159 – เป็ดที่มีบ้านเยอะที่สุด
ประตูร้านหนังสือถูกเปิดออก ชายหนุ่มเดินเข้ามา
ชายหนุ่มคนนี้โจวเจ๋อรู้จัก เขาเป็นหมอฝึกงานในโรงพยาบาลประชาชน พวกเขาเคยเจอกัน 2-3 ครั้งในตอนที่โจวเจ๋อปลอมเป็นหมอ
“อาจารย์อยู่ที่นี่ได้ยังไง”
เด็กฝึกงานหนุ่มมีสีหน้าตกตะลึงเล็กน้อย โดยธรรมชาติแล้ว เขาไม่พบความสัมพันธ์ระหว่างโจวเจ๋อกับหมอหลิน เขาคิดว่าโจวเจ๋อเป็นหมอจริงๆ
แน่นอนนั้นเป็นเพราะประสบการณ์ในการรักษาคนไข้ของโจวเจ๋อนั้นยอดเยี่ยมมาก มันเป็นเรื่องยากที่เด็กฝึกงานคนหนึ่งจะมองเห็นความผิดปกติได้
“การเป็นหมอไม่มีอนาคต ทําธุรกิจต่างหากถึงจะทําให้ชีวิตของคุณรุ่งเรือง” โจวเจ๋อตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
“นี่คือร้านหนังสือของคุณเหรอ?”
“ถูกต้อง.”
ทันใดนั้นถังชื่อก็ปรากฏขึ้นที่บันไดและมองมาที่โจวเจ๋อ
“คุณนั่งก่อน”
หมอหนุ่มนั่งลงข้างโจวเจ๋อ และเหล่าเด็กเสิร์ฟชาอย่างสุภาพ ตราบใดที่คุณหยิบชาในร้านนี้ คุณก็ต้องจ่ายเงินขั้นต่ำ 100 หยวน
โจวเจ๋อมองไปที่ถังซื้อและพูดว่า
“เกิดอะไรขึ้น?”
“พรุ่งนี้คุณว่างไหม?” ถังซื้อถาม
“ไม่”
“พรุ่งนี้คุณจะทําอะไร”
”ยังไม่ได้คิดเลย”
“ไปกินข้าวข้างนอกกันไหม?”
ถังซื้อระบุว่าเธอแทบจะไม่ได้กินอะไรเลยในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา
ทันทีที่เสียงหายไปถังซื้อและโจวเจ๋อก็ขมวดคิ้วพร้อมกัน
การรับประทานอาหารร่วมกันเป็นศัพท์การสื่อสารธรรมดาสําหรับคนธรรมดา แต่สําหรับสองคนนี้มันเป็นเรื่องเลวร้ายยิ่งกว่าการถูกทรมานเสียอีก
คําว่าไปกินข้าวด้วยกันไหมอาจแปลได้ว่า “ไปถูกไฟช็อตด้วยกันไหม”
“ดื่มชา” ถังซื้อเปลี่ยนเส้นทาง
“แน่นอนอยู่แล้ว”
ถังซื้อมองไปรอบๆและพูดว่า
” คุณสบายใจได้ ฉันจะไม่ขโมยสาวใช้กับคุณอีกต่อไป”
โจวเจ๋อยิ้มและพยักหน้า
หลังจากคุยกับถังซื้อแล้ว โจวเจ๋อก็หันหลังกลับและกลับไปนั่งที่ตําแหน่งเดิม เหล่าเต้และเด็กฝึกงานกําลังพูดคุยกันอย่างมีความสุข
แน่นอนว่าด้วยประสบการณ์ของเหล่าเต๋าการจะหลอกเอาเงินของเด็กน้อยคนหนึ่งมันเป็นเรื่องขี้ปะติ้ว
“เกิดอะไรขึ้น?” โจวเจ๋อถาม
“เจ้านาย เขาบอกว่าศพของโรงเก็บศพของโรงพยาบาลพวกเขามักจะสูญหายไป แต่เขาไม่รู้ว่าใครเป็นคนทํา เขาขอให้พวกเราช่วยเหลือ”
ด้วยเหตุนี้ เหล่าเต๋จึงหยิบขวดพลาสติกออกจากกระเป๋าของเขา มันคือสารเรืองแสงที่ลิงน้อยเพิ่งโปรยขึ้นฟ้า
