34 – ปาร์ตี้ตอนดึก
เด็กหนุ่มส่งอาหารเริ่มเตะประตูอย่างบ้าคลั่ง แต่ประตูยังคงปิดสนิทไม่สามารถเปิดออกได้
สิ่งที่เขามองไม่เห็นตอนนี้คือ ทั้งหกคนที่เดิมนั่งอ่านหนังสืออยู่บนเก้าอี้พลาสติกได้ลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆแล้ว
เจ็ดคืนแรกจะเป็นช่วงที่ดีที่สุดสำหรับวิญญาณอาฆาตที่จะแก้แค้นศัตรู
พวกเขาทั้งหมดจ้องไปที่ศัตรูของพวกเขา
ผู้ชายที่เป็นฆาตกรตอนนี้กลับเป็นฮีโร่ในสายตาของคนหมู่มาก
“ นายน่าจะช่วยฉันไม่งั้นนายคงไม่เจอการแก้แค้นแบบนี้!”
เสียงคำรามต่ำดังมาจากด้านหลังของโจวเจ๋อ
ตอนนี้โจวเจ๋อเป่าเล็บของเขาเบาๆก่อนจะหันหน้ามา เล็บของเขายาวขึ้นอย่างรวดเร็วมันเป็นสีดำแวววาวโอบล้อมไปด้วยหมอกมืดที่ทำให้บรรยากาศดูน่ากลัว
ในเวลาเดียวกันดวงตาของโจวเจ๋อก็เปลี่ยนเป็นสีดำสนิท
“ ฟ่อ…………อาอาอาอาอา !!!!!!!!!!!!!!!”
ชายในชุดสูทสีดำที่เพิ่งกลายเป็นผีก็ถูกมือขวาของโจวเจ๋อบีบคออย่างแรง หมอกสีดำที่อยู่บนปลายนิ้วของโจวเจ๋อพุ่งเข้าสู่ร่างกายของชายในชุดสูทจนเปลี่ยนให้ร่างกายของเขาเป็นสีเขียวในเวลาเพียงไม่กี่วินาที
“ เอาตามตรงนะผมค่อนข้างเห็นใจคุณ แต่ในเมื่อคุณต้องการจะตายอีกครั้งผมก็ไม่มีเหตุผลที่จะขัดข้อง”
โจวเจ๋อพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
“ ลาก่อน”
นิ้วของโจวเจ๋อออกแรงอีกครั้ง
ชายในชุดสูทสีดำคร่ำครวญสีหน้าของเขาหวาดกลัวและพยายามอ้อนวอนให้โจวเจ๋อปล่อยเขาไป เขากลายเป็นผีไปแล้ว เมื่อเขา“ ตาย” อีกครั้งวิญญาณของเขาจะสูญสลายไม่มีโอกาสเข้าสู่นรกด้วยซ้ำ
แต่โจวเจ๋อไม่ยอมปล่อยดวงตาของเขายังคงเย็นชา หลังจากรอชั่วครู่ชายในชุดสูทสีดำก็สูญสลายหายไปกลายเป็นละอองอากาศ
บนฝ่ามือของโจวเจ๋อมีเพียงเศษขี้เถ้าเล็กน้อยที่เหลืออยู่ก่อนที่เขาจะตบมือเปาะแปะแล้วทุกอย่างก็หายไป
“” …”
เมื่อโจวเจ๋อหันกลับมาและเมื่อเขาได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเขาก็ถอนหายใจเบาๆ
ลูกค้าทั้งหกคนปลดปล่อยหมอกสีดำออกมาจากร่างกายก่อนจะมุ่งหน้าเข้าหาเด็กหนุ่มส่งอาหาร ตอนนี้ทุกคนกลายเป็นวิญญาณอาฆาตอย่างสมบูรณ์แล้ว
เด็กหนุ่มส่งอาหารดูเหมือนจะสัมผัสได้ถึงบางอย่าง เขากระแทกหมัดเตะต่อยเข้าใส่ประตูอย่างบ้าคลั่ง
เหตุการณ์ในวันนั้นเหยื่อทั้งหกรายกำลังดูหนังอย่างสนุกสนานในทันใดนั้นก็มีควันและไฟเข้าปกคลุมไปทั่วโรงหนัง พวกเขาตื่นตระหนกและพยายามวิ่งออกไปแต่กลับสะดุดล้มจนถูกคนอื่นๆเหยียบย่ำเป็นเหตุให้ไม่สามารถหนีออกมาทัน
“ เห็นแก่หน้าผมเถอะปล่อยเขาไปแล้วพวกคุณก็กลับบ้านไปหาครอบครัว”
โจวเจ๋อชูเล็กสีดำของเขาขึ้นพยายามห้ามปรามวิญญาณร้ายทั้งหก
“ พักผ่อนสักหน่อยเถอะ ที่บ้านของพวกคุณป่านนี้ครอบครัวคงเตรียมอาหารไว้แล้ว”
โจวเจ๋อต้องการผ่อนคลายบรรยากาศ เมื่อพวกเขากลายเป็นผีพวกเขาจะยังไม่สูญเสียโอกาสที่จะเข้าสู่วัฏสังขาร แต่หลังจากพวกเขาแก้แค้นแล้วพวกเขาจะสูญเสียโอกาสนั้นทันที
นี่คือตอนจบที่น่าเศร้าที่สุด
โจวเจ๋อรู้สึกว่ามันไม่คุ้มจริงๆ
ฆาตกรได้ทำให้พวกเขาแยกจากคนที่พวกเขารัก แต่พวกเขาไม่สามารถแก้แค้นได้ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะไม่มีทางได้ไปเกิดใหม่
เพียงแค่คำพูดของโจวเจ๋อไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรต่อทั้งหก
ใบหน้าของพวกเขายังคงเย็นชาและหมอกสีดำบนร่างกายของพวกเขาก็หนาขึ้นเรื่อยๆ เส้นสีดำเข้าปกคลุมที่หางตาของพวกเขารวมทั้งปากของพวกเขาก็เริ่มฉีกออกจากกัน
“ อย่าบังคับผมให้ทำเลย”
โจวเจ๋อยิ้มน่าเกลียดเขาไม่ต้องการให้เด็กหนุ่มคนนี้มาตายอยู่ในร้านของเขาซึ่งมันจะนำปัญหาตามมาอย่างมากมาย
โจวเจ๋อรู้ดีว่ามันจะเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขาที่จะเอาชนะวิญญาณอาฆาตเหล่านี้เช่นเดียวกับชายในชุดสูทสีดำที่เขาเพิ่งสังหารไป
แต่เขาไม่อยากทำเขาไม่อยากลงมือต่อเหยื่ออาชญากรรมเหล่านี้ มันเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากสำหรับโจวเจ๋อ
“ ตอนนี้พวกคุณน่าจะไปที่น้ำพุเหลืองได้แล้ว!”
