หมิงซี่หยินได้พูดขึ้น “ท่านหญิงของพวกเจ้ากับเหวยซู่หยานมีความสัมพันธ์กันยังไงบ้าง? ” หลังจากที่ได้ยินน้ำเสียงของวู่เฉิงและวู่กวนพูดถึงเหวยซู่หยาน หมิงซี่หยินก็สัมผัสได้ว่าพวกเขาดูไม่เป็นมิตรกับแม่ทัพใหญ่คนนั้นเท่าไหร่
“เอ่อ…” วู่เฉิงพูดตะกุกตะกักกลับมา เขาไม่กล้าที่จะพูดอะไร
“เจ้าบอกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่แม่น้ำสวรรค์ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับท่านหญิงของเจ้า แต่ถึงแบบนั้นที่นั่นก็ยังมีสุดยอดเวทมนตร์คาถาอยู่ เฉินซูเป็นผู้ปกป้องที่ตรงนั้น เจ้าคิดว่าข้าโง่มากอย่างงั้นสินะ? “
พรึ๊บ!
วู่เฉิงและวู่กวนคุกเข่าลงโดยไร้ซึ่งความลังเล หน้าผากของพวกเขาเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ “ท่านหญิงม่อหลี่ทำตามคำสั่งที่ได้รับมาเท่านั้น เรื่องที่ท่าเรือตรงนั้นเกิดขึ้นก่อนที่จะมีสุดยอดเวทมนตร์คาถาด้วยซ้ำไป เหตุการณ์การกวาดล้างชาวบ้านของหมู่บ้านปลามังกรสวรรค์มันไม่เกี่ยวข้องอะไรกับท่านหญิงของข้าเลย ถ้าหากข้าพูดโกหกแม้แต่คำเดียว ข้าจะยอมตายอย่างอเนจอนาถเอง! “
ไม่ว่าทั้งสองคนจะพูดอะไรออกมา ทั้งหมิงซี่หยินและต้วนมู่เฉิงต่างก็ไม่เชื่อในสิ่งที่พวกเขาพูด ในตอนนี้บรรยากาศในห้องโถงเต็มไปด้วยความตึงเครียด
เมื่อทั้งสองคนกำลังจะยืนขึ้น ฝานซงที่เงียบมาโดยตลอดก็ได้พูดขึ้นมา “ทำไมท่านหญิงผู้เป็นที่รักของสิบคนทรงถึงได้มีชื่อว่าม่อหลี่ล่ะ? “
วู่เฉิงและวู่กวนถึงกับตกตะลึง พวกเขาหันกลับไปมองฝางซง ถ้าหากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่อื่น ฝานซงคนนี้มีความผิดมหันต์ที่กล้าเอ่ยชื่อของม่อหลี่ขึ้นมาตรงๆ แบบนี้ แต่ถึงแบบนั้นที่ในตอนนี้คือศาลาปีศาจลอยฟ้า ไม่ว่าคำพูดของชาวศาลาปีศาจลอยฟ้าจะเลวร้ายสักแค่ไหนแต่ถึงแบบนั้นพวกเขาทั้งสองคนก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะทำอะไร
“ใครๆ ก็สามารถใช้เวทมนตร์คาถาได้ทั้งนั้น แต่วรยุทธของท่านหญิงม่อหลี่มีพลังวรยุทธสุดลึกล้ำ เพราะแบบนั้นพวกเราก็เลยเลือกติดตามนาง”
