EP 202 ซื้อของขวัญให้กับสองสาว
By loop
วันรุ่งขึ้นดงซูบินกลับไปทำงานตามปกติ
เหลียงเฉินเผิงที่เป็นหัวหน้าสำนักยังคงอยู่ในปักกิ่งและดงซูบินเองก็ไม่ได้เร่งรีบที่จะเริ่มงานของเขา เขานั้งทำเอกสารในห้องทำงานเสร็จและขับรถไปที่สถานีหมู่บ้านฮุ่ยเทียนเพื่อพบกับหลิวด่าไห่และหลี่ซานเมียวเกี่ยวกับคดีที่เกิดขึ้นระหว่างที่เขาไม่อยู่ โชคดีที่มีเพียงอาชญากรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ และไม่มีอะไรสำคัญมากนัก อาชญากรรมสำคัญมีเพียงกรณีเดียวคือคดีลักพาตัวเด็กซึ่งทางสำนักได้ตั้งทีมสอบสวนเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา หมู่บ้านฮุ่ยเทียนเริ่มมีคดีคนหายเช่นกัน ดงซูบินสั่งให้คนของเขาสืบคดีเหล่านี้และพยายามคลี่คลายโดยเร็วที่สุด เขาออกจากสถานีในช่วงบ่ายเนื่องจากไม่ต้องการรบกวนการปฏิบัติงานของสถานี เขาต้องการเป็นผู้นำที่กำหนดทิศทางทั่วไปสำหรับคนของเขาเท่านั้น
17.00 น. เขตที่อยู่อาศัยของสำนักการรักษาความปลอดภัยสาธารณะเขต
ดงซูบินเข้าไปในห้องของเขาและเห็ยหยูเซียวเซียว กอดหยูเหม่ยเซียวซึ่งทำตัวดูน่ารัก หยูเหม่ยเซียว จับมือลูกสาวด้วยความรักและกำลังจัดหนังสือเรียนของโรงเรียนมัธยมบนโต๊ะกาแฟ พวกเธอเห็นดงซูบินทำให้หยูเหม่ยเซียวรีบวิ่งไปหยิบรองเท้าแตะให้เขา หยูเซียวเซียวเองก็ตามแม่ของเธอมาติดๆของเธอมากและทุกครั้งที่ ดงซูบินเห็นพวกเธอก็จับมือไม่ก็กอดกัน
“ เธอกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่” ดงซูบินถามขณะถอดรองเท้า
หยูเหม่ยเซียว ตอบ “ พวกเราพึงกลับจากโรงเรียนของหยูเซียวเซียว ก่อนหน้านี้ 10 นาทีเอง”
ดงซูบินเองก็พยักหน้า “ การลงทะเบียนเป็นอย่างไรบ้าง?”
