บทที่ 86 เจ้าหน้าที่สำนักความมั่นคงของรัฐ!
ผู้แปล loop
ตอนนี้เวลาย้อนกลับไปหนึ่งนาทีก่อนหน้า
“หุบปาก! หุบปาก! เอากล้องนั่นมาให้ฉัน!”!” หัวหน้าคนงานก็รีบเดินไปข้างหน้าเพื่อฉกกล้องมา
ในช่วงที่ดงซูบินไม่ได้ใช้พลังพิเศษเลยทั้งวัน เขาจะเอาพลังพิเศษไปฝึกใช้ก่อนนอนเสมอ หลังจากฝึกมาเกือบร้อยครั้ง ตอนนี้เขาเริ่มชินกับความไม่สบายใจของฉากและสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปในเวลาเพียงชั่วพริบตาก่อนที่เขาจะกลับมามีสติอีกครั้ง เขามองไปที่หัวหน้าคนงานอย่างเฉยเมยและหลบหลีกเขา ดงซูบินตะโกนใส่คนงานสองสามคนที่กำลังขุดกระเบื้องปูพื้นด้านหลังหัวหน้างานคนนั้น “ หยุดขุด! หยุด! หยุดสิ่งที่พวกนายกำลังทำอยู่!” เมื่อดงซูบินตะโกนใส่พวกเขา ดงซูบินก็กำลังคิดแผนไปด้วยพร้อมกัน ‘กล่องนั้นฝังอยู่ใต้แผ่นกระเบื้องและไม่มีเหตุผลใดที่กล่องจะไม่ใช่สมบัติ นี่เป็นโอกาสที่หายากมากๆสำหรับฉัน แต่ฉันจะเอากล่องนั้นมาได้อย่างไงกัน คนเหล่านี้กำลังจะเจอกล่องแล้ว! ดงซูบินเอ๋ยคิดสิ คิดสิ!’
คนงานไม่กี่คนหยุดและมองไปที่ดงซูบิน
“ นายคิดว่านายเป็นใครถึงมาสั่งให้พวกเราหยุดได้?” หัวหน้าคนงานหันกลับมาและตะโกนว่า:“ ทำงานของพวกแกต่อไป!”
คนงานมองหน้ากันและใช้พลั่วยกกระเบื้องขึ้น
กระเบื้องหินสีเทานั้นกำลังถูกยกขึ้น ดงซูบินในตอนนี้เขาดูเป็นกังวลมากและเสียสมาธิเล็กน้อย หัวหน้าคนงานใช้โอกาสนี้ฉกกล้องจากดงซูบินและหัวหน้าคนงานก็พยายามลบรูปถ่ายทั้งหมดมันทำให้ดงซูบินตะโกนอย่างดุเดือด:“ คุณนี้มัน!” ทันใดนั้นดงซูบินก็คิดอะไรดีๆออกมา เขาเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าใบใหม่ออกมาและโบกมือต่อหน้าหัวหน้าคนงานคนนั้น “ คุณอ่านมันออกไหม เห็นไหมว่านี้คืออะไร!”
“ อะไรนะ?” หัวหน้าคนงานที่กำลังจะลบภาพเมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมอง
มันเป็นบัตรหนังสีดำ ขนาดใกล้เคียงกับใบขับขี่ และมีสัญลักษณ์ประจำชาติสีเงินพร้อมคำว่า “ผู้ตรวจ” ทั้งในภาษาอังกฤษและภาษาจีนกลางพิมพ์บนหน้าปก ในบัตรนั้นมีรูปถ่ายของดงซูบินและชื่อของเขารวมถึงตำแหน่งของเขาด้วยอีกทั้งยังมีชื่อสถานที่ทำงานของเขา สำนักความมั่งคงของรัฐ เมืองปักกิ่งสำนักงานเขตตะวันตกสำนักงานรองหัวหน้าสำนักงานทั่วไป แน่นอนว่าดงซูบิน ปกปิดข้อมูลส่วนตัวของเขาด้วยนิ้วของเขาขณะที่เขาถือบัตรของเขาเพียงแค่ให้เห้นคำว่า “ความมั่นคงของรัฐ” และ “รองหัวหน้า”
หัวหน้าคนงานคนนั้นตกตะลึง:“ ความมั่นคงของรัฐอย่างงั้นหรอ”
ดงซูบินชี้ให้คนงานที่พยายามยกกระเบื้องปูพื้นหินขึ้น “หยุดเดียวนี้!”
