จอมยุทธ์ระบบเลเวล ตอนที่ 64 ชุดเกราะปีศาจโลหิตสงคราม
ฉินเทียนลุบคลำยอดภูเขาทั้งสองจนทำให้เขารู้สึกเขินขึ้นมาเล็กน้อย ที่แย่ที่สุดก็คือร่างกายของยี่เชียนหานกำลังตอบสนอง ใบหน้าของนางเริ่มแดงก่ำ มองฉินเทียนได้เห็นหัวใจก็พลันเต้นรัว
หลังค้นอยู่พักหนึ่ง ฉินเทียนสัมพบของ เขาลังเลว่าจะถอนมือออกดีหรือไม่ แต่สุดท้ายก็เขาก็ถอนมือกลับมา มีกลิ่นหอมจางๆติดมือของเขา
หลังจากจัดการความคิดเสร็จสิ้น เขาก้มลงมองสิ่งที่อยู่ในมือ มันคือ เครื่องราง
ฉินเทียนชำเลืองมองรูปโฉมที่งดงามของยี่เชียนหานอีกครั้งก่อนจะค่อยๆจัดเสื้อผ้าของนางให้เรียบร้อย
……………….
“เพียงผู้บ่มเพาะขั้นกลั่นวิญญาณระดับห้าก็คิดช่วงชิงแก่นภายในของข้าแล้วหรือ ช่างโอหังนัก”
ราชาซากศพแค่นเสียง แสงสีแดงเข้มหมุนวนอยุ่รอบมือทั้งสองของมันก่อนจะขยายตัวออกไป มันพลันชกหมัดเข้าหาหน้าอกของหยางฮั่น
หยางฮั่นไม่ทันระวัง ดังนั้นจึงรับการโจมตีเข้าไปเต็มๆ หน้าอกของมันถูกเผาไหม้ขณะที่สีหน้ากลายเป็นขาวซีด ชุดสีขาวค่อยเปลี่ยนเป็นสีดำ เมื่อเสื้อปริขาดจากกันก็เผยให้เห็นรอยสีดำที่หน้าอก พิษสีดำค่อยๆลุกลามอย่างไม่อาจหยุดยั้ง
พิษซากศพ!
หยางฮั่นสั่นสะท้าน มันรีบล้วงเอาขวดยาออกมาและรีบเทยากลืนลงไปทันที
ด้วยผลของยา พิษสีดำค่อยๆก็ค่อยอยู่ในการควบคุม กระนั้นมันก็ยังไม่ได้ถูกชะล้างออกไป เขาจำเป็นต้องใช้แก่นภายใน แก่นภายในของเผ่าพันธุ์มีอำนาจในการชะล้างพิษทั้งปวง ไม่ต้องกล่าวถึงพิษซากศพเล็กจ้อยนี่ กระทั่งพิษยุคโบรารหรือพิษชนิดแปลกๆก็ไม่นับเป็นอย่างไร
“ร่วมกันโจมตี”
หยางฮั่นตะโกนด้วยความโกรธ บุรุษที่อยุ่ในกลุ่มทั้งสองพลันขยับลงมือ หนานกวนหยางลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะร่วมด้วย
หลินหยานและกลุ่มของมัน เมื่อเห็นว่ากลุ่มของหยางฮั่นเข้าไปล้อมราชาซากศพเอาไว้ก็ส่งสัญญาณผ่านสายตาให้พี่น้องในกลุ่มถอนตัว
“พวกขี้ขลาด!”
หยางฮั่นด่าทอ มันสะบัดพัดพลางรวบรวมพลังปราณบีบอัดจนกลายเป็นอาวุธ กระบี่สีขาวพลันปรากฏขึ้นในมือซ้ายก่อนจะยกฟันตัดแยกหมอกโลหิต
“ควบแน่นปราณเป็นอาวุธ?”
ราชาซากศพกล่าวเสียงเย็น หน้าอกของมันที่มีบาดแผลลึกราวครึ่งเมตรจากฝีมือของหยางฮั่นค่อยๆสมานตัว สองตาของมันจับจ้องหยางฮั่นขณะที่ปราณโลหิตค่อยๆถูกควบแน่น
“ชุดเกราะปีศาจโลหิตสงคราม….”
ปราณโลหิตถูกควบแน่นจนกลายเป็นชุดเกราะสีเลือดสวมอยู่บนร่างของมัน ตัวเกราะที่เปล่งแสงสีแดงดูแข็งแกร่งอย่างยิ่ง เมื่อเกราะช่วงอกปรากฏขึ้น การจะช่วงชิงแก่นภายในของมันไปก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เว้นเสียแต่จะฆ่ามันได้
ราชาซากศพนั้นถือกำเนิดขึ้นจากโลหิตของจ้าวปีศาจโบราณ หลังจากผ่านกาลเวลานับพันปี มันก็ถูกกลั่นอยู่นับพันปีด้วยเช่นกัน ชุดเกราะปีศาจโลหิตสงครามเป็นสิ่งที่บ่มเพาะจากศาสตร์โลหิตและกลั่นมันออกมา มันเป็นชุดเกราะชั้นเลิศ อาวุธทั่วไปยังไม่อาจทำอย่างไรกับมัน
เมื่อได้เห็นชุดเกราะปีศาจโลหิตสงคราม หยางฮั่นก็หน้าเขียวคล้ำ
มันไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าราชาซากศพจะสามารถสร้างชุดเกราะเช่นนี้ขึ้นมาได้ ตอนนี้ เว้นเสียแต่จะมีทักษะศักดิ์สิทธิ์หรือเครื่องรางอีกสักชิ้นแล้ว มันก็ไม่อาจเป็นคู่มือของราชาซากศพได้
ซู่วววว
กระบี่ปราณถูกซัดออกขณะที่มันถอยหนีอย่างเร่งรีบ
หนานกวนหยานเมื่อเห็นสีหน้าที่ไม่สุ้ดีของหยางฮั่นก็พลันถอยหนีทันที อาซานเองก็หนีไปเช่นกัน มีเพียงบุรุษในกลุ่มทั้งสองที่รู้สึกตัวช้า พวกมันคงไม่แคล้วต้องเป็นเหยื่อสังเวยแล้ว
ราชาซากศพยกเกราะแขนขึ้นรับกระบี่ ขณะที่ตัวกระบี่ปะทะเข้ากับเกราะ เสียงปะทะของโลหะก็ดังให้ได้ยิน ตัวกระบี่หักไปแล้ว หลงเหลือไว้เพียงรอยขีดจางๆสายหนึ่ง
เกราะชั้นเลิศที่ยอดเยี่ยมนัก!
เมื่อรับการโจมตีจากกระบี่ ราชาซากศพก็คุกรุ่นไปด้วยโทสะ แสงสีแดงไหววูบ บุรุษที่ตอบสนองเชื่องช้าทั้งสองก็เสียท่า เพียงต่อยหมัดออก โลหิตก็สาดกระจาย
เมื่อได้กลิ่นเลือดสดๆ ร่างกลายของมันก็เร่าร้อนขึ้นมา มันรีบสูบเลือดอย่างหิวกระหายก่อนจะไปปรากฏตัวที่ข้างกายของบุรุษทั้งสองนั้นและดูดโลหิตจากร่างทั้งสองจนแห้งกรัง
ซากศพที่แห้งกรังสองร่าง!
“พี่ใหญ่หลิน พวกเราควรทำเช่นไรดี?”
ฉางเฟิงที่อยู่ด้านข้างถามขึ้นอย่างวิตก ความแข็งแกร่งของราชาซากศพนั้นอยุ่เหนือความคาดหมายของพวกมันไปมาก เมื่อไร้ซึ่งเครื่องราง พวกมันก็ไม่อาจกำจัดราชาซากศพ
หลินหยานครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะก่อนจะตะโกนออกมา “ตามหาเชียนหาน พวกเราจะถอนตัว!”
ในฐานะผู้นำกลุ่ม ชีวิตของพวกพ้องนั้นสำคัญที่สุด
สำหรับพวกมัน ราชาซากศพนั้นอยู่ในขั้นที่พวกมันไม่อาจทำอย่างไรได้แล้ว ทางเดียวที่มีตอนนี้ก้คือถอนตัว แต่พวกมันจะไม่ไปโดยไม่มีเชียนหาน หลินหยานขบคิดอย่างวิตกก่อนจะเลือกไปตามหาชิงหานในทิศตรงข้ามของราชาซากศพ
หากพบยี่เชียนหานเมื่อใด พวกมันก็จะจากไปอย่างปลอดภัย
หลายปีที่ผ่านมา สมาชิกในกลุ่มไม่เคยทอดทิ้งมัน แม้ว่ามันจะต้องการสังหารราชาซากศพและชิงแก่นภายในเพื่อแลกเป็นค่าผลงาน กระนั้นมันย่อมไม่เอาชีวิตของสมาชิกกลุ่มไปเสี่ยง
ฟางขุย เสวี่ยติงซาน ฉางเฟิงผงกศีรษก่อนจะแยกย้ายกันไปค้นหาสมาชิกของกลุ่มที่หายไป….
“พวกชั้นต่ำ! คิดหนีแล้วหรือ? ฮึ่ม อย่างน้อยพวกเจ้ายังสามารถรับหมัดนี้ได้สักหลายหมัด”
ฉินเทียนที่หลบซ่อนตัวอยู่ในเงามืดเยาะเย้ยอยู่ในใจ หลังจากที่พลังชีวิตของราชาซากศพลดลงมาครึ่งหนึ่ง คนเหล่านี้ก็พลันละทิ้งการต่อสู้และหนีไป เช่นนั้นบิดาผู้นี้ควรทำอย่างไร?
“หากพวกเจ้าไม่กล้าทุบตีมัน เช่นนั้นข้าก็จะลงมือเอง!”
