27 – มาหาหมอ?
โจวเจ๋อดุด่าตัวเองในกระจก
ใช่
เขากำลังดุด่าตัวเอง มีผู้ชายคนหนึ่งที่เขาคิดว่าตายไปนานแล้วกำลังมีอิทธิพลอยู่ในตัวเขา
เขาไม่ได้จากไปไหนแต่ซ่อนตัวอยู่ในร่างกายนี้มาตลอด
เขาเป็นคนไม่มีประโยชน์ เขาอ่อนแอไม่มีความกล้าที่จะต่อต้านสิ่งต่างๆที่เห็นว่าไม่เหมาะสม
เขาตายไปแล้วแต่ยังซ่อนตัวอยู่ในร่างกายนี้โดยคิดจะหาโอกาส ‘ล้างแค้นภรรยา’!
ใช้อำนาจของบุคคลอื่นเพื่อแก้แค้นภรรยาของตัวเอง
“ ผมเคยเห็นใจคุณและรู้สึกเสียใจกับคุณนิดหน่อย” โจวเจ๋อพึมพำกับตัวเอง
“ ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วว่าคนยากจนล้วนเป็นคนน่าชัง! ไปตายซะไอ้โง่!”
โจวยกกำปั้นขึ้นและต่อยกระจกโดยตรง
กระจกแตก
ฝ่ามือของโจวเจ๋อมีเลือดไหลไหลออกมา บนเศษกระจกที่แตกอยู่เหนืออ่างยังคงส่องใบหน้าของโจวเจ๋อ ไม่ใช่สิต้องบอกว่าใบหน้าของซูเล่อ
โจวเจ๋อยืนอยู่ที่นั่นคนในกระจกไม่ขยับ แต่ในเวลาเพียงไม่นานใบหน้าที่อยู่ในกระจกก็ยิ้มออกมาพร้อมกับพูดว่า
“ สวัสดี!”
“ไอ้คนตายแกยังกล้ามาเยาะเย้ยฉันอีกเหรอ”
ดวงตาของโจวเจ๋อเปลี่ยนเป็นสีดำมืด ตอนนี้เขารู้สึกโกรธแค้นจนแทบจะควบคุมตัวเองไม่ไหว
ใช่แล้วโจวเจ๋อคืนนกกาเหว่าที่กำลังวางไข่ในรังของอีกา
แต่แล้วยังไง!
‘ฉันจะยึดร่างกายของคุณ ฉันจะใช้ร่างกายนี้และมีชีวิตอยู่อย่างยืนยาว รวมทั้งยังจะแย่งภรรยาของคุณอีกด้วยแล้วคุณจะทำอะไรได้?’
เมื่อมาถึงจุดนี้
โจวเจ๋อกางมือขวาของเขาออกและเล็บสีดำก็ค่อยๆงอกออกมามันถูกล้อมรอบไปด้วยหมอกสีดำ
หลายครั้งวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุดก็คือใช้จุดยืนของตัวเอง
ในจุดยืนของโจวเจ๋อไม่มีทางแยกแยะถูกและผิดได้ เขาต้องการมีชีวิตอยู่ตราบที่หลักการของเขามีอยู่เช่นนี้ทุกสิ่งทุกอย่างก็ไร้ความหมาย
ในเมื่อมันไร้ความหมายเขาก็ต้องกำจัดมันออกไป?
“ ไม่ว่าคุณจะซ่อนตัวอยู่ที่ไหนผมจะฉีกคุณออกมาเป็นชิ้นๆต่อให้คุณซ่อนอยู่ที่ไหนในร่างก็ตาม!”
ใบหน้าของโจวเจ๋อเริ่มบิดเบี้ยวเล็บของเขาแทงเข้าไปที่หน้าอกอย่างหักโหม
“ อ๊าาาา…………”
ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงมาพร้อมกับการชักกระตุกที่ไม่สามารถควบคุมได้ โจวเจ๋อตัวสั่นและทรุดลงกับพื้นโดยตรง
เขาอ้าปากดูมึนงงเล็กน้อย
ซูเล่อไม่ได้อยู่ในนี้!
การกระทำเมื่อครู่นี้เขารู้สึกได้ว่าวิญญาณของเขาเกือบจะแตกสลาย แล้วเหตุไฉนซูเล่อถึงไม่ได้อยู่ในนั้น!
โจวเจ๋อปีนกลับมาอีกครั้งและมองไปที่กระจกแตกซึ่งยังคงเป็นใบหน้าของเขาเอง หลังจากจดจ้องเป็นเวลานานก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น
ซูเล่อหายไปไหนแล้ว
หรือทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับหมอหลินเกิดจากการกระทำของเขาเอง?
ไม่มีทาง เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน!
โจวเจ๋อรู้สึกเป็นครั้งแรกว่าตัวตนในกระจกนั้นแปลกมากไม่ใช่เพราะเขาเปลี่ยนร่างกายและใบหน้า แต่เป็นเพราะหัวใจของเขาจิตวิญญาณของเขาเองที่กำลังเปลี่ยนไป
จิตวิญญาณคือตัวตนที่แท้จริงของเขา?
