CF:บทที่ 332 มีบางอย่างผิดปกติขึ้นกับของโบราณของคุณ
หลังจากที่ได้รับการตอบกลับของอู่ฮาวเหริน นักค้าอัญมณีพวกนี้ก็รู้สึกโล่งใจที่หยกเจไดท์ทั้งหมดไม่ได้ถูกครอบครองไปโดยตระกูลเล่ย
แต่พวกเขาก็รู้ในคราวนี้ว่า ลูกสาวของตระกูลเล่ยนั้น ยิ่งใหญ่กว่าพวกเขามาก
“ประธานหวัง ดูหน้าคุณสิ คุณไม่ดีใจอย่างนั้นหรือที่สามารถแลกหยกเจไดท์มาได้?”
เนื่องจากธุรกิจของเล่ยจวน ประธานบริษัทที่มีเส้นสายหลายคน พากันนั่งอยู่ที่ห้องอาหารของโรงแรมและพูดคุยเกี่ยวกับหยกเจไดท์
“พวกคุณได้รับการตอบกลับหมดทุกคนแล้วนี่นา แล้วคุณสามารถที่จะเอาของโบ ราณพวกนั้นแลกหยกเจไดท์ได้ไหมล่ะ?”
“มันเป็นเรื่องหลอกลวง ไม่ใช่สําหรับพวกเราสามคน คุณได้รับหรือยังล่ะ?” ประธานเฉียนมองดูเขาอย่างสงสัย
“ใช่ครับ ผมได้รับแล้ว แต่เป็นการตอบปฏิเสธ อีกนัยหนึ่ง ของโบราณที่ผมนํามาไม่สามารถจะแลกเปลี่ยนกับหยกเจไดท์ได้ คุณพอจะช่วยผมวิเคราะห์หน่อยจะได้ไหม ว่ามันเกิดอะไรขึ้น?”
“ไม่มีทาง ก็ในเมื่อคุณอู่ได้ตกลงที่จะแลกเปลี่ยนกับพวกเราแล้ว เขาไม่มีทางปฏิเสธคุณ”
“คุณก็รู้ว่าผมและตระกูลเล่ยน่ะ คุณคิดว่ามันเป็นเพราะความสัมพันธ์ของผมกับตระกูลเล่ยหรือเปล่าผมถึงได้ถูกปฏิเสธ
“ไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น ถึงแม้ว่าตระกูลเล่ยจะเป็นคู่แข่งกับคุณ แต่พวกเขาก็ไม่ใช้วิธีนี้หรอกไม่อย่างนั้นแล้วคุณอู่คิดอะไรอยู่กันนะ?”
ในตอนนั้นเอง เลยจวนที่เพิ่งเดินมาถึงห้องอาหารและได้ยินการสนทนาของพวกเขา
เธอพูดขึ้นอย่างหยาบคายว่า “ประธานเฉียน พวกเราตระกูลเล่ยไม่ใช้วิธีการสกปรกอย่างนั้นหรอก คุณควรจะกลับไปดูของโบราณของคุณจะดีกว่า ฉันได้เตือนคุณมามากพอแล้วและฉันก็ถูกสงสัยว่าตระกูลเล่ยของฉันนั้นกําลังเล่นแง่”
เล่ยจวนกล่าว เมื่อเดินแล้วไปด้านใน ประธานบริษัททั้งหลายถึงกับตกตะลึง
“ของโบราณของเธอไม่ได้มีปัญหาอะไรจริงๆ ใช่ไหม?” ประธานถาม
“ไม่ค่ะ ฉันรับรองได้ว่ามันเป็นของโบราณจริงๆ ซึ่งฉันได้ให้ผู้เชี่ยวชาญหลายคนพิสูจน์แล้วมันไม่ใช่ของปลอม บางคนอาจจะสงสัยว่าแล้วถ้ามันเป็นของปลอมล่ะ สําหรับคนที่คลั่งใคล้ในของโบราณแบบนี้แล้วนั้น มันไม่มีทางที่จะถูกปฏิเสธ ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อเล่ยจวนพูดเช่นนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องโกหก
“คุณคงจะไม่สะดวกที่จะแสดงข้อมูลของโบราณของคุณให้พวกเราดูใช่ไหม?”
เป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้ทุกคนต่างพากันเตรียมตัวเพื่อการแลกเปลี่ยนของโบราณกับหยกเจไดท์ดังนั้นข้อมูลของของโบราณจึงเป็นความลับ
“ไม่มีปัญหาค่ะ
ตอนนี้พวกมันได้ถูกปฏิเสธทั้งหมดค่ะ จึงไม่มีประโยชน์อะไรที่ต้องปิดบังพวกคุณ”
เขาจึงนําบทนําและข้อมูลในการตรวจสอบของโบราณออกเพื่อพิสูจน์ว่าของโบราณของเขา นั้นเป็นของแท้
เมื่อประธานทั้งหลายได้เห็นของโบราณพวกนั้นเป็นครั้งแรก สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไป
ประธานเจ้าถามออกมาอย่างแผ่วเบา “ประธานหวัง ของโบราณพวกนี้เป็นของที่คุณเตรียมมาอย่างนั้นหรือ?”
