17 – คืนส่งท้ายปีที่เร่าร้อน
เสียงประทัดยังคงดังอย่างต่อเนื่องโจวเจ๋อเป่าเล็บของเขาด้วยท่าทางสบายๆ เสียงข้างนอกไม่มีผลอะไรกับเขา เขาไม่ได้อยู่ที่บ้าน แม้ว่าจะมี “บ้าน” ให้กลับแต่เขาก็ไม่มีทางกลับไป
หลายคนที่มีชีวิตอยู่ไม่รู้ว่าตัวเองควรทำอะไร แต่เมื่อตายไปแล้วเขากลับรู้สึกเสียดายที่ตัวเองไม่ได้ทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ในตอนที่มีชีวิตอยู่
ในตอนที่โจวเจ๋อตายไปแล้วเขาก็รู้สึกเสียดายในหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่ได้ทำ แต่เมื่อเขากลับมามีชีวิตอีกครั้งมันก็เหมือนกับคำถามที่ครูในโรงเรียนอนุบาลได้ถามว่าเมื่อโตขึ้นเขาต้องการจะทำอะไร?
จากนั้นเด็กๆก็ตอบพร้อมกัน: นักวิทยาศาสตร์แพทย์นักบินอวกาศทหารมีความฝันเต็มไปหมด
และในความเป็นจริงมันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้น้อยมากที่จะทำได้สำเร็จเมื่อโตขึ้น เพราะไม่ว่าอย่างไรความสามารถของคนก็มีอยู่อย่างจำกัดรวมทั้งสภาพแวดล้อมด้วย
ซูชิงหลางยังคงนอนหลับอยู่ในร้านในคืนนี้ โจวเจ๋อได้ยินเขาปิดประตูร้าน
เขาบอกว่าเขามีคอนโดมากกว่า 20 ห้อง แต่โจวเจ๋อรู้ว่าพ่อแม่ของเขาอยู่ในร้าน
นี่เป็นครอบครัวเล็กๆครอบครัวหนึ่งที่ทุกคนอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข
ด้านนอกฝนเริ่มตกลงมาทำให้มีความชื้นเกิดขึ้น ไม่รู้ว่าทำไมแต่โจวเจ๋อรู้สึกเหงาเล็กน้อย
ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือของโจวเจ๋อก็ดังขึ้น มันเป็นภรรยาของเขาโทรมา
“สวัสดี.” โจวเจ๋อรับโทรศัพท์
“หลับหรือยัง?” เสียงของหมอหลินดังออกมาจากโทรศัพท์
โจวเจ๋อคิดว่านี่เป็นเรื่องงี่เง่า ใครจะรับโทรศัพท์ในตอนที่นอนหลับได้ คงจะมีเพียงผีเท่านั้นที่ทำแบบนี้!
โจวเจ๋อเอนหลังเล็กน้อยบนเก้าอี้ เขาใช้นิ้วสะกิดหน้าอกของตัวเองเบาๆพร้อมกับเรียกตัวเองว่า “เจ้าคนตาย. ” อยู่ในใจ
พูดกันตามตรงในตอนนี้โจวเจ๋อรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก บางทีมันอาจเป็นเพราะว่าเขาอยู่เฉยๆมากเกินไปจึงรู้สึกเบื่อ
โจวเจ๋อพบว่าความคิดในปัจจุบันของเขาแตกต่างไปจากชีวิตที่แล้วอย่างสิ้นเชิง ในชีวิตที่แล้วเขาจะไม่ตื่นเต้นอะไรแม้ว่าจะมีสาวสวยโทรมาหาแทบทุกวัน
“ไม่ครับ” โจวเจ๋อตอบ
“โอเคค่ะ …”
ทำใดนั้นหมอหลินก็เปิดประตูและเดินเข้ามาในร้านเธอเถือร่มสีแดงสวมกางเกงหนังสีดำและเสื้อยืดสีขาวเส้นผมของเธอเปียกฝนเล็กน้อย
โจวเจ๋ออ้าปากค้าง แม้กระทั่งลืมวางโทรศัพท์
ผู้หญิงคนนี้สวยจริงๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งนิสัยใจคอของเธอที่จะทำให้คุณรู้สึกชอบเธอมากขึ้นเรื่อยๆทุกครั้งที่มองเห็น ใบหน้าอมยิ้มของเธอทิ่มแทงเข้าที่หัวใจของโจวเจ๋อ
“คุณกลัวว่าผมจะเหงาเหรอ?” โจวเจ๋อยืนขึ้นและรินน้ำอุ่นให้หมอหลิน
ต้อนรับเธอสักหน่อยไม่ว่าจะอย่างไรเธอก็เป็นเถ้าแก่ที่แท้จริงของร้านนี้ โจวเจ๋อค่อนข้างมั่นใจว่าด้วยสถานะทางการเงินของซู่เล่อ เงินที่เขาใช้เปิดร้านหนังสือก็น่าจะมาจากหมอหลินนั้นเอง
หมอหลินรับน้ำมาเธอส่ายหน้าไม่ได้พูดอะไร
คนสองคนเป็นสามีภรรยากัน แต่ที่จริงแล้วพวกเขาคล้ายกับคนแปลกหน้าที่คุ้นเคย พวกเขานั่งอยู่ในร้านเดียวกันทำให้บรรยากาศรู้สึกอึดอัดขึ้นไม่น้อย