“คุณเอาผงนี้ไปโรยบนศพ ถ้าใครเป็นคนขโมยศพไป ผงเรืองแสงนี้จะติดตัวเขาไปด้วย”
“แล้วทําไมไม่ไปที่สํานักงานความมั่นคงสาธารณะเพื่อแจ้งความ” โจวเจ๋อมองไปที่ชายหนุ่ม
ในเวลานี้เด็กหนุ่มฝึกงานรู้สึกว่าวิธีการของเหล่าเต๋านั้นยอดเยี่ยมมาก เขายิ้มให้เหล่าเด็พร้อมกับซื้อผงเรืองแสงนั้นกลับไปจํานวนหนึ่ง
“เจ้านายคุณคิดว่ามีคนขโมยศพไปจริงๆหรือเปล่า”
เหล่าเด็กล่าวด้วยความสงสัยว่าเขารู้ว่าโจวเจ๋อเป็นหมอในชีวิตที่แล้ว และเขาต้องรู้ความลับบางอย่าง
“ใช่” โจวเจ๋อพยักหน้า
“แล้วทําไมต้องขโมยศพไป พวกเขาเอาไปปลูกถ่ายอวัยวะเหรอ” เหล่าเด็ถามขึ้นทันที
“การปลูกถ่ายอวัยวะมันไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คุณคิด เงื่อนไขสําหรับการปลูกถ่ายอวัยวะนั้นเข้มงวดมาก โดยทั่วไปแล้วเป็นไปไม่ได้ที่จะขโมยศพจากห้องเก็บศพเพื่อปลูกถ่ายอวัยวะ
โดยปกติแล้วศพพวกนั้นจะถูกส่งไปยังโรงเรียนแพทย์บางแห่งหรือสถาบันวิจัยเพื่อทําการทดลองทางกายวิภาคก่อน ท้ายที่สุดศพมนุษย์ก็ไม่ใช่หนูและวัสดุทดลองก็หายาก
ยิ่งไปกว่านั้น บางคนก็เชื่อในไสยศาสตร์และขโมยศพเพื่อทําพิธีแต่งงานของผี นอกจากนี้บางคนคิดว่าการดื่มผงที่บดจากกะโหลกศพสามารถรักษาโรคได้
พูดได้คําเดียวว่า มีทฤษฎีทุกประเภท ดังนั้นปรากฏการณ์การขโมยศพจึงเป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้ แต่ตอนนี้โชคดีที่ประเทศเรามีกฎหมายเรื่องการเผาศพทําให้ปัญหานี้ลดลงไปมาก ๆ
“บดหัวกระโหลกให้เป็นผงเพื่อดื่ม?” เหล่าเด็รู้สึกอยากอาเจียน
โจวเจ๋อนั่งลงที่โซฟาของเขาอีกครั้ง ทันใดนั้นรถกระบะ Nissan ก็จอดที่หน้าร้าน และชายผู้ไม่กลับบ้านมาหลายวันก็เดินลงจากรถ
“คุณกลับมาแล้ว!”
เหล่าเต๋าตื่นเต้นมากที่ได้เห็นร่างของซูชิงหลาง เขาเบื่อที่ต้องรับหน้าที่ทําอาหารจําเป็น เขาเลยคิดถึงซูชิงหลางอยู่หลายวันแล้ว
โจวเจ๋อสงบมาก แต่ภายในใจของเขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก น้ำบ๊วยเปรี้ยวของเขาหมดไปนานแล้วดังนั้นเขาจึงมีปัญหาเกี่ยวกับการกินอาหารพอสมควร
ซูชิงหลางไม่ได้เข้ามาทันที แต่โบกมือให้โจวเจ๋อและนั่งลงที่ประตูร้านสีหน้าของเขาบิดเบี้ยวเหมือนคนจะร้องไห้
โจวเจ๋อเดินออกจากร้านยืนอยู่ข้างเขา ครุ่นคิดแล้วนั่งลง
” เป็นอะไร?”