หยูเหม่ยเซียว มองไปที่ดงซูบินด้วยแววตาที่ซาบซึ้ง “ ขอบคุณหัวหน้าซูบินสำหรับทุกอย่าง มันผ่านไปด้วยดี พี่สาวลวนพาพวกเราไปทำทะเบียนส่วนตัวแล้วมันราบรื่นดี เรายังได้หนังสือและอุปกรณ์การเรียนอีกด้วยและเซียวเซียว สามารถเข้าชั้นเรียนได้ในวันพรุ่งนี้” หยูเหม่ยเซียว หยุดชั่วขณะและพูดต่อ “ การโอนทะเบียนบ้านใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว พวกเขาบอกเราว่าการลงทะเบียนของเรากำลังจะถูกโอนมาแล้ว” ลูกสาวของเธอสามารถกลับไปเรียนได้ในที่สุดและทะเบียนบ้านของพวกเขาจะถูกโอนไปที่เมือง หยูเหม่ยเซียวไม่เคยรู้สึกมีความสุขเท่านี้มาก่อนในชีวิตของเธอ
ดงซูบินพยักหน้าและยิ้มให้หยูเซียวเซียว “ เธอหยุดเข้าชั้นเรียนมาเกือบ 6 เดือนแล้ว แล้วอย่างงี้เธอจะสอบเข้ามัธยมปลายได้หรือเปล่า?” หยูเซียวเซียวเองก็พยักหน้าตอบรับทันที “ หนู…หนูอ่านหนังสือทุกวันและหนูคิดว่าหนูเองน่าจะสอบผ่านแน่นอน”
“ดีเลย. ฮ่าฮ่า…”
“ หัวหน้าซูบินได้โปรดนั้งพักก่อน ฉันจะเตรียมอาหารเย็นเดี๋ยวนี้”
ตงซู่ปิงโบกมือ “ ฉันเบื่อกินข้าวที่บ้านแล้ว พวกเรา 3 คนควรกินข้าวนอกบ้านเพื่อเฉลิมฉลองที่เซียวเซียวกำลังจะได้กลับไปโรงเรียน”
หยูเหม่ยเซียวหน้าแดงเมื่อเธอได้ยิน ดงซูบินพูดว่า ‘พวกเราทั้ง 3 คน‘ แต่เธอรู้ว่าหัวหน้าซูบินพยายามจะแสดงให้เห็นว่าพวกเธอทั้งสองไม่ใช่คนนอกในสายตาของเขา หยูเหม่ยเซียวนั้นรู้สึกตัวและพูดอย่างรวดเร็ว “ ไม่ต้องลำบากก็ได้ค่ะ ฉันเองทำอาหารให้ทานได้”
ดงซูบินหัวเราะ “ เชื่อฉันเถอะน่าโอเค?”
หยูเหม่ยเซียวพยักหน้าและตอบอย่างอ่อนแรง “ขอบคุณ.”
“ถูกตัอง.”ดงซูบินตบหัวหยูเซียวเซียว “ไปกันเถอะ.เซียวเซียวเราจะไปที่ห้างสรรพสินค้ากัน บอกฉันว่าเธอชอบอะไรแล้วฉันจะซื้อให้เป็นของขวัญ”
หยูเซียวเซียวมองไปที่แม่ของเธอและรีบพูดออกมาทันที “ขอขอบคุณมากค่ะพี่ชาย. แต่ฉัน…ฉันไม่ต้องการอะไรเลย”
หยูเหม่ยเซียวกล่าวเสริม “ใช่แล้ว. เซียวเซียวไม่ได้ต้องการอะไรเลย”
ดงซูบินมองหยูเหม่ยเซียวและพูดว่า “ เธอซื้อกล่องดินสอมาหรือยัง? กระเป๋านักเรียน? เธอไม่มีสิ่งเหล่านี้และเธอบอกว่าเธอไม่ต้องการอะไร? เธออย่าบอกนะว่าเธอมีกระเป๋านักเรียน กระเป๋านักเรียนสีเทาใบนั้นขาดไปหมดแล้ว เธอจะใช้มันได้อย่างไรกัน? นักเรียนที่โรงเรียนเป็นเด็กและพวกเขาจะสนุกกับเซียวเซียวในการถือกระเป๋าใบนั้น มันจะไม่ดีในทางจิตใจ” นิสัยของหยูเซียวเซียวนั้นคล้ายกับแม่ของเธอ พวกเขามีความนับถือตนเองต่ำและ ดงซูบินต้องการให้เซียวเซียวได้อุปกรณ์การเรียนใหม่ทั้งหมด
หยูเหม่ยเซียวเองรู้สึกประหลาดใจเพราะเธอไม่คาดคิดว่าหัวหน้าซูบินจะพิถีพิถันขนาดนี้และเธอก็เริ่มน้ำตาซึม
ดงซูบินจ้องมองเธอ “ ลูกสาวของพี่สาวหยูนั้งอยู่ใกล้ๆนี้ ทำไมพี่สาวถึงร้องไห้ออกมากันล่ะ?”
