เทพอสูรสยบโลกา – ตอนที ่71-72

ตอนที่ 71 อีกครา

 

ผลจากการโจมด้วยธนู ฝ่ายของเมิ่งโจวมีผู้ได้รับบาดเจ็บราวสิบรายมิใช่บาดแผลฉกรรจ์สาหัสไม่มีผู้เสียชีวิต

 

“พวกเราถอยกันก่อนไหม?”

“นั่นสิ ข้าว่าวันนี้พวกเราคงทำไม่สำเร็จแล้วล่ะ”

“เจ้าบ้า หากวันนี้เราไม่เผด็จศึกพรุ้งนี้พวกมันต้องทุ่มคนไปกำหราบเราที่เมืองแน่”

“ใช่ ข้าไม่คิดว่าพวกมันจะปล่อยให้เราลอยหน้าลอยตากวนใจหรอก” ชายชาติทหารปรึกษาหารือแสดงความเห็น

 

ครือออ….ครึกก

 

เมิ่งโจวคิดไม่ตกตอนนี้มันคร่ำเครียดอย่างยิ่ง หากเป็นดั่งกาลก่อนยังไม่มีเรื่องบาดหมางกันหนักถึงขั้นลงไม้ลงมือก็ยังพอเสแสร้งไปได้ ขณะที่มันกำลังครุ่นคิดอยู่นั่นกระแสลมบางเบาพัดพาเสียงปริศนามากระทบโสทประสาทเมิ่งโจวหูผึ่งมองไปยังกำแพงเมืองที่เป็นต้นตอของเสียงดังกล่าวด้วยความสงสัย

 

“หือ?” ในสายตาของมันมองเห็นแท่งบางอย่างถูกดีดออกมาจากกำแพงเมืองลอยขึ้นสูงลิ่วกระทบแสงจันทราก่อนจะค่อยๆดิ่งลงในวิถีโค้งพุ่งเข้ามาในจุดที่พวกมันอยู่

 

“!!?” ดวงตาของเมิ่งโจวเบิกกว้างเมื่อมันพินิจมองจนเห็นชัดว่าสิ่งนั้นคืออะไร ทว่ามันสายเกินไปที่จักแจ้งเตือนลูกสมุน

 

หอก!

 

สวบ

 

หอกเหล็กเล่มยาวบินข้ามฟ้าทะลวงร่างของพลพรรคข้างกายสร้างเสียงน่าหวาดเสียว ทะลุเกราะเหล็กฝ่าผิวหนังเจาะกระดูกไร้แรงต้านตั้งแต่ปลายแหลมจรดด้ามหอกทะลุออกไปด้านหลังของชายผู้นั้นปักลึกลงบนพื้นกว่าคืบตั้งตระหง่านพร้อมคราบเลือดอาบตั้งแต่ด้ามจรดปลาย

 

“ยิง!!” บนกำแพงเมืองหลินหยางตวาดลั่น ข้างกายมันมีรถยิงธนูยักษ์ที่บัดนี้ถูกแยกชิ้นส่วนดัดแปลงนำลอและตัวเครื่องออกคงเหลือไว้เพียงตัวธนูคันมหึมานำมาติดอยู่บนป้อมปราการเหนือประตูเมืองทั้งสองฟาก

 

ครืดดด….ครึก

 

หลิวเจี่ยบรรจุหอกเล่มใหม่ด้วยความกระตือรือร้น สั่งการลูกสมุนทั้งสามช่วยกันหมุนกลไกง้างสายธนูขยับปลายศรเล็งเป้าและลั่นคันศรตามบัญชา หอกเหล็กเล่มที่สองพุ่งเข้าใส่ทัพของเมิ่งโจวอีกคราวและครั้งนี้ผู้รับเคาะห์คือชายฉกรรจ์สองรายที่กำลังยืนประกบติดกันอื้ออึงมองร่างสหายมันที่ตายไปโดยยังไม่ทันตั้งตัวถูกหอกเหล็กเล่มเดียวแทงรวบทะลุร่างทั้งสองรายสร้างรูกลวงโบ๋ไว้บนร่างทิ้งตัวนอนนิ่งบนพื้น