เสียงดังมาจากนอกบ้าน จากนั้นประตูร้านหนังสือก็ถูกผลักให้เปิดออก ซูชิงหลางเดินเข้ามาพร้อมกับชามขนาดเล็กที่มีข้าวสามสีถูกหุงไว้ด้านใน
“ตื่น!”
เปลวไฟสีแดงลุกไหม้ออกมาจากชามข้าวอย่างรวดเร็ว
ในขณะเดียวกันเมล็ดข้าวในชามก็เปลี่ยนจากสีขาวใสเป็นสีดำสนิท ใบหน้าของคนทั้งหกเริ่มเปลี่ยนกลับมาเป็นสงบนิ่งอย่างช้าๆ
หลังจากนั้นทั้งหกคนก็เดินกลับมาที่โต๊ะพร้อมกับกินอาหารที่โจวเจ๋อเตรียมไว้ให้
“ ซูชิงหลาง!” โจวเจ๋อชี้ไปที่ซูชิงหลางและตะโกนอย่างตื่นเต้น
โจวเจ๋อตื่นเต้นมาก ตื่นเต้นยิ่งกว่าเห็นหมอหลินในตอนที่กำลังอาบน้ำ
คิดดูสิว่าสัปดาห์นี้เขามีความยากลำบากในการกินอาหารมากแค่ไหน!
สำหรับสิ่งที่ซูชิงหลางทำในตอนนี้ โจวเจ๋อไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไร ในความเป็นจริงพวกเขาทั้งสองต่างรู้จักตัวตนของกันและกันอยู่แล้วเพียงแต่ไม่ได้เปิดเผยออกมาเท่านั้น
ซูชิงหลางเหลือบมองโจวเจ๋อและในทันใดนั้นใบหน้าของเขาก็แดงระเรื่อขึ้นมาทันที
แต่หลังจากนั้นมันก็เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งอย่างรวดเร็ว
“ คุณกำลังจัดปาร์ตี้เที่ยงคืนสำหรับเทศกาลฤดูใบไม้ผลิที่นี่เหรอ?”
“ แน่นอนว่าไม่ใช่อยู่แล้ว!” โจวเจ๋อตอบสั้นๆ
ซูชิงหลางพยักหน้าและพูดกับทั้งหกคน:
“ วันนี้คือคืนที่เจ็ด คนที่คุณรักควรจะเตรียมอาหารไว้ให้แล้ว พวกคุณต้องกลับไปเดี๋ยวนี้ หลังจากนั้นก็กลับมาหาฉันอีกครั้งและฉันจะส่งพวกคุณออกเดินทางไปที่สะพานไน่เหอ”
เมื่อทั้งหกคนได้ยินคำพูดของซูชิงหลางพวกเขาก็ลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆและมุ่งหน้าออกจากร้านไปทีละคน
ดวงตาของโจวเจ๋อมองไปที่ชามที่มี“ ข้าวดำ” ด้วยดวงตาที่เปล่งประกาย
“ ทำไมสิ่งนี้ถึงไม่มีผลกับผม”
มุมปากของซูชิงหลางกระตุก ตลอดทั้งสัปดาห์นี้เขาพยายามที่จะเก็บงำความเครียดแค้นที่มีต่อโจวเจ๋อไว้ไม่ให้ปะทุออกมา
“คุณแตกต่าง.”
น้ำเสียงของเขายังเต็มไปด้วยความโกรธแต่เขาก็ยังตอบออกมาตรงๆ “คุณไม่เหมือนคนอื่น”
จากนั้นซูชิงหลางก็มองไปที่เด็กหนุ่มส่งอาหารซึ่งยังคงนั่งซึมอยู่มุมหนึ่งของห้อง “ จะเอายังไงดี”
โจวเจ๋อส่ายหัวก่อนจะตอบว่า
“ เรียกตำรวจก็แล้วกัน”