หยูเหม่ยเซียวเช็ดน้ำตาของเธออย่างรวดเร็วและเงียบ
ห้างสรรพสินค้าจินดิ ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ถือว่าใหญ่ในเมืองและมีร้านค้ามากมาย
หลังจากที่พวกเขาเข้าไปในห้างสรรพสินค้ดงซูบินก็พาหยูเหม่ยเซียว และ หยูเซียวเซียวไปที่ร้านเครื่องเขียน เขาขอให้หยูเซียวเซียว เลือกเครื่องเขียนและกระเป๋านักเรียนที่เธอชอบหยูเซียวเซียวมองไปที่แม่ของเธอและเห็นเธอพยักหน้า เธอดีใจมากและเริ่มมองไปรอบ ๆ ร้าน หลังจากนั้นไม่นานเธอก็ชี้ไปที่กระเป๋านักเรียนสีชมพู
“ พี่ชาย…..หนูชอบกระเป๋าใบนั้น”
ดงซูบินยิ้มออกมาอย่างมีความสุข “ตกลง. เราจะได้กระเป๋าใบนั้น ไปเลือกปากกาและกล่องดินสอ”
หยูเซียวเซียวรวบรวมความกล้าและชี้ไปที่กล่องดินสอและปากกาบนเคาน์เตอร์
ดงซูบินเองไม่ได้สนใจราคาเลยและเขายินดีจ่ายทุกอย่างเองทั้งหมด
คนขายส่งกระเป๋านักเรียนและเครื่องเขียนให้หยูเซียวเซียวแล้วเธอก็แกะกระเป๋าออกมาทันทีและถือมัน เธออิจฉาเพื่อนร่วมชั้นเสมอสำหรับกระเป๋านักเรียนใบใหม่ เนื่องจากพ่อของเธอเล่นติดการพนันตลอดเวลาและครอบครัวของพวกเธอก็ยากจน เธอทำได้แค่อิจฉาเพื่อนร่วมชั้นที่ใช้เครื่องเขียนและกระเป๋าใหม่ ๆ ในที่สุดเธอก็ได้กระเป๋านักเรียนใบใหม่เสียที!
ดงซูบินถอนหายใจในใจอย่างเงียบ ๆ เมื่อเห็นหยูเซียวเซียวตื่นเต้นกับกระเป๋านักเรียนใหม่ เขาเองรับรู้ได้เลยว่าเด็กผู้หญิงตัวน้อยๆคนนี้จะต้องสู้ชีวิตมากขนาดไหน “ ไปที่ระดับ 2 เพื่อดูผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์กันเถอะ”
หยูเซียวเซียวถามอย่างไร้เดียงสา “ พี่ชายเครื่องใช้ไฟฟ้าของบ้านเราเสียอย่างงั้นหรอค่ะ?”
“ ไม่ ฉันต้องการให้ของขวัญอีกชิ้นกับเธอ ไปกันเถอะ.” ดงซูบินพาพวกเธอไปที่ชั้นสอง
หยูเหม่ยเซียวและลูกสาวของเธอสับสน ให้หยูเซียวเซียวเป็นผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์หรือไม่? เครื่องใช้ในบ้าน?
พวกเธอรู้ว่าดงซูบินพูดถึงอะไรเมื่อก้าวเข้าสู่ส่วนคอมพิวเตอร์ในระดับ 2 ไม่มี CPU บนจอแสดงผลมากนัก แต่มีแล็ปท็อปจำนวนมาก ดวงตาของหยูเซียวเซียวจับจ้องไปที่แล็ปท็อป พี่…พี่จะไปซื้อคอมพิวเตอร์ให้หนูหรอค่ะ?!
