CF:บทที่ 292 ผู้ป่วยค่อยๆถูกแช่แข็งอย่างลึกลับ
ในสํานักงาน อู๋ฮ่าวเหรินกําลังซื้อรถจักรไอน้ำกับเศรษฐีชาวฝรั่งเศส
รถคันนี้เก่าเป็นอย่างมาก เขาก็ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้เก็บรักษามันไว้ได้อย่างไร มันถูกบํารุงรักษาเป็นอย่างดี ถ้าเอารถคันนี้ไปให้จ้าวรถบิน เขาน่าจะพอใจมากแน่ๆ
ด้านหน้าเป็นเหมือนหัวรถจักร ดูเหมือนเครื่องยนต์ไอน้ำมันล้อมรอบด้วยวัสดุไม้ และด้านหลังเป็นรถม้าทําด้วยไม้
แน่นอนว่าฝีมือในการสร้างรถคันนี้ ในแง่เทคโนโลยีของโลกปัจจุบันนั้นหยาบจริง แต่ถ้าเอาไปอนาคต มันจะเป็นหนึ่งเดียวบนท้องถนน
สําหรับจ้าวรถในแล้วจุดประสงค์ของการซื้อรถคันนี้คือการติดตั้งพลังงาน
ว่ากันว่าชายคนนี้กําลังจะไปจัดแสดงรถ เขาจะใช้รถรุ่นล่าสุดของเขา แต่เมื่อเทียบกับบริษัทรถยนต์อื่นๆ มันไม่มีความแปลกใหม่
ในที่สุดเขาก็คิดวิธีนี้ออกมา หารถโบราณมาแล้วทําเป็นรถบินโบราณเพื่อดูว่าเขาจะสามารถสร้างกระแสย้อนยุคได้หรือไม่
อันที่จริง ตอนแรกเขาก็แค่ต้องการรูปถ่ายของรถยนต์ แต่ในท้ายสุดอู๋ฮ่าวเหรินที่ต้องการให้รถทั้งคันกับเขา
“คุณแฟรงค์ ราคาห้าล้านดอลลาร์คุณคิดว่าไง?”
“บอกตามตรงเลยนะคุณอู๋ รถคันนี้ไม่ใช่ของผม ผมเป็นแค่นายหน้า นอกจากนี้รถไม่ได้ขายเอาเงิน แต่ต้องการให้คุณช่วยอะไรหน่อย”
ได้ยินชายชราแล้ว อู๋ฮ่าวเหรินก็รู้สึกสงสัย ตัวตนของชายผู้นี้ซึ่งเป็นเศรษฐีในฝรั่งเศสนั้น ที่จริงกําลังช่วยคนอื่นอยู่
“จะให้ผมช่วยอะไรคุณล่ะ?”
“มีคนไข้พิเศษอยู่ หากคุณสามารถช่วยรักษาได้ รถคันนี้ก็มอบให้คุณถือเป็นของขวัญ พวกเขารู้ว่าคุณขอบของเก่าหากคุณรักษาผู้ป่วยได้ดีล่ะก็ พวกเขาจะเอาของเก่าให้คุณอีกในภายหลัง”
“คนไข้เป็นโรคอะไรหรือ? คุณแฟรงค์พอจะบอกแบบเจาะจงได้ไหม?”
ผู้ปวยอีกแล้ว ดูเหมือนว่าเพราะอุปกรณ์ไฟฟ้าชีวะภาพบําบัดและปัญหาโรคมะเร็ง ทําให้เศรษฐีหลายคนที่ป่วยต่างจ้องมองเขา
แต่คนเหล่านั้นก็รู้ถึงเงินที่บริษัทแห่งอนาคตของเขาสามารถสร้างได้มันแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้ขาดเงินและสามารถใช้ได้เพียงวิธีนี้เพื่อขอความช่วยเหลือเท่านั้น
“ผมได้ส่งข้อมูลไปคุณอู๋แล้ว ลองตรวจดูว่าคุณสามารถรักษามันได้หรือเปล่า ส่วนรถนี้เป็นของขวัญสําหรับคุณ”
อู๋ฮ่าวเหรินคืดว่าพวกเหล่านี้ก็สามารถทําตัวเป็นผู้เป็นคนและส่งรถยนต์มาได้ ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถรักษาพวกเขาได้ แต่ยังสามารถสร้างความสัมพันธ์ได้อยู่ดี
ในนิทรรศการของบริษัทก็จะต้องมีกลุ่มคนที่อยากจะสนิทกับเขาอยู่แล้ว
“อาการป่วยของซาร์คอทนั้นไม่ใช่โรคเซลล์ประสาท!”
อู๋ฮ่าวเหรินตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เขาไม่คิดเลยว่ามันจะเป็นโรคเช่นนี้ อย่างไรก็ตามผู้ป่วยก็ป่วยมาเป็นเวลาห้าปีแล้วและทั้งร่างกายของเขาเป็นอัมพายซึ่งคล้ายกับฮอว์กิ้ง นักวิทยาศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่
“คุณแฟรงค์ รอสักครู่เดียวผมขอตรวจดูข้อมูลก่อนแล้วผมจะให้คําตอบ”
แฟรงค์มีความสุขมากเมื่อเขาได้ยินว่า อู๋ฮ่าวเหรินต้องการตรวจสอบข้อมูล
” ตามสบายเลยคุณ”
อู๋ฮ่าวเหรินจิ้มไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์สองสามครั้งแล้ว ก็ถ่ายโอนข้อมูลออกไป การรักษาโรคนี้มันยุ่งยากอยู่บ้าง จําเป็นต้องซ่อมแซมกล้ามเนื้อสับแล้วจากนั้นก็ซ่อมแซมเซลล์ประสาท
การบําบัดเซลล์ประสาทนั้นก็เป็นหนึ่งในสามเทคโนโลยีที่เขาจะศึกษาในตอนนี้จึงไม่มีปัญหาอะไร
ทว่าการรักษากล้ามเนื้อสีบที่เป็นมามากกว่าห้าปีอาจใช้เวลาสักพัก ซึ่งก็เป็นปัญหากว่าการฟื้นฟูแขนขา
“คุณแฟรงค์คุณสามารถส่งคนมาที่นี้ได้รึเปล่า ผมกําลังสร้างเทคโนโลยีการบําบัดเซลล์ประสาทอยู่ ทว่าตอนนี้มันก็ยังอยู่ในช่วงทดสอบเท่านั้น ผมไม่สามารถรับประกันได้ว่าเราจะสามารถรักษาผู้ป่วยได้ดีหรือไม่”
แฟรงค์ขมวดคิ้ว แน่นอนเขาเข้าใจว่าอู๋ฮ่าวเหรินหมายความว่าอย่างไร เขาตอบไปว่า “คุณอู๋ กรุณารอสักครู่ ผมขอไปปรึกษาเขาก่อน”
หลังจากนั้นไม่นาน แฟรงค์ก็กลับมาและพูดว่า “เป็นที่ตกลงว่าจะส่งคนไปที่นั่นและ คนๆนั้นจะติตต่อคุณอู๋เมื่อถึงเวลา”
หลังจากปิดการสนทนาทางวิดีโอแล้ว อู๋ฮ่าวเหรินก็พูดว่า “ พอจะหาตัวผู้ที่ต้องรับการรักษาของฉันได้ไหม แล้วผ่านสื่อตัวกลางด้วย”
ทันทีที่เขาพูดจบเขาก็เห็นว่าได้ใส่ข้อมูลลงในคอมพิวเตอร์แล้ว
“บูร์บงรึ? ถ้าเขาเป็นสมาชิกของตระกูลนี้จริง ทําไมพวกเขาถึงอยากติดต่อฉันด้วยวิธีนี้กัน”
นี่เป็นครอบครัวใหญ่ที่ครั้งหนึ่งเคยปกครองนาวาร่า,ฝรั่งเศส, สเปน,นาเบิล, ชิชิลี, ลักเซมเบิร์ก และหลายอาณาเขตของอิตาลี
นอกจากนี้สเปนและลักเซมเบิร์กยังคงอยู่ภายใต้การปกครองของตระกูลนี้ซึ่งเป็นหนึ่งในตระกูลที่ทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์ยุโรป
เฮนรี่ที่สี่ และหลุยซ์ที่แปด ชื่อที่คุ้นเคยเหล่านี้ เชื่อว่าหลายคนได้คงเห็นพวกเขาในหนังสือประวัติศาสตร์มาแล้ว
เมื่ออู๋ฮ่าวเหรินเห็นข้อมูลตามนี้ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
อย่างไรก็ตามตระกูลนี้ยังคงอยากจะที่กู้คืนความรุ่งเรืองในอดีตและแสวงหาอํานาจในยุโรปอยู่
“จี้ นอกเหนือจากข้อมูลเหล่านี้แล้วนายน่าจะพบข้อมูลอื่นด้วยนะ”
“ก็ยังมีข้อมูลอื่นๆอยู่อีก ดูเหมือนว่าตระกูลนี้จะบ้ามาก พวกเขาอยากกระทั่งฟื้นฟูตัวเองในฝรั่งเศส กลายเป็นราชาแห่งฝรั่งเศสแล้วก็ปกครองฝรั่งเศสอีกด้วย”
อู๋ฮ่าวเหรินดูข้อมูลที่รวบรวมโดย และรู้สึกว่าครอบครัวนี้บ้าพอตัว ในยุคนี้แล้วแต่พวกเขายังอยากจะทําอะไรแบบนี้
หากเขาไม่สามารถกระตุ้นสหภาพยุโรปทั้งหมดและป้องกันไม่ให้อเมริกา “เล่นงานเขา” ก็อาจมีโอกาสประสบความสําเร็จอยู่บ้างเล็กน้อย
อาจกล่าวได้เพียงว่ามีแต่ความบ้าคลั่งในตระกูลนี้เท่านั้น อย่างไรก็ตามก็มีเด็กสาวที่ต้องการการรักษาอยู่ เป็นเด็กที่มีตัวตนไม่ธรรมดา แท้จริงแล้วเป็นถึงลูกหลานของกษัตริย์องค์สุดท้าย
“ช่างมันเถอะ ไม่ว่าเขาต้องการอะไร ตราบเท่าที่พวกเขาไม่ยั่วโมโหฉัน เพื่อให้พวกเขาจะล้มล้างยุโรปฉันก็ไม่สนใจ”
อู๋ฮ่าวเหรินส่ายหัว ปิดข้อมูลลง และในที่สุดเรื่องรถก็จบ
“จี้ลองออกแบบการฟื้นฟูแขนขาก่อน เนื่องจากเราต้องการช่วยเหลือผู้ป่วยด้วยเทคโนโลยี การรักษาและซ่อมแซมเส้นประสาท ถึงเวลาแล้วที่ต้องจัดการกับมัน คนขับรถจากที่นั่นจะถูกส่งมาในอีกไม่กี่วันและเราจะไปทําการรักษาด้วยกัน”
อู๋ฮ่าวเหรินได้ปลูกสมุนไพรที่จําเป็นในเรือนกระจกของเขา ตอนนี้ปัญหาคือการแก้ไขอุปกรณ์ซ่อมแซมเส้นประสาทก่อน
ในอีกด้านหนึ่ง เหล่าประเทศที่ไม่ได้รับการตอบกลับจากอู๋ฮ่าวเหรินก็กําลังร้อนรน
พวกเขาไม่รู้ว่ามีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นหรือไม่ แล้วทําไมทั้งบริษัทกับรัฐบาลจีนถึงไม่ทําอะไรเลยเพื่อแก้ไขปัญหาวัสดุยา
มีเพียงบนอินเตอร์เน็ตเท่านั้นที่มีบางคงพูดคุยเรื่องพวกนี้กัน แม้แต่ข่าวก็ยังไม่รายงานเรื่องนี้
ดูเหมือนว่าคนจีนจะไม่สนใจเลย ที่พวกเขาซื้อยารักษามะเร็งไป
นี่ทําให้พวกเขาวิตกกังวลและเริ่มตรวจสอบว่ามีปัญหาอะไรหรือไม่
ที่จริงก็ไม่จําเป็นต้องตรวจสอบเลย ตราบใดที่พวกเขาไปที่ฟอรั่มเว็บไซต์ทางการของบริษัทแห่งอนาคตพวกเขาจะเห็นว่าบริษัทแห่งอนาคตนั้นได้นําหน้าพวกเขาไปไกลแล้ว แถมยังสะสมวัสดุยาไว้เป็นจํานวนมาก
ณ ตอนนี้นักธุรกิจที่กําลังพูดคุยกันในฟอรั่มเว็บไซต์ทางการ ไม่ใช่เรื่องที่ว่ามีวัสดุยาในตลาดหรือไม่แต่เป็นเรื่องยาต้านมะเร็งที่ผลิตโดยบริษัทฟิวเจอร์กรุ๊ป ได้เสียงตอบรับจากผู้ใช้ดีมาก
หลังจากกินยาไปประมาณครึ่งชั่วโมงก็จะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงในร่างกายซึ่งทําให้หลายคนประหลาดใจ
ยิ่งไปกว่านั้น อู๋ฮ่าวเหรินได้เริ่มจัดหาอุปกรณ์รักษาให้กับโรงพยาบาลรักษาโรคมะเร็งบางแห่งแล้วตัวย
อย่างไรก็ตามอุปกรณ์เหล่านี้ยังคงเป็นของบริษัทฟิวเจอร์กรุ๊ป พวกเขาแค่ข้างแพทย์จากโรงพยาบาลเหล่านั้นมาเพื่อรักษาผู้ป่วยเท่านั้น
เนื่องจากอู๋ฮ่าวเหรินไม่รู้ว่าจะขายอุปกรณ์ประเภทนี้มากแค่ไหน เขาปรึกษาปัญหานี้กับเบื้องบนและในที่สุดก็ใช้วิธีนี้
ด้วยเงินเดือนของฟิวเจอร์กรุ๊ปและเอกสารที่ออกโดยรัฐ แพทย์ในโรงพยาบาลเหล่านี้ก็กระตือรือร้นที่จะสมัครงานดังกล่าว
ถ้าแพทย์สามารถควบคุมการเตรียมยาได้อย่างชํานาญเงินเดือนของเขาก็จะเพิ่มขึ้นไปอีกซึ่ง เป็นงานที่ทําให้แพทย์คนอื่นอิจฉา