35 – ยมทูตดำขาว
ในที่สุดโจวเจ๋อก็โทรแจ้งตำรวจและตำรวจก็มาในไม่ช้า ตามที่โจวเจ๋อพูดเด็กน้อยคนนี้กลายเป็นบ้าเมื่อเข้ามาที่ร้านของเขา
เด็กหนุ่มบอกว่าพวกคนที่ตายในกองไฟวันนั้นตามมาแก้แค้นเขาแล้วเขาก็กรีดร้องออกมา โจวเจ๋อตกใจมากที่ได้ยินอย่างนั้นเขาจึงแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ
โรงหนังถูกวางเพลิงตำรวจยังคงพยายามหาหลักฐานอยู่ แต่เมื่อมีผู้ต้องสงสัยเสนอตัวขึ้นเองตำรวจก็จะสามารถหาหลักฐานได้ในไม่ช้า
สำหรับเรื่องการเปลี่ยนแปลงความคิดของสาธารณชนนั้นไม่ใช่ปัญหาของโจวเจ๋อ ตอนนี้เขาสูบบุหรี่มวนหนึ่งอยู่หน้าสถานีตำรวจพร้อมกับบิดร่างกายไปมาเพราะปวดเมื่อย
การสอบปากคำดำเนินไปเกือบทั้งคืนจึงทำให้เขาเด็ดเหนื่อยเป็นอย่างมาก
เมื่อนั่งแท็กซี่กลับมาถึงร้านโจวเจ๋อก็เห็นร้านของซูชิงหลางที่อยู่ข้างกันได้เปิดขึ้นมาแล้ว ตอนนี้เขากำลังฟังเพลงด้วยท่าทางสบายๆ
“เอาอะไรมาก็ได้ผมอยากได้น้ำบ๊วยด้วย” โจวเจ๋อเดินมาที่ร้านแล้วนั่งลง
ซูชิงหลางพยักหน้า
หลังจากนั้นไม่นานซูชิงหลางก็ทำบะหมี่ไข่ขึ้นมาหนึ่งชามน้ำซุปใสและบะหมี่หอมกรุ่น แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ไม่สำคัญสิ่งที่โจวเจ๋อต้องการที่สุดคือน้ำบ๊วยเปรี้ยวที่คุ้นเคย
“น้ำบ๊วยเต็มถังนั้นคิดเท่าไหร่” โจวเจ๋อชี้ไปที่ถังตู้กดน้ำในร้าน
“ ดูก่อนว่าต้องใช้ทุนเท่าไหร่” ซูชิงหลางนั่งลงตรงหน้าโจวเจ๋อโดยคาบบุหรี่ไว้ในปาก ดูเหมือนว่าเขาอยากแสดงท่าทางให้ดูน่าเกรงขาม
“เป็นผู้หญิงก็สูบบุหรี่ได้เหมือนกัน” ซูชิงหลางพยายามพูดให้ขึงขัง
เขาไม่ได้โทษพ่อแม่ที่ทำให้เขาเกิดมาเป็นเกย์ แต่เขาโทษว่าพระเจ้าที่ใส่ร่างของเขามาผิด
ทั้งสองไม่ได้คุยกับอะไรกันอีก โจวเจ๋อจัดการบะหมี่ไข่ในชามจนหมดในเวลาไม่ถึงนาที หลังจากกินบะหมี่ชามนี้แล้วอาการคลื่นไส้ของเขาไม่ได้มีมากนัก แต่เขาก็ยังดื่มน้ำตามลงไปหลายแก้ว
“ช่วงนี้ฉันคิดไม่ตก” ซูชิงหลางพูดตรงๆ “พ่อแม่ของฉันจากไปแล้ว”
พ่อแม่ของซูชิงหลางตายไปแล้ว โจวเจ๋อรู้เรื่องนี้ดีเพียงคำว่า
“จากไปแล้ว” ครั้งนี้น่าจะมีสาระสำคัญอะไรบางอย่าง
“ ทำไมเขาถึงจากไปอย่างกะทันหัน?” โจวเจ๋อถาม เขาต้องการที่จะตอบสนองต่อ “ความเศร้าโศก” ของเพื่อนโดยไม่ได้สนใจเรื่องนี้จริงๆ
แต่คำตอบที่ได้กลับทำให้โจวเจ๋อสั่นสะท้านไปถึงข้างใน
“ถูกพบ”
มือของโจวเจ๋อสั่นเล็กน้อย
ถูกพบ?
โจวเจ๋อจำได้ว่าชายชราคนนั้นตะโกนว่า “พวกเขาพบฉัน!” ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต
ซูชิงหลางมองไปที่โจวเจ๋อ
“ฉันไม่เข้าใจมันไม่สมเหตุผลทำไมเธอถึงพาพ่อแม่ของฉันไปแต่คุณกลับยังอยู่นี่”
“เธอ?”