ฝานซงที่ได้ยินแบบนั้นก็ได้พูดออกมาอีกครั้ง “ตั้งแต่สมัยโบราณมา สิบคนทรงล้วนแต่เป็นยอดฝีมือที่ทุกคนต่างก็เคารพและเกรงกลัว พวกเขาล้วนแต่เป็นผู้เชี่ยวชาญในการรักษาและยังเป็นผู้เชี่ยวชาญในการทำนายอีกด้วย พวกเขาทั้งหมดล้วนแต่ฝึกฝนตัวเองจนถึงจุดสูงสุดของเวทมนตร์สายขาวได้ และเพราะว่าพวกเจ้าเป็นลูกหลานของสิบคนทรง ทำไมพวกเจ้าถึงจะต้องลดตัวและกลายเป็นขี้ข้าของนางเพียงคนเดียวด้วยล่ะ? “
‘ขี้ข้า? ‘ วู่เฉิงและวู่กวนต่างก็เปลี่ยนสีหน้าไปทันทีเมื่อได้ยินคำนี้ เมื่อพวกเขาทั้งคู่เหลือบมองไปที่ฝานซง พวกเขาทั้งคู่ก็พยายามใช้ความคิดอยู่นาน จากข้อมูลที่พวกเขาเคยศึกษาเกี่ยวกับศาลาปีศาจลอยฟ้ามา ทั้งสองคนจำไม่ได้เลยว่ามีคนแบบนี้อยู่ด้วย
“ขออภัยด้วย ท่านเป็นใครกัน? “
ฝานซงได้พูดออกมาอย่างตรงไปตรงมา “ข้าชื่อฝานซง ข้าน่ะภูมิใจในตัวเองและยืนหยัดทำสิ่งที่ถูกต้องเสมอมา ข้ามาจากสำนักแห่งความบริสุทธิ์ ในตอนนี้ข้าเป็นสมาชิกของศาลาปีศาจลอยฟ้าเรียบร้อยแล้ว ปัญหาของศาลาปีศาจลอยฟ้าก็เหมือนปัญหาของข้าเอง”
วู่เฉิงที่ได้ฟังแบบนั้นก็ได้คารวะฝานซงในทันที “ยินดีที่ได้รู้จัก ท่านฝาน…การเป็นทายาทของสิบคนทรงไม่ใช่เรื่องที่น่าคุยโวโอ้อวดเลย ตราบใดที่พวกเรามีโอกาสได้รับใช้ราชสำนัก พวกเราก็มีโอกาสนำพาความสุขกลับมาให้เหล่าสามัญชนคนธรรมดาได้”
“พูดได้ดี” ฝานซงพูดต่อไปในขณะที่ปรบมือไปด้วย “ข้าจะพูดในสิ่งที่ศิษย์พี่สี่ได้พูดไปแล้ว ที่แม่น้ำสวรรค์มีสุดยอดเวทมนตร์คาถาอยู่ที่นั่น ตลอดแม่น้ำ 100 ไมล์เองก็มีกับดักเวทมนตร์คาถาเช่นกัน แม้แต่ศิษย์พี่หมิงซี่หยินเองยังติดกับดักได้ นับประสาอะไรกับคนธรรมดาทั่วไป ตอนที่ข้าเคยอยู่ที่สำนักแห่งความบริสุทธิ์ ข้าเคยได้ยินข่าวคราวคนธรรมดาเสียชีวิตอย่างอนาถใกล้ๆ กับแม่น้ำสวรรค์ เจ้าจะอธิบายเรื่องนี้ว่ายังไงกัน? “
ท่าทีของวู่เฉิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย เมื่อเผชิญหน้ากับคำพูดของฝานซง เขาคนนี้ถึงกับเถียงกลับไปไม่ออก ในตอนนี้ลู่โจวเฝ้ามองดูสถานการณ์อยู่อย่างเงียบๆ ราวกับว่ามันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับตัวเขา
วู่เฉิงได้ครุ่นคิดพักหนึ่งก่อนที่จะตอบกลับมา “ผู้ฝึกยุทธทั้งหลายมักจะเข้าใกล้แม่น้ำสวรรค์เพื่อก่อกวนการทำงานจากทางพระราชสำนัก เพราะแบบนั้นเลยต้องมีการใช้สุดยอดเวทมนตร์คาถาที่นั่น มันเป็นวิธีการแก้ปัญหาของพวกเรา ทุกเรื่องราวมักจะมีสองด้านเสมอ คำพูดของท่านฝานดูเหมือนจะไม่เป็นธรรมกับพวกข้าเลย”
“แล้ว…ทำไมถึงได้มีโกดังที่เต็มไปด้วยกองกระดูกด้วยล่ะ ที่แห่งนั้นเองก็ยังมีสุดยอดเวทมนตร์คาถาอยู่ได้ พวกเจ้าไม่คิดจะดูถูกเหล่าผู้ที่ตายไปแล้วหรอกหรอ? เจ้าไม่กังวลเลยสินะว่าผู้ที่ตายไปแล้วจะติดอยู่ในภพภูมินี้จนไปผุดไปเกิดไม่ได้น่ะ? “
วู่เฉิงและวู่กวนต่างเดินถอยหลังไป คำพูดฝานซงทำให้พวกเขาตกใจมาก
“หลังจากนี้เราจะให้นักบวชทำพิธีกรรมให้กับผู้เสียชีวิตเอง พวกเราจะอธิษฐานและส่งพวกเขาไปอย่างสงบเพื่อที่จะให้ผู้ตายทั้งหลายเจอแต่ความสุขในชีวิตหลังความตาย” วู่เฉิงได้พูดออกมาอย่างอ่อนแรง คำพูดของเขาไม่มีความมั่นใจใดๆ หลงเหลืออยู่อีก ในตอนนี้เขาดูอึดอัดเป็นอย่างมาก
ฝานซงหัวเราะก่อนที่จะพูดออกมา “ผู้ใช้เวทมนตร์คาถาจะเรียกนักบวชมาเพื่อสวดมนตร์อย่างงั้นหรอ ถ้าหากสิบคนทรงได้ยินเรื่องนี้เข้า พวกนั้นคงจะโกรธพวกเจ้าจนอยากที่จะกลับมาเกิดอีกครั้งแน่! “
“เจ้า! “
ถ้าหากไม่เห็นว่าอยู่ที่ศาลาปีศาจลอยฟ้า ป่านนี้ฝานซงคงจะต้องนอนลงไปกับพื้นแล้ว
วู่เฉิงและวู่กวนยกย่องสิบคนทรงจากใจจริง ในตอนนี้ฝานซงกำลังดูถูกผู้ที่พวกเขาเคารพสุดหัวใจอยู่นั่นเอง
วู่กวนกำลังจะก้าวไปข้างหน้าแต่ถึงแบบนั้นวู่เฉิงก็ได้หยุดเขาเอาไว้ได้ทัน
วู่เฉิงที่เห็นแบบนั้นได้รีบพูดออกมา “พี่ฝาน ที่พวกเรามาถึงที่นี่ก็เพื่อความปรองดอง พวกเราไม่มีเจตนาที่จะสร้างศัตรูเลย! ถ้าหากชาวศาลาปีศาจลอยฟ้ามีเรื่องขุ่นเคืองใจจริง พวกเราทั้งหมดยินดีที่จะชดใช้ให้เอง! ” วู่เฉิงได้พูดตัดบทสนทนาไป เขาหันไปพูดกับลู่โจวตรงๆ แทน
ในตอนแรกสองพี่น้องและท่านหญิงม่อหลี่ต้องการที่จะผูกมิตรกับพวกศาลาปีศาจลอยฟ้า แต่ถึงแบบนั้นก็ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าผู้ที่สังหารเฉินซูไปจะคือปรมาจารย์เจ้าของศาลาปีศาจลอยฟ้าคนนี้ เฉินซูถือเป็นคนสนิทที่ไว้ใจได้ของม่อหลี่ เพราะแบบนั้นแล้วท่านหญิงคนนี้จะรับความจริงเรื่องนี้ได้ไหม?
