CF:บทที่ 89 ความหวาดกลัวของอู๋ฮ่าวเหริน
หลังจากนี้ อู๋ฮ่าวเหรินคิดที่จะหาเวลาไปออกรวบรวมของโบราณและของเก่าทางวัฒนธรรมเพื่ออัพเกรดระบบซองแดงบ้าง
ตอนนี้เขาไม่สามารถอัพเกรดซองแดงได้ด้วยวิธีแย่งชิงแล้ว หนทางการอัพเกรดของเราจึงยากลำบากมากขึ้นกว่าแต่ก่อน
คนในนั้นต่างก็หาวิธีมาช่วยเขา เช่นบอกให้ช่วยหาแร่หายาก ทำบางสิ่งบางอย่างให้ แล้วส่งเป็นซองแดงให้กับพวกเขา
อู๋ฮ่าวเหรินอยากจะบอกพวกเขาเหลือเกินว่า เขาเองก็อยากทำให้หรอกนะ แต่ติดอยู่ว่าที่โลกนี้มันไม่มีเทคโนโลยีขนาดนั้นน่ะสิ
เขาไม่สามารถที่จะสร้างอะไรที่มีมูลค่าเหรียญพลังงานสูงๆ ด้วยเทคโนโลยีที่เขามีตอนนี้ได้ เขาเองก็อยากจะคุยกับเทียนหยูกรุ๊ปว่าจะช่วยอัพเกรดให้ของเก่าแลกเป็นเหรียญพลังงานได้ให้หน่อย
ถ้าเป็นแบบนี้ คนที่ขายของเก่าจะทรมานมากเกินไป พวกเขาจะต้องแลกเปลี่ยนของเก่าเป็นจำนวนมากเพื่อแลกเป็นเหรียญพลังงาน ซึ่งเมื่อเทียบกับจำนวนเหรียญพลังงานที่ได้กับมูลค่าของโบราณที่เสียไปแล้ว มันต่างกันมากเกินไป
ในตอนเช้า, หลังจากที่เขาทานไข่ตุ๋นฝีมือแม่ อู๋ฮ่าวเหรินก็ออกเดินทางไปยังไซต์ก่อสร้าง และโรงงานผลิตเครื่องดื่มที่สร้างเสร็จแล้ว เขาต้องการไปที่นั่นเพื่อที่จะไปดูไปชม
เขาไม่คิดว่าการก่อสร้างนั้นจะแล้วเสร็จเร็วขนาดนี้ ในช่วงที่ผ่านมานี้ การก่อสร้างบริษัททั้งสองแห่งก็เป็นไปได้อย่างราบรื่น
ด้วยเทคโนโลยีการก่อสร้างขั้นสูงพวกนั้น ทำให้คุณภาพอาคารของบริษัทออกมาดี หลังจากที่การสร้างโรงงานเสร็จสิ้น พวกเขาก็ตั้งใจที่ไปก่อสร้างให้กับโครงการในระดับชาติอย่างเต็มกำลัง
หลังจากที่พวกเขาเสร็จงานสร้างบริษัททั้งสองแห่งแล้วเสร็จ และกลับเข้าสู่อุตสาหกรรมก่อสร้างแล้ว เชื่อว่าพวกเขานั้นจะต้องสร้างผลกระทบครั้งใหญ่ให้กับวงการการก่อสร้างแน่ๆ จริงอยู่ที่โรงงานผลิตเครื่องดื่มนั้นเสร็จแล้ว แต่ว่า โรงงานอื่นๆยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง
โครงสร้างของอาคารนั้นเพิ่งจะเสร็จไปได้แค่ครึ่งเดียวเท่านั้น เมื่อดูจากแผนงานแล้ว น่าจะยังอีกนานกว่าจะแล้วเสร็จ
ช่างก่อสร้างบางคนที่คุมงานอยู่ที่นี่ต่างก็สุภาพและต้อนรับอู๋ฮ่าวเหรินที่มาที่นี่เพื่อตรวจชมงานและแนะนำ พวกเขาหวังที่จะได้เรียนรู้เทคนิคการก่อสร้างจากอู๋ฮ่าวเหริน
