CF:บทที่ 67 ความเย้ายวนของเค้กคริสตัล
หลังจากที่เขาสามารถฉกซองแดงจากระบบซองแดงมาได้ อู๋ฮ่าวเหรินก็ไม่สามารถที่จะละสายตาไม่ให้มองกล่องติ่มซำที่ชื่อว่าเค้กคริสตัลได้ แล้วในที่สุดอู๋ฮ่าวเหรินก็พ่ายต่อความเย้ายวนแล้วหยิบมันออกมาจากกล่อง
“มันสวยมาก อย่างกับงานศิลป์ไม่มีผิด”
ยังมีแสงระยิบระยับออกมาจากของหวานคริสตัลนี้ มันทำให้อู๋ฮ่าวเหรินคิดว่ามันคืออัญมณีที่ส่องประกาย
นอกจากนี้กลิ่นของมันก็ยังน่าดึงดูด ทำให้เขาอยากที่จะกินมัน
จำนวนของเค้กในกล่องมีอยู่ 10 ชิ้น แต่ละชิ้นมีขนาดเท่าฝ่ามือ ใส่อยู่ในกล่องใส่
ขณะที่เขาคิดเขาก็หยิบมันออกมา 2 ชิ้นแล้วเดินออกไป
“พ่อกับแม่ครับ นี่คือขนมที่เพื่อนผมซื้อมาให้จากต่างประเทศ ลองชิมดูครับ”
“เค้กเหรอ คุณยายชอบทานนี่นะ เดี๋ยวแม่จะเอาไปให้คุณยายให้ละกัน” เฉิงซูเซียนั้นไม่ชอบเค้ก
แต่อู๋ชิงไห่กลับมาพร้อมกับกาน้ำชาแล้วพูดขึ้น “เค้กจากเมืองนอก ท่าทางจะแพงมากเลยสินะ อื้มมันดูสวยดีแถมกลิ่นก็ดีด้วย”
“แม่กับพ่อก็กินกันไปละกัน เดี๋ยวจะเข้าไปเอาที่เหลือมาให้คุณย่าแทน”
อู๋ฮ่าวเหรินนึกขึ้นได้ว่าคุณย่าชอบทานขนมเค้กเป็นที่สุด
เขาเอาขนมเค้กออกมา 5 ชิ้นแล้วเอาไปให้ที่บ้านคุณย่าแล้วกลับมา และพบว่าพ่อกับแม่เขานั่งอยู่โดยที่เค้กบนโต๊ะเหลือเพียงแต่กล่องเปล่า
“ไอ้ลูกชาย ยังมีเค้กเหลืออีกมั๊ย? มันอร่อยมาก!”
“คุณน่ะพอได้แล้ว” เฉินซิ่วเซียชี้ไปที่อู๋ชิงไห่แล้วจึงหันมาหาอู๋ฮ่าวเหรินแล้วพูดขึ้น “ลูก เค้กนี่มันอร่อยจริงๆ”
เมื่อมองไปที่สายตาอ้อนวอนของแม่ อู๋ฮ่าวเหรินก็เดินเข้าไปที่ห้องแล้วหยิบเค้กที่เหลืออีก 3 ชิ้นออกมา
“มีเหลืออีกแค่ 3 ชิ้น แบ่งกันทานกับพ่อก็แล้วกันครับ”
มองดูคุณแม่ที่หยิบเค้กออกมาแล้วบังไม่ให้พ่อเห็น อู๋ฮ่าวเหรินถึงกับพูดอะไรไม่ออก มันอร่อยขนาดนั้นเลยเหรอ?
เขาส่ายหัวแล้วเดินกลับไปที่ห้อง เค้กในกล่องไม่ได้กินซักชิ้น พอคิดถึงมันแล้ว เขาก็กลับเข้าไปในระบบซองแดง
“มีใครพอจะรู้จักเค้กคริสตัลมั่งมั๊ย? ผมอยากจะขอซื้อหน่อย”
“ไม่เคยได้ยินเลยแฮะ” คุณแร่ตอบกลับมา
“เอ็งไปได้เค้กมาจากในกลุ่มพิเศษของพ่อครัวมาใช่มั๊ย?” ขี้เมาถามกลับ
“ใช่, ผมไปขอแลกมากับวัตถุดิบของชาวไร่น่ะครับ”
“ขอบ้างสิ! มีอย่างอื่นอีกมั๊ย? ข้าขอแลกกับเหรียญพลังงานหรือไวน์ก็ได้เอ้า”
“ไม่มีแล้วครับ ที่ผมถามเพราะผมอยากจะหาซื้ออีก”
พ่อค้าพลังงานที่จู่ๆก็ตอบกลับมา “คุณโชคดีนะ คริสตัลเค้กถ้าฉันจำไม่ผิดมันน่าจะเป็นเค้กที่ถือเป็นหน้าเป็นตาของร้านคริสตัลสตาร์ ของเชฟมีดทองคำ เชฟหวัง ถ้าคุณอยากจะกินเค้กคริสตัลที่ทำโดยเขา คุณจะต้องไปที่ร้านคริสตัลสตาร์แล้วก็ขอให้มีโชค
“ฉันอิจฉานายจังเลยน้า ที่สามารถแอดเข้ากลุ่มพิเศษของพวกเชฟได้ นายรู้มั๊ย มีเชฟที่มีชื่อเสียงหลายคนอยู่ในนั้น คุณต้องมีอิทธิพลและโชคพอสมควร ถึงจะเชิญคนพวกนั้นมาทำอาหารให้ข้างนอกได้” มนุษย์ชุดเกราะกล่าว
“ตอนนี้คุณรู้แล้วหรือยังว่า มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะซื้อเค้กนั่นได้อีก”
อู๋ฮ่าวเหรินรู้สึกผิดหวัง เขาคิดว่าจะซื้อเค้กนี้ให้ครอบครัวเขาทุกวัน แต่คงจะเป็นได้แค่ความคิดเท่านั้น
“น้องชาย เธอจะต้องเตรียมวัตถุดิบมากมายและทำซองแดงส่งในกลุ่มพิเศษนั่น รู้มั๊ย มีอาหารที่น่าเย้ายวนมากมายอยู่ในนั้น ที่ไม่สามารถหากินที่อื่นได้”
“ฉันเองก็อยากได้วัตถุดิบเยอะๆเหมือนกัน แต่ปัญหาคือ ผมไม่มีเลยนี่สิ ยิ่งไปกว่านั้น วัตถุดิบที่ชาวไร่ให้มาก็แลกเปลี่ยนได้แค่เค้กคริสตัลหนึ่งกล่องเท่านั้นเอง”
คราวนี้ชาวไร่พิมพ์ขึ้นบ้าง “ฉันคิดว่าคุณควรจะหาสถานที่แล้วปลูกผักเองแล้วล่ะ ฉันไม่สามารถส่งวัตถุดิบดีๆใส่ในซองแดงเลเวลหนึ่งได้ แต่ว่าไม่ได้จำกัดสำหรับเมล็ดพันธุ์
“แต่ต่อให้มีเมล็ด ก็ต้องใช้เวลาโตอยู่ดี!”
“ใช่แล้ว แล้วก็น่าเสียดายฉันมีอุปกรณ์เร่งโตก็จริง แต่ว่าถ้าคุณต้องการส่งอุปกรณ์รุ่นที่เล็กที่สุด ก็ยังต้องการซองแดงเลเวลสอง”
“เดี๋ยวนะ อุปกรณ์เร่งโตของคุณชื่ออะไร? ฉันอาจจะไปถามกับคนในกลุ่มเลเวล 2 ดู เผื่อจะซื้อต่อจากใครซักคนได้”
เพื่ออาหารที่อร่อย อู๋ฮ่าวเหรินสะกดชื่อ
“มาตรวัดความเร่งพลังงานของแปลงพืช”
เมื่ออู๋ฮ่าวเหรินสลับกลับมาที่กลุ่มเลเวล 2 เขาก็พบว่ามีข้อความมากมาย มีหลายคนที่ถามถึงเขาว่ามีของโบราณมั่งมั๊ย?”
“ก็พอจะมีบ้างอยู่ของโบราณที่พวกคุณถามหา แต่ผมจะบอกให้เข้าใจตรงกันก่อนนะว่า ผมมีแต่ของโบราณของโลกยุคโบราณเท่านั้น ดังนั้นถ้าคุณต้องการของโบราณในโลกยุคโบราณ ผมจะหามาได้ตราบเท่าที่มันอยู่ในขอบเขตจำกันของกลุ่มเลเวล 2 แล้วก็ขอถามหน่อยนะ มีใครที่พอจะมีเครื่องมาตรวัดความเร่งพลังงานของแปลงพืช ตัวที่เล็กที่สุดมั่งมั๊ยครับ?”
