนซูเยาะเย้ยเขา “ แผนกไหนที่ลุงของแกสังกัดอยู่? ด่านศุลกากรสนามบิน? จงกวนชุนศุลกากร? ศุลกากรเขตพัฒนาเศรษฐกิจและเทคโนโลยีปักกิ่ง หรือเขามาจากสำนักงานใหญ่?”
ฮะ? เกาแพนเหว่ยรู้สึกว่าเขาเหมือนออกมาฆ่าตัวตายชัดๆ เขายืนอยู่ที่นั่นโดยไม่พูดอะไรเลย เขาต้องการที่จะสร้างความประทับใจให้กับดงซูบิน แต่เขาไม่สามารถทำให้ลุงของเขามีปัญหา เขามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับลุงของเขามาก
ดงซูบินเองก็รู้ว่าเขาไม่สามารถไว้ใจเกาแพนเหว่ยได้ เขาก็ก้าวไปข้างหน้า!
ฉูหยวนเห็นดงซูบินก้าวไปข้างหน้า เธอก็รีบคว้าดงซูบินไว้และตะโกน “ หัวหน้าส่วนซู! คุณก็เป็นข้าราชการเช่นกัน คุณ……”
ก่อนที่ฉูหยวนจะพูดอะไรต่อไปเกาแพนเหว่ยก็อุทานแบบขัดจังหวะขึ้นมา “ฮะ? พี่สาว, คุณพูดว่าอะไรนะ?”
เกาแพนเหว่ยรู้สึกตกตะลึง เธอมองไปที่เกาแพนเหว่ย “ ฉันพูดอะไร?”
เกาแพนเหว่ยไม่เชื่อสิ่งที่เขาพึงได้ยิน เขาจ้องไปที่เสี่ยวตง “ พ่อของนายคือใคร หัวหน้าส่วนซู หัวหน้าส่วน?”
“ ถูกต้องแล้ว!” เสี่ยวตงตอบอย่างมั่นใจ
“ @ $ # $ ^% $ & $% ^ @% # $ ^ $% & !!!!” เกาแพนเหว่ยเหวี่ยงความหยาบคายทุกอย่างไปที่เขา ‘เวรเอ๋ย! ฉันเกือบเสียหน้าต่อหน้าหัวหน้าซูบิน! หัวหน้าส่วนเล็กๆนี้เป็นใครที่พยายามทำให้ฉันตกใจ การพูดจาเหมือนจะเป็นคนใหญ่คนโต! ฉันยังคิดว่าแกเป็นผู้อำนวยการสำนักเสียอีก!’ เกาแพนเหว่ยพองหน้าอกออกทันทีและไม่แม้แต่จะมองพวกนั้น เขายิ้มให้กับดงซูบิน “ หัวหน้าซูบินครับ! ปล่อยให้ผมจัดการ!”
เสี่ยวตงกล่าวว่า:“ ฉันได้ถามไปก่อนหน้านี้แล้วไอ้ซูบินเนี่ยเป็นหัวหน้าอะไร เขาเพิ่งเข้ารับราชการได้แค่สองเดือนเท่านั้น……”
“ แกหุบปาก!” เกาแพนเหว่ยไม่ได้มองหน้าเสี่ยวตง เขาจ้องไปที่หัวหน้าส่วนซู “ หัวหน้าแผนกในศุลกากรใช่ไหม? แกมาจากแผนกไหน แกชื่ออะไร” ทุกคนในที่นั้นตกใจกับการแสดงที่เปลี่ยนไปของเกาแพนเหว่ย “ฉันจำได้แล้ว. ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมฉันถึงคุ้นแก มีครั้งหนึ่งที่ฉันตามลุงไปที่สำนักงานใหญ่เพื่อทำอะไรสักอย่าง และแกเป็นคนที่เปิดประตูรถให้พวกเราใช่ไหม?”