อู๋ฮ่าวเหรินเองก็ไม่ได้เก็บซ่อนอะไร ตามการคำนวณของจี้นั้น, เขาก็ได้ให้คำแนะนำบางอย่างไป เช่น พวกจุดหรือวิธีที่จะสามารถทำให้งานเสร็จได้ไวขึ้น
ขณะที่เดินดูไปรอบๆ อู๋ฮ่าวเหรินก็ได้ยินเรื่องเกี่ยวกับซีเมนต์ พวกเขาต้องการที่จะให้มันแห้งไว ปัญหาคือพวกเขาต้องมาเสียเวลารอให้ปูนอยู่ตัว
แล้วอู๋ฮ่าวเหรินก็ได้ให้คำแนะนำของจี้แก่พวกเขาไป ซึ่งเขาก็ไม่เคยคิดว่าใช้วิธีแบบนั้นกับปูนเพื่อแก้ปัญหาได้ด้วย
แน่นอนว่า, ในปัจจุบัน อู๋ฮ่าวเหรินนั้นยังไม่พร้อมที่จะเข้ามาบุกเบิกในวงการก่อสร้าง การสร้างโรงงานนั้นเป็นเรื่องง่าย แต่จะมีปัญหามากขึ้น ถ้าต้องก่อสร้างอะไรที่ซับซ้อนกว่าโรงงานที่เขาสร้างตอนนี้
ซึ่งตอนนี้เขาต้องรอให้บริษัทเข้มแข็งพอก่อน มันจะเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเข้าสู่วงการอุตสาหกรรมในตอนนี้
ตามที่จี้คาดเดาไว้ หากเขาต้องการที่จะมุ่งเข้าสู่วงการนี้ เขาจะต้องเริ่มจากจุดนี้
ในทุกๆปีนั้น ปูนซีเมนต์จะถูกใช้เป็นจำนวนมหาศาลไปกับถนนหลวง อีกอย่าง ผลิตภัณฑ์ที่จี้ได้โชว์ให้เขาดูที่จะนำมาใช้แทนซีเมนต์นั้น คืออาวุธที่ร้ายกาจสำหรับใช้ในการก่อสร้างเกาะและแนวปะการัง
ในตอนเที่ยงหลายคนต้องการที่จะชวนเขาไปทานอาหารด้วย แต่น่าเสียดายที่จื่อหยงนั้นได้เรียกเขาให้ไปหาก่อน เพื่อส่งมอบวัตถุดิบ รวมถึงเหล่าช่างเทคนิคที่มาพร้อมกันด้วย เขาจึงต้องการที่จะไปที่นี่เพื่อไปพบ
เขานั่งรถมุ่งตรงไปยังหลีฉุย หลังจากที่ได้เห็นเขตก่อสร้างโรงงานในหลีฉุยแล้ว อู๋ฮ่าวเหรินก็พบว่ามันไวมาก
เขตโรงงานของพวกเรานั้น แม้จะเล็กกว่าที่อื่น แต่เมื่อเทียบกับความเร็วในการก่อสร้างกับที่อื่นแล้ว ที่นี่เร็วเหมือนกับขี่จรวด
แน่นอนว่า เหตุผลที่หลักคือที่แห่งนี้นั้นมีสถานที่ที่ใช้เป็นรากฐานอยู่ อาคารที่ยังก่อสร้างไม่เสร็จจำนวนมากได้ถูกนำมาใช้และกลายสภาพเป็นตึกออฟฟิศขนาดใหญ่
ในคราวนี้จื่อหยงไม่ได้มาที่นี่ด้วย แต่เขาถูกนำพามาโดยชายชราที่น่าจะอายุราวๆ60ปี และในหมู่คนที่มา มีคนหนุ่มสาวมาเป็นจำนวนน้อย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวัยกลางคน
หลังจากที่ได้แนะนำตัวกัน, อู๋ฮ่าวเหรินก็ทราบว่าชายชราคนนั้นชื่อ เสี่ยวเฉิง, ซึ่งตัวเขานั้นเป็นหัวหน้าของทีมนี้และก็เป็นผูู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องจักรกล