หลังจากนั้นซักพักนึงก็เห็นคนที่ชื่อช่างยนต์ตอบกลับมา “เครื่องมาตรวัดความเร่งพลังงานของแปลงพืชเหรอ ผมก็พอจะเคยได้ยินอยู่ ผมจะลองหาให้คุณละกัน และในเมื่อคุณบอกว่าคุณสามารถหาของโบราณของโลกยุคโบราณได้ ผมอยากให้คุณช่วยผมหาเซ็ทอุปกรณ์ของช่างเครื่องจักรให้หน่อย”
“เซ็ทอุปกรณ์ช่างเครื่องจักรสินะครับ ผมจะลองหาดูแล้วจะมาให้คำตอบวันหลังครับ”
จริงๆแล้ว อู๋ฮ่าวเหรินก็พูดอะไรไม่ออกเหมือนกัน เพราะเขาไม่ค่อยจะได้เข้าร้านขายอุปกรณ์เหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่ดีอีกที่จะให้คนอื่นหาซื้อมาให้ เพราะมันจะดูใหม่ไป มันอาจจะเป็นอะไรที่อยู่ในไซต์ก่อสร้างก็ได้ ดังนั้นเขาน่าจะไปลองมองหาดูเผื่อจะเจอเซ็ทอุปกรณ์ที่มีคนใช้แล้ว
และในเมื่อเขาไม่สามารถอัพเกรดซองแดงได้ด้วยวิธีใต้โต๊ะแล้ว อู๋ฮ่าวเหรินก็ไม่สามารถฉกซองแดงได้ เขามองดูในกลุ่มนี้แต่ไม่ว่ามีใครส่งซองแดงมาเลย เขาจึงกลับไปดูที่กลุ่มพิเศษ
ในคราวนี้มีคนพูดคุยกันอยู่มากมายในกลุ่ม แต่เรื่องที่คุยกันส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องการจัดการกับวัตถุดิบ การปรุงอาหาร และทักษะในการทำอาหาร
อู๋ฮ่าวเหรินยังไม่สามารถที่จะเข้าใจเรื่องพวกนี้ได้ทั้งหมด ก็ไม่ใช่ว่าพวกเขาพูดกันในเรื่องที่ลึกซึ้งอะไร ก็แค่ว่าเขาเป็นสิ่งมีชีวิตยุคโบราณ ที่ยังไม่รู้อะไรหลายๆอย่างในโลกยุคอนาคต ฉันเชื่อว่าพวกเขาสามารถคุยกันรู้เรื่องได้ถ้าให้พวกเขาไปอยู่กับกลุ่มอื่น
ซึ่งตอนนี้เขาพบว่า ไม่เพียงแค่วัตถุดิบเท่านั้นที่แตกต่าง แต่ยังแตกต่างไปจนถึงวิธีเตรียมอาหาร
เขาไม่รู้ว่า ถ้าเอาอาหารที่ทำโดยเชฟบนโลก พวกเขาจะรู้จักกันมั๊ย
หลังจากที่ออกมาจากระบบซองแดง อู๋ฮ่าวเหรินก็เริ่มคิดว่า ถ้าเขาอยากจะอัพเกรดระบบในอนาคต เขาจะต้องหาของจากบนโลกเพื่อแลกเหรียญพลังงาน
เมื่อหันมามองท้องฟ้ายามค่ำคืนข้างนอก มองดาวที่ระยิบระยับบนฟ้า เขาก็คิดว่า ถ้าเขามียานอวกาศที่สามารถใช้เดินทางข้ามดวงดาวได้ เขาก็จะกลายเป็นคนแรกที่สามารถหาดวงดาวที่มนุษย์อาศัยอยู่ได้นอกจากโลก
พวกเราต้องการสิ่งนั้นในอนาคตอันใกล้ของมนุษยชาติ เมื่อวิทยาศาสตร์กับเทคโนโลยียังไม่ถูกพัฒนา จึงมีดวงดาวที่เหมาะสมมากมายอยู่รอบโลกเต็มไปหมด
แล้วเขาก็ถอนหายใจออกมา ถ้าเขาอยากจะได้ยานอวกาศจากซองแดง เขาต้องการถึงเลเวล 6
ถ้าเขาอยากจะสร้างยานอวกาศเองบนโลก อาจจะยากกว่าการอัพเกรดเป็นเลเวล 6 ก็ได้
มีเทคโนโลยีมากมายที่ไม่สามารถทำได้โดยปราศจากความรู้เกี่ยวกับมัน และก่อนอื่นเลย มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่สร้างอู่ต่อยานอวกาศขนาดใหญ่
เขาส่ายหัวไปมา ก่อนที่จะเดินไปนอนหลับสนิทอย่างช้าๆ
———————-