ตอนที่ 103 พลังที่แท้จริงของราชันหมีพสุธา
หลังจากสนทนาอย่างยากลําบากกับสหายตัวจ้อย หยางเย่ก็สามารถเข้าใจในที่สุดว่าเหตุใดมันถึงยอมแพ้ ครั้งนี้มันเป็นไปไม่ได้อย่างแท้จริง ถึงแม้สหายตัวจ้อยจะไม่ยอมแพ้ เขาก็ต้องยอมแพ้อยู่ดี
เพราะสถานะของราชันหมีพสุธนั้นหาได้ธรรมดาไม่!
ราชันหมีพสุธาไม่ได้ถือกําเนิดที่นี่ มันมาจากอาณาจักรสัตว์อสูรที่ใจกลางของขุนเขาไม่สิ้นสุด ใช่แล้ว ในพื้นที่แห่งนี้มีอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่อยู่ และอาณาจักรนั้นเต็มไปด้วยพวกสัตว์อสูร และไม่มีมนุษย์แม้แต่คนเดียว ยิ่งกว่านั้นอาณาจักรสัตว์อสูรยังมีระบบชนชั้นที่สมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นในด้านการเมืองหรือกําลังทหาร อาณาจักรสัตว์อสูรก็ถูกจัดวางไว้อย่างดี
กล่าวโดยง่ายคือราชันหมีพสุธาเป็นทหารที่ถูกส่งมาจากอาณาจักรสัตว์อสูรเพื่อเฝ้ายามที่เทือกเขาแห่งความตาย หากหยางเย่สังหารราชันหมีพสุธา เช่นนั้นเขาก็จะถูกแก้แค้นโดยอาณาจักรสัตว์อสูร แน่นอนว่าหยางเย่ไม่อาจทนกับผลที่ตามมาได้ และสิ่งนี้ยังเป็นเหตุผลที่ทําให้สหายตัวจ้อยยอมแพ้ ยิ่งกว่านั้นถ้ามันตามหยางเย่ไป มันเองก็ต้องถูกลงโทษฐานละทิ้งหน้าที่และการลงโทษก็คือถลกหนังทั้งเป็นพร้อมกับดึงแก่นภายในออก
สรุปคือเขาไม่สามารถดึงเอาราชันหมีที่เป็นสัตว์อสูรราชันขั้นสุดท้ายมาติดตามได้
หยางเย่รู้สึกว่าถ้าไม่ใช่เพราะสถานะของราชันหมี มันคงไม่ยากที่จะทําให้มันมาติดตามหรือกล่าวให้ถูกคือมันคงจะมาติดตามสหายตัวจ้อยแน่นอน
หยางเย่รู้สึกเล็กน้อยว่าราชันหมีพสุธามีความเคารพต่อสหายตัวจ้อย ความเคารพของราชันหมีแตกต่างจากของสีเงินกับสีหมอก มันไม่ใช่ความเคารพแบบเกรงกลัว แต่มันคือความรพจากใจ สิ่งนี้ทําให้หยางเย่รู้สึกสงสัยในตัวตนของสหายตัวจ้อยมากขึ้นไปอีก
ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่สามารถปราบสัตว์อสูรตนนี้ได้
แต่หยางเย่ก็หาได้เสียใจไม่ มันดีหากสําเร็จ แต่หากไม่สําเร็จก็คงเป็นเพราะโชคชะตา ความคิดทั้งหมดมันคือตัวตนของหยางเย่
ถึงแม้จะไม่สามารถปราบราชันหมีได้ เขาก็ไม่ได้หยุดที่จะสร้างความสัมพันธ์อันดีกับมัน แน่นอนว่าราชันหมีทําเพราะสหายตัวจ้อย
จากคําขอของหยางเย่ ราชันหมีพสุธาตกลงที่จะสู้กับหยางเย่ อย่างไรก็ตาม แววตาที่แสดงอาการดูถูกของมันก็ยังเห็นได้ชัด หากไม่ใช่เพราะสหายตัวจ้อย สายตาของราชันหมีคงไม่ใช่การดูถูกแต่เป็นเมินเฉยแทน
หยางเย่เองก็ไม่ได้ยึดติดกับสิ่งนั้น เขาเข้าใจดีถึงการเอาชีวิตรอดในขุนเขานี้ มีเพียงพลังที่ร้ายกาจที่สามารถทําให้ราชันหมีพสุธายอมรับได้
ร่างของหยางเย่กับราชันหมีพสุธานับว่าอยู่กันคนละขั้ว หยางเย่ดูตัวเล็กจ้อยเมื่อเทียบร่างกับราชันหมี
เวลานี้หยางเย่ไม่ใช้หมัดเพื่อสู้กับราชันหมีอีกต่อไป เพราะความแข็งแกร่งของราชันหมีพสุธา ไม่ใช่สิ่งที่จะสู้แบบเล่น ๆ ได้ อันที่จริงไม่จําเป็นต้องทําเช่นนั้น มันเป็นการดีที่จะฝึกฝนวิชาดาบกับราชันหมีพสุธา!
ราชันหมีมองไปยังหยางเย่แต่ยังไม่ลงมือ มันรอการโจมตีของหยางเย่
หยางเย่เองก็ไม่เสียเวลาโดยใช่เหตุ พลังปราณล้ำลึกในร่างกายโคจรไปทั่วดาบในมือ จากนั้นเขาฟันมันไปยังราชันหมีพสุธาจากระยะไกล ปราณดาบทองคําแผดเสียงตัดอากาศพุ่งตรงไปยังราชันหมี
ดวงตาของราชันหมีพสุธาเผยความประหลาดใจออกมาเมื่อเห็นปราณดาบสีทอง จากนั้นมันได้ใช้อุ้งมือป้องกันไว้
ปั้ง!
เสียงระเบิดดังก้องไปทั่วสนามรบ!
พลังปราณทองคําไม่อาจทลวงอุ้งมือของราชันหมีได้ แต่มันได้สร้างบาดแผลเลือดออกบนอุ้งมือหมีไว้
สายตาของราชันหมีดูโกรธขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อเห็นแผลบนมือ สายตาดูถูกก่อนหน้าได้หายไปหมดสิ้น
เมื่อเห็นปราณดาบไม่สามารถทําอันตรายใดได้กับราชันหมี หยางเย่สูดหายใจลึก เขาโคจรเจตจํานงแห่งดาบและปล่อยมันไปยังราชันหมีพสุธา
เปลือกตาราในหมีพสุธากระตุกเมื่อสัมผัสเจตจํานงแห่งดาบของหยางเย่ได้ มันไม่คิดจะประมาทหรือดูถูกหยางเย่อีกต่อไป พลังปราณอันร้ายกาจแผ่พุ่งออกมาจากร่างราชันหมีราวกับสายน้ำเพื่อต่อต้านเจตจํานงแห่งดาบ
หยางเย่กระทืบเท้าขวาพร้อมพุ่งออกไปตรงหน้า เขาฟันดาบอย่างรวดเร็วไปที่ราชันหมีพสุธา ทําให้ปราณดาบสีทองถูกยิงออกไปอีกครั้ง
มันหาได้หลบไม่ หรือกล่าวคือมันไม่สามารถหหลบได้ ดังเช่นก่อนหน้านี้ มันตบปราณดาบของหยางเย่ทิ้งอย่างรวดเร็ว
ปั้ง!
หยางเยฟันดาบใส่มือราชันหมีพสุธา ทําให้เกิดรอยแผลขึ้นอีกจุดในอุ้งมือ บาดแผลนี้ใหญ่และลึกกว่าก่อนหน้า
หยางเย่ยังไม่หยุด ภายหลังจากสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของราชันหมี หยางเย่ไม่คิดจะสู้ในระยะประชิดอีก เขาถอยออกไปใช้ปราณดาบอย่างไม่หยุดยั้งพร้อมเคลื่อนที่ไปรอบด้าน
ถึงแม้ปราณดาบจะไม่สามารถทําอะไรกับมันได้ แต่ก็ไม่ได้นับว่าแย่ หลังจากต่อสู้มาครึ่งชั่วยาม แผลจากปราณดาบนับไม่ถ้วนได้ปรากฏบนตัวราชันหมี
ไม่นานนัก ราชันหมีตระหนักได้ว่ามันคงไม่อาจต้านทานพลังปราณมากมายนี้ได้อีก มันจ้องมองไปที่หยางเย่ที่อยู่ในระยะ จากนั้นมันตบอุ้งมือลงพื้น ทําให้แผ่นดินเกิดอาการสั่นสะเทือนอีกครั้ง
จากผลกระทบนี้ทําให้หยางเย่หยุดปล่อยพลังปราณดาบก่อนจะขมวดคิ้วแน่น
ทันใดนั้นราชันหมีพสุธาได้ใช้โอกาสนี้เข้าไปถึงตัวหยางเย่ จากนั้นมันใช้อุ้งมือที่ใหญ่กว่าตัวหยางเย่ตบลงไป มันดูราวกับภูเขากําลังร่วงลงมาจากสวรรค์
หากเขาถูกตบโดยอุ้งมือนี้ ถึงแม้จะไม่ตายก็คงพิการ
หยางเย่รีบใช้เจตจํานงแห่งดาบขจัดสถานะวิงเวียนทิ้ง แต่ดูเหมือนช้าเกินไป เพียงไม่กี่ลมหายใจ อุ้งมือราชันหมีได้ถึงหัวหยางเย่แล้ว
หยางเย่ไม่มีเวลาจะมาคิดสิ่งใดพร้อมเก็บดาบเข้าไปในฝัก หลังจากนั้น พลังปราณล้ำลึกในร่างไหลเวียนสูงขึ้นก่อนที่เจตจํานงแห่งดาบจะระเบิดออกอย่างคลุ้มคลัง
ขณะที่อุ้งมือหมีอยู่ห่างจากหยางเย่เพียงหนึ่งเมตรครึ่ง เขาคํารามดังก้องพร้อมกระทืบเท้าอย่างรุนแรง จากนั้นได้พุ่งตรงไปยังอุ้งมือราชันหมี
ทันใดนั้นหยางเย่ชักดาบในมือออกมาอย่างรวดเร็ว
แสงประกายดาบพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า!
ชิ้ง!
หยางเย่วิ่งเข้าไปพร้อมดาบในมือ กลางอากาศ หยางเย่หมุนควงร่างกายพร้อมชักดาบในมือออกอีกครั้ง เขาแทงมันไปยังอุ้งมือทีตบลงมา
ราชันหมีพสุธาร้องออกมาด้วยความโกรธเมื่อหยางเย่แทงทะลุอุ้งมือมัน เมื่อเห็นหยางเย่แทงมาอีกครั้ง ราชันหมีไม่กล้าจะปะทะโดยตรงอีก มันดึงอุ้งมือกลับพร้อมใช้ร่างกายเข้ากระแทกแทน
หลังจากโจมตีพลาด ท่าที่หยางเย่เปลี่ยนไปเมื่อเห็นราชันหมีกระแทกมาทั้งตัว เขาหันดาบลงพื้นทันทีพร้อมปล่อยปราณดาบเพื่อพลิกตัวไปด้านหลัง จากนั้นเขาฟันกลางอากาศไปยังร่างของราชันหมีพสุธา
ชิ้ง!
ปราณดาบแผดเสียงดังก้องขณะพุ่งผ่านอากาศไปยังราชันหมี
มันหาได้หลบไม่ ทั้งยังยื่นอกรับปราณดาบอย่างจัง ทันทีที่ปราณดาบกระทบกับหน้าอก มันได้มาถึงตรงหน้าหยางเย่เรียบร้อย จากนั้นร่างมหึมาได้พุ่งเข้ากระแทกหยางเย่อย่างป่าเถื่อน
หยางเย่ต้องการจะหลบแต่ก็ไม่สามารถทําได้ เขาไม่คาดคิดว่าราชันหมีพสุธาจะทนรับการโจมตีเพื่อจะได้เข้าใกล้
ปั้ง!
เสียงระเบิดดังก้อง หยางเย่กลายเป็นประกายแสงสีดําปลิวออกไป
ตูม!
หลังจากลอยมาได้ถึงร้อยกว่าเมตร หยางเย่ชนเข้ากับกําแพงของภูเขาอย่างรุนแรง
เมื่อเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า ท่าทีของมิงค์ม่วงเปลี่ยนไปทันที แสงประกายสีม่วงถูกปล่อยออกมาจากตัวของมัน ทันใดนั้นมันสังเกตเห็นบางอย่างก่อนที่พลังงานสีม่วงจะหายกลับเข้าไป
ราชันหมีพสุธาถอนหายใจโล่งอกเมื่อเห็นเช่นนั้น ก่อนหน้านี้ จากการถูกแทงทะลุอุ้งมือโดยหยางเย่ มันทําให้ราชันหมีคลั่งขึ้นมา ดังนั้นมันจึงไม่สามารถลดพลังโจมตีได้ ยิ่งทุกกระบวนท่าที่ใช้นั้นรุนแรงถึงชีวิต เมื่อได้สติกลับมาว่าทําสิ่งใดไป มันจึงรู้สึกผิดเล็กน้อย เพราะได้สัญญากับมิงค์ม่วงไว้แล้วว่าจะข่มพลัง
แต่ตอนนี้มนุษย์คนนั้นถูกตบจนตาย โชคดี ที่มิงค์ลึกลับตัวนี้ไม่คิดจะเอาเรื่องเรา”
ทันใดนั้นเสียงระเบิดดังออกมาจากกําแพง ราชันหมีพสุธาหันไปมอง มันเห็นหัวมนุษย์ผู้นั้นกําลังโผล่ออกมาจากหลุม
เมื่อเห็นเช่นนั้นราชันหมีถึงกับตาเปิดกว้าง “มนุษย์ยังมีชีวิตอยู่หรือ?”
ถึงหยางเย่จะไม่ตาย แต่เขาก็อยู่ไม่ไกลจากคํานั้น ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าได้ประเมินความสามารถของราชันหมีตําไป ความแข็งแกร่งของมันนั้นมากกว่าราชันหมาป่าสองถึงสามเท่า!
ตอนนี้ร่างกายของเขารู้สึกราวกับกระดูกทั้งตัวแตกสลาย อวัยวะภายในหมุนไปมาราวกับมหาสมุทรคลั่ง หากหลุมนั้นลึกไปอีกสิบเมตรเขาคงไม่สามารถหายใจได้และตายอยู่ในนั้น เพราะทุกการเคลื่อนไหวมันทําให้เขารู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก
กล่าวได้ว่าการต่อสู้กับราชันหมีขั้นสูงสุดนี้ ทําให้เขาแทบจะสูญเสียความสามารถในการต่อสู้