ภาพของเด็กหญิงตัวน้อยปรากฏขึ้นในความคิดของโจวเจ๋อ เมื่อรวมกับสภาพของซูชิงหลางในวันนั้นและการที่เขาปิดร้านไปถึง 7-8 วัน เหตุการณ์ทุกอย่างก็ชัดเจนขึ้น
“เป็นไปไม่ได้ มันจะเป็นเธอไปได้ยังไง”
“หยินจีผู้จัดระเบียบคนที่เสียชีวิตบนท้องถนน!” ซูชิงหลางกระซิบเบาๆพลางจ้องตาของโจวเจ๋อ
“พวกเขาถูกเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าผีลิ้นยาว?”
“เฮย-ไป๋อู่ฉาง?” (ยมทูตดำขาว)
“นั่นเป็นเพียงคำทั่วไป” ซูชิงหลางถอนหายใจ “แต่แท้จริงแล้วพวกเขาเป็นผู้บังคับใช้กฎแห่งสวรรค์มีหน้าที่ไล่ล่าคนตายที่ไม่ยอมไปผุดไปเกิด”
“โอ้.”
ในตอนแรกโจวเจ๋อไม่อยากจะเชื่อว่าเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆนั้นจะเป็นยมทูตดำขาวจริงๆ แต่เมื่อคิดถึงลิ้นที่ยาวเหยียดของเธอมันก็ทำให้เขาหายสงสัย
“ เธอไม่ได้พาผมไป แต่เอาพ่อแม่ของคุณไปคุณเลยเกลียดผม?” โจวเจ๋อชี้นิ้วมาที่ตัวเอง
“ใช่.” ซูชิงหลางพยักหน้า
“ หวังว่ากับข้าวจานนี้คงไม่มียาพิษนะ”
“………… ” ซูชิงหลาง
“ ไม่วางยาเหรอ” โจวเจ๋อถามอีกครั้ง
“ไม่” ซูชิงหลางตอบ
“ดีแล้ว.” โจวเจ๋อไม่รู้ว่าในจานข้าววันนั้นมียาพิษร้ายแรงถูกใส่ไว้ ถ้าไม่ใช่เพราะหมอหลินมาถึงทันเวลาป่านนี้เขาคงตายไปแล้ว
“คุณนี่โง่จริงๆหรือแกล้งโง่” ซูชิงหลางมองไปที่โจวเจ๋อด้วยความโกรธ
“ทำไมเธอไม่จับคุณ?”
“ใช่ทำไมเธอไม่จับฉัน” โจวเจ๋อก็ถามเช่นกัน
“ฉันถามคุณอยู่!” ซูชิงหลางขึ้นเสียง
“ ไม่รู้สิ” โจวเจ๋อกางมือ “บางทีแาจเพราะผมช่วยชีวิตเธอ”
“………… ” ซูชิงหลาง
บทสนทนาระหว่างทั้งสองคนจบลงด้วยการสูบบุหรี่คนละมวนก่อนจะแยกย้ายกันไป
คราวนี้ทั้งสองฝ่ายได้สนทนาอย่างเปิดอกทำให้ความไม่เข้าใจกันของพวกเขายุติลง
โจวเจ๋อเดินกลับมาที่ร้านของเขาและเริ่มทำความสะอาดม้านั่งพลาสติก แต่ทันใดนั้นเขาก็พบว่ามีธนบัตรหลายร้อยหยวนวางอยู่ที่เก้าอี้
เงินนี้เป็นค่าอ่านหนังสือ?
โจวเจ๋อจำได้ว่านักพรตชราได้มอบเงินกับปลอมให้กับเขามัดนึงโดยบอกว่าเมื่อเงินเหล่านี้สะสมพลังหยินมากพอมันจะกลายเป็นเงินจริงๆขึ้นมา แล้วเมื่อคืนเขาโยนมันทิ้งไว้ที่นี่?
หรือเงินนี้จะเปลี่ยนขึ้นมาหลังจากได้พลังหยินจากผีหกคนเมื่อคืน?
แต่ยังไงก็ช่างเถอะ โจวเจ๋อเก็บเงินเหล่านั้นขึ้นมาและบรรจงลูบมันเบาๆอย่างมีความสุข เงินพวกนี้เรียบลื่นเหมือนกับผ้าไหมราคาแพง กลิ่นหอมของมันให้ความรู้สึกสดชื่นในยามเช้า
โจวเจ๋อคิดในใจว่าหากเงินพวกนี้เกิดขึ้นมาจากกระดาษเงินกระดาษทองพวกนั้นจริงๆ มันจะเป็นหนทางสร้างรายได้แบบใหม่ให้กับเขา
เมื่อนึกถึงนักพรตชราที่ที่กำลังไลฟ์สดขายกระดาษเงินกระดาษทองรวมถึงชายที่นั่งนั่งกินโจ๊กอยู่ข้างๆเขา โจวเจ๋อยิ่งรู้สึกว่าเรื่องนี้สมเหตุสมผลเป็นอย่างมาก
‘ต้องทดลองดูสักครั้ง’
แน่นอนว่าต่อให้มันน่าสนใจมากแค่ไหน แต่เมื่อคืนโจวเจ๋อไม่ได้หลับแม้เพียงสักครู่ มันทำให้จิตใจของเขาโหยหาตู้แช่ที่อยู่บนชั้น 2 ทันที
โจวเจ๋อดึงบานเกล็ดของร้านหนังสือลงมาแล้วล็อคไว้ เพราะว่าเขาไม่เคยมีความคิดจะเปิดร้านในตอนกลางวันแม้แต่น้อย หลังจากนี้โจวเจ๋อคิดในใจแล้วว่าจะต้องเปลี่ยนชื่อร้านเป็น
“บ้านหนังสือยามดึก”
เครื่องทำน้ำอุ่นถูกติดตั้งไว้ในห้องน้ำเรียบร้อยแล้ว หลังจากที่อาบน้ำเสร็จโจวเจ๋อก็เดินขึ้นไปชั้น 2 อย่างรวดเร็ว
ในขณะที่กำลังก้มลงเพื่อปรับอุณหภูมิของตู้แช่ โจวเจ๋อก็ตกตะลึงจนอ้าปากค้าง
มีใครบางคนกำลังนอนอยู่ในตู้แช่ของเขา!
อีกฝ่ายกำลังนอนหลับด้วยรอยยิ้มเล็กๆบนใบหน้า มือทั้งสองข้างไขว้กันอยู่ที่หน้าอกในลักษณะท่าทางเดียวกันกับมัมมี่อียิปต์
สงบและน่ารักมาก มันจะเป็นอย่างนั้นเสมอตราบใดที่เธอไม่ได้แลบลิ้นออกมา
เธอคือเด็กหญิงตัวน้อยรุ่ยรุ่ยนั่นเอง!
โจวเจ๋อกระโดดถอยหลังด้วยความตกใจ เขาต้องการตะโกนเรียกให้ซูชิงหลางจากร้านข้างๆรีบมาที่นี่เพื่อแก้แค้น
แต่เมื่อมาคิดๆดูแล้วต่อให้ซูชิงหลางมาที่นี่จริงๆเขาก็คงไม่มีความกล้ามากพอจะแก้แค้นฝ่ายตรงข้าม มิหนำซ้ำซูชิงหลางอาจเปลี่ยนไปเข้าร่วมกับยัยหนูนี่และมารุมกระทืบเขาก็ได้
“หลับอยู่เหรอ?” โจวเจ๋อถามเบาๆ ลำคอของเขาแห้งผาก
เด็กหญิงตัวน้อยลืมตาขึ้น สายตาของเธอทอประกายลึกล้ำไม่ได้สดใสไร้เดียงสาเหมือนกับอดีต
อีกฝ่ายเอื้อมมือออกมาและโจวเจ๋อก็ช่วยเปิดฝาตู้แช่แข็ง
เด็กหญิงตัวน้อยลุกขึ้นนั่งจากข้างใน โจวเจ๋อสังเกตว่าเธอไม่ได้ตั้งอุณหภูมิจริงๆเพียงแค่ลงไปนอนเล่นอยู่ข้างในเท่านั้น
“คุณนอนอยู่ที่นี่คุณไม่หนาวเหรอ?” เด็กหญิงตัวน้อยที่นั่งอยู่ในตู้แช่แข็งถาม แต่ก่อนที่โจวเจ๋อจะทันได้ตอบอะไรเธอก็อุทานออกมา
“โอ้ฉันลืมไปว่าคุณแตกต่างจากคนอื่น”
เฮย-ไป๋อู่ฉาง (黑白无常) หรือ ยมทูตขาวดำ ทั้งสองเป็นพี่น้องกันมีลิ้นยาวหลายศอก
เทพไป๋อู่ฉาง (白无常) จะสวมชุดและหมวกทรงกรวยสูงสีขาวถือป้ายที่อักษรเขียนว่า 你可来了 แปลว่า “ในที่สุดเจ้าก็มาจนได้”
เทพเฮยอู่ฉาง (黑无常) สวมชุดและหมวกทรงกรวยสูงสีดำมีอักษรเขียนว่า 正在捉你 แปลว่า “มาจับเจ้านั่นแหละ”