คนงานกลัวว่าหัวหน้าคนงานจะดุพวกเขาและพวกเขาจึงเพิกเฉยต่อคำสั่งของดงซูบิน
หัวหน้าวัยกลางคนคนนั้นกลับมามีสติจากอาการช็อคและตะโกนอย่างรวดเร็ว:“ พวกแกไม่ได้ยินสิ่งที่เจ้าหน้าที่พูดเหรอ? หยุดสิ่งที่พวกกำลังทำอบู่!”
“ เจ้าหน้าที่?” คนงานเริ่มสับสน ‘ก่อนหน้านั้นหัวหน้าของพวกเราพยายามฉกกล้องของชายหนุ่มคนนั้นและไม่วินาทีต่อมาเขาเรียกชายหนุ่มคนนั้นว่าเจ้าหน้าที่?ง แต่พวกเขาทั้งหมดเชื่อฟังและหยุดทำงาน พวกเขาวางเครื่องมือหล่น ‘ปัง’ แผ่นหินที่ยกขึ้นประมาณ 30 องศาก็ตกลงบนพื้น
หัวหน้าคนงานลูบฝ่ามือของเขาด้วยความอับอายและยิ้ม:“ ท่านครับ! ผมต้องขอโทษด้วย ผมคิดว่าท่านเป็นพวกนักข่าวมาทำข่าวเสียอีก”
ดงซูบินรู้สึกโล่งใจที่เขาสามารถควบคุมสถานการณ์ได้และเขาก็จดจำท่าทางที่หยาบคายของหัวหน้าคนงานที่มีต่อเขาก่อนหน้านี้ได้ มันทำให้เขาโมโหแต่เขาไม่ได้สนใจหรอกว่าหัวหน้าคนงานนั้นอายุมากกว่า 20 ปีแล้ว และดงซูบินเริ่มดุด่าหัวหน้าคนงานคนนั้น:“ นักข่าวหรอ? นี้นายใช้สมองส่วนไหนคิดเนี่ย! หากฉันเป็นนักข่าว ฉันจะยืนถ่ายรูปแบบโจ่งแจ้งอย่างงั้นหรอ? อา? ถ้าเป็นนักข่าวแล้วมันผิดตรงไหน? นายได้รับอนุญาตให้ฉกสิ่งของส่วนตัวของนักข่าวไปได้หรือยังไงกัน เรากำลังอยู่ในสังคมที่ปฏิบัติตามกฎหมายอยู่รึเปล่า! นายรู้หรือไม่ว่าสิ่งที่นายทำอยู่มันผิดกฎหมาย? อา? นายคิดว่านายเป็นใครกัน?!”
หัวหน้าคนงานตอบด้วยใบหน้าที่บูดบึ้ง:“ ไม่ ไม่……เป็นความเข้าใจผิดครับ”
ดงซูบินยังคงดุด่าเขาอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะพูดขึ้นมาว่า “ ……กล้อง!”
“ อ่า……นี่ครับ……ผมเสียใจมาก” หัวหน้าคนงานคืนกล้องดิจิทัลยื่นไปที่ดงซูบินอย่างรวดเร็ว เขารู้ว่าสำนักความมั่นคงของรัฐนั้นมีอำนาจมากที่สุด เขาไม่สามารถที่จะต่อต้านใครที่มาจากหน่วยงานนี้โดยเฉพาะระดับหัวหน้าที่นั่น เขาไม่ได้พยายามโต้กลับหรือโต้แย้งใดๆ เขาหวังเพียงว่าดงซูบินจะเดินออกไป และเขาก็ไม่ต้องการถูกเชิญไปที่สำนักนั้นด้วย“ อ่า”
แต่ดงซูบินไม่ได้คิดว่าจะเดินออกไป
ดงซูบินปัดฝุ่นบนเสื้อผ้าของเขาและเดินไปที่คนงาน “ หยุดพักก่อน ฉันมีคำถามสำหรับนายทุกคน”
หัวหน้าคนงานที่ตามมาจ้องไปที่คนงานของเขา:“ ตอบคำถามของเจ้าหน้าที่คนนี้ตามความเป็นจริง แกทุกคนเข้าใจไหม?” ตอนนี้หัวหน้าคนงานคนนั้นหันใจของเขาสั่นมาก ‘เจ้าหน้าที่ความมั่นคงของรัฐมาอยู่ที่นี่แล้ว……. เขามาที่นี่เพื่อสอบสวนกรณีหรือเขามาที่นี่เพื่อตรวจสอบเกี่ยวกับฉันกันแน่ สิ่งนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้น ฉันรับเงินชาวบ้านที่ดื้อรั้นบางคนเท่านั้นที่ปฏิเสธที่จะย้ายออก ฉันไม่ได้ทำอะไรเลยที่ส่งผลต่อความมั่นคงของชาติ!’