ห้องโถงใหญ่เงียบลงอีกครั้ง
ครื๊ด
มีเสียงดังขึ้นมาจากตรงที่ยี่เทียนซินนั่งอยู่
วู่เฉิงและวู่กวนต่างจับจ้องไปที่ยี่เทียนซิน พวกเขาทั้งคู่ล้วนแต่รู้สึกตื่นตกใจ
หมิงซี่หยินหันไปมองผู้เป็นอาจารย์ หลังจากที่ครุ่นคิดได้พักหนึ่งเขาก็เลือกที่จะพูดออกมา “พานางกลับไปซะ”
“รับทราบ”
ยี่เทียนซินในตอนนี้ยังคงไม่ได้สติ เพราะแบบนั้นการให้นางอยู่ที่นี่ต่อก็คงจะไม่มีความหมายอะไร
ผู้ฝึกยุทธหญิงทั้งสองต่างก็พายี่เทียนซินกลับไป
ลู่โจวลุกขึ้นยืนก่อนที่จะเดินลงบันไดมาอย่างช้าๆ “มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้หรอกที่จะผูกมิตรกัน”
“พวกเรารู้สึกขอบคุณท่านปรมาจารย์จากใจจริงๆ! ” วู่เฉิงได้โค้งคำนับในทันที
“ข้าน่ะอยากรู้…กระดูกของชาวมนุษย์เผือกน่ะสามารถใช้ยืดอายุขัยของคนอื่นได้จริงๆ อย่างงั้นหรอ? ” ลู่โจวได้เอ่ยปากถามขึ้นมา
“เอ่อ…” วู่เฉิงไม่ทันที่จะระวังตัว เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะได้ฟังลู่โจวถามอะไรแบบนี้ เพราะแบบนั้นเขาจึงตะกุกตะกักไปพักหนึ่งก่อนที่จะตอบกลับมา “ในตอนนี้คงจะเป็นไปไม่ได้”
“แล้วทำไมพวกเจ้ายังหาศพจากแม่น้ำกันอยู่ล่ะ? “
“มันเป็นความลับของทางพระราชวัง! ท่านปรมาจารย์…”
“อาจารย์ของข้ากำลังจะหาทางออกให้กับพวกเจ้า แต่พวกเจ้ายังมีความลับกับท่านอาจารย์ได้…ตอบมาซะ! ” หยวนเอ๋อพูดขึ้นอย่างโกรธเกรี้ยว
ลู่โจวได้พูดต่อไปอย่างไม่แยแส “พวกเจ้าเลือกที่จะเก็บความลับนั้นเอาไว้กับตัวเองได้ แน่นอนว่าพวกเจ้าจะออกจากศาลาปีศาจลอยฟ้าไปได้อย่างปลอดภัย ข้าไม่เคยบังคับให้ใครต้องฝืนทำสิ่งที่ไม่ต้องการทำ…”
เมื่อวู่เฉิงได้ยินแบบนั้น เขาก็ได้ส่ายหัวก่อนที่จะพูดออกมาอีกครั้ง “แม้ว่ามันจะเป็นความลับจริงๆ แต่ถึงแบบนั้นพวกเราก็ได้ใช้เวลากว่า 10 ปีพิสูจน์เรื่องที่ท่านพูดถึง พระราชวังต้องเสียเวลาทั้งหมดไปอย่างเปล่าประโยชน์เพราะเรื่องนั้น แม้แต่เฉิงหวางของชาวมนุษย์เผือกเองก็ไม่สามารถเพิ่มอายุขัยใครได้แน่”
“เฉิงหวางของชาวมนุษย์เผือก? “
“เฉิงหวางเป็นสัตว์ที่มีลักษณะคล้ายสุนัขจิ้งจอกมีเขา ใครก็ตามที่ขี่หลังของมันได้จะมีอายุยืนยาวถึง 2,000 ปี” วู่เฉิงได้พูดขึ้น ในตอนนั้นเองทุกคนตกใจมากเมื่อได้ยินเรื่องนี้ หมิงซี่หยินได้แต่ขมวดคิ้วก่อนที่จะพูดออกมา “มันคือชื่อสัตว์ร้ายอย่างงั้นหรอ? “