ตั้งแต่สมัยโบราณกวีและนักคิดผู้ยิ่งใหญ่หลายคนทั้งในและต่างประเทศต่างให้คำตอบที่คล้ายกัน ถึงร่างกายจะเปลี่ยนแปลงและสลายไป แต่จิตวิญญาณสามารถดำรงอยู่ได้ชั่วนิรันดร์
โจวเจ๋อยังเชื่อว่าเขายังคงเป็นโจวเจ๋อหรือตัวเขาเอง แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพเกิดขึ้นแต่เขาก็คิดว่าตัวเองคือโจวเจ๋อ
ในตอนนี้เขาเริ่มกลัวขึ้นมาแล้ว เพราะว่าไม่มีซูเล่ออยู่ หรือแท้ที่จริงแล้วเป็นตัวเขาที่กำลังเปลี่ยนไป?
………………
“ ไปนอนเถอะที่รักเดี๋ยวผมทำงานอีกสักพัก”
“ ฉันจะไปนอนห้องลูกคุณก็อย่าโหมงานดึกมากเกินไป”
“ OK ให้ผมวิเคราะห์คนไข้นี้ก่อน”
หวังเค่อบิดคอเบาๆและหาวออกมา ตอนนี้เขาง่วงมากแต่เขาต้องทำงานที่อยู่ในมือให้เสร็จ เขาเพิ่งอายุสามสิบต้นๆแต่กลับเริ่มมีเส้นผมสีขาวแซมอยู่บริเวณจอนหูของเขาแล้ว
“ ดิง ดิง ดิง ”
หวังเค่อขมวดคิ้วเล็กน้อยดึกแล้วยังมีคนมาเยี่ยม?
เขาเดินไปที่ทางเข้าเหลือบมองชายในเสื้อคลุมสีดำที่ยืนอยู่นอกประตูในวิดีโอแล้วถามว่า
“ มาหาใครครับ”
“ ผมมาหาหวังเค่อเพื่อนของผมแนะนำมา”
“ ขออภัยด้วยครับมันดึกแล้วถ้าคุณมีปัญหาอะไรก็ติดต่อกับเลขาของผมพรุ่งนี้”
“ โจวเจ๋อแนะนำผมมา” ชายข้างนอกกล่าว
ได้ยินชื่อนี้หวังเค่อตัวแข็งไปชั่วขณะจากนั้นก็เปิดประตู
อีกฝ่ายดูเด็กอยู่มากอาจจะอายุ 25
“เข้ามา.” หวังเค่อเคลื่อนไหวให้อีกฝ่ายเข้ามาส่วนตัวเขาไปชงชาอีกแก้ว
โจวเจ๋อนั่งบนโซฟาและมองไปที่เพื่อนเก่าของเขา หวังเค่อไม่ได้เปลี่ยนไป เขายังคงดิ้นรนอยู่กับธุรกิจของตัวเอง
ในฐานะเด็กที่เติบโตมาด้วยกันในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าพวกเขามีความสัมพันธ์ที่ดีมาตั้งแต่เด็ก
และในสายตาของอาจารย์ใหญ่ เขาคิดว่าเด็กทั้งสองคนนี้มีโอกาสที่จะประสบผลสำเร็จมากที่สุดในบรรดาเด็กทุกคนที่เติบโตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า
โจวเจ๋อดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการโรงพยาบาลตั้งแต่อายุยังน้อยและหวังเค่อก็มีคลินิกจิตเวชของตัวเองอยู่แล้ว คลินิกของเขาไม่ใช่คลินิกเล็กๆมันยังตั้งอยู่ที่ใจกลางย่านธุรกิจของเมืองตงเฉิง
อีกทั้งบ้านของเขายังตั้งอยู่ในวิลล่าซึ่งเป็นเขตที่คนรวยอาศัยอยู่ ต่อให้เป็นโจวเจ๋อในชีวิตที่แล้วหากจะให้มาอยู่ที่นี่ก็เป็นเรื่องที่ได้แต่ฝันเท่านั้น
“ คุณรู้จักโจวเจ๋อนานเท่าไหร่แล้ว” หวังเค่อถามก่อน
“ ก็ครึ่งปีแล้ว” โจวเจ๋อตอบจากนั้นก็หยิบถ้วยชาขึ้นมาจิบเขายังคงชอบดื่มหม่าเจียนรสชาติไม่เปลี่ยนแปลง
“ มาหาผมมีเรื่องอะไร”
“ผมมาหาหมอ”
“มาหาหมอ?” หวังเค่อกระแอม
“ คุณต้องนัดก่อน”
“เรื่องด่วน” โจวเจ๋อมองไปที่ดวงตาของหวังเค่อ“ ผมไม่มีเวลาอีกแล้ว”
หวังเค่อเงียบจากนั้นก็ยิ้มพยักหน้าและพูดว่า
“ ถ้าอย่างนั้นก็ตามผมมา”
ไม่ว่าการมาเยี่ยมอย่างกะทันหันของอีกฝ่ายจะเป็นเรื่องหยาบคายหรือคำขอของอีกฝ่ายนั้นดูอุกอาจมากแค่ไหน แต่เนื่องจากอีกฝ่ายบอกว่าเขาเป็นเพื่อนของโจวเจ๋อ หวังเค่อจึงไม่มีเหตุผลที่จะหลบเลี่ยง