“ใช่ครับ นี่เป็นการเข้าซื้อกิจการก่อนหน้านี้ของผม พวกมันเป็นเสื้อผ้าสตรีหายาก ถ้าไม่ใชเพราะมันเป็นหยกเจไดท์ที่หายากแล้วล่ะก็ ผมก็ไม่ต้องการที่จะเอามาแลกหรอกครับ” ประธานหวังดูภูมิใจนัก ประธานเฉียนจึงถามว่า “ประธานหวัง คุณไม่รู้อะไรเกี่ยวกับคุณอู่ก่อนที่จะมาที่นี่เลยหรือ?”
“ก็ไม่เชิงว่าผมไม่รู้หรอกนะ หลังจากที่ได้อ่านข้อมูลบางอย่างแล้ว ใครจะไม่รู้จักชื่อ เสียงของฟิวเจอร์กรุ๊ปกันเล่า?”
เมื่อเขาได้ยินดังนั้น คนเหล่านั้นก็เข้าใจว่าชายชราคนนี้เขาไม่ได้จริงจังที่จะศึกษาข้อมูลของประธานบริษัทของฟิวเจอร์กรุ๊ป มิฉะนั้นแล้วเขาก็คงจะไม่ทําพลาดเช่นนี้
“เหล่าหวัง ผมคิดว่าคุณควรจะกลับไปและศึกษาข้อมูลของคุณอู่ของฟิวเจอร์กรุ๊ปให้ดีๆนะแล้วคุณจะเข้าใจว่ามันผิดพลาดตรงไหน
ชายคนนี้ก็สงสัยว่าตระกูลเล่ยได้เล่นตลกกับเขา
เห็นได้ชัดว่า เขานั้นไม่เข้าใจอะไรเลย เขาคิดเพียงแต่ว่ามันเป็นของโบราณ ดังนั้นจึงเหมือนเขาขุดหลุมฝังตัวเอง
อย่างไม่ต้องสงสัยอะไร ประธานหวังกลับไปยังห้องของเราและเริ่มตรวจสอบรายงานการลง ทุนที่บริษัทได้ให้เขามา
ก่อนที่เขาจะมาที่นี่ เขารู้เพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับบริษัทนี้ เขาไม่ได้อ่านข้อมูลที่รวบรวมมาเลยแม้แต่น้อย แน่นอนว่าในอดีตนั้น สิ่งนี้ถูกจัดการให้โดยเลขาของเขา แต่ในตอนนี้เป็นเพราะว่าเลขาของเขาไม่เปิดเผยข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับของโบราณของเขา เขาจึงไม่ได้ให้เลขาดูแลมันอีกต่อ
หลังจากที่ได้อ่านข้อมูลแล้ว สีหน้าของประธานหวังก็บูดเบี้ยว
ในตอนนี้เขาไม่ใช่เพียงแค่คนเดียวที่ต้องเสียใจแต่ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่า มันคือปัญหาของตระกูลเล่ยหลังจากที่หลายคนได้รับการปฏิเสธ
อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขารู้ว่ามีของโบราณของอีกหลายคนที่ได้แลกเปลี่ยนกับหยกเจไดท์พวกเขาเข้าใจว่าของโบราณของพวกเขาต้องมีข้อผิดพลาดบางอย่าง
หลังจากที่ตรวจสอบข้อมูลแล้ว คนพวกนั้นทั้งหมดนั่งอยู่ในห้องอย่างกดดัน
มันไม่ใช่ความลับอะไรที่อู่ฮาวเหรินไม่ต้องการข้อมูลของโบราณบางอย่างบนอินเตอร์เน็ตบางคนถึงกับวิเคราะห์สถิติและวิเคราะห์เหตุผล
การแลกเปลี่ยนของเก่าเสร็จสิ้นในวันถัดมา อู่ฮาวเหรินได้แสดงรูปภาพบางส่วนของหยกเจไดท์ที่ดีที่สุดให้คนพวกนี้ชม และได้ส่งประกาศออกไปว่า ตราบใดที่เขายังสามารถที่จะหาของโบราณที่มีค่าเทียบเท่ากับหยกเจไดท์ได้ เขาก็ยินดีที่จะแลกเปลี่ยนด้วย
แน่นอนว่า ไม่มีหยกเจไดท์ของอู่ฮาวเหรินก้อนไหนเลยที่เป็นหยกเกรดต่ํา ทุกชิ้นเป็นหินหยกเจไดท์เกรดสูงทั้งนั้น
เขาไม่ต้องการที่จะทําให้ตลาดค้าหยกเจไดท์ต้องล้มละลายเพราะการเข้ามามีส่วน เกี่ยวข้องของเขาไม่เคยคิดที่จะเอาหยกเจไดท์มาแลกกับของโบราณเลย
ความจริงแล้วอู่ฮาวเหรินพึงพอใจในตลาดเพชรมากกว่า เขาคิดว่าสิ่งนี้เป็นเพียงการหลอกลวงประชาชนและราคาของมันก็เป็นการสร้างขึ้นมา
แน่นอนว่า อู่ฮาวเหรินนั้นจะไม่รบกวนธุรกิจของใครโดยไม่มีเหตุผล ในตอนนี้เขาอยู่ภายในห้องพยาบาลเพื่อมาตรวจดูการรักษเส้นประสาทที่ขาของซูเถา
“คุณรู้สึกไหม?”