 

เมิ่งโจวและพวกตกใจแตกขบวนทัพหนีเตลิด

 

ครืนนน

 

ประตูเมืองบานยักษ์เปิดแง้มออกอย่างช้าๆปรากฏร่างของมนุษย์หมาป่าร่วมสี่สิบตนสวมเกราะโลหะหมวกเหล็กภายในมือควงดาบสั้นสองเล่มดวงตาหรี่เล็กแยกเขี้ยวโชว์ฟันแหลมดั่งสัตว์ร้าย

 

“บุกก!!!” หลินหยางตะโกนลั่นด้วยทักษะราชสีห์คำรามดังกังวาลสะท้อนไปทั่วทิศ

 

กรร

ฆ่าาาา

 

เหล่ามนุษย์หมาป่ากู่ก้องร้องคำรามตะเบ็งเสียงเคลื่อนกองทัพวิ่งกรูกันออกไปนอกเมืองมุ่งหน้าไล่ล่าเมิ่งโจวและพวกอย่างบ้าระห่ำ จนหายลับไปจากสายตามิทราบพวกมันไล่ล่าหวดกันออกไปไกลแค่ไหน

 

จนกระทั่งผ่านไปราวยี่สิบนาทีเห็นจะได้

 

พรืดด

 

นักรบมนุษย์หมาป่าทั้งกลุ่มเดินอาดๆกลับมาพร้อมกับของฝากกับร่างของชายชาติทหารที่ถูกลากมาบนพื้นและส่วนใหญ่เหลือเพียงแค่ร่างเปล่าไร้วิญญาณไม่มีลมหายใจและบางส่วนแม้มิตกตายก็ถูกทุบตีจนอ่วมอ่อนเปรี้ยเพลียแรงไร้การขัดขืน มนุษย์หมาป่าบางคนลากมาหนึ่งบางรายกระชากมาสองรวมเสร้จสรรพราวสี่สิบเกือบจะเป็นจำนวนทั้งหมดของเมืองทหารและในจำนวนนั้นก็มีเมิ่งโจวผู้นำทัพที่บัดนี้อยู่ในเงื้อมมือของเจียวซินผู้เป็นหัวหอกของกองกำลังบุกทะลวงทำลายทัพข้าศึกในครั้งนี้

 

นักรบหมาป่าทั้งสี่สิบนำร่างของพวกมันเดินกลับมาที่หน้าตัวเมืองด้วยใบหน้าภาคภูมิใจเชิดหน้าชูคออย่างอาจหาญ

 

หลินหยางที่คราวนี้เป็นเพียงผู้ชมมิได้ลงมือด้วยตนเองมันนำกำลังทัพเดินมาดูผลงานรุมล้อมกองกำลังของเมิ่งโจวที่สิ้นสภาพไปอย่างง่ายดาย ชายหนุ่มสั่งคัดแยกผู้รอดชีวิตและร่างไร้วิญญาณออกจากกันริบอาวุธชุดและสิ่งของเครื่องใช้ติดตัวไม่เว้นแม้แต่ชั้นในที่พวกมันสวมใส่ก็ถูกถอดนำกลับมาเพื่อใช้ประโยชน์ในภายหลัง รวมศพของพวกมันกองเอาไว้หน้าเมืองก่อนจะประทานคบเพลิงจุดไฟเผาร่างของพวกมันโดยไม่มีพิธีรีตองอันใดทั้งสิ้น

 

 

 

ตอนที่ 72 เจ็ดเขียว

 

อร่วกก~

 

