CF:บทที่ 90 ความยาก
หลังจากที่ได้พบเจอกับคนพวกนั้นแล้ว ทางกองทัพก็ได้ส่งคนมาเพื่อทำสัญญาสั่งจองผลิตภัณฑ์ โดยได้สั่งจองอุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพบำบัดไว้ 600,000 เครื่อง
ถึงกับทำให้อู๋ฮ่าวเหรินถึงกับตกใจ และทันทีที่ทำการลงนามในสัญญา เงินจำนวนทั้งหมด 1.8 พันล้านหยวนก็ได้ถูกโอนให้เขาทันที แถมได้รับการงดเว้นภาษีด้วย
ด้วยความเร็วขนาดนี้ทำให้เขาสงสัยว่าต้องเป็นผลมาจากการลงมือของเบื้องบนแน่ๆ เพราะมันเร็วมาก อีกทั้งยังเด็ดขาดและตรงไปตรงมา ไม่มีการลากไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องอื่น
อีกอย่าง เงื่อนไขที่เขาขอไปทั้งหมดก็ผ่านด้วยดี ซึ่งราวกับว่าทางนั้นได้ให้ไฟเขียวกับเขาเลย
หลังจากที่คนพวกนี้กลับไป อู๋ฮ่าวเหรินก็ได้โทรไปหาจื่อหยง หลังจากที่คุยไปได้สักพัก ซึ่งเขาก็ได้ทราบว่ามีคนใหญ่คนโตกำลังเฝ้าจับตาดูเรื่องนี้อยู่
เมื่อเขาได้ยินเรื่องของสถานการณ์ในบริษัทว่ากำลังขาดแคลนเงิน และทางรัฐเองก็ได้เข้าไปควบคุมเรื่องวัสดุเส้นใยพืชทั้งๆที่บริษัทควรจะสามารถใช้ทำเงินได้มหาศาล เขาจึงรู้สึกเสียใจ และจึงได้จ่ายเงินล่วงหน้าให้ก่อนทันที
ยิ่งไปกว่านั้น ทางเบื้องบนก็ได้สัญญาว่าจะร่วมมือกับทางบริษัทในเรื่องการโฆษณาอุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพบำบัด
จื่อหยงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแปลกๆ ราวกับว่านี่ก็เป็นเรื่องแปลกใจสำหรับเขาเหมือนกัน
อู๋ฮ่าวเหรินนั้นไม่เข้าใจและคิดว่าการที่กองทัพร่วมมือในการโฆษณานี่เป็นเรื่องแปลกอย่างงั้นหรือ?
สิ่งแรกหลังจากที่เขากลับมาที่่บริษัทคือสั่งให้จี้ทำโฆษณาแนะนำอุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพบำบัดขึ้นเป็นเวบไซต์ออฟฟิศเชียล
พร้อมกันนั้น บนเว็บไซต์ออฟฟิศเชียล พวกเราก็ได้เปิดระบบในส่วนสั่งจองผลิตภัณฑ์ของอุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพบำบัด สถานการณ์ด้านการขายผลิตภัณฑ์จะสามารถรู้ได้เมื่อดูจากยอดสั่งจองนี้
“จี้ รูปทรงใหม่ที่ออกแบบนี่ มันดูหล่อขึ้นมากนะ แต่ว่า ไอ้ทรงการ์ตูนสำหรับเด็กนี่มันออกจะ…”
อู๋ฮ่าวเหรินมองดูรูปทรงต่างๆที่ถูกออกแบบโดยจี้ และถูกส่งมาให้เขาเพื่อถามความเห็น
ถึงแม้ว่าจี้จะสามารถวิเคราะห์และออกแบบ ให้ตรงตามข้อมูลที่ทำการค้นหามาได้, แต่เขาเองก็ยังไม่เข้าใจเรื่องบางอย่างอยู่ดี
ยิ่งไปกว่านั้น นอกเหนือจากรุ่นดั้งเดิม พวกเราเองก็ได้เปิดให้วางขายรุ่นสั่งทำพิเศษ โดยถูกสุดจะอยู่ที่ราคา, 8888 หยวนแต่ราคาจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามวัตถุดิบที่ใช้ทำ
ซึ่งตั้งใจเอาไว้จะขายพวกคนมีเงิน ส่วนคนธรรมดาน่าจะไม่สามารถซื้อได้
หลังจากที่หลิวเหมยหรู่ที่เพิ่งกลับมาจากข้างนอก, เธอรีบตรงมีที่ห้องของอู๋ฮ่าวเหรินและเคาะประตู
“เชิญเข้ามาได้ครับ”
อู๋ฮ่าวเหรินเงยหน้าขึ้นมาและพบว่าเป็นหลิวเหมยหรู่ เขาจึงถามขึ้นอย่างสงสัย “พี่หลิว มีธุระอะไรรึครับ?”
“ในบัญชีของบริษัทเรา อยู่ดีๆก็มีเงินเข้ามา 1.8 พันล้านหยวน นี่มันเรื่องอะไรกันคะ?”
“คุณพูดขึ้นมาพอดี แน่นอน นั่นคือเงินงวดแรกที่บริษัทเราทำได้ยังไงล่ะ, ทางกองทัพได้สั่งซื้ออุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพบำบัด นี่คือสัญญาซื้อขายที่เพิ่งลงนามไป ดูสิ”
หลิวเหมยหรู่หันมาดูหนังสือสัญญาที่อู๋ฮ่าวเหรินพูด และตกใจในความเร็วของทางกองทัพ ทันทีที่ใบสั่งซื้อมาถึง เงินก็เข้าบริษัททันที
“คือจะบอกว่า บริษัทของเราทำรายได้ครั้งแรกคือ 1.8 พันล้านหยวน!”
อู๋ฮ่าวเหรินผงกหัวและพูดขึ้น “คุณจะว่างั้นก็ได้ ดังนั้นเดือนนี้พวกคุณจะได้รับเงินปันผลงวดแรกของบริษัทแล้วล่ะนะ”
หลิวเหมยหรู่ยิ้มและพูดขึ้น “หัวหน้าคะ คุณจะให้เงินปันผลกับพวกเราจริงๆเหรอคะ”
“ถ้ามันทำให้พวกคุณพอใจได้ ก็OK, เงินเดี๋ยวค่อยหาใหม่ได้ เดี๋ยวพวกเราจะต้องประชุมกันในเรื่องการโฆษณานะ ทางกองทัพได้ตกลงเห็นด้วยที่จะร่วมมือกับบริษัทในเรื่องการโฆษณาแล้ว ตอนนี้ก็ขึ้นอยู่พวกเราแล้ว”
“หัวหน้าคะ, ไม่ต้องกังวลไปหรอกค่ะ ทันทีที่เจ้าเครื่องไฟฟ้าชีวภาพบำบัดออกวางจำหน่าย ฉันเชื่อว่าทุกคนจะต้องซื้อกันคนละเครื่องแน่ๆค่ะ ด้วยเจ้าสิ่งนี้ มันเปรียบได้กับการพาหมอส่วนตัวติดตัวไปด้วยเลยค่ะ”
หลิวเหมยหรู่ดูท่าทางจะมั่นใจกับสินค้านี้มาก เธอต้องการที่จะซื้อเครื่องหนึ่งให้ครอบครัวของเธอเช่นกัน
อู๋ฮ่าวเหรินไม่ได้กังวลเรื่องการขายอุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพบำบัด แต่เขากำลังกังวลเรื่อง ที่จะมีคนซื้อมากเกินกว่ากำลังการผลิตของบริษัทมากกว่า
ในตอนบ่าย ทุกคนในบริษัทก็ได้รับทราบการประกาศให้รวมตัวกันที่ห้องประชุม
พวกเขาได้ทราบแล้วว่าทางบริษัทกับทางกองทัพนั้นได้ตกลงซื้อขายอุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพบำบัดงวดแรกแล้ว เป็นจำนวนเงินถึง 1.8 พันล้านหยวน
หลังจากที่อู๋ฮ่าวเหรินได้เข้ามาที่ห้องประชุม ทุกคนก็เงียบลงและมองดูเขา
“ผมเชื่อว่าทุกคนคงรู้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเช้านี้แล้ว ใช่แล้ว, บริษัทกับทางกองทัพได้ตกลงซื้อขายงวดแรกกันแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ทางกองทัพก็ได้ก็ได้ตกลงที่จะร่วมมือเรื่องการโฆษณาของบริษัทเรา วันนี้พวกเราจะมาคุยเรื่องการขายเจ้าอุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพบำบัดกัน”
“ผมว่าเราไม่จำเป็นต้องคุยกันเรื่องนี้เลยครับ ในเมื่อทางกองทัพตกลงที่จะร่วมมือกับพวกเรา พวกเราก็แค่ใช้เรื่องที่ทางกองทัพสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ของเราไปเป็นกลเม็ดในการโฆษณา แล้วก็วางขายในตลาด” เว่ยหมิงพูดอย่างตื่นเต้น
ลู่เปงเฟยพูดขึ้น “มันดีแล้วที่เป็นเรื่องง่าย แต่ผมไม่ได้กังวลเรื่องการขายอุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพบำบัดหรอก ปัญหาจริงๆคือ กำลังการผลิตในปัจจุบันของพวกเรา, ช่องทางการขาย และโรงงานต่างหาก”
อู๋ฮ่าวเหรินมองไปที่ลู่เปงเฟย เพราะสิ่งที่ทางบริษัทกำลังเผชิญอยู่นั้นก็เป็นอย่างที่เขาพูดจริงๆ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่ทางกองทัพจะช่วยเหลือเขาในเรื่องการผลิต ดังนั้นมันจึงจำเป็นต้องใช้เวลานานมากสำหรับพวกเขาที่จะผลิตมาให้ได้ครบ 600,000 เครื่องด้วยตัวเอง
และถ้าเครื่องไฟฟ้าชีวภาพบำบัดได้ถูกเผยแพร่ออกไป บริษัทจะหาทางออกได้อย่างไรหากต้องเผชิญกับการสั่งซื้อล็อตใหญ่
ห้องประชุมตกอยู่ในความเงียบสงัด และผลิตภัณฑ์ของบริษัทก็จะขาดตลาด ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกคนรู้กันดี
ปัญหาตอนนี้คือกำลังการผลิตของบริษัทที่ไม่สามารถผลิตได้ทัน และการขาดแคลนด้านบุคลากรก็เป็นปัญหาใหญ่
ถ้าปัญหาเหล่านี้ไม่ได้ถูกแก้ไข หากต้องเผชิญกับการสั่งซื้อล็อตใหญ่ มันก็จะไม่เป็นความสุขแล้ว แต่จะเป็นปัญหามาให้แทน
“หัวหน้าคะ พวกเราควรติดต่อไปยังบริษัทที่เกี่ยวข้องกับบริษัทเรา และให้พวกเขาเข้ามาช่วยเราผลิตดีไหมคะ?”
“ไม่ใช่ตอนนี้ เพราะเครื่องจักรการผลิตทั้งหมดนั้นจำเป็นต้องผลิตด้วยตัวของพวกเราเอง ถ้าปล่อยให้คนอื่นมาดูแล ผมเกรงว่าจะต้องมีปัญหาแน่นอน”
นี่ก็เป็นเรื่องเศร้าอีกเรื่องของอู๋ฮ่าวเหริน เขาสามารถให้ร่างแบบของเครื่องจักรให้ทางรัฐเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกับผลประโยชน์บางอย่างได้ แต่เขาไม่สามารถให้กับคนอื่นได้
อย่างน้อยที่สุด เครื่องจักรเหล่านี้จะยังไม่สามารถส่งต่อไปให้คนอื่นได้ จนกว่าจดสิทธิบัตรอุปกรณ์ทั้งหมดได้
“เอาน่า พวกคุณไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องนี้ ผมจะจัดการเรื่องนี้เอง หน้าที่ของพวกคุณตอนนี้คือทำให้ดีที่สุดกับการโฆษณาอุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพบำบัด แล้วก็อาศัยเรื่องการโฆษณาครั้งนี้ หาคนมาเข้าบริษัทเพิ่มด้วย”
อู๋ฮ่าวเหรินส่งข้อมูลสถิติที่สมองกลคำนวนไว้ให้กับทุกคน
เช่นเดียวกับปัญหาด้านการผลิต การจ้างงานก็เช่นกัน จี้นั้นไม่สามารถจัดการด้านพวกนี้ได้ดี และสามารถดำเนินการด้านพวกนี้ได้แค่ทีละขั้น
ในตอนนี้ ตัวเขานั้นต้องการหุ่นยนต์มากขึ้นกว่าเดิม ถ้าเขามีหุ่นยนต์อุตสาหรรมแล้ว ปัญหาพวกนี้ก็จะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป
ขณะที่กำลังคิดถึงหุ่นยนต์อยู่ อู๋ฮ่าวเหรินก็คิดอะไรออกขึ้นมาได้เกี่ยวการแก้ไขปัญหานี้
“ดังนั้นผมขอจบการประชุมไว้เท่านี้ก่อน เอาล่ะไปทำงานได้ แล้วเดี๋ยวผมจะให้วันหยุดหลังจากที่งานนี้เรียบร้อยดี”
หลังจากที่เขากลับไปที่ห้องออฟฟิศ อู๋ฮ่าวเหรินก็นั่งลงที่เก้าอี้และเข้าระบบซองแดง ในเมื่อเขาไม่สามารถสร้างหุ่นยนต์เองได้ ทำไมเขาไม่ลองหาหุ่นยนต์จากระบบซองแดงดู
แน่นอนว่า เขาเคยถามเรื่องนี้มาก่อนแล้ว แต่หุ่นยนต์ล้ำยุคนั้น เขาไม่สามารถหาได้ ด้วยเลเวลของเขาในตอนนี้
แต่ปัญหาคือเขาไม่ได้ต้องการหุ่นยนต์ขั้นสูงขนาดนั้น ขอเพียงเป็นหุ่นยนต์ที่สามารถทำงานได้ตามที่สั่งก็พอ
ซึ่งในยุคนั้น หุ่นยนต์ประเภทนี้น่าจะถูกโละไปแล้ว สิ่งที่เขาจะต้องทำตอนนี้คือ มองหาใครซักคนที่จะช่วยเขาผลิตหุ่นแบบนี้มาให้เขา
—————————