“ครับ ครับ ผมรู้สึกชา เจ้านาย นี่ผมหายดีหรือยังครับ?” ซูเถาถามขึ้นอย่างประหลาดใจ
“ต้องหายดีอย่างแน่นอน แต่มันก็ต้องใช้เวลาอีกสักพักเพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก”
ข้างนอกห้องนั้น พ่อบ้านดีแลนและพ่อแม่ของซูเถากําลังรอซูเถาที่กําลังรักษาอยู่ที่ด้านนอก
เมื่อเห็นซูเถาออกมา พ่อบ้านดีแลนก็รีบถามว่า “การรักษาของคุณเป็นอย่างไรบ้างครับ?”
“เจ้านายบอกว่ามันเป็นเพียงการเริ่มต้นของการรักษาและตอนนี้ขาของผมก็เริ่มรู้สึกแล้วผมคงต้องใช้เวลาบําบัดอีกสักพักถึงจะหายดี”
“เยี่ยมมากเลยลูกชาย พวกเราต้องขอบคุณเจ้านายเป็นอย่างสูงในภายหลัง พวกเขารักษาลูก โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายแล้วยังยกบ้านหลังใหญ่นั้นให้กับลูก ทุกวันนี้คนในชุมชนพากันมองหาฉันเพื่อที่ จะให้แนะนําตัวเธอ แม่ของซูเถากล่าวด้วยความดีใจ
เมื่อได้ยินดังนั้น ซูเถาก็ยิ้มออกมา เพื่อนรักของเขาบางคนบอกว่าถ้าเขาอยากที่จะหาลูกสะใภ้ให้แม่สักคนเขาก็คงจะหาได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาที
ปัจจุบันนี้เหล่าพนักงานของฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นช่างเป็นที่นิยมสําหรับคนภายนอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ทํางานเป็นหัวหน้าฝ่ายต่างๆ ในฟิวเจอร์กรุ๊ป สวัสดิการที่ดีของพวกเขาทําให้หลายคนต่างพากันอิจฉา
หลังจากที่ตึกบางตึกในพื้นที่หอพักได้สร้างเสร็จ ทําให้ในตอนนี้บริเวณที่พักอาศัยนั้นยิ่งดูเหมีอนเป็นสถานที่สําหรับพักผ่อนหย่อนใจและเที่ยวเล่น ได้ยินมาว่าในอนาคตนั้นส่วนของที่พักอาศัยจะเปิดให้แก่คนข้างนอกได้เข้ามาเยี่ยมชมด้วย
ผู้เฒ่าทั้งสองคนพากันกังวลอย่างเห็นได้ชัดเกี่ยวกับการหย่าร้างของลูกชาย ดังนั้นพวกเขาจึงต้องเลือกลูกสะใภ้อย่างระมัดระวังในครั้งนี้
อู่ฮาวเหรินตรวจดูอาการของแดฟเน่และออกมา หลังจากที่ได้รับการยืนยันว่าเธอกําลังจะหายดีแล้ว
“ ขอบคุณนะ ฉันไม่ต้องการอะไรไปมากกว่านี้แล้ว ซูเถาได้รับบาดเจ็บเพื่อปกป้องฉัน นี่เป็นสิ่งที่ฉันควรจะต้องทํา พ่อบ้านดีแลน การฟื้นตัวของแดฟเน่ดีขึ้นมาก ตามกระบวนการการรักษาแบบนี้ เธอคงจะสามารถที่จะเข้ารับการรักษาด้านประสาทวิทยาได้ภายในสองเดือนนี้”
“ขอบคุณครับคุณอู่ ตอนนี้นายท่านได้ส่งของขวัญชิ้นพิเศษมาให้ และคงจะมาถึงในอีกไม่ช้าผมหวังว่าคุณจะชอบมัน”
เมื่อได้ยินคําพูดของดีแลน อู่ฮาวเหรินก็คิดกับตัวเองว่า ตัวเขาเองไม่รู้จักครอบครัวนี้ ของขวัญแบบไหนที่จะส่งมาให้เขา?
ฉันสงสัยว่าถ้าฉันได้รับรถโบราณมาอีกล่ะก็ ถ้ามันเป็นเรื่องจริง ฉันก็คงจะต้องโยนไปให้จ้าวแห่งรถบินอีกแล้วล่ะ