หลินหยางเดินมาหยุดอยู่เบื้องหน้าของเมิ่งโจวและพรรคพวกผู้โชคดีที่รอดชีวิตจากเงื้อมมือของมนุษย์หมาป่า เมิ่งโจวบัดนี้สภาพไม่เหลือร่องรอยแห่งความน่าเกรงขามของผู้นำไม่มีศักยภาพของชายชาติทหารเหลืออยู่หลังจากปลดเสื้อผ้าของมันออกจนสิ้นภายใต้เปลือกนอกร่างกายของมันเต็มไปด้วยบาดแผลน้อยใหญ่ทั่วร่างโดยฝีมือของเจียวซินและบาดแผลฉกรรจ์หนักหนาสุดบนร่างของมันก็คือรอยกรีดเป็นทางยาวตั้งแต่หัวไหล่ลากมาจนถึงหน้าทองเปิดผิวหนังชั้นนอกเผยให้เห็นกล้ามเนื้อชั้นใน ดวงตาสลืมสลือมุมปากสำรอกโลหิตรสีแดงดำ

 

หลินหยางเพียงปรายตามองก่อนจะหันกลายกลับโดยมิกล่าววาจาใดสักคำ

 

ราตรีนี้ช่างยาวนาน หลินหยางและพวกที่ถูกปลุกขึ้นกลางดึกในค่ำคืนนั้นพวกมันมิได้นอนหลับอีกเลย ชายหนุ่มส่งทีมก่อสร้างไปตัดไม้จากเมืองของเมิ่งโจวทำให้พวกมันได้พบกับทหารยามสองรายผู้เหลือรอดของเมืองเมิ่งโจวที่ถูกทิ้งไว้เพื่อป้องกันข้าวของและพวกมันก็ถูกปฏิบัติเช่นเดียวกับสหายถูกถอดชุดปลดอาวุธจนเปลือยเปล่า

 

ชะตากรรมของผู้รอดชีวิตเมืองเมิ่งโจวหลินหยางมิได้เป็นผู้ตัดสิน หลังรุ่งสางชายหนุ่มปล่อยให้พวกมันทั้งหมดไปตามยถากรรมวิ่งล่อนจ้อนหนีเตลิดออกจากเมือง บางรายอาการหนักช่วยตนเองมิไหวก็นอนนิ่งรอความตายกองกันอยู่หน้าเมืองหลินหยางและมิมีใครมาเหลียวแลให้ความช่วยเหลือพวกมันเลยแม้แต่รายเดียวจนสิ้นใจไปในที่สุด

 

ยามเช้าหลังผ่านเหตุการณ์วุ่นวายถูกขัดขวางการบรรทม วันนี้หลินหยางจึงงดเว้นการฝึกซ้อมปล่อยให้พลเมืองพักผ่อนตามอัธยาศัยส่วนหลินหยางและเทียนหนิงเจี้ยนที่มิได้ออกแรงร่วมรบอันใดในคืนที่ผ่านมายังมิง่วงซึมกันสักเท่าไหร่พวกมันทั้งสองนั่งจดรายละเอียดทำบัญชีเกี่ยวกับสิ่งของเครื่องใช้ที่ริบมาได้จากเมืองเมิ่งโจวและคำนวนอาหารน้ำที่ใช้ไปในแต่ละวันตามปกติ

 

ล่วงเลยมาถึงยามเย็น

 

เป็นช่วงเวลาที่ทุกคนต่างก็รอคอยนั่นคือเวลารวมตัวทานอาหารของเมืองหลินหยาง พวกมันต่างมีความสุขอิ่มเอมอิ่มท้องสนุกปากกับการสนทนาจนกระทั่ง….

 

ครืนนนน

 

“แผ่นดินไหว!!!”