ซึ่งตัวเขาที่ถูกส่งมาที่นี่คราวนี้ มีหน้าที่หลักคือร่วมมือกับอู๋ฮ่าวเหรินในการสร้างเครื่องจักรต่างๆ, และคอยดูแลจัดการบุคลากร
เสี่ยวเฉิงนั้นเป็นคนสุขุมดี ดูเหมือนว่าตัวเขาเองนั้นก็รู้ถึงด้านนี้ของเขาด้วย จึงไม่มีใครที่ถูกส่งมาเพื่อสร้างปัญหาให้เขา
แน่นอนว่า, อู๋ฮ่าวเหรินเองก็ตั้งใจที่จะให้ชายชราคนนี้ทำงานด้านอื่นนอกจากเรื่องการจัดการ เช่นให้เรียนรู้เทคโนโลยีที่นี่
พวกเขาก็ได้คุยกัน และอู๋ฮ่าวเหรินก็ได้บอกอะไรบางอย่างแก่เขา
“หน้าที่หลักของคุณคือรับผิดชอบด้านการประกอบเครื่องจักรกล เพราะเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพบำบัดนั้น พวกเราจำเป็นจะต้องผลิตขึ้นมาเอง”
“ไม่มีปัญหาครับ พวกเราเองมาที่นี่ก็เพื่อดูแลงานนี้อยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม มีผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ได้มาที่นี่ด้วย คุณคิดว่าจะจัดการอย่างไรกับพวกเขา?”
“สำหรับพวกเขา, ผมมีงานอื่นให้พวกเขาทำ จริงด้วยสิ, ผมไม่ต้องจัดการเรื่องหาที่อยู่ให้พวกคุณใช่มั๊ย?”
“ไม่ต้องครับ เรื่องนี้มันได้ถูกจัดการก่อนที่พวกเราจะมาที่นี่แล้วครับ พวกเราอาศัยอยู่ที่ตึกอพาร์ตเมนท์ที่อยู่ตรงนั้นน่ะครับ”
หลังจากที่ทั้งคู่ได้คุยกัน, อู๋ฮ่าวเหรินคิดว่าเขาควรจะไปได้แล้ว แต่เขาปล่อยให้กลุ่มนี้อยู่ติดกับเขาก่อน
“คุณอู๋ครับ อุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพบำบัดคุณสร้างขึ้นมาเองจริงๆเหรอครับ?”
“ใช่แล้ว, มีปัญหาอะไรรึ?”
เมื่อได้ยินอู๋ฮ่าวเหรินตอบยืนยัน สีหน้าของชายคนนั้นก็เปลี่ยนไป จากนั้นเขาก็พูดขึ้นอย่างตื่นเต้น “ท่านอาจารย์ครับ ได้โปรดรับผมเป็นลูกศิษย์ด้วย? ผมต้องการเรียนรู้เกี่ยวเทคโนโลยีจากท่านครับ”
เมื่อได้เห็นแววตาที่ร้อนแรง อู๋ฮ่าวเหรินถึงกับผงะและถอยออกมา บ้าจริง,ท่าทางของคนๆนี้ช่างดูน่ากลัวมาก
“นั่นสิ, พูดถึงเรื่องนี้แล้ว ถ้าคุณต้องการที่จะเรียนเรื่องเทคโนโลยี, คุณก็สามารถเรียนได้ที่นี่ แล้วผมจะเป็นคนสอนให้พวกคุณเอง”
“รับผมเถอะนะครับ, ผมต้องการที่จะเรียนจากท่านจริงๆครับ”
“พวกเราด้วย, พวกเราก็ต้องการที่จะเรียนรู้จากท่านอาจารย์ ได้โปรดรับพวกเราเป็นศิษย์ด้วย!”