หยูเหม่ยเซียวตื่นตระหนกขึ้นมาทันที “ หัวหน้าซูบินนี่แพงเกินไป”
ดงซูบินเองไม่สนใจเธอ “ เซียวเซียวไปเลือกแบบที่เธอชอบได้เลย”
“ มัน…มันแพงเกินไป” หยูเซียวเซียวเองก็ต้องการคอมพิวเตอร์จริงๆซึ่งมันสะท้อนความต้องการนั้นออกมาจากสายตาเธอ
หยูเหม่ยเซียวกล่าว “ หัวหน้าซูบิน คุณไม่ควรทำแบบนี้”
ดงซูบินมองไปที่เธอ “ ฉันบอกว่าซื้อหมายถึงซื้อ เรากำลังอยู่ในยุคดิจิทัลในขณะนี้ เด็กไม่มีคอมพิวเตอร์ใช้ได้ยังไง? บางครั้งฉันจำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์และพี่สาวหยูก็ไม่อนุญาตให้เซียวเซียวเข้ามาในห้องของฉันด้วย ดังนั้นฉันอาจซื้อคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ให้เธอด้วย เธอสามารถใช้ในห้องของพี่สาวหยูได้ นี่ก็เพื่อประโยชน์ของเธอเองเช่นกัน ได้เลยหยูเซียวเซียว อย่าไปฟังแม่ของเธอ แค่บอกว่าชอบอันไหน เธอไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับราคา”
หยูเหม่ยเซียวรู้ว่าเธอไม่สามารถเปลี่ยนความคิดของดงซูบินได้และเธอเห็นลูกสาวของเธอมองเธอด้วยประกายในดวงตาของเธอ หยูเหม่ยเซียว พยักหน้า “ เนื่องจากพี่ชายของลูกขอให้ลูกเลือกเครื่องคอมพิวเตอร์มาสักเครื่อง ลูกต้องจำไว้ว่าจะต้องตอบแทนหัวหน้าซูบินเมื่อลูกโตขึ้น”
หยูเซียวเซียวพยักหน้าและวิ่งไปดูคอมพิวเตอร์อย่างมีความสุข แต่คอมพิวเตอร์เป็นสิ่งที่ไกลเกินเอื้อมสำหรับเธอและเธอเคยเห็นหรือสัมผัสเพียงไม่กี่ครั้ง เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าข้อกำหนดที่เขียนบนแล็ปท็อปหมายถึงอะไรและสามารถเลือกได้จากรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น เธอเดินไปรอบ ๆ และหยุดอยู่หน้าแล๊ปท็อปสีขาวที่มีโลโก้แอปเปิ้ลเล็ก ๆ อยู่
ดงซูบินหัวเราะ “ดี. เราจะได้สิ่งนี้”
หยูเหม่ยเซียวเดินผ่านไปและตกใจเมื่อเห็นป้ายราคา “ ไม่…แพงเกินไป มากกว่า 10,000 หยวน”
หยูเซียวเซียวไม่ได้สังเกตราคาก่อนหน้านี้และก็ตกใจเช่นกัน
ดงซูบินไม่สนใจพวกเขาและโทรหาผู้ช่วยฝ่ายขายเพื่อทดสอบแล็ปท็อป หลังจากนั้นเขาก็จ่ายเงินและมองไปที่หยูเซียวเซียว “ตกลง. แอปเปิ้ลนี้เป็นของเธอตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันจะหาคนมาติดตั้งเราเตอร์ไวไฟและเธอจะสามารถเล่นอินเทอร์เน็ตได้ตามใจชอบเลย” ดงซูบินหันไปหา หยูเหม่ยเซียว “ พี่หยู พี่ต้องเรียนรู้การใช้คอมพิวเตอร์กับเซียวเซียว พี่สามารถถามฉันได้หากต้องการความช่วยเหลือ