คนงานมองไปที่ดงซูบิน
ดงซูบินล้างคอของเขา “ พวกนายเคยเห็นชายร่างสูงที่มีผิวคล้ำในวัยสี่สิบกว่าๆที่นี่หรือไม่”
ทุกคนส่ายหัว
หัวหน้าคนงานรู้สึกโล่งใจเมื่อเขารู้ว่าเขาไม่ใช่คนที่จะถูกสอบสวน “พวกแกคิดให้ดีๆ!”
คนงานส่ายหัวอีกครั้ง “ พวกเราจำไม่ได้”
ดงซูบินยังแสร้งทำต่อไป:“ เขาสูงประมาณ 1.9 เมตรและมีผมสั้น”
“ พวกเราไม่เคยเห็นคนอย่างงั้นนะ” คนงานพูดด้วยสำเนียงตะวันออกเฉียงเหนือตอบว่า“ จริงๆพวกเราสนใจแค่งานที่เป็นงานของเราเท่านั้น เลยไม่ได้สนใจรอบๆนะครับ”
หัวหน้าคนงานยังกล่าวเพิ่มเติมว่า“ ท่านครับ! ผมไม่เคยเห็นคนแบบนั้นอยู่แถวนี้เลยนะครับ เขาก่ออาชญากรรมร้ายแรงหรือป่าว?” ดงซูบินไม่ได้สนใจเขาและหัวหน้าคนงานคนนั้นยิ้มด้วยความอับอาย “ ขอโทษ……ขอโทษ… .. ผมไม่ควรถามเรื่องนี้”
ดงซูบินมองสภาพของกระเบื้องปูพื้นจากมุมตาของเขาและเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว เขาหยุดบนกระเบื้องปูพื้นหินนั้นโดยตรง “ตกลง. พวกนายทุกคนทำงานต่อเถอะ อย่าบอกใครเกี่ยวกับสิ่งที่ฉันพูดกับนายในวันนี้”
หัวหน้าคนงานตอบกลับอย่างรวดเร็ว:“ ไม่ต้องกังวลครับ เราจะไม่พูดอะไรเลย!”
ดงซูบินพยักหน้าและหยิบสมุดบันทึกของเขาออกมาเพื่อจดโน๊ตข้อเสนอของเขาต่อไป
หัวหน้าคนงานมองไปที่ดงซูบินและสงสัยว่าทำไมเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของรัฐคนนี้จึงไม่เดินออกไป? และเขากำลังเขียนอะไรอยู่? เขาถามอย่างระมัดระวัง:“ ท่านครับ! พวกเขายังทำงานอยู่และที่นี่เต็มไปด้วยฝุ่นเยอะมาก เสื้อผ้าของท่านจะสกปรกนะครับ”
ดงซูบินไม่ได้เงยหน้าขึ้นและตอบกลับ “ทุกอย่างปกติดี. ฉันจะอยู่ที่นี่”
หัวหน้าคนงานก็ยิ้มและมองคนงานของเขา เขาทำท่าให้พวกเขาทำงานต่อไป
คนงานจอบและมองดูกระเบื้องหินที่ซูบินยืนอยู่ เขาเปิดปากของเขาและกำลังจะพูดอะไรบางอย่างเมื่อคนงานคนอื่นลากเขาออกไปอย่างรวดเร็ว คนงานไปทำงานในส่วนอื่นของบ้าน พวกเขายังคงรื้อถอนบ้านต่อไป
หนึ่งชั่วโมงต่อมาและดงซูบินยังคงยืนอยู่ที่นั่น
สองชั่วโมงต่อมาดงซูบินก็ยังไม่ได้ออกจากจุดนั้น
สามชั่วโมงผ่านไปและดงซูบินยังอยู่ที่นั่น
มันมืดและหัวหน้าคนงานกับคนงานที่เต็มไปด้วยเครื่องมือ กระเพาะอาหารของดงซูบินกำลังคำรามและขาและหลังของเขามันปวดมากๆ เขามองไปรอบ ๆ และทำให้แน่ใจว่าคนงานเหล่านั้นจะไม่กลับมาอีกก่อนที่จะเอาเท้าของเขาออกจากแผ่นกระเบื้องหิน เขารีบวิ่งไปที่ห้องน้ำก่อนที่จะกลับไปทานอาหารเย็นที่ร้านอาหารใกล้ๆนั้น
‘โอกาสรวยอยู่ในกล่องนี่แล้ว!’