เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ – ตอนที่ 437-438

บทที่ 437 ผู้บุกรุกดูข้อมูลพนักงานของสถาบันวิจัย

 

“อะไรหาย” เจียนอีหลิงถาม

 

“นั่นเป็นเรื่องที่แปลกอยู่ ข้อมูลของสถาบันเราถูกจัดเก็บแยกออกจากกัน จนถึงตอนนี้ พวกเขาเพียงแค่เจาะเข้าไปในฐานข้อมูลพนักงานภายในของเราเท่านั้น”

 

ข้อมูลของสถาบันจํานวนมากไม่ได้ถูกจัดเก็บบนอินเทอร์เน็ต กลับกัน ข้อมูลจะถูกเก็บไว้ในเครื่องเพื่อความปลอดภัยของข้อมูล

 

ยิ่งไปกว่านี้ นักวิจัยจะใช้เครือข่ายภายในสําหรับงานวันต่อวัน พวกเขาไม่ได้เชื่อมต่อกับเครือข่ายภายนอก

 

สิ่งที่มีค่าที่สุดในสถาบันคือข้อมูลที่รวบรวมไว้

 

มีบางคนสร้างปัญหาด้วยการแอบเข้าไปในสถาบันของพวกเขา แต่ทว่าแทนที่จะเข้าไปในห้องนิรภัยที่พวกเขาเก็บข้อมูลการวิจัย พวกเขาเลือกที่จะเปิดฐานข้อมูลพนักงานของสถาบันแทนนี่เป็นสิ่งที่ชวนสับสน

 

ในบรรดาพนักงานของสถาบัง ผู้ที่มีตัวตนที่ลึกลับที่สุดสําหรับโลกภายนอกก็คือเจียนอีหลิง

 

Dr.FS เป็นชื่อที่รู้จักกันดีในวงการ มีคนจํานวนมากก่อนหน้านั้นที่เข้ามายังสถาบัน พวกเขาต้องการพบ Dr.FS เพื่อขอให้ทําการผ่าตัดให้กับพวกเขา

 

แต่ทว่าสถาบันได้ปฏิเสธพวกเขาทั้งหมด

 

บางคนที่ถูกสถาบันปฏิเสธเป็นคนสําคัญในสังคม

 

ไม่มีการรับประกันว่าพวกเขาจะยอมแพ้ง่ายๆ เป็นไปได้ว่าพวกเขาจะทําอะไรบางอย่างที่ทําให้สถาบันพบกับปัญหา

 

ดังนั้นทุกคนจึงค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับเงี่ยนอีหลิง

 

เป็นการดีที่สุดสําหรับเจียนอีหลิงที่จะไม่มาที่สถาบันในระยะเวลานี้

 

“ที่รัก อย่ามาที่สถาบันจนกว่าเราจะตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียดถี่ถ้วน” หลัวซิ่วเฉินเดือนซ้ําแล้วซ้ําเล่า “ให้ตายเถอะ ถ้าฉันรู้ว่าใครทําเรื่องนี้ ฉันจะถลกหนังพวกมันทั้งเป็น

 

แต่อย่างไรก็ตาม หลัวจิ๋วเอินก็รู้ดีอยู่ในใจว่าการถลกหนังพวกนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย

 

ไม่ใช่โจรธรรมดาที่ทําเช่นนี้ได้ โจรคนนี้ต้องมีขุมกําลังอยู่เบื้องหลัง การบุกรุกดังกล่าวต้องมีการวางแผนไว้ล่วงหน้าอย่างแน่นอน

 

“ตกลง” เจี้ยนอีหลิงตอบกลับ

 

เนื่องจากมีการแข่งขันแบบออฟไลน์ เงี่ยนอีหลิงจึงลาพักโรงเรียนไประยะยาว

 

ในเมื่อวันนี้เธอว่าง เธอจึงกลับไปที่โรงเรียน

 

ทันทีที่เธอไปถึงประตูโรงเรียน อันหยางก็นํากลุ่มลูกน้องมาทักทายเงี่ยนอีหลิงอย่างอบอุ่น

 

“บอส เธอยอดเยี่ยมมาก เธอเป็นไอดอลของฉัน”

 

“ใช่ พี่หยางไม่ได้พลาดการแข่งขันใดๆของบอสในช่วงสองวันที่ผ่านมาแม้แต่นิดเดียว เขาแอบพิมพ์โปสเตอร์ของบอสมาหลายแผ่น”

 

ลูกน้องของอันหยางไม่กลัวที่จะทําให้อีกฝ่ายอับอาย

 

อันหยางจ้องมองพวกเขาด้วยความเกลียดชัง

 

จากนั้นเขาก็หันไปหาเจียนอีหลิงและถามว่า “ทําไมเธอถึงมาโรงเรียน บอสควรใช้เวลานี้พักผ่อน การเรียนจะทําให้เธอเหนื่อย เธอควรทําแค่นอนและทานอาหารที่บ้านเท่านั้นทําในสิ่งที่เธอ สบายใจ…”

 

อันหยางพูดกับเจียนอีหลิงต่อ เขาพูดไปเรื่อยๆจนกระทั่งถึงห้องเรียนของเงี่ยนอีหลิง

 

เจียนอีหลิงนั่งลงตรงที่นั่งของตนเอง เธอเห็นการ์ดและของขวัญมากมายจากนักเรียนคนอื่น

 

อันที่จริงมีการ์ดและของขวัญมากมายจนทุกอย่างไม่สามารถวางบนโต๊ะได้ ของขวัญบางชิ้นกวางลงบนพื้น

 

หูเจียวเจียวต้องหาช่องว่างเบียดลงนั่ง

 

นักเรียนทุกคนในชั้นเรียนมีความสุขมากที่ได้เห็นเงี่ยนอีหลิง

 

“อีหลิง เธอกลับมาแล้ว” หูเจียวเจียวร้องออกมาอย่างมีความสุข

 

จากนั้นหูเจียวเจียวก็บอก “ความลับ” กับเจี้ยนอีหลิง “อีหลิงระหว่างที่เธอไม่อยู่ พี่หยางมาทุกวันเพื่อช่วยจัดเรียงการ์ดและของขวัญบนโต๊ะของเธอ เขาช่วยเธอเช็ดโต๊ะและทําความสะอาด อันที่จริง เขายังช่วยเธอแยกแยะกองการบ้านที่อาจารย์ให้มาด้วยนะ”

 

ในโรงเรียนมัธยมปลาย หากใครไม่อยู่เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ เอกสารและงานที่ได้รับมอบหมายสามารถซ้อนกันเป็นภูเขาได้

 

อันหยางมาทําความสะอาดโต๊ะของเงี่ยนอีหลิงเป็นประจํา เขายังขอให้หูเจียวเจียวช่วยเจี้ยนอีหลิงจดบันทึกด้วย

 

ตอนแรกหูเจียวเจียวกลัวอันหยางเพราะ “ชื่อเสียง” ของเขา

 

แต่ต่อมา เธอก็ค่อยๆไม่กลัวอีกฝ่ายอีกต่อไป หูเจียวเจียวบอกอันหยางว่าเจียนอีหลิงไม่ต้องการบันทึกของพวกเขา

 

“หุบปาก เจียวเจียว เธอพูดเรื่องไร้สาระอะไรกัน” อันหยางพูดขณะที่มองออกไปนอกหน้าต่าง

 

บทที่ 438 มากับเรา คุณหนูอีหลิง

 

ในเวลาอาหารกลางวัน อันหยางติดตามเงี่ยนอีหลิงและหูเจียวเจียวไป

 

อันหยางกล่าวว่าสาเหตุที่ทําเช่นนี้เป็นเพราะโรงเรียนแออัดเกินไป เขาไม่ต้องการให้คนแปลกหน้าเข้ามาหาเจี้ยนอีหลิงและก่อกวนเธอ ดังนั้น เขาจึงต้องอยู่ใกล้เงี่ยนอีหลิงเพื่อปกป้องเธอ

 

ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเงี่ยนอีหลิงไม่ชอบอยู่กับคนกลุ่มใหญ่ อันหยางก็คงจะพาลูกน้องเขามาด้วยเหมือนกัน

 

ผลกระทบของการที่มีอันหยางยืนอยู่ข้างเงี่ยนอีหลิงค่อนข้างดี เมื่อผู้คนเห็นอันหยาง พวกเขาก็กลัวเกินกว่าจะเข้าไปหาเจียนอีหลิงเพื่อขอลายเซ็น เมื่อมีอันหยางที่นั่น พวกเขาจะไม่ล่วงเกินเจียนอีหลิงในทางใดทางหนึ่งอย่างแน่นอน

 

เงี่ยนอีหลิง หูเจียวเจียว และอันหยางนั่งลงที่มุมหนึ่งของโรงอาหารของโรงเรียน ทันใดนั้น ผู้ชายที่แต่งตัวดีสองสามคนก็เข้ามานั่งรอบตัวพวกเขา การเคลื่อนไหวของพวกเขาว่องไวและรวดเร็ว รายล้อมรอบเจียนอีหลิงและคนอื่นๆอย่างรวดเร็ว

 

พวกเขาปิดกั้นเส้นทางของเงี่ยนอีหลิง

 

ชายคนหนึ่งนั่งตรงข้ามเงี่ยนอีหลิง

 

ทันทีที่ชายคนนั้นนั่งลง อันหยางก็ตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ

 

อันหยางลุกขึ้นถามพวกผู้ชายทันที “พวกแกเป็นใคร? ต้องการอะไร”

 

ผู้ชายไม่สนใจอันหยาง พวกเขาไม่สนใจว่าเขาจะแสดงท่าทางก้าวร้าว แต่พวกเขามองไปที่เงี่ยนอีหลิงอย่างตั้งใจ

 

“เรามาเพื่อขอให้คุณหนูอีหลิงมากับเรา”

 

คนที่พูดคือชายวัยกลางคนที่นั่งตรงข้ามกับเจี้ยนอีหลิง เขามีใบหน้าธรรมดา

 

ไม่ว่าอย่างไร ชายคนนั้นดูเหมือนได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี เขาดูไม่เหมือนคนธรรมดา

 

“ทําไมนายถึงอยากให้ฉันไปด้วย?” เจียนอีหลิงถามอย่างใจเย็น เสียงเธอสงบเงียบ

 

“ไม่จําเป็นต้องกล่าวอ้อมค้อม เรารู้ตัวตนของเธอแล้ว” ชายวัยกลางคนกล่าวอย่างมั่นใจ 

 

ทันใดนั้น เงี่ยนอีหลิงก็จําสายที่หลัวซิ่วเอินโทรหาเธอได้ เธอจําได้ว่ามีการเข้าถึงฐานข้อมูลพนักงานของสถาบันวิจัยจากผู้บุกรุก

 

จากคําพูดของชายคนนั้น นั่นคงเป็นฝีมือของพวกเขา

 

หากคนเหล่านี้สามารถแทรกซึมเข้าไปในสถาบันโดยไม่ทิ้งร่องรอยใดๆไว้ ความสามารถของพวกเขาย่อมไม่สามารถดูถูกได้ นี่คือสิ่งที่คนธรรมดาไม่สามารถทําได้

 

“แล้วถ้าฉันปฏิเสธล่ะ”

 

“หากเป็นเช่นนั้น เราอาจต้องขอโทษเธอในภายหลัง”

 

เมื่อได้ยินเช่นนี้ อันหยางก็โกรธจัด “ หมายความว่ายังไง? แกจะใช้กําลังถ้าเธอไม่ยอมไปกับแกงั้นเรอะ”

 

ความโกรธของอันหยางกําลังก่อตัว ขณะที่เขาเคลื่อนไหว ชายที่อยู่ข้างอีกฝ่ายก็ผลักเขากลับไปยังที่นั่งของเขา

 

แต่ทว่าอันหยางปฏิเสธที่จะยอมแพ้ เขาเริ่มดิ้นรน

 

ขณะที่เขาพยายามจะยืนขึ้น ชายที่ยันเขาไว้ก็ใช้กําลังมากขึ้น

 

อันหยางไม่สามารถหลุดจากเงื้อมมือของชายคนนั้นได้ ขณะที่เขาพยายามเหมือนกับว่าเส้นเลือดในคอของเขากําลังจะแตก

 

“อย่าแตะต้องเขา พวกนายกําลังมองหาฉัน” เงี่ยนอีหลิงพูดด้วยน้ําเสียงเคร่งขรึม น้ําเสียงเธอแผ่วเบาแต่ก็ยังคงมีความเข้มแข็งอยู่ในนั้น

 

“โปรดอย่ากังวล ตราบใดที่เธอตกลงที่จะร่วมมือกับเรา เราสัญญาว่าจะไม่ทําร้ายเพื่อนของเธอ” ชายวัยกลางคนตอบด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า “เธอคงไม่อยากให้เพื่อนสองคนของเธอบาดเจ็บเหมือนกันใช่ไหม เธอเป็นคนฉลาด เธอควรรู้ว่าต้องทําอย่างไร”

 

พวกเขาติดตามเงี่ยนอีหลิงมาเป็นเวลานาน

 

จากเมืองเหิงหยวนไปยังเมืองถึงไห่ และกลับมาที่เมืองเหิงหยวนอีกครั้ง

 

วันนี้ ในที่สุดพวกเขาก็พบช่วงเวลาที่ดีที่จะจู่โจม

 

ก่อนหน้านั้น เงี่ยนอีหลิงได้อยู่กับกลุ่มคนที่มีอํานาจมาก ย้อนกลับไปตอนนั้น พวกเขาไม่กล้าที่จะเคลื่อนไหวอย่างห่ามๆ

 

พวกเขาไม่กล้าไปยุ่งกับคนพวกนั้น

 

แต่ทว่า หากเป็นเพียงตระกูลเจียน พวกเขาสามารถจัดการกับคนเหล่านี้ได้

 

“นายต้องการให้ฉันทําอะไร” เจียนอีหลิงถาม น้ําเสียงเธอยังคงนิ่งมาก

 

“ผมไม่ได้หมายความที่จะบอกว่าต้องการให้เธอทําอะไร แต่เธอจะรู้เมื่อเธอไปกับเรา” ชายวัยกลางคนกล่าว “อันที่จริง คุณหนูอีหลิง เธอน่าจะรู้ว่าตอนนี้ที่ผมอดทนได้ก็เพียงเพราะว่าผมไม่อยากทําให้เกิดความยุ่งยาก เราไม่ต้องการบังคับให้เธอมากับเราจนกว่าเราจะต้องทํา”

 

เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ

เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ

Status: Ongoing Released: 2020 Native Language: Chinese
อ่านนืยายเรื่อง เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อเดิมที เจี่ยนอีหลิง เป็นตัวละครประกอบที่มีชะตากรรมเป็นแนวหน้ากล้าตาย แต่ทว่าเมื่อตอนนี้เธอมีความทรงจำจากเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เจี่ยนอีหลิง ซึ่งเป็นผู้อ่านได้ย้ายเข้ามามีตัวตนในนิยาย จึงได้เปลี่ยนแปลงตนเองไปเป็นผู้มีอิทธิพลที่แฝงตัวอยู่ ไม่เพียงแต่เจี่ยนอีหลิงจะไม่สนใจในตัวเอกชาย แต่เธอยังคงทำให้ผู้คนรอบกายเธอตกตะลึง สับสน งงงัน ตามต้นฉบับแล้ว พี่ชายทั้งหลายต่างพากันเกลียดเธอ แต่ตอนนี้ทุกคนล้วนพากันปกป้องเธออย่างเอาเป็นเอาตาย “อี้หลิงตกใจง่าย อย่าทำให้เธอกลัว” “อี้หลิงไม่เคยไปที่ไกลๆ อย่าหลอกเธอ” “อี้หลิงมีร่างกายอ่อนแอ ห้ามรังแกเธอ” คนอื่นๆ ต่างต้องการร่ำร้องไม่อยากเชื่อ มั่นใจเหรอว่าเธอน่ะน่ารักและถูกรังแกได้ง่ายๆ ใครกล้ารังแกเธอกัน ในขณะที่พวกเขาล้วนคิดว่าเพียงแค่บรรดาพี่ชายตระกูลเจี่ยนก็เพียงพอแล้วที่จะจัดการทุกสิ่งทุกอย่าง แต่นั่นก็ยังมีคนอื่นที่คอยเติมส่วนที่เหลือ นายท่านเฉิง “อี้หลิงเป็นคนเปราะบางมาก อย่าทำให้เธอโกรธ ถ้าคุณทำให้เธอโกรธ ผมจะหั่นคุณออกเป็นชิ้นๆและทำเป็นน้ำซุป” คนอื่นๆ “นายท่านเฉิง ผมคิดว่ามีบางอย่างผิดปกติกับดวงตาคุณ ผมแนะนำให้คุณไปหาจักษุแพทย์”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset