CF:บทที่ 267 ดาวเทียม
จื่อหยง, ซึ่งเดินทางมาจากหลี่ฉุย เดิมทีเขาคิดว่าอู๋ฮ่าวเหรินนั้นต้องการจะคุยกับเขาเรื่องของบริษัทรถ, แต่พอมาถึงที่นี่เขาก็พบว่าอู๋ฮ่าวเหรินนั้นต้องการที่จะคุยเรื่องของดาวเทียม
“นายต้องการที่จะมีดาวเทียมเป็นของบริษัทนายเองงั้นเหรอ?”
“ใช่แล้วครับ, รถยนต์ที่ผมกำลังวิจัยและพัฒนาอยู่นั้นมีระบบไร้คนขับติดตั้งไว้ด้วย ซึ่งจำเป็นที่จะต้องใช้ดาวเทียมพิเศษถึงจะทำให้ระบบใช้งานได้”
จื่อหยงคิ้วขมวดและถามกลับไป “พวกเราใช้ดาวเทียมของประเทศไม่ได้งั้นเหรอ? ถ้าทำได้ล่ะก็, ผมจะได้ไปติดต่อเบื้องบนให้ช่วยนายแก้ไขปัญหาเรื่องดาวเทียมให้”
อู๋ฮ่าวเหรินส่ายหัว ถ้าเขาสามารถใช้ดาวเทียมของประเทศได้ล่ะก็ เขาคงจะจัดการให้จี้ใช้ดาวเทียมของประเทศไปนานแล้ว
“ผมต้องการที่จะติดตั้งอุปกรณ์พิเศษลงไปในดาวเทียมเพื่อแก้ปัญหาเรื่องของตำแหน่งของดาวเทียมและการส่งข้อมูลของดาวเทียมครับ”
จื่อหยงมองมาที่อู๋ฮ่าวเหรินอย่างสงสัยและคิดว่า หรือว่าคนๆนี้จะมีเทคโนโลยีดาวเทียมไว้ในมือแล้ว?
“อย่าบอกนะว่า, นายก็มีเทคโนโลยีดาวเทียมด้วยอย่างงั้นสินะ!”
“จะเรียกว่าเทคโนโลยีดาวเทียวก็ยังไม่ถูกซักทีเดียวหรอกครับ ผมยังต้องการให้ใครผลิตดาวเทียมให้ผมอยู่ เพียงแต่ผมจะติดอุปกรณ์บางอย่างเพิ่มเข้าไปเท่านั้น
ถึงอู๋ฮ่าวเหรินจะคิดว่า เขานั้นอยากจะสร้างดาวเทียมเป็นของตัวเองขึ้นมาก็จริง, แต่จริงแล้ว เขานั้นไม่จำเป็นต้องสร้างเลย ในช่องเก็บของในซองแดงนั้น เขานั้นมีดาวเทียมที่เขาฉกมาจากมิสเตอร์เรดาร์อยู่ ตราบใดที่พวกมันถูกส่งขึ้นไปบนท้องฟ้าได้, เขาก็ไม่ต้องการที่จะใช้ดาวเทียมอันอื่นอีก
ถ้าเกิดมีใครมาทำให้เขาโกรธอีก เขาก็จะใช้อุปกรณ์ที่ติดตั้งไว้บนดาวเทียว สะท้อนสัญญาณของดาวเทียมที่ถูกส่งมาโดยประเทศอื่น
ยิ่งไปกว่านั้น, มันยังล้ำสมัยมากด้วย มันมีทั้งเทคโนโลยีเครือข่ายนำแสง ซึ่งมันเหมาะมากที่จะให้จี้ใช้
แต่น่าเสียดาย, ที่เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะสามารถส่งของที่ใหญ่ขนาดนั้น เป็นความลับได้
ดังนั้นในคราวนี้ ด้วยการช่วยเหลือในการผลิตดาวเทียม เขานั้นต้องการตัวคานรับน้ำหนักและเสาค้ำหลัก เพื่อส่งดาวเทียมพิเศษของมิสเตอร์เรดาร์ขึ้นสู่ท้องฟ้า
“ผมขอดูอุปกรณ์ที่นายว่ามาหน่อยได้มั๊ย?”
จื่อหยงรู้สึกว่าคราวนี้เขาอาจจะได้เจอกับของดีๆอีกก็ได้
อู๋ฮ่าวเหรินคิดอยู่สักพัก ถ้าเขาต้องการที่จะมีดาวเทียมเป็นของตัวเอง ก็เปล่าประโยชน์ที่ซ่อนไว้
“ตามผมมา”
เมื่อเข้าไปในออฟฟิศของอู๋ฮ่าวเหริน และมองไปที่อุปกรณ์บางอย่างที่สามารถเปิดได้เองอัตโนมัติ, จื่อหยงก็รู้สึกตกใจนิดหน่อย
“นี่คือเทคโนโลยี A.I. งั้นเหรอ?”
อู๋ฮ่าวเหรินผงกหัว
อย่างไรก็ตาม, มันไม่ใช่ความลับอะไร, ทางรัฐเองก็รู้เรื่องที่เขานั้นมีA.I.ที่ล้ำสมัยอยู่แล้ว
“อย่าหวังเลย, ผมไม่คิดจะให้เทคโนโลยีA.I. อันนี้กับคุณหรอกนะ”
เมินจื่อหยงที่รู้สึกผิดหวัง, อู๋ฮ่าวเหรินดับเบิ้ลคลิกที่คอมพิวเตอร์, และจี้ก็ตระเตรียมข้อมูลที่เขาต้องการออกมา
“ดูนี่สิ, นี่คืออุปกรณ์ที่ใช้สำหรับใช้ในการตรวจสอบแผนที่, ส่งข้อมูล และชี้ตำแหน่ง, ในอนาคต รถของเราจะถูกติดตั้งอุปกรณ์นำร่องแบบนี้ไว้”
จื่อหยงมองดูอุปกรณ์ของอู๋ฮ่าวเหรินแล้วก็ถูกดึงดูดด้วยข้อมูลที่ปรากฏอยู่ เขาพบว่ามีของดีมากมายที่อยู่ในมือของชายคนนี้, ถ้าอุปกรณ์ชิ้นนี้เป็นไปตามที่อธิบายไว้แล้วล่ะก็ มันจะเป็นอะไรสุดยอดมากหากถูกใช้บนดาวเทียมสอดแนมทางทหาร
หลังจากที่คำอธิบายทั้งหมดของอุปกรณ์ปรากฏขึ้นมา, จื่อหยงก็อ่านดูอย่างตั้งใจ จื่อหยงก็สูดหายใจเข้าลึกๆและพูดขึ้น “ก็ได้, ผมจะไปถามเรื่องของดาวเทียมให้คุณ แต่ผมขอข้อมูลอุปกรณ์ตัวนี้ไปด้วย, มันจะทำให้เจรจาได้สำเร็จง่ายขึ้นด้วย”
หลังจากที่ได้ข้อมูลอันนี้มา, จื่อหยงก็ขับรถและมุ่งตรงไปที่สถานีรถไฟในตัวเมือง
เมื่อข้อมูลอุปกรณ์ของอู๋ฮ่าวเหรินมาปรากฏขึ้นที่China National Space Administration(องค์กรอวกาศแห่งชาติจีน/CNSA) กลุ่มช่างเทคนิคก็ได้มารุมดูข้อมูลของอุปกรณ์นั้น และสายตาของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความสงสัย
“พวกคุณคิดอย่างไรกับข้อมูลของเจ้าอุปกรณ์นี้?”
“เจ้าอุปกรณ์นี้เป็นไปตามที่เขียนในข้อมูลจริง, มันจะสามารถเพิ่มคุณภาพและประสิทธิภาพของดาวเทียมสอดแนมทางทหารของพวกเราขึ้นไปอีกครับ”
“มันดีกว่าระบบดาวเทียมเป่ยโตวของพวกเราหลายเท่ามากครับ หรืออาจจะหลายสิบเท่า ร้อยเท่าด้วยซ้ำครับ, และถ้ามันเป็นจริงตามที่อธิบายไว้ล่ะก็ มันอาจจะก้าวล้ำไปกว่าระบบ GPS ของสหรัฐอีกครับ
รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นผู้ที่รับผิดชอบเรื่องนี้ก็ยิ้มขึ้นมาและพูดขึ้น “ในเมื่อพวกคุณคิดแบบนั้น, ก็จงเตรียมพร้อมไว้ เมื่อได้ที่ทางเราได้ข้อมูลR&Dของอุปกรณ์ตัวนี้มา, พวกคุณจะต้องหาทางใส่มันลงไปในดาวเทียม”
รัฐมนตรีเกิ่งครับ, มันมีอุปกรณ์ตัวนี้จริงๆงั้นเหรอครับ? สถาบันวิจัยที่ไหนวิจัยสิ่งนี้งั้นเหรอครับ ทำไมพวกเราถึงไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย?”
รัฐมนตรีเกิ่งแสร้งทำเป็นลึกลับแล้วพูดขึ้น “พวกคุณ ก็อย่ามัวแต่ขลุกกันอยู่ในห้องแล็บทั้งวันสิ หักออกไปรู้เรื่องโลกภายนอกบ้าง โดยเฉพาะสถาบันวิจัยเครื่องยนต์จรวดน่ะ อย่ามัวแต่อุดอู้อยู่แต่ในประตูปิดสนิทตลอดทั้งวันสิ ตอนนี้ข้างนอกเทคโนโลยีเขาล้ำหน้าไปไหนต่อไหนแล้ว”
ในสายตาที่สับสนของพวกนักวิจัยพวกนั้น, รัฐมนตรีเกิ่งก็ได้เดินออกไป เพราะเขาจะต้องไปรายงานเรื่องนี้ให้กับท่านผู้นำต่อ
ช่างเทคนิคทำจรวดคนหนึ่งก็ถามขึ้นมา “พวกคุณเคยได้ยินเรื่องของเครื่องยนต์ช่วงนี้บ้างไหม?”
“เคยได้ยินอยู่นะ ฉันจำได้ว่าคืนก่อน ภรรยาของฉันบอกว่าลูกของฉันได้ไปที่หลี่ฉุยเพื่อไปศึกษาเรื่องของเทคโนโลยีเครื่องยนต์ที่ล้ำสมัยอยู่น่ะ”
“พวกคุณคงไม่ได้หมายถึงฟิวเจอร์กรุ๊ปหรอกนะ ผมได้ยินมาว่าบริษัทนี้กำลังเป็นที่จับตามอง โดยเฉพาะคนหนุ่มที่ชื่ออู๋ฮ่าวเหริน, ได้ยินมาว่าเป็นอัจฉริยะตัวจริงเลยล่ะ อุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพบำบัดที่พวกคุณใส่อยู่ที่ข้อมือก็เป็นสิ่งที่เขาคิดค้นขึ้นมา และเห็นว่าเรื่องของการวิจัยA.I.ที่เพิ่งจะคิดค้นได้ไปก็ได้หนุ่มน้อยคนนี้ช่วยเหลือ แล้วก็เขายังคิดค้นเรื่องของเครื่องผลิตไฟฟ้าด้วยความร้อนที่พวกคุณกำลังวิจัยกันอยู่ด้วยนะ
กลุ่มนักวิจัยผู้ที่วันๆเอาแต่วิจัยกันอยู่แต่ในห้องแล็บไม่ได้รับรู้เรื่องภายนอก ต่างก็ตกใจที่ว่าหลายๆสิ่งที่พวกเขาใช้และวิจัยกันอยู่นั้น ถูกคิดค้นขึ้นมาโดยคนๆเดียวกัน
“ผมชักจะรู้สึกตงิดใจแล้วว่า ข้อมูลของเจ้าอุปกรณ์นี้ก็น่าจะมาจากหนุ่มน้อยคนนี้ด้วย ผมชักอยากจะเจอหน้าหนุ่มน้อยคนนี้ซะแล้วสิ”
“ดูเหมือนว่าฉันคงจะต้องไปที่หลี่ฉุยที่พวกคุณว่าซะแล้วสิ” นักวิจัยจรวดคนหนึ่งพูดขึ้นมาบ้าง
“พวกคุณน่าจะลองไปดูไปชมจริงๆนั่นแหละ จากข้อมูลที่พวกเราได้มา, บอกว่ามีเครื่องยนต์ที่ล้ำสมัยอยู่ในมือของหนุ่มน้อยคนนี้ แล้วก็เครื่องจักรกลที่พวกเราใช้กันอยู่ตอนนี้ก็เป็นเทคโนโลยีที่ได้มาจากเขาเช่นกัน”
ในตอนนี้เอง, ที่คนพวกนี้ได้รู้แล้วว่าหลายสิ่งหลายอย่างที่พวกเขาใช้นั้นดูเหมือนจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับอู๋ฮ่าวเหริน, ซึ่งทำให้พวกเขารู้สึกอยากรู้จักอู๋ฮ่าวเหรินมากขึ้น
ทุกวัน, เพื่อศึกษาแข่งกับเวลา พวกเขาจึงเริ่มนั่งลงและตรวจสอบข้อมูลของอู๋ฮ่าวเหรินอย่างละเอียด
รัฐมนตรีเกิ่งกลับมายังออฟฟิศของท่านผู้นำ และวางข้อมูลไว้บนโต๊ะของเขา
“เป็นอย่างไรบ้าง?”
“ประเมินกันไว้สูงมากครับ โดยเฉพาะเรื่องของการทหาร ถ้าอุปกรณ์ตัวนี้เป็นไปตามที่ระบุไว้ในข้อมูล ผมคิดว่าพวกเราจะจัดหาได้ตามความต้องการของเขาครับ และพวกเราก็จะใช้ดาวเทียมเป็นข้อแลกเปลี่ยนกับเทคโนโลยีของอุปกรณ์นี้กับเขาครับ”
ท่านผู้นำคิดอยู่สักพักหนึ่งและพูดขึ้น “ส่งคนไปคุยกับเขาและดูว่าเราสามารถแลกเปลี่ยนดาวเทียมกับเทคโนโลยีของเขาได้ไหม, ถ้าทำได้ ตราบเท่าที่เขาไม่ขอมากเกินไปล่ะก็ ตกลงกับเขาทันที และบอกว่าเราสามารถช่วยเขาปล่อยดาวเทียม หรือให้เขายืมดาวเทียมเป่ยโตวใช้ได้”
“ได้ครับ, ท่านผู้นำ ผมว่าจะไปคุยกับเขาเรื่องเป็นเป็นการส่วนตัวเองครับ, หลายๆเทคโนโลยีที่เราได้รับมาจากเด็กหนุ่มคนนี้มีบทบาทอย่างมากกับการพัฒนากำลังทหารของประเทศมากครับ และในครั้งนี้, ผมเองจึงอยากที่จะไปขอบคุณเขาสำหรับการช่วยเหลือในการพัฒนากำลังทหารของประเทศครับ”
“ดีมาก, จริงๆผมเองก็อยากจะไปขอบคุณเขากับการช่วยเหลือของเขาด้วยตัวเองเหมือนกันนะ, จริงสิ ผมได้ยินมาว่าเจ้าหนูนั่นชอบของโบราณ มีรูปวาดและอักษรวิจิตรอยู่ที่นี่ เอาไปให้เขาด้วยสิ”
ท่านผู้นำนั้นรู้ดีว่าประเทศเป็นหนี้บุญคุณชายหนุ่มคนนี้หลายอย่างแล้ว และพยายามที่ตอบแทนในสิ่งที่ประเทศหนึ่งจะทำให้ได้
———————