ซูชิงหลางไม่รีบตอบ แต่ยื่นบุหรี่ให้โจวเจ๋อจากนั้นถอนหายใจและพูดว่า
“ฉันกลับบ้านเพื่อนัดบอด”
“โอกาสแห่งความสุข?” โจวเจ๋อกล่าว
น่าเสียดาย
“คุณหาคู่ไม่ได้เหรอ?” โจวเจ๋อถาม
ซูชิงหลางสายหัว “มันเร็วเกินไป”
“มันเป็นครั้งแรกของคุณเหรอ คุณตื่นเต้นเกินไปหรือเปล่า”
ซูชิงหลางเหลือบมองโจวเจ๋อแต่ไม่ได้ปฏิเสธ
” เร็วมาก” โจวเจ๋ออุทาน
“ฉันไม่เหมือนคุณ ฉันปกติ” ซูชิงหลางเดือน
“แล้วทําหน้าเศร้าทําไมล่ะ”
“ปัญหาคือเมื่อมันจบลง เธอทิ้งเงินไว้ที่หัวเตียงแล้วหายตัวไป”
“คุณเป็นกะหรี่ชาย?” โจวเจ๋อตกตะลึง
ซูชิงหลางรู้สึกหดหูเขาใช้มือทั้งผมของตัวเอง
“หลังจากที่เธอจากไป เธอให้เงินฉันสามพันหยวนและไปโดยไม่บอกกล่าว ฉันรับเธอเป็นคู่เดทของฉัน ฉันยังแปลกใจที่เธอเปิดกว้างและเปรี้ยวจี๊ด หรือนั่นคือรักแรกพบ?”
“รักแรกพบส่วนใหญ่เกิดจากการความต้องการทางเพศ”
“ปรากฏว่าไม่เป็นเช่นนั้น” ซูชิงหลางรู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก
“เธอหลอกคุณเหรอ?”
“หุบปากได้ไหม” ซูชิงหลางมองโจวเจ๋อด้วยใบหน้าเศร้า
“เธอเอาเงินให้คุณ พวกคุณนอนด้วยกัน ตอนนี้คุณก็ยังปกติดีนี่นา”
“นั่นแหละคือปัญหา ฉันรู้สึกว่าคุณค่าของฉันถูกทําลาย ฉันเป็นผู้ชายที่มีคอนโดมากกว่า 20 ห้อง และฉันได้รับการปฏิบัติเหมือนเป็ดโดยผู้หญิงคนหนึ่ง!”
“อันที่จริง เมื่อคุณมองบางสิ่งจากมุมมองที่แตกต่างออกไปมันอาจจะทําให้คุณรู้สึกดีขึ้นก็ได้”
” ตัวอย่างเช่น?”
ตัวอย่างเช่น คุณเป็นเป็ดที่มีบ้านเยอะที่สุด”
“ขอโทษที ล้อเล่นเกินไปหน่อย” โจวเจ๋อตบไหล่ซูชิงหลางและพูดต่อ
“ความจริงเตียงคือหลุมฝังศพของวีรบุรุษ แล้วทําไมเราต้องใส่ใจมันมากนัก? คุณกลับไปบ้านเกิดเพื่อนัดบอดเท่านั้น? ”
“ไม่ เราต้องรื้อหลุมฝังศพของบรรพบุรุษ ฉันกลับไปย้ายสุสานของบรรพบุรุษแล้วมันมีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้นไม่น้อย ฉันขอนอนก่อนแล้วจะลงมาเล่าให้ฟังในตอนเย็น”
ซูชิงหลางลุกขึ้นยืน ผลักประตูร้านหนังสือ หยิบไวน์แดงหนึ่งขวดจากบาร์แล้วขึ้นไปชั้นบนไปยังห้องของเขา
*เป็ด = โสเภณีชาย ไก่ = โสเภณีหญิง