ในตอนนี้ เมื่อมองดูที่กลุ่มคนอายุราวๆ 30-40 ที่มีสีหน้าและน้ำเสียงที่จริงจัง ภาพที่เห็นมันช่างสวยงามมาก แล้วอู๋ฮ่าวเหรินถึงกับสีหน้าเปลี่ยน
เขารีบถอยออกมาและยกมือขึ้นก่อนจะพูด “ถ้าลูกศิษย์ทุกคนไม่เข้าใจอะไร หรือพบปัญหาด้านเทคนิค, พวกคุณสามารถมาหาและถามผมได้นะ”
พูดจบเขาก็รีบวิ่งออกไปข้างนอก เขาไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้แล้ว
เสี่ยวเฉิงยิ้มเมื่อมองดูอู๋ฮ่าวเหรินที่กำลังวิ่งหนีออกไปข้างนอก โดยมีกลุ่มช่างเทคนิควิ่งตามเขาไปด้วย เขาส่ายหัวและคิดว่าคนหนุ่มสาวนี่พลังเหลือล้นดีจริงๆ
…….
“อย่างว่าแหละ มันเป็นไปไม่ได้สำหรับคนอื่นที่จะปล่อยให้คุณไปเป็นลูกศิษย์ของเขา, นี่คือข้อมูลที่เพิ่งถูกส่งมาโดยเสี่ยวอู๋เมื่อกี้ ลองดูนี่ก่อนแล้วจะเข้าใจ แล้วอย่ามองเห็นเป็นเรื่องตลกเหมือนตอนนั้นอีกล่ะ”
“ที่จริง ผมเองก็อยากจะไปศึกษากับเขาสักระยะเหมือนกันนะ ชิ้นส่วนของอุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพพวกนี้มันเที่ยงตรงมากยิ่งกว่าอาวุธพวกนั้นเสียอีก”
“คุณยังไม่เห็นโปรแกรมที่เขาให้พวกเรามาสินะ คุณอู๋นั้นเป็นอัจฉริยะด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์อย่างแน่นอน เขาสามารถพัฒนาภาษาจักรกลให้สามารถใช้งานโดยคอมพิวเตอร์ได้
“ผมได้ยินมาว่าพวกเรามีงานอื่นอยู่อีก ถ้าไม่ติดงานอื่นพวกเราก็น่าจะไปเรียนรู้ภาษาคอมพิวเตอร์ที่พัฒนาโดยคุณอู๋ด้วยตัวเขาเองบ้างดีไหมนะ?”
กลุ่มคนพวกนี้ดูเหมือนว่าจะชื่นชมอู๋ฮ่าวเหรินมาก ตอนนี้พวกเขาไม่ได้กังวลเหมือนครั้งก่อนตอนที่เขามาที่สถาบันวิจัย
อย่างไรก็ตาม ภายใต้ใบหน้าที่เร่าร้อนของกลุ่มคนพวกนี้ ดูเหมือนว่าน่าจะสร้างปัญหาได้มากกว่าคนพวกนั้นเสียอีก
โดยที่ไม่จำเป็นต้องให้เขาบอก ขอเพียงแค่มีชิ้นส่วนและประกอบเครื่องมือจักรกลให้เสร็จสมบูรณ์ พวกเขาก็จะสามารถสร้างอุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพบำบัดด้วยตัวพวกเขาเองได้
อู๋ฮ่าวเหรินเคยขอจื่อหยงว่า กลุ่มคนที่จะมาช่วยเขาผลิตนั้นต้องมาจากกองทัพ เพื่อให้มั่นใจด้านความปลอดภัยของอุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพบำบัด
ในตอนนี้ ปัญหาด้านการผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพบำบัดของกองทัพได้ถูกแก้ไขแล้ว และตอนนี้บริษัทก็มีไลน์การผลิตไฟฟ้าชีวภาพบำบัดเป็นของตัวเอง พวกเขาได้รับอนุญาติให้ซื้อวัตถุดิบได้ และตอนนี้มีเพียงแค่เครื่องจักรที่ประกอบขึ้นมาอย่างง่าย ซึ่งตอนนี้เครื่องมือจักรกลก็เสร็จแล้ว และต่อไปก็จะเป็นการผลิตเครื่องจักรการผลิตใหม่
———————