“รีบออกมาจากที่พักเร็ว!” เสียงตะโกนแห่งความโกลาหลบังเกิดขึ้นพร้อมกับผืนดินที่เอนโอนราวกับคลื่นทะเล

 

“อีกแล้ว!?” หลินหยางขมวดคิ้วหน้านิ่ว แน่นอนว่าเขาจำเหตุการณ์นี้ได้และมันมิได้เหนือความคาดหมายเพียงแต่มิทราบว่ามันจะมาเวลาไหนเมื่อไหร่ยามใด

 

“เพิ่มการป้องกันในระดับสูงสุด!!!” หลังแผ่นดินไหวบรรเทาเบาบางลงหลินหยางเห็นแสงไฟราวกับสปอตไลท์ที่ส่องสว่างจากท้องฟ้าลงสู่ผืนภิภพหลากหลายแห่งทั่วทุกทิศชายหนุ่มออกคำสั่งเพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันและการป้องกันระดับสูงสุดนี้คือหน่วยรบทั้งหมดจะท้าทายอำนาจของราตรีมิหลับนอนขึ้นประจำการบนป้องปราการวางกำลังทั้งหมดเพื่อปกป้องเมืองและแหล่งอาหาร ซึ่งโชคดีที่วันนี้พวกมันได้ปรับเปลี่ยนเวลานอนไปจากปกติได้นอนตั้งแต่เช้าจนถึงค่ำจึงมีเรี่ยวแรงเหลือเฟือปฏิบัติตามคำสั่งได้อย่างสบายๆ

 

ค่ำคืนผ่านพ้นไปอย่างราบรื่นข้ามวันถึงรุ่งสาง

 

หลินหยางจัดเตรียมข้าวของอยู่ภายในที่พักก่อนจะเดินไปรวมกลุ่มกับเหล่าชายฉกรรจ์ราวสิบรายที่แบ่งมาจากทีมระยะใกล้และทีมจู่โจมคละกันจัดตั้งเป็นทีมสำรวจ พร้อมกับตัวแถมผู้มีนามว่าเทียนหนิงเจี้ยนภายในมือของมันถือแผนที่แผ่นหนึ่งที่แปรรูปมาจากหนังสัตว์ใช้มันเพื่อจดรายละเอียดภูมิประเทศในรอบบริเวณตัวเมือง

 

ทั้งหมดออกเดินทางล่องเหนือลงใต้โผล่ตะวันออกกลับตะวันตกวาดเขียนสิ่งที่พวกมันพบเพิ่มเติมลงในแผนที่ต้นฉบับ ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือเมืองใหม่ทั้งหลายแหล่ที่ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ดนั่นแล

 

แต่คราวนี้หลินหยางมิได้ทำตัวเป็นมิตรดั่งคราก่อน มันมิได้แวะเข้าไปหาเมืองใดโดยเฉพาะเจาะจงเลยมิผูกมิตรสร้างไมตรี ก็นะหลังจากที่มันได้รับบทเรียนจากเมิ่งโจวที่ตนอุส่าหวังดีแต่ได้รับการตอบแทนเป็นผลร้ายทำให้มันตัดสินใจไม่คลุกคลีกับเมืองใดอีกแม้จะเป็นเมืองเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียงกันห่างไม่กี่ร้อยเมตรก็เถิด

เทพอสูรสยบโลกา

เทพอสูรสยบโลกา

Score 7.1
Status: Ongoing Released: N/A Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง เทพอสูรสยบโลกาประเทศจีน ปี ค.ศ. 2025 จู่ๆ เกิดแผ่นดินไหวขึ้นทั่วโลก และ มี”ประตู” ประหลาดเกิดขึ้นทั่วทุกเมืองใหญ่ทั่วโลก พร้อมกับเสียงปริศนา “มนุษย์เอ๋ย พวกเจ้าอยากเปลี่ยนแปลงโชคชะตาหรือไม่ อำนาจ เงินทอง วาสนา ความมั่งคั่ง หากอยากเปลี่ยนแปลง เชิญเข้ามาที่ประตูนี้ จักต้อนรับพวกเจ้า” เรื่องราวแห่งตำนานกำลังจะเริ่มขึ้น

Recommended Series

Comment

Options

not work with dark mode
Reset