หยูเซียวเซียวเองก็รู้สึกตื่นเต้นขณะมองไปที่แล็ปท็อปของเธอ
หยูเหม่ยเซียวโบกมือให้เธอ “ ฉันเองค่อนข้างล่าสมัย ฉันจะไม่รู้ว่าจะใช้มันอย่างไร”
ดงซูบินหัวเราะขึ้นมาทัที “ เซียวเซียวเป็นเด็กฉลาด พี่หยูสามารถบอกให้เซียวเซียวสอนได้”
ไม่ใช่ว่าหยูเหม่ยเซียวไม่ต้องการเรียนรู้ เธอเพียง แต่กลัวว่าจะทำให้แล็ปท็อปเครื่องนี้พังเสียหายตั้งหาก
“ ไปตรงนั้นกันเถอะ” ดงซูบินเดินไปข้างหน้า
“มันมากพอแล้ว. เซียวเซียวแองก็ไม่อยากได้ของขวัญไปมากกว่านี้แล้ว” หยูเซียวเซียวไม่ต้องการเป็นหนี้บุญคุณดงซูบินมากไปกว่านี้แล้ว
ดงซูบินเองก็หัวเราะออกมาทันที “ตกลง. ฉันไม่ได้ซื้อของให้เซียวเซียว คราวนี้ฉันจะซื้อของเพื่อพี่สาวหยู เราไปเลือกโทรศัพท์มือถือกัน”
หยูเหม่ยเซียวถึงกับ อ้าปากค้าง “ ฉัน…ฉันไม่ต้องการมัน”
“ พี่หมายความว่าอย่างไรพี่ไม่ต้องการ? ฉันจะติดต่อพี่สาวหยูได้อย่างไรเมื่อพี่อยู่ที่ตลาดหรือส่งเซียวเซียวไปโรงเรียน? การมีโทรศัพท์มือถือจะสะดวกกว่า ฟังฉันนะ. ให้คิดว่านี้เป็นเรื่องจำเป็นและเลือกเครื่องที่พี่สาวหยูชอบได้เลย” ดงซูบิน กล่าวและเดินไปที่ส่วนโทรศัพท์มือถือ
หยูเหม่ยเซียวถึงกับลังเลและกล่าวว่า “ เอาล่ะ…ฉันจะไปซื้อเอง ฉันยังมีเงินอยู่บ้าง”
ดงซูบินโบกมือและชี้ไปที่โนเกีย N8 สีชมพู “พี่หยูคิดว่าเครื่องนี้โอเคไหม?”
หยูเหม่ยเซียวดูราคาก่อนและเห็นโทรศัพท์ราคา 3,000 หยวน “ ฉันสามารถใช้โทรศัพท์ราคาไม่กี่ร้อย นี่มันแพงเกินไป…”
“ โอเค เราจะเอาเครื่องนี้” ดงซูบินไม่สนใจคำพูดหยูเหม่ยเซียวและเรียกหาคนขายเพื่อขอซื้อโทรศัพท์มือถือเครื่องนี้
หลังจากจ่ายค่าโทรศัพท์แล้วดงซูบินก็ยื่นโทรศัพท์ไปไว้ในมือของหยูเหม่ยเซียว “ถือมันไว้. ฉันจะสอนวิธีใช้เมื่อเรากลับถึงที่พัก”
หยูเหม่ยเซียวตอบเบา ๆ “ ช่วยหักเงินจากเงินเดือนเท่ากับราคาโทรศัพท์เครื่องนี้ของฉันด้วย”
ดงซูบินถอนหายใจ “ พี่สาวหยูอย่าคิดว่าฉันเป็นคนนอกสิ ถือส่ะว่าฉันซื้อมันให้พี่ล่ะกัน และถือเป็นการตอบแทนที่พี่สาวหยูช่วยทำให้ฉันผ่อนคลายมากๆ”
หยูเหม่ยเซียวหน้าแดงเมื่อเธอจำได้ว่าเธอเคยนวดให้ดงซูบินและยังช่วยเขาสระผมและเท้าเมื่อคืน เธอพึมพำตอบกลับและเงียบ