อย่างไรก็ตามเมื่อเผชิญกับความท้าทายดังกล่าว มือของกู้จวินก็ไม่เเม้เเต่จะแสดงอาการสั่นคลอนหรือหวาดกลัวเเม้เพียงนิด มือของเขามั่นคงและนำเส้นเลือดออกมาได้อย่างแม่นยำ เขาแยกเส้นเลือดออกจากพังผืดอย่างระมัดระวังและไม่มีแม้แต่เส้นเดียวที่หักหรือเสียรูปทรงสักนิด
ความยุ่งเหยิงของพังผืดตื้นขนาดใหญ่นั้น ค่อยๆถูกแยกออกทีละนิดภายใต้มือที่เชี่ยวชาญของกู้จวิน
สิ่งที่เห็นนั้น…ทำให้ขากรรไกรของซูไห่เเทบจะร่วงลงพื้นในขณะที่เขาดูเทคนิคการผ่าของกู้จวิน เเละโชคดีมากที่หน้ากากอนามัยซ่อนการแสดงออกที่น่ากลัวของเขาไว้
ใบหน้าของจางฮ่าวหลันแข็งค้างทุกวินาทีที่ผ่านมา มันราวกับว่าเขาได้เห็นผีกลับมามีชีวิตอีกครั้ง! เขารู้ดีว่าการจัดการกับการผ่าเส้นเลือดดำเเละผังผืดตื้นที่มือนั้นยากขนาดไหน อีกทั้งยังเป็นมือที่ผิดรูปแบบด้วยมันจะยิ่งยากและเต็มไปด้วยความตึงเครียดเ เเล้วกู้จวินจัดการกับความรู้สึกอย่างไรเขาถึงได้ลงมือความแม่นยำสูงขนาดนี้?
ในขณะที่หวังรั่วเซียงเฝ้าดูการผ่าเบื้องหน้า คำถามและความคิดในสมองก็ปั่นป่วนอย่างไม่หยุด
กู้จวินเขากลับมาขยันอีกเเล้วใช่ไหม?
เขากลับตัวเเล้วใช่ไหม ถึงได้….
“หา?” ดวงตาเเก่ๆของศาสตราจารย์กู้เเทบจะส่องแสง เขาดูกู้จวินผ่าศพ หัวใจของเขานั้นเต้นระรัวด้วยความประหลาดใจ ราวกับว่าสายลมอันอบอุ่นของรักแรกพบได้มาลูบไล้ไปทั่วร่างกายของเขา
เมื่อเผชิญกับความผิดปกติแบบนี้…เด็กคนนี้ก็ทำมันออกมาได้ยอดเยี่ยมมาก! นี่สินะ พรสวรรค์ของเขา! ฉันมองข้ามเด็กดีๆเเบบนี้ไปจริงๆ
แม้จะมีโครงสร้างที่ซับซ้อน เเต่กู้จวินก็ได้วิเคราะห์กล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อด้วยนัยน์ตาที่คมดุจนกอินทรี ไม่มีสิ่งใดลอดเร้นออกจากสายตาเขาได้ทั้งนั้น
มือของเขาจับมีดจรดลงที่ผิวหนัง การถือนั้นมันก็มั่นคงแม่นยำและเต็มไปด้วยความมั่นใจ การเคลื่อนไหวแต่ละครั้งของเขาเฉียบคมและเด็ดขาด ราวกับว่าเขามีประสบการณ์หลายปีที่ฝึกฝนจากการทำงานในโรงพยาบาลมากกว่า 10 ปี
ในห้องผ่าศพเต็มไปด้วยความเงียบ แม้ว่าทุกคนจะประหลาดใจและตื่นเต้น แต่พวกเขาก็ไม่ปล่อยให้ตัวเองส่งเสียงดังเพราะกลัวว่าจะรบกวนจังหวะของกู้จวิน…เเต่อาจจะทำให้เขาเกิดความผิดพลาดขึ้นมาได้!
กู้จวินพยายามเต็มที่ในการผ่า ไม่นานถุงมือของเขาก็ถูกปกคลุมไปด้วยสารสีดำจากใต้ผิวหนังของศพ เขาค่อยๆรู้สึกว่ามือของเขาไม่ใช่มือของเขาอีกต่อไป
แต่มันเป็นเครื่องจักรอัตโนมัติ
หลอดเลือดเหล่านี้ไม่ใช่เส้นเลือดหรือเป็นส่วนหนึ่งของเนื้อเยื่อมนุษย์อีกต่อไป ในสายตาของกู้จวิน พวกเขาเป็นสมบัติที่ซ่อนอยู่เเละรอคอยให้กู้จวินนั้นเข้ามาค้นหา
ภายใต้การจดจ้องที่รุนแรงอย่างต่อเนื่อง กู้จวินจึงมีภูมิคุ้มกันต่อความเจ็บปวดจากความเมื่อยล้าในดวงตาเรียบร้อยเเล้ว เเละตอนนี้จิตใจของเขาสงบยิ่งกว่าน้ำนิ่ง
สิ่งที่เขาต้องทำก็คือ การเลือกเส้นเลือดหลังจากที่คีบเส้นเลือดออกมาเเล้ว…
หลังจากนั้นไม่นานกู้จวินก็แยกระบบหลอดเลือดดำตื้นได้ทั้งหมดเส้นเลือดเหล่านั้นถูกเอาออกจากหลังมือได้สำเร็จ! นอกจากศาสตราจารย์กู้ที่ยืนพิจารณานิ่งๆเเล้ส แล้วทุกคนก็ล้วนเเต่ตกตะลึงจนพูดไม่ออก
พวกเขาไม่เชื่อ! ไม่มีทางที่กู้จวินจะทำได้!
ฝีมือระดับนี้มันไม่ควรเป็นเเค่ฝีมือของนักเรียน!
“ มือซ้ายของศพนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นมือของมนุษย์” กู้จวินวิเคราะห์อย่างมีวิจารณญาณ “ เส้นเลือดตื้น ๆ นั้นมีอยู่เต็มไปหมด จากรูปลักษณ์ของความผิดปกติที่ไม่สมประกอบนี้ ดูเหมือนว่ามีความเป็นไปได้มากว่า…โครงสร้างทั้งหมดจะถูกบังคับให้เข้ามารวมกันด้วยเหตุการณ์บางอย่างที่กะทันหันจนยากคาดเดา”
ประโยคคำตอบของกู้จวินให้ความกระจ่างมาก พวกเขาพอจะเข้าใจสาเหตุเบื้องต้นของการพิการของมือข้างนี้เเล้ว
ดูเหมือนว่าความผิดปกตินั้นเป็นผลมาจากที่กระดูกต้นแขนและกระดูกเชื่อมของปลายแขน ถูกบิดเข้าด้วยกันจนกลายเป็นรูปร่างที่แปลกประหลาดอย่างกะทันหัน
แต่ความเข้าใจเพียงเล็กน้อยนี้อานำพาพวกเขาไปสู่ก้นบึ้งของสิ่งที่ไม่รู้จัก…เเละอีกอย่างมันเป็นไปได้จริงๆหรือว่ามันเป็นความพิการที่เห็นตามปกติ มันเป็นมาเเต่กำเนิดจริงหรือ!? หรือเป็นความผิดเพี้ยนบางอย่างที่ได้มาภายหลังจากเหตุการณ์เลวร้าย? เเล้วโรคชนิดใดในโลกที่จะทำให้เกิดความผิดปกติน่ากลัวเเบบนี้ได้?
“ อืม…” ศาสตราจารย์กู้ครุ่นคิดเเละเอ่ยปากชื่นชม เเม้จะเป็นการคาดเดาเเต่ก็มหัศจรรย์มาก “ กู้จวิน เธอมีความคิดที่ดีมาก ใครมีไอเดียอื่น ๆ อย่าลังเลที่จะตอบออกมา”
เกี่ยวกับแขนที่เเปลกประหลาดของศพข้างนี้ เด็กหนุ่มสาวทั้งหลายไม่ได้มีอะไรจะพูดถึงอีก ในทางตรงกันข้าม! เขามีปัญหากับกู้จวินมากกว่า เเถมยังมากมายเสียด้วย! ตกลงเขาใช่กู้จวินจริงหรือไม่!? เหตุใดเขาถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้
ขณะที่กู้จวินกำลังจะดำเนินการผ่าต่อ ข้อความใหม่ของระบบก็ผุดขึ้นมาในหัวของเขา
ติ๊งต่อง!
[ความคืบหน้าในการผ่าปัจจุบัน: 1%, เวลาที่เหลือ: 71: 02: 46]
ดูเหมือนว่าศพนี้จะเป็นไปตามข้อกำหนดของภารกิจ ขณะที่กู้จวินมองไปที่แถบแจ้งเตือนเเล้วก็พลางครุ่นคิด
เมื่อครู่นี้หวังรั่วเซียงเเละจางห้าวหลันได้แยกผิวหนังที่หลังมือ ดูเหมือนว่าการกระทำนั้นไม่ได้มีส่วนที่ทำให้สำเร็จ 0.1% เลยด้วยซ้ำ? ดูเหมือนว่าระบบจะไม่มีการนับการกระทำของเพื่อนร่วมทีม เเสดงว่าภารกิจนี้คือ เขาต้องทำคนเดียวสินะ
1% สำหรับการแยกเส้นเลือดดำที่ติดผิวหนัง? ดูเหมือนว่างานนี้จากไม่ง่ายเสียเเล้ว ทำเเทบตายได้ 1 % กู้จวินล่ะไม่อยากจะเชื่อ!
เขาเงยหน้าขึ้นมองเวลาที่เหลืออยู่ เขาใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงแล้วกับไอ้เเค่ลอกเส้นเลือด! แม้ว่าชั่วโมงนี้ส่วนใหญ่จะหมดไปกับงานขนส่งศพและเตรียมการผ่าศพ แต่เวลา 72 ชั่วโมงก็ยังเหลือเยอะมาก ท้ายที่สุด เขาเป็นมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งและจำเป็นต้องกิน ดื่มและพักผ่อน ไม่งั้นคงตายก่อนที่จะได้พบปริศนาเเน่!
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการผ่าศพ ยิ่งผ่าแต่ละครั้งนานเท่าไหร่ความเหนื่อยล้าที่สะสมในจิตใจและร่างกายก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ศัลยแพทย์จะทำงานช้าลงและมีแนวโน้มที่จะเกิดข้อผิดพลาดมากขึ้นเมื่อต้องผ่าตัดติดต่อกันนานเกินไป
เเต่! เขาไม่ใช่ศัลเเพทย์ธรรมดา
เขาคือผู้ครองระบบ
เเต่เมื่อมันได้เวลาทำงาน อะไรคือสิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดขึ้นในวันที่หนักหนาเเบบนั้น กู้จวินมั่นใจว่าวัวแดงหนึ่งกระป๋องจะทำให้เขาเดินหน้าผ่าศพต่อไปได้!
เมื่อรวมความคิดของตัวเองเเต่ละอย่างเข้าด้วยกัน กู้จวินก็ลุกขึ้นยืนและเริ่มทำงานต่อทันที เขาตรงไปที่มือข้างซ้ายของศพ จากนั้นเขาก็เริ่มแยกเส้นประสาทเรเดียลและท่อนบนออกก่อนอย่างระมัดระวัง
ไช่ฉีซวนมองเพื่อนที่ดีที่สุดของเขากู้จวินที่กำลังผ่าศพต่อ ไช่ฉีซวนก็ปลื้มปริ่มจนอยากจะร้องไห้!
กู้จวินช่างเป็นชายหนุ่มที่น่าเกรงขาม! โอ้ว! เสี่ยกู้ นายช่างเป็นหัวหน้าที่เหนือคนอื่นจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นในด้านความสามารถ ด้วยความพยายามเพียงเล็กน้อย นายก็เหนือกว่าพวกเราทุกคน!
ฮึ่ม! บางทีเขาอาจจะเก่งแค่การใช้กรรไกร ภายในใจของซูไห่เขายังไม่มั่นใจเเละเเอบเหยียดหยามกู้จวิน
ตั้งแต่เริ่มต้น เขาภูมิใจในตัวเองที่เป็นอันดับ 3 ในการชำแหละศพในทีมทดลองระดับหัวกะทิ อีกทั้งในแง่มุมที่ต้องใช้ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ เช่นการเลื่อยกระดูก เขาก็ทำได้ดีกว่าหวังรั่วเซียงเสียด้วยซ้ำไป เขาเชื่อว่าเมื่อการแข่งขันมาถึงเขาจะกลายเป็นส่วนสำคัญของทีม
ในขณะนั้นกู้จวินวางกรรไกรผ่าตัดลงที่ถาดว่าง เเละหยิบมีดผ่าตัดขึ้นมาและถือมันอย่างสบายๆเหมือนถือปากกา โดยไม่รอช้าเขาเริ่มขจัดสิ่งตกค้างที่ด้านหลังของข้อมืออย่างรวดเร็ว
ขณะที่เพื่อนร่วมทีมที่เหลือทุกคนเฝ้าดูการผ่าศพอย่างใกล้ชิด พวกเขาก็เริ่มตั้งคำถามกับตัวเอง
กู้จวินจัดการกับการใช้มีดผ่าตัดด้วยความชำนาญและเต็มไปด้วยเทคนิคที่คล้ายๆกับพวกเขา ภายใต้การสูดดมควันเเละละอองของฟอร์มาลินอย่างต่อเนื่อง ดวงตาของพวกเขาเริ่มฉีกขาดอย่างที่ควบคุมไม่ได้ จนหลายคนต้องเบือนหน้าหนีบ้างเพื่อพักสายตา
กู้จวินยังหายใจอย่างหนักหน่วงด้วยความกดดันจากความเหนื่อยล้า ถึงกระนั้นไม่ว่าจะผ่านกระบวนการใดก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นการขัดกระดูกการผ่าธรรมดา หรือการลอกผิว เขาก็มีความมั่นคง เเละเต็มไปด้วยมั่นใจเหมือนศัลยแพทย์ผู้มากประสบการณ์ไม่มีผิด
ในที่สุดซูไห่ก็เชื่อมั่นอย่างเต็มที่ เขาถอนหายใจยาวๆ แต่ก็ยาวที่สุดในชีวิตที่เขาเคยถอนหายใจเเล้ว เขาก็คร่ำครวญด้วยความหมดหวัง
ฉันเทียบกับกู้จวินไม่ได้จริงๆ ไม่สิ! ฉันไม่คู่ควรกับการถูกเปรียบเทียบกับเขาเลยด้วยซ้ำ
เฮ่ออี้หานมองกู้จวินอีกครั้ง คราวนี้ใบหน้าด้านนั้นของกู้จวิน อ๊ะทำไม? ทำไมจู่ๆเขาถึงหล่อได้ขนาดนี้? เอ! ทำไมหวังรั่วเซียงถึงเทคนหล่อเหลาอย่างกู้จวินไปได้ล่ะ!?
“ดีๆ ทำได้ดีมาก” ศาสตราจารย์กู้พึมพำอย่างมีความสุข ใบหน้าเก่าของเขามีสีแดงระเรื่อเล็กน้อย ซึ่งสีหน้าเเบบนี้มันมาจากความประหลาดใจและความตื่นเต้น ในที่สุดเขาก็พิสูจน์แล้วว่าเขามองคนไม่ผิดจริงๆ
มือของกู้จวินมีค่าดั่งทองคำ เเละมันมูลค่ามหาศาลในการผ่าตัดอย่างมาก! เขาคือ…ทรัพยากรอันทรงคุณค่าของวงการเเพทย์ในอนาคต!