“ถูกต้อง” วู่เฉิงได้ถอนหายใจก่อนที่จะพูดต่อ “ในการต่อสู้ที่แม่น้ำสวรรค์เมื่อหลายปีก่อน เหวยซู่หยานและผู้นำอัศวินดำฝานซุยเหวินได้กวาดล้างชนเผ่าอื่นๆ ที่อยู่ใกล้กับแม่น้ำไปทั้งหมด วัตถุประสงค์ที่แท้จริงของพวกเขาก็คือการหากระดูกของชาวมนุษย์เผือก หลังจากนั้นเป้าหมายของพวกเขาก็เปลี่ยนไปที่เฉิงหวาง แม้แต่เหวยซู่หยานและฝานซุยเหวินเองก็ไม่รู้เรื่องนี้ ทางพระราชสำนักสงสัยมาโดยตลอดว่าเฉิงหวางจะจมลงไปกับแม่น้ำพร้อมกับกระดูกของชาวมนุษย์เผือกหลังจากการต่อสู้”
“แล้วพระราชวังยังหาเฉิงหวางไม่เจออย่างงั้นหรอ? ” ฝานซงได้พูดขัดจังหวะขึ้นมา
วู่เฉิงส่ายหัวก่อนที่จะตอบกลับมา “ถ้าหากพบพวกเราก็คงจะไม่เข้าใจผิดจนถึงทุกวันนี้ได้” เมื่อพูดเสร็จเขาก็หันไปพูดกับลู่โจวโดยตรง “ข้าได้บอกทุกอย่างแล้ว…ท่านปรมาจารย์ แล้วเรื่องข้อเสนอของพวกเราล่ะ? “
ลู่โจวลูบเคราก่อนที่จะตอบกลับไป “ข้าทำตามคำพูดมาโดยตลอด เจ้าไม่ต้องห่วงหรอก”
“ขอบคุณมากท่านปรมาจารย์! ” ชายผู้มาเยือนทั้งสองคนได้โค้งคำนับให้อย่างรวดเร็ว
“ส่งแขกที”
“รับทราบ”
เนื่องจากลู่โจวเป็นคนพูดทุกอย่างด้วยตัวเอง เพราะแบบนั้นจึงไม่มีใครกล้าแย้งแต่อย่างใด
ลู่โจวได้จ้องไปที่วู่เฉิงและวู่กวนก่อนที่จะเดินออกจากศาลาปีศาจลอยฟ้าไป
…
หลังจากที่วู่เฉิงและวู่กวนออกจากม่านพลังของภูเขาทองไปได้ พวกเขาทั้งคู่ก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
“ท่านพี่ เรื่องที่ศาลาปีศาจลอยฟ้าจัดการเฉินซูไป พวกเราจะทำยังไงกันดี? พวกเราจะบอกกับท่านหญิงดีไหม? ” วู่กวนพูดขึ้นมาอย่างเป็นกังวล
“ข้ารู้แล้วว่าจะต้องทำยังไง…ทุกอย่างน่ะล้วนมีราคาค่าตอบแทน ถ้าหากพวกเราไม่ยอมเสียอะไรไปศาลาปีศาจลอยฟ้าก็คงจะไม่ลดการป้องกันของตัวเองลงแน่ ในตอนนี้ความลับของเฉิงกวางถูกเปิดเผยไปแล้ว ทุกคนรู้ดีว่าเวลาของจีเทียนเด๋าใกล้จะหมดลงแค่ไหน เมื่อเจ้านั่นรู้แบบนั้นเจ้านั่นจะทำอะไรกัน? ” วู่เฉิงพูดขึ้นมาอย่างมั่นใจ
“ท่านพี่ฉลาดหลักแหลมจริงๆ ” วู่กวนได้พูดออกมาในฉับพลัน
“ข้าจะอธิบายเรื่องนี้กับท่านหญิงม่อหลี่เอง”
“แล้วฝานซงล่ะ? ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้านั่นจะอยู่ข้างศาลาปีศาจลอยฟ้าได้ แถมเจ้านั่นยังพูดดูถูกพวกเรารวมไปถึงสิบคนทรงอีก! เจ้านั่นจะต้องไม่ตายดี! “