สองวันต่อมาเทียนหลางขับรถออกจากบ้านเพื่อไปยังบ้านของหลินเสวี่ยเป้าหมายของเขาวันนี้ไม่มีอะไรมากนักนั่นก็คือการไปเยี่ยมหลินตงไห่เท่านั้น
ระหว่างทางเทียนหลางก็ได้แวะซื้อดอกไม้และของฝากอีกนิดหน่อยก่อนจะขับรถตรงไปยังวิลล่าที่พักกของหลินเสวี่ย
เมื่อมาถึงพ่อบ้านเหลาก็ออกมาต้อนรับเทียนหลางอย่างดี
“สวัสดียามเช้าครับคุณชายเทียนหลาง”
เทียนหลางยิ้มเล็กน้อยก่อนจะกล่าวทักททายกับพ่อบ้านเหลาและยื่นกล่องใบหนึ่งให้กับเขา พ่อบ้านเหลารับมันมาอย่างงุนงงแต่ก่อนที่จะได้เอ่ยถามอะไรเทียนหลางก็ชิงตอบก่อน
“ถือว่าเป็นของฝากเล็กๆน้อยๆแล้วกันนะครับ”
พ่อบ้านเหลาแปลกใจเล็กน้อยที่เทียนหลางมีของฝากมาให้กับเขาเพราะตลอดเวลาที่ทำงานที่บ้านตระกูลหลินมาหลายปีตัวของพ่อบ้านเหลาก็ได้ต้อนรับแขกมากหน้าหลายตาได้พบเห็นคนมาหลายรูปแบบและก็มีเพียงเทียนหลางคนเดียวเท่านั้นที่มีของฝากมาให้กับพ่อบ้านเหลา ซึ่งทำให้เขาแปลกใจเล็กน้อยเพราะปกติคนที่มาที่บ้านหลังนี้นั้นมักจะเห็นเขาเป็นเพียงลูกจ้างเท่านั้น ยากนักที่จะพบเจอคนที่จิตใจกว้างขวางเช่นนี้
จากนั้นเทียนหลางก็ได้กล่าวถามถึงอาการของหลินตงไห่กับพ่อบ้านเหลา
“พ่อบ้านเหลาครับอาการของคุณพ่อหลินเสวี่ยเป็นอย่างไรบ้าง ?”
พ่อบ้านเหลาได้ยินดังนั้นจึงตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
“ต้องขอบคุณคุณชายที่ช่วยรักษาอาการของคุณท่าน ในตอนนี้คุณท่านร่างกายแข็งแรงดีแล้วแต่ถึงอย่างงั้นด้วยการที่เขาหายจากอาการบาดเจ็บราวกับปาฏิหาริย์ทำให้หมอนั้นบอกว่าคุณท่านจำเป็นจะต้องพักฟื้นอยู่ที่บ้านสักระยะ”
เทียนหลางที่ได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้าก่อนจะอดหัวเราะอยู่หายในใจ ด้วยการที่ตัวของหลินตงไห่นั้นเป็นผู้ฝึกยุทธทำให้ร่างกายของเขานั้นแข็งแกร่งกว่าคนธรรมดาทั่วไป ดังนั้นร่างกายของหลินตงไห่จึงสามารถฟื้นคืนสภาพได้รวดเร็วกว่าคนธรรมดาหลายเท่าดังนั้นเรื่องการพักฟื้นสำหรับหลินตงไห่นั้นแทบไม่จำเป็นเลย
และยิ่งหลินตงไห่ได้รับการรักษาจากเทียนหลางอีกด้วยเรียกได้ว่าในตอนนี้เขาสามารถจะวิ่งเล่นได้เลยด้วยซ้ำ แต่เทียนหลางก็เข้าใจความคิดของหมอดีว่าตัวหมอคนนั้นคงจะเป็นห่วงคนไข้ของตัวเอง
จากนั้นพ่อบ้านเหลาก็กล่าวกับเทียนหลางว่า
“เช่นนั้นผมจะไปบอกกับคุณท่านนะครับว่าคุณชายมาเยี่ยม”
“รบกวนพ่อบ้านเหลาแล้ว”
เทียนหลางกล่าวพร้อมกับรอยยิ้ม หลังจากที่พ่อบ้านเหลาจากไปเทียนหลางก็ได้ยินเสียงเรียกเขาจากชั้นสองของตัวบ้าน
“เทียนหลาง !”
เมื่อเทียนหลางเงยหน้าขึ้นไปก็พบกับหลินเสวี่ยในชุดอยู่บ้านสบายๆกำลังวิ่งลงมาจากชั้นสอง เมื่อหลินเสวี่ยลงมาด้านล่างเธอก็ถามเทียนหลางด้วยรอยยิ้มทันที
“นายมาเยี่ยมพ่อฉันงั้นเหรอ”
เทียนหลางพยักหน้า ก่อนจะพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม
“ใช่แล้วล่ะ แล้วก็จะมาเก็บค่ารักษาด้วย”
เมื่อหลินเสวี่ยได้ยินแบบนั้นก็ถึงกับขมวดคิ้วทันทีก่อนจะถามเทียนหลางด้วยความสงสัย
“ค่ารักษางั้นเหรอ ?”
เทียนหลางยิ้มแต่ไม่ได้พูดอะไร ทันใดนั้นพ่อบ้านเหลาก็เดินกลับมาพร้อมกับพูดขึ้นว่า
“คุณท่านได้เชิญคุณชายและคุณหนูไปพบที่สวนครับ”
ทั้งคู่ได้ยินแบบนั้นก็มองหน้ากันครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าเดินตามพ่อบ้านเหลาไปที่สวนด้านหลัง เมื่อมาถึงเทียนหลางก็เห็นหลินตงไห่กำลังนั่งดื่มชาอยู่
“ทั้งคู่มาถึงแล้วครับคุณท่าน”
หลินตงไห่ได้ยินก็พยักหน้าก่อนจะกล่าวขอบคุณพ่อบ้านเหลา จากนั้นหลินตงไห่ก็กล่าวกับเทียนหลางว่า
“นี่คงเป็นครั้งแรกที่เราจะได้คุยกันซินะ”
เทียนหลางพยักหน้าพร้อมกับตอบกลับ
“เป็นเช่นนั้นครับ”
“อืม… ฉันต้องขอขอบใจเธอที่ช่วยรักษาฉันถึงสองครั้งสองครา ดูเหมือนว่าฉันจะเป็นหนี้เธอก้อนใหญ่เลยทีเดียว”
เทียนหลางที่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มออกมาก่อนจะพูดขึ้นว่า
“คุณไม่จำเป็นจะต้องกังวลหรอกครับ หนี้ก้อนนั้นคุณสามารถจ่ายได้ตอนนี้เลย”
เมื่อหลินตงไห่ได้ยินแบบนั้นก็ถึงกับขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะถามกลับไปว่า
“เธอต้องการอะไรหล่ะ ?”
เทียนหลางทำท่าทีครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะตอบหลินตงไห่ไปว่า
“ถ้างั้นเอาเป็นอนุญาตให้ผมคบกับหาดูใจกับหลินเสวี่ยก็แล้วกันนะครับ”