มองดูชุดเกราะปีศาจโลหิตสงครามบนร่างของราชาซากศพแล้ว แววตาของฉินเทียนก็ทอแววโลภ กำจัดมอนสเตอร์และไอเท็มก็ดรอปออกมา นี่จึงเป็นสิ่งที่ควรเป็น จากประสบการณืในการจัดการกอลิล่าดุร้ายที่ไม่ใช่บอสแล้ว มันยังตอบแทนเขาด้วยทักษะศักดิ์สิทธิ์ ทว่าตอนนี้ มอนสเตอร์ที่อยุ่เบื้องหน้าของเขาแน่นอนว่าต้องเป็นบอสอย่างไม่ต้องสงสัย ดังนั้นสิ่งที่มันดรอปออกมาย่อมต้องล้ำค่ากว่าเจ้ากอลิล่า
ทักษะมังกรฟ้าพลันถูกเรียกใช้ ควบคู่ไปกับทักฤษะคลุ้มคลั่งและแก่นของเขาก็เริ่มทำงาน
ฉินเทียนแทบจะทุ่มความแข็งแกร่งทั้งหมดออกมา พร้อมกับพลังที่ปะทุ พลังปราณของเขาก็ทะยานขึ้นจุดสุงสุด พลังที่แข็วแกร่งผุดขึ้นท่ามกลางความมืดมิด และเพิ่มด้วยทักษะมังกรของเขาที่สามารถสะกดปีศาจ มันจึงดึงดูดความสนใจจากราชาซากศพได้ทันที เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังอันเข้มแข็ง ใบหน้าของราชาซากศพก็ปรากฏความตื่นตระหนกขึ้นวูบหนึ่ง
“ผู้บ่มเพาะขั้นกลั่นวิญญาณระดับสี่ เป็นเพียงมดแมลงตัวจ้อยกลับกล้าท้าทายปีศาจทรงอำนาจเช่นข้า!”
ราชาซากศพหันมามองฉินเทียน ลูกแก้วโลหิตพลันถูกควบแน่นอยู่เหนือฝ่ามือ ลูกแก้วโลหิตค่อยๆเพิ่มขนาดจนท้ายที่สุดก็กลายเป็นหอกโลหิตเล่มหนึ่ง หมอกที่ถูกบีบอัดจากโลหิต มันทั้งดูแหลมคมและทรงพลังยิ่ง
ฉินเทียนแค่นเสียงก่อนจะทะยานร่างออกไป
โฮกกกกกกกก
โฮกกกกกกกก
สวรรค์ทั้งเก้าชั้นฟ้าและปฐพีพลันกึกก้องไปด้วยเสียงคำรามของมังกร เสียงคชสารบรรพกาลเหยียบย่ำ พลังอำนาจที่สามารถสะกดสิ่งชั่วร้าย อำนาจของเคล็ดมังกรฟ้านั้นถือเป็นดาวข่มของสิ่งชั่วร้ายอย่างแท้จริง
พลังมหาศาลของมังกรและคชสารที่ไร้เทียมทานปรากฏขึ้นท่ามกลางความวุ่นวาย เมื่อแก่นภายในจุดตันเถียนของเขาค่อยๆฟื้นฟูค่าพลังปราณ ฉินเทียนก็ถูกเปลี่ยนเป็นอวตารของเทพแห่งความตาย ในตอนนี้ พลังของฉินเทียนนั้นเหนือล้ำจินตนการไปแล้ว
การแสดงออกของราชาซากศพกลายเป็นโง่งม กลิ่นอายของมังกรสวรรคืทำให้มันรู้สึกไม่ดีอย่างยิ่ง ด้วยเพลิงโทสะที่คุกรุ่น มันพ่นโลหิตก่อนจะเงยหน้ากู่ร้องใส่ท้องนภาด้วยความโกรธ หอกโลหิตของมันพลันสร้างหอกเงาสีดำออกมานับไม่ถ้วนเล็งไปทางฉินเทียน
ครืนนนนนน
เสียงราวกับสวรรค์ถูกแหวกออกดังขึ้นพร้อมกับที่พื้นที่โดยรอบถูกเปลี่ยนเป็นยุ่งเหยิง บังเกิดเป็นฉากแห่งมหัตภัย
ฉินเทียนได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงที่ใต้ช่วงอก หลังจากได้ปะมือ ฉินเทียนก็ตระหนักถึงความแข็งแกร่งของราชาซากศพ หากไม่ใช่ด้วยพลังของมังกรและคชสารภายในร่างแล้วล่ะก็ ร่างกายของเขาคงถูกระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
อย่างไรก็ตาม อาการของราชาซากศพเองก็ย่ำแย่ลง เศษชิ้นส่วนของเกราะปีศาจโลหิตสงครามค่อยๆร่วงลงพื้น ขณะที่บนตัวเกราะปรากฏรอยแตกหักขึ้นหลายแห่ง
ความโกรธ ความคลุ้มคลั่งและความดุร้ายถูกใช้เป็นเชื้อเพลิงแห่งพลัง มันกำลังจะทุ่มกำลังทั้งหมดออกไป!
อย่างไรก็ตาม ฉินเทียนกลับเผยรอยยิ้มจางๆ เป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความพึงพอใจ
ทันใดนั้น เขาก็พลันตะโกนขึ้นมา “เปิดใช้งาน!”