CE:บทที่ 308 การแสดงของพนักงาน
หลังจากจื่อหยงกลับไปแล้ว อู๋ ฮ่าวเหริน ก็ขลุกอยู่ในห้องแล็บตลอดเวลา เขาไม่ได้แจ้งให้พนักงานของ บริษัททราบถึงข่าวการเข้ามาเยือนของท่านผู้นํา
จนกระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้น จื่อหยงได้รับโทรศัพท์จากเขาและกัปตันที่มาหาเขาทางรถยนต์ นั่นล่ะ เขาถึงนึกขึ้นได้
ตอนเช้า หลังจากมาถึงบริษัท เขาเรียกหวังหลานเข้ามาในสํานักงานและพูดว่า “แจ้งพนักงานของบริษัทให้ทราบว่า ท่านผู้นากําลังจะมาเยี่ยมบริษัทของเราวันนี้และขอให้บุคลากรต่อไปนี้ให้ความสนใจ
หวังหลานตกตะลึงและถามด้วยความประหลาดใจว่า ” ท่านประธาน ท่านจะว่าอย่างไรนะ? ท่านหลงกําลังจะไปมาเยือนบริษัทวันนี้หรือ?”
“ใช่ ผมได้รับแจ้งข่าวเมื่อวานนี้ ผมมัวแต่ทํางานในห้องปฏิบัติการ ก็เลยลืมบอกคุณ ไม่ต้องวิตกอะไรหรอก แค่ทํางานไปตามปกติ”
หวังหลานมองอู๋ ฮ่าวเหรินด้วยสายตาแปลกๆ เธอไม่รู้ว่าจะเดาใจท่านประธานได้อย่างไร การเข้าตรวจเยี่ยมการณ์ของท่านหลง ข่าวเมื่อวานนี้ เขาลืมบอก
ยิ่งกว่านั้น ในมุมมองของท่านประธานดูเหมือนว่าการมาเยือนบริษัทของท่านหลง ไม่ได้สร้างความประหลาดใจมากนัก
อู๋ ฮ่าวเหริน ไม่แปลกใจจริงๆ เช้านี้เขาซุกซ่อนอุปกรณ์ในห้องทดลองจํานวนมาก การมาตรวจเยี่ยมบริษัทของท่านหลง ทําให้เขาวุ่นวายนิดหน่อย แต่โชคดีที่เขามีจี้ที่จะจัดการกับเรื่องนี้
อุปกรณ์บางอย่างสามารถนําออกให้คนเห็นได้ แต่บางอย่างก็ไม่ได้ ตัวอย่างเช่น ปืนใหญ่พลังงานที่เขาศึกษาร่วมกับขี้เมื่อเร็ว ๆ นี้หากผู้อาวุโสมาเห็นเข้า อู๋ ฮ่าวเหรินรู้สึกว่าชีวิตที่สงบสุขของ เขาจะเปลี่ยนไปอย่างมาก
“ท่านประธาน เราไม่ต้องเตรียมงานต้อนรับด้วยหรือ?”
“ไม่ต้อง นี่เป็นการเยี่ยมชมเป็นการส่วนตัว ไม่จําเป็นต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้ใครรู้ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ ลิ่วหมิงเยว่ เธอจะรายงานข่าวหลังจากที่กลับไปแล้ว
หวังหลานผู้ซึ่งออกมาจากสํานักงานตื่นเต้นมาก เธอไม่คาดว่าจะได้เห็นท่านหลงในระยะใกล้ขนาดนี้
“คุณพูดว่าอะไรนะ ท่านหลงจะมาบริษัทเราหรือ?”
พอได้เห็นท่าที่ที่สงบหลังจากได้รับข่าวของลิ่วหมิงเยว่แล้ว หวังหลานมองหล่อนด้วยสายตาฉงน
” ทําไมคุณถึงไม่ประหลาดใจเลยล่ะ?”
“จะต้องประหลาดใจอะไร? ฉันคิดว่าต้องมีเรื่องแบบนี้มานานแล้ว แค่ไม่นึกว่า ท่านหลงจะมาตอนนี้ อีกอย่างนะ ไม่ต้องตื่นเต้นหรอก เราทําไม่ได้ถ้าไม่มีหัวใจที่เข้มแข็งอยู่ภายในบริษัท”
ในไม่ช้าหวังหลาน ก็รู้ว่ามีคนอย่างลิ่วหมิงเยว่ มากกว่าหนึ่งคนในบริษัท
ยกตัวอย่างเช่น ตอนที่ หลิว เหมยหรู่ ทราบข่าวเธอแค่ขยี้ตาแล้วก็มองฉันอย่างไม่ค่อยเชื่อ แล้วก็พูดว่าเข้าใจแล้วจากนั้นก็สะสางบัญชีของเธอต่อไป
แม้แต่พนักงานการเงินตําแหน่งเล็กๆ ก็รู้สึกประหลาดใจเพียงไม่กี่วินาที จากนั้นพวกเขาก็สงบลงและวิ่งวุ่นกับงานของตัวเองต่อ
คนที่ตื่นเต้นมากกว่าได้แก่ พนักงานใหม่ที่บริษัทรับเข้าทํางานในระยะหลัง ซึ่งยังไม่เคยมีประสบการณ์กับการจัดนิทรรศการของฟิวเจอร์กรุ๊ป
ที่เด็ดสุดคือแผนกคอมพิวเตอร์ เมื่อ หวังจี๋ ทราบข่าวจากหวังหลาน เขาก็ไม่แม้แต่จะพูดถึงเรื่องนี้ตอนที่เขากลับมา เขาไม่ได้ถือเรื่องนี้เป็นการเป็นงานอะไร
สถานการณ์ที่ไม่ปกติของบริษัท ทําให้หวังหลานคิดว่าตนเองผิดปกติ
มาเยือนบริษัทของท่านหลงใช้เวลาเพียงแค่ครึ่งชั่วโมง ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการทํางานของพนักงานของกลุ่ม พนักงานรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยแล้ว แล้วก็กลับมาสงบ
เพราะตอนนี้คนที่ตื่นเต้นกับเรื่องนี้มากจนเกินไป กําลังเป็นคนที่ผิดปกติมากในบริษัท
จื่อหยง กังวลว่าจะเกิดปัญหา เขาจึงมาพบฟิวเจอร์กรุ๊ปล่วงหน้า แต่ตอนนี้เขารู้สึกกดดัน ดูเหมือนว่าฟิวเจอร์กรุ๊ปจะทํางานกันตามปกติ
เขาคิดว่าพนักงานเหล่านี้ไม่รู้ว่าพวกเขากําลังมาเยือน แต่พอได้สอบถามพนักงานบางคน พวกพนักงานทราบดีว่าว่าพวกเขาจะมาเยี่ยมชมกับท่านหลง และรู้สึกได้ทันทีว่าพนักงานของฟิวเจอร์กรุ๊ปนี้เหลือเชื่อ
“เป็นบริษัทที่แปลก ก็เพราะเจ้านายเป็นคนพิลึกสินะ ผู้บัญชาการของบริษัทได้มาถึงจุดที่คนติดตามเขาสามารถทําตามกระบวนการได้อย่างเรียบเฉย
เขาสงสัยว่าความคิดของอู๋ ฮ่าวเหริน ส่งผลกระทบต่อทั้งบริษัทหรือไม่
ประมาณสิบโมงเช้า เขาได้รับโทรศัพท์และรถคันยาวกําลังจะมาถึงบริษัท อู๋ ฮ่าวเหรินมาถึงประตูอย่างช้าๆ
ยกเว้นพนักงานรักษาความปลอดภัย พนักงานของบริษัทยังไม่มา
เมื่อเขาลงจากรถการแสดงออกของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่นั่นเป็นปกติ คุณสามารถเห็นความตื่นเต้นของพวกเขาได้จากสายตา
“ยินดีต้อนรับเข้าสู่ฟิวเจอร์กรุ๊ปครับ”
” คุณเสี่ยวอู๋ทํางานหนักแล้ว ครั้งนี้ผมมาเยี่ยมชมอย่างไม่เป็นทางการ ฟิวเจอร์กรุ๊ปได้นําเกียรติมาสู่มาตุภูมิของเรา!”
อู๋ ฮ่าวเหริน กล่าวด้วยรอยยิ้ม“ มันเป็นความรับผิดชอบของบริษัทเราที่จะสร้างเกียรติ ยศให้กับประเทศและก็เป็นสิ่งที่ชาวจีนทุกคนควรทํา”
“ไปกันเถอะ วันนี้ผมอยากจะเห็นสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า บริษัทวิจัยที่มีเทคโนโลยีสุดล้ําของจีน”
” ท่านหลง นี่คือรถยนต์ของเราเอง แบบวาดนี้เขียนขึ้นโดยคุณอู๋ ฮ่าวเหริน เราผลิตรถขึ้นโดยร่วมกับบริษัทรถยนต์ที่ร่วมมือกับฟิวเจอร์กรุ๊ป ประสิทธิภาพของรถประเภทนี้ดีมาก อีกไม่นานเราจะมีการทดสอบระดับภูมิภาค”
หลังจากสัมผัสรถคันนั้นอยู่นาน เขาก็ใช้มือเคาะมันแล้วพูดว่า: “เอาล่ะ ดีมากตลาดรถยนต์ของจีนถูกครอบครองโดยรถยนต์ต่างประเทศ ในอดีตเราผจญกับการขาดเทคโนโลยีขั้นสูงและถูกควบคุมโดยคนอื่น ในอนาคตเราก็จะออกรถยนต์จากจีนไปสู่โลกใบนี้”
“ไม่ต้องห่วงครับ เราจะทําสําเร็จได้ภายในสองปี ถึงตอนนั้น พอบอกว่ารถยนต์ของเราผลิตในประเทศจีนชาวต่างชาติจะต้องชูนิ้วให้”
อู๋ ฮ่าวเหริน ชี้ไปที่อาคารของบริษัท และพูดว่า ” ท่านหลง นี่คืออาคารสํานักงานของฟิวเจอร์กรุ๊ป”
“มันเป็นอาคารที่น่าประทับใจและมีเอกลักษณ์มาก ฉันได้ยินมาว่าคุณออกแบบด้วยตัวเองเหรอ?”
“อาคารนี้ถูกออกแบบด้วยปัญญาประดิษฐ์ การออกแบบระดับภูมิภาคทั้งหมดของฟิวเจอร์กรุ๊ปได้รับการออกแบบในลักษณะนี้”
เมื่อได้ยินคําพูดของ อู๋ ฮ่าวเหริน เขาครุ่นคิดแล้วถามว่า “มีวิธีที่เป็นไปได้ไหมที่จะออกแบบการวางผังเมืองด้วยวิธีนี้”
“เอ่อ เมืองนี้ใหญ่เกินไปครับ ถ้ากําหนดเงื่อนไขดีพอให้ก็ปล่อยให้ปัญญาประดิษฐ์ทําการออกแบบ อย่างไรก็ตามการออกแบบของปัญญาประดิษฐ์จะยึดจากการลดทอนการก่อสร้างฐานรากบางส่วนที่มนุษย์ออกแบบออกไป ดังนั้นถ้าเราต้องการก่อสร้างแบบที่มีลักษณะเฉพาะ เรายังจําเป็นต้องใช้มนุษย์ในการทําให้เสร็จสมบูรณ์”
อู๋ ฮ่าวเหริน คิดว่าดีนะที่เขาเตรียมคําตอบไว้ล่วงหน้า การตอบคําถามพวกนี้ หากตอบไม่ดีอาจเกิดปัญหาได้
ปัจจุบันเขายังไม่ได้พัฒนาคอมพิวเตอร์ที่ใช้ภายในบริษัทให้กับรัฐ ทันทีที่นําคอมพิวเตอร์มาใช้ลดการวางแผนชุมชนเมือง เมื่อนั้นจะเกิดปัญหามากมาย
”เข้าไปข้างดูในกันเถอะ ผมได้ยินมาว่าบริษัทของคุณลึกลับมาก มีหลายคนอยากเข้าไปชมในอาคารนี้”
“ถ้าพวกเขาได้เข้าไปข้างใน พวกเขาอาจจะรู้สึกผิดหวังแล้วก็เสียใจ พนักงานของบริษัทเราทํางานกันง่ายๆ เหมือนกับบริษัทธรรมดาๆไม่มีอะไรแตกต่าง”
หลังจากอู๋ ฮ่าวเหริน และท่านหลงก้าวเข้ามา ไม่มีพิธีต้อนรับใดๆเลยในบริษัท และทุกคนก็ไม่ว่าง
แผนกต้อนรับด้านหน้าเพียงแค่มองมา อาจเพราะเข้าไปนานแล้ว เป็นรอยยิ้มที่ประหม่า
เมื่อบุคลากรของบริษัทเห็นผู้จัดการพวกเขาก็หยุดอย่างสุภาพและทักทายผู้จัดการ
เมื่อมองไปที่พนักงานของฟิวเจอร์กรุ๊ป ท่านหลงพูดด้วยรอยยิ้มว่า ”พอเห็นท่าทางของคนเหล่านี้ บริษัทของคุณเสี่ยวอู๋มีความเป็นเอกลักษณ์จริงๆ ดูเหมือนว่าพวกเขาทุกคนล้วนได้รับอิทธิพลจากคุณซึ่งเป็นอัจฉริยะทางวิทยาศาสตร์”
“ไปกันเถอะ ไปที่แผนกคอมพิวเตอร์ที่ลึกลับที่สุดในบริษัทคุณกัน และช่วยแนะนําช่างเทคนิคที่พัฒนาปัญญาประดิษฐ์หมายเลข 0 ให้ผมรู้จัก”
ท่านหลงและอู๋ อ่าวเหริน ไปที่แผนกคอมพิวเตอร์ พนักงานเหล่านี้ไม่ได้มีบรรยากาศการทํางานที่กดดัน ดังนั้นในเวลานี้พวกเขาก็พูดคุยกันอย่างสบายๆ
เห็นได้ชัดว่า แม้ว่าพวกเขาจะเริ่มได้ข่าว แต่พวกเขาก็ไม่รู้สึกแปลกใจ อย่างไรก็ตามเมื่อได้รู้ได้เห็นมาสักพักใหญ่ ก็เริ่มจะตื่นเต้นแล้ว