ด้วยความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองการจะเดินหน้าต่อนั้นเป็นเรื่องยาก แต่การที่จะถอยกลับก็ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้
“ไปเดินเล่นกันไหม” โจวเจ๋อพบว่าห้องนี้ค่อนข้างทึบและเขาไม่สามารถเชิญหมอหลินไปที่ชั้นสองได้
แม้ว่าวันนี้หมอหลินจะกินยาผิดและวางแผนที่จะให้อาหารเสือด้วยร่างกาย แต่เมื่อเธอเดินขึ้นไปบนชั้นสองและมองเห็นตู้แช่ขนาดใหญ่วางอยู่ที่นั่นเธอก็อาจจะกดหมายเลขของโรงพยาบาลจิตเวชที่คุ้นเคยและส่งเขาไปบำบัดเพื่อให้อาการ ‘ดีขึ้น’
“ฝนตกนะ?” หมอหลินกล่าว
“ไม่เป็นไรหรอกน่า” โจวเจ๋อโบกมืออย่างผ่อนคลาย ตอนนี้ฝนตกลงมาเบาๆเท่านั้น
………………
“ โอ้โฮ…”
หลังจากที่ทั้งสองเดินออกมาได้ระยะหนึ่งฝนก็ตกแรงขึ้นอย่างไม่มีท่าทีว่าจะหยุด
ก่อนหน้านี้โจวเจ๋อผู้ซึ่งไม่ได้พกร่มออกมาด้วยและตอนนี้ร่างกายของเขาก็คล้ายกับคนที่ตกลงไปในหม้อน้ำซุป หมอหลินยังคงถือร่มและยืนอยู่ข้างๆเธอชวนให้เขาเข้ามาหลบในร่มเดียวกัน
แต่โจวเจ๋อปฏิเสธข้อเสนอของหมอหลินอย่างเด็ดขาด เพราะว่าร่มของเธอมีขนาดเล็กมากเกินไป เขาต้องแสดงความเป็นสุภาพบุรุษออกมาอย่างเต็มที่
โจวเจ๋อต้องแสร้งฝืนยิ้มทั้งที่หลั่งน้ำตาอยู่ข้างใน
หลังจากลูบผมที่เปียกโชกโจวเจ๋อก็ตกใจเขาไม่กลัวความหนาว เขาชื่นชอบความหนาวเย็นด้วยซ้ำ แต่หญิงสาวที่ยืนอยู่กับเขานั้นร่างกายเริ่มสั่นสะท้านแม้ว่าเธอจะยืนอยู่ในร่มแต่ฝนก็ยังซัดมาถูกร่างกายของเธอ
พวกเขายืนอยู่ที่ป้ายรถเมล์ซึ่งมันสามารถป้องกันฝนได้เป็นอย่างดี แต่ลมกระโชกที่มาพร้อมกับฝนนั้นทำให้หมอหลินหนาวสั่น
อารมณ์ของพวกเขาเริ่มอ่อนไหวการอยู่ร่วมกันของชายหนุ่มและหญิงสาวด้วยร่างกายที่เปียกชื้นในคืนฝนตก
นี่น่าจะเป็นโอกาสสำหรับทั้งสองฝ่ายในการปลูกฝังความรู้สึกที่ดีให้แก่กันและกัน ในโอกาสเช่นนี้มันอาจจะเลยเถิดไปถึงเรื่องบนเตียงก็ได้
แต่ในที่สุดทั้งสองก็มองหน้ากันอย่างอึดอัดและถอยห่างออกจากกันโดยไม่รู้ตัว
โจวเจ๋อเดินไปด้านข้างและจุดบุหรี่ หมอหลินไม่ชอบกลิ่นบุหรี่เธอจึงถอยห่างออกจากเขา นั่นยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาในตอนนี้อึดอัดขึ้นไปอีกเพราะว่ารสนิยมของพวกเขาเข้ากันไม่ได้จริงๆ
โจวเจ๋อสาปแช่งซูเล่ออยู่ในใจด้วยความเจ็บแค้น ถ้าเจ้าโง่นั่นไม่ยอมรับข้อเสนอของหมอหลินตั้งแต่แรกก็จะไม่เป็นปัญหาอย่างตอนนี้
ถ้าความสัมพันธ์ของพวกเขาเป็นไปอย่างสามีภรรยาปกติ แม้ว่าหมอหลินจะมีลูกหรือตั้งครรภ์อยู่เขาก็ยังสามารถยอมรับได้
ด้วยสถานการณ์ที่น่ากระอักกระอ่วนในตอนนี้มันไม่มีทางเลยที่โจวเจ๋อจะสามารถผลักเรือไปตามน้ำได้
แน่นอนว่าข้อเรียกร้องนี้ค่อนข้างจะไม่ยุติธรรมกับซุเล่อ หากเปลี่ยนเป็นโจวเจ๋อในคืนนั้นหมอหลินคงจะต่อสู้และตะโกนว่า
“ช่วยด้วย”? แล้วโทรแจ้งตำรวจเพื่อส่งโจวเจ๋อไปที่สำนักรักษาความปลอดภัยสาธารณะ? ฐานก่ออาชญากรรมในครอบครัว?
ท่ามกลางสายฝนที่โหมกระหน่ำ โจวเจ๋อทิ้งก้นบุหรี่ไว้ที่พื้นจากนั้นก็เดินกลับมาหา ‘ภรรยา’ ของเขา
“คุณขับรถมาหรือเปล่า?”
“มาแท็กซี่” หมอหลินตอบ
“ ถ้าอย่างนั้นผมจะไปส่งคุณเอง”
“ก็ได้ค่ะ”
แม้ว่าคืนส่งท้ายปีเก่าของทั้งสองจะเริ่มต้นค่อนข้างดี ในที่สุดมันก็